สถานที่ชมดอก “ซากุระ” ในแถบคันโตช่วงวันหยุดสงกรานต์

อีกประมาณ 3 เดือนก็จะเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์เดือนเมษายน และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ได้เวลาวางแผนการท่องเที่ยวกันแล้ว ซึ่งช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ก็จะเป็นช่วงหลังช่วงพีคของดอกซากุระบานบริเวณโตเกียว โอซาก้า หรือ นาโกย่า ที่เป็นเมืองใหญ่ๆ และน่าเสียดายเป็นอย่างมากที่จะเป็นช่วงที่หาดูซารุกะแบบบานเต็มที่ได้ยากภายในเมืองใหญ่เหล่านี้ แต่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะแค่เพียงเดินทางออกไปอีกเล็กน้อยก็สามารถชมดอกซากุระแบบบานเต็มที่ได้

ในครั้งนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ชมดอก “ซากุระ” ใน “แถบคันโต” จำนวน 3 แห่ง เพื่อท่องเที่ยวชมดอกซากุระที่สวยงามในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้

1. “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น ARAKURAYAMA SENGEN PARK”

สถานที่แรกก็คือสถานที่ชมซากุระที่ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวไปประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยรถไฟหรือรถยนต์ กับ “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น” 「ARAKURAYAMA SENGEN PARK」ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นวิวที่พบเห็นได้ตามหนังสือเรียนต่างๆ อีกด้วย เป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสงกรานต์

ซึ่งสวนที่ถูกสร้างเรียบภูเขาแห่งนี้เป็นจุดที่สามารถชมวิวซากุระที่อยู่เชิงดอยได้อย่างสวยงาม ผู้คนจำนวนมากต่างเดินทางมายังจุดชมซากุระแห่งนี้ เพื่อเพลิดเพลินกับดอกซากุระที่บานสวยงาม และสามารถทานอาหารต่างๆ ที่ร้านอาหารแผงลอยได้อีกด้วยเช่นกันแต่….

 สำหรับท่านใดที่ต้องการชมวิวที่สวยที่สุดของ “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น” 「ARAKURAYAMA SENGEN PARK」จะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 400 ขั้น เพื่อชมเจดีย์ห้าชั้น(จูเรโต) พร้อมขึ้นไปยังจุดชมวิวมุมที่สวยที่สุดได้

จากตีนเขา “ศาลเจ้าอาราคุระ เซ็นเก็น”「ARAKURA SENGEN JINJA」ถึง「จูเรโต」หรืแเจดีย์ห้าชั้น ที่อยู่กลางภูเขามีบันไดประมาณ 400 ขั้น และจากจุดนี้จะต้องเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวอีกเล็กน้อย

สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเป็นประจำก็อาจลำบากเล็กน้อย แต่ระหว่างทางขึ้นบันไดจะมีซากุระอยู่สองข้างทางสวยงามให้ได้เพลิดเพลินลืมความเหนื่อยล้า และเมื่อขั้นไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ…..

วิวภูเขาไฟฟูจิ ซากุระ และเจดีย์ห้าชั้น(จูเรโต) แบบญี่ปุ่น ที่รวมเอาความสวยงามของ “ญี่ปุ่น” เอาไว้ทั้ง 3 อย่างภายในที่แห่งนี้เพียงที่เดียว

แนะนำว่าให้ไปตอนช่วงเช้า(ถึงเวลา 10 โมงเช้า)ถ้าเป็นช่วงเช้าแสงจะสวยงามกว่า เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ช่วงบ่ายเป็นต้นไปที่นี่จะเป็นมุมย้อนแสง ทำให้ถ่ายรูปได้ยาก เพราะฉะนั้นตื่นเช้าๆ แล้วรีบไปถ่ายรูปสวยๆ พร้อมแสงสวยๆ เลยจะดีที่สุด

สถานีที่ใกล้ สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น มากที่สุดก็คือ ฟูจิคิว “สถานีชิโมะโยชิดะ”「SHIMOYOSHIDA STATION」

สามารถเดินทางจากสถานีคาวากุจิโกะ(สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง) ไปยัง สถานีชิโมะโยชิดะ ได้ด้วยรถไฟฟูจิคิว ใช้เวลาในการเดินทาง 14 นาที

ส่วนการเดินทางจากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟสายชูโอ (Chuo Line) ไปยัง โอสึกิ(รถไฟด่วนพิเศษประมาณ  60 นาที)ก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถไฟฟูจิคิว ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที

เส้นทางการเดินทางจากสถานีของชิโมะโยชิดะก็เป็นเส้นทางตามรูปภาพ ใช้เวลาในการเดินเท้าไปจนถึงบริเวณเชิงดอยที่ “ศาลเจ้าอาราคุระเซ็นเก็น” ประมาณ 10 นาที

บริเวณรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิจะเป็นบริเวณที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงเดือนเมษายนก็ยังมีบางที่ที่ยังคงมีหิมะหลงเหลืออยู่ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ใส่เครื่องกันหนาวไปอย่างเพียงพอระหว่างชมดอกซากุระ

2. สวน “ฮาโกเน่เอ็น HAKONE-EN”

และสถานที่ต่อไปก็คือสถานที่ขึ้นชื่อของฮาโดเน่ที่สวน “ฮาโกเน่เอ็น”『HAKONE-EN』

ตั้งอยู่ริมฝั่ง “ทะเลสาบอาชิ”「ASHINOKO(芦ノ湖)」ที่มีชื่อเสียงจาก「เรือทัศนาจร(海賊船)」

ซึ่งเป็นต้นซากุระเพียงหนึ่งต้นที่เป็นสัญลักษณ์ของบริเวณริมฝั่งทะเลสาบแห่งนี้ มีอายุประมาณ 100 ปีขนาดใหญ่ แผ่กิ่งออกไป 22 เมตร เส้นรอบลำต้น 5 เมตร และมีความสูง 12 เมตร ไม่เพียงแต่ขนาดที่ใหญ่เท่านั้น แต่รูปทรงที่แผ่ออกไปอย่างกว้างขวางสวยงาม สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้คนมายาวนานหลายสิบปี

ซึ่งช่วงซากุระของบริเวณฮาโกเน่ในพื้นที่สูง และมีอุณภูมิต่ำกว่าปกตินี้ เมื่อเทียบกับใจกลางเมืองโตเกียวแล้ว ซากุระจะบานช้ากว่าไปประมาณ 3 อาทิตย์ ในช่วงกลางเดือนเมษายน ดังนั้นจะเป็นจุดที่สามารถชมซากุระ ไปพร้อมๆ กับ ทะเลสาบอาชิ และภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม

การเดินทางจากโตเกียว ไปยัง “ฮาโกเน่เอ็น” นั้นมีเส้นทางการเดินทางดังนี้

  • เดินทางจาก บัสเทอร์มินอลชินจุกุ ด้วยรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังฮาโกเน่ แวะโกเทมบะ ไปประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที
  • เดินทางจากสถานีโตเกียว ด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไปยังสถานีโอดาวาระ จากนั้นนั่งรถบัส IZUHAKONE BUS จากสถานีโอดาวาระ ไปประมาณ 85 นาที
  • เดินทางจากสถานีชินจุกุ ด้วยรถไฟโอดะคิว Romancecar ไปยัง สถานีฮาโกเน่ ยูโมโตะ จากนั้นก็นั่งรถบัส IZUHAKONE BUS ไปประมาณ 65 นาที

ไม่ว่าการเดินทางไหนๆ ก็สามารถเดินทางจากตัวเมืองโตเกียวไปได้ภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง

นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางด้วยเรือจาก ท่าเรือโมโตะฮาโกเน่, ท่าเรือ Hakone Checkpoint Atoko หรือ โอวากุดานิ ไปยัง “โทเก็นได” สถานที่ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าได้อีกด้วย

『เส้นทางเดินเรือ IZUHAKONE』

 วันละ 10 รอบ ที่เชื่อมระหว่างแต่ละท่าเรือกับสวน “ฮาโกเน่เอ็น”

3. สวน “เมจิจิงกุ ไกเอ็น MEIJI JINGU GAIEN”

และสถานที่สุดท้ายก็คือ สวน “เมจิจิงกุ ไกเอ็น” ตั้งอยู่ใกล้ย่าน “ชินจุกุ” “ชิบุย่า” และ “ฮาราจุกุ” ที่มีต้นยาเอะซากุระมากถึง 500 ต้น และในปีที่ผ่านมา พันธุ์ยาเอะซากุระที่บานช้ากว่าพันธุ์อื่นๆ นี้ก็ได้บานสวยงามในช่วงกลางเดือนเมษายน ที่เป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์พอดี

โดยชนิดซากุระของสวน “เมจิจิงกุ ไกเอ็น” แห่งนี้ก็คือ “ยาเอะซากุระ” เช่นเดียวกับ「โรงกษาปณ์โอซาก้า」ในแถบคันไซที่ได้พูดถึงกันไปในตอนที่ผ่านมา

ถึงแม้ว่าจะเป็นซากุระที่แตกต่างจากชนิดที่พบเห็นทั่วไปแบบ 5 กลีบอย่าง “โซเมอิซากุระ” แต่ “ยาเอะซากุระ” นี้จะมีอยู่ 8 ชั้นและบานเกาะกลุ่มกันสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว

ซึ่งบริเวณสวน “เมจิจิงกุไกเอ็น” แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กีฬาของญี่ปุ่นและโตเกียวเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่นสนามเบสบอลหลักของ “ทีมโตเกียวยาคูลท์สวอลโลวส์” อย่าง「MEIJI JINGU STADIUM」หรือ สนามรักบี้อย่าง「สนามรักบี้ จิจิบุโนะมิยะ」เท่านั้นไม่พอยังตั้งอยู่ใกล้สเตเดียมจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นที่โตเกียว ปีค.ศ.2020 อย่าง「สนามกีฬาแห่งชาติใหม่(国立競技場)」อีกด้วย

เรียกได้ว่าคุณจะได้ชมความสวยงามของดอกยาเอะซากุระไปพร้อมๆ กับการเที่ยวชมสนามแข่งกีฬาต่างๆ ได้แบบใกล้ชิดอีกด้วย

โดยการเดินทางไปยังสวนเมจิจิงกุ ไกเอ็นนั้น ใช้สถานีรถไฟ JR สถานีชินาโนะมาจิ (Shinanomachi Station) จะสะดวกที่สุด

โดยสามารถเดินทางจากสถานีชินจุกุใกล้ย่านชินจุกุแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ไปยังเส้นทางสายซากุระกว่า 500 ต้น ได้ด้วยรถไฟ JR สายชูโอ โซบุ(Chūō-Sōbu Line) ไป 3 สถานี ใช้เวลา 5 นาที

ส่วนการเดินทางจากสถานีโตเกียว ที่เป็นสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือ Narita Express ด้วยรถไฟ JR สายชูโอ ไปยังสถานีโอฉะโนะมิซึ(Ochanomizu Station) จากนั้นต่อรถไฟสายชูโอ โซบุ(Chūō-Sōbu Line) ไป 5 สถานีเพื่อลงที่ สถานีชินาโนะมาจิ (Shinanomachi Station) และเดินไปอีก 10 นาที

สำหรับสถานที่ชมดอก “ซากุระ” ใน “แถบคันโต” ที่สามารถชมได้ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ทั้งหมด 3 แห่ง

1. สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น ARAKURAYAMA SENGEN PARK – สถานที่ชมดอกซากุระ ไปพร้อมๆ กับภูเขาไฟฟูจิ และเจดีย์ห้าชั้นแบบญี่ปุ่น

2. สวน ฮาโกเน่เอ็น HAKONE-EN – ชมซากุระเพียงต้นเดียวที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่

3. สวน เมจิจิงกุ ไกเอ็น MEIJI JINGU GAIEN – เดินทางจากภายในตัวเมืองโตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมชมสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิก

ถึงแม้ว่าช่วงวันหยุดสงกรานต์จะเป็นช่วงสิ้นสุดดอกซากุระในตัวเมืองโตเกียว หรือโอซาก้าแล้ว แต่ก็ยังมีสถานที่ชมดอกซากุระที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย เพียงเดินทางออกไปเล็กน้อย อย่างเช่นที่ “ฮิดะทาคายาม่า” “ชิราคาวาโกะ” หรือเมืองคานาซาว่าที่เก่าแก่เรียบทะเลญี่ปุ่น ในพื้นที่ที่มีอุณภูมิต่ำกว่าในตัวเมืองโตเกียว หรือโอซาก้าก็สามารถชมดอกซากุระที่สวยงามได้ ยังไงลองไปชมความสวยงามของญี่ปุ่นในช่วงนี้กันได้เลย แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า♪