Day1-1 เริ่มทริป! ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ(นาโกย่า) สู่จุดมุ่งหมายแรกที่ “ปราสาทนาโกย่า”

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-1 เริ่มทริป! ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ(นาโกย่า) สู่จุดมุ่งหมายแรกที่ “ปราสาทนาโกย่า”

NAGOYA- TAKAYAMA- SHIRAKAWAGO- TOYAMA- ALPENROUTE- MATSUMOTO- TSUMAGOJUKU- NAGOYA

และแล้วก็กำลังจะเข้าสู่ช่วงท่องเที่ยวที่ทุกคนรอคอย ทั้งวันหยุดปิดเทอมในช่วงเดือนตุลาคม ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นในช่วงเดือนพฤศจิกายน และช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ต่อด้วยช่วงของการชมซากุระตั้งแต่เดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงพีคของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเลยก็ว่าได้

โดยทริปของเราจะเป็นการท่องเที่ยวตามเส้นทางดังนี้คือ “นาโกย่า Nagoya”-  “ทาคายาม่า Takayama”(Stay)-  “ชิราคาวะโกะ Shirakawago”-  “โทยามะ Toyama”(Stay)-  “ทาเทยามะ Tateyama”-  “ทาเทยามะ คุโรเบะ เส้นทางอัลไพน์ Tateyama Kurobe Alpine Route”-  “มัตสึโมโตะ Matsumoto”(Stay)-  “ซึมาโกะจุกุ Tsumagojuku” –  “นาโกย่า Nagoya”

เป็นการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ต่างๆ อย่าง “ทาคายาม่า” สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทย, “ชิราคาวะโกะ”, “ปราสาทมัตสึโมโตะ”ที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ หรือ “เมืองซึมาโกะจุกุ” เมืองเก่าแก่ที่เหมือนได้ย้อนเวลาไปสู่ญี่ปุ่นเมื่อ 200 ปีก่อน ซึ่งสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทางนี้เลยก็คือ “ทาเทยามะ คุโรเบะ เส้นทางอัลไพน์ Tateyama Kurobe Alpine Route” ที่สามารถชมกำแพงหิมะสุดอลังการ「YUKI NO OTANI(雪の大谷)」บนความสูง 2450m อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีได้เร็วกว่าที่อื่นๆ ในช่วงปลายเดือนกันยายน ไปจนถึงต้นเดือนตุลาคมนั่นเอง

โดยตั๋วที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเส้นทางเหล่านี้ก็คือ『Alpine- Takayama- Matsumoto Area Tourist Pass』

“นาโกย่า” ที่มีรอบบินตรงจากประเทศไทยวันละ 3 เที่ยวบิน (AirAsia X เพิ่มรอบบิน เป็นทั้งหมดวันละ 4 เที่ยว ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม)สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยัง “เกโระออนเซ็น Gero Onsen” ที่อยู่ท่ามกลางหมู่เขา “ฮิดะทาคายาม่า” “โทยามะ” หรือ เส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง เมืองพักแรมที่เรียกว่า “คิโซะจิ”「KISOJI(木曽路)」อย่าง “เส้นทางอัลไพน์” “มัตสึโมโตะ” “นาราอิจุกุ Naraijuku” หรือ “ซึมาโกะจุกุ” ได้ เท่านั้นไม่พอยังสามารถ นั่งยานพาหนะของเส้นทางอัลไพน์ได้ไม่อั้นอีกด้วย(อย่างเช่น กระเช้าลอยฟ้า เป็นต้น)

「Alpine- Takayama- Matsumoto Area Tourist Pass」นี้จะอยู่ที่ราคา 17,500 เยน ความคุ้มของตั๋วนี้จะขึ้นอยู่กับเส้นทางที่ใช้

ยกตัวอย่างเช่น นั่ง「LIMITED EXPRESS WIDE VIEW HIDA」จาก นาโกย่า ไป โทยามะ ราคาจะอยู่ที่ 7650 เยน(ช่วงเวลาปกติ・Reserved Seat)หากนั่งจากโทยามะ ไปจนถึงเส้นทางอัลไพน์ และผ่านเข้าสู่เมือง Shinano Omachi(信濃大町) ฝั่งจังหวัดนางาโนะเลย ก็จะอยู่ที่ 10,850 เยน แค่คิดเพียงเท่านี้ก็แทบจะคืนทุนได้เลยค่ะ และยิ่งหากเดินทางออกจากเมือง Shinano Omachi ไปสู่ “มัตสึโมโตะ” และเข้านาโกย่า หรือ เดินทางไปกลับเส้นทางอัลไพน์ก็ได้เช่นกัน ความคุ้มก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละเส้นทางที่เลือกใช้นั่นเอง

「Alpine- Takayama- Matsumoto Area Tourist Pass」เป็นตั๋วที่สามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวเพื่อเพลิดเพลินกับเส้นทางอัลไพน์ได้ทั้ง 4 ฤดูที่แตกต่างกันออกไป แต่ทว่าในช่วงฤดูหนาวเส้นทางอัลไพน์จะปิดบริการตั้งแต่ เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนเมษายนเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีหิมะปกคลุมสูงกว่าหลายสิบเมตร เพราะฉะนั้น「Alpine- Takayama- Matsumoto Area Tourist Pass」จะไม่สามารถใช้ได้ในบางช่วงเวลาค่ะ

เราจะมาเริ่มการเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยเราจะบินเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นที่ “ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ(เซ็นแทรร์) Chubu International Airport” โดยเที่ยวบินตรงระหว่างนาโกย่า และกรุงเทพมหานครจะมีทั้งหมด 3 เที่ยวบิน ในสายการบินไทย และสายการบินญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการเพิ่มเที่ยวบินของ AirAsia X ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมโดยจะเพิ่มวันละ 1 รอบ

โดยปกติแล้ว การเดินทางจากกรุงเทพ ไปสู่นาโกย่าด้วยเครื่องบินใน ช่วงฤดูร้อนที่ลมไม่แรงมากนัก ทั้งขาไปขากลับ จะใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง ส่วนช่วงฤดูหนาว จะใช้เวลาขาไปประมาณ 5 ชั่วโมง ส่วนขากลับจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงครึ่ง

ตารางเวลาการเที่ยวบินจาก “ประเทศไทย” มาสู่ “นาโกย่า”(เดือนตุลาคม ปีพ.ศ.2561)

【กรุงเทพ⇒นาโกย่า】

TG644: 0:05⇒ 8:00

JL738: 0:25⇒ 8:00

TG646:10:45⇒18:40

XJ638: 6:55⇒14:25

【นาโกย่า⇒กรุงเทพ】

TG647: 0:30⇒4:30

JL737: 10:30⇒14:15

TG645: 11:00⇒15:00

XJ637: 16:30⇒21:10

(※ XJ638/637 จะเป็นเที่ยวบินจากท่าอากาศยานดอนเมือง)

สามารถเลือกเที่ยวบินให้เข้ากับการเดินทางของเพื่อนๆ ได้เลย อย่างเที่ยวบินรอบดึก TG644/TG647 หรือ สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเก็บแรงในการเที่ยวก็สามารถเลือกบินรอบ TG646/645 หรือ XJ638/637 ในช่วงกลางวัน ส่วน ICHIGO- CHAN เลือกเป็นเที่ยวบิน TG644 และ TG647 ค่ะ

เที่ยวบินของสายการบินไทยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประตู C หรือ E ซึ่งเมื่อผ่านตม.เข้ามาแล้ว ประตูจะอยู่ห่างออกไป 7- 15 นาทีเพราะฉะนั้นรีบไปที่เกทไว้ก่อนก็ดีนะคะ

เครื่องที่ถูกใช้บินไปนาโกย่าจะเป็นเครื่อง B777 เมื่อเทียบกับเครื่องลำใหญ่ที่มีที่นั่งกว่า 10 แถว แบ่งเป็น 3- 4- 3 แล้วลำนี้จะมีทางเดินกว้างกว่านิดหน่อย เพราะว่ามีแค่ 9 แถว แบ่งเป็น 3- 3- 3 นั่งไปได้แบบสบายๆ โดยจะใช้เวลาเดินทางไปนาโกย่า 5 ชั่วโมงค่ะ

ซึ่งส่วนใหญ่ภายในทุกที่นั่งจะมีที่เสียบ USB เพื่อชาร์ตอุปกรณ์ต่างๆ ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความใหม่ของเครื่องนั้นๆ

ใช้เวลาเดินทางมาสู่นาโกย่าไปประมาณ 5 ชั่วโมง โดยเวลาของญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทยไป 2 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นหากออกเดินทางเวลา 0:05 น. เวลาญี่ปุ่นก็จะอยู่ที่ 2:05 น. และถึงญี่ปุ่นเวลา 8:00 น. เท่ากับว่าใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง 55 นาที อาหารเช้าจะถูกเสิรฟ์ก่อนลงเครื่อง แปปเดียวเท่านั้นก็เดินทางเข้าสู่ญี่ปุ่นเลย

โดยสถานที่แรกที่เราจะไปในวันนี้ก็คือ “ปราสาทนาโกย่า”「NAGOYAJO(名古屋城)」โดยนั่งรถไฟเมเท็ตสึ Meitetsu ไปสู่นาโกย่า และเปลี่ยนเป็นรถบัสเพื่อนั่งจากสถานีนาโกย่าไปสู่ปราสาทนาโกย่าเลย

ก่อนอื่นก็ออกจากประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้าประเทศไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เดินไปอีกประมาณ 50m ก็จะเจอทางสามแยก ให้เดินไปตามทางสโลปที่อยู่ขวามือ ก็จะเจอสถานีรถไฟเมเท็ตสึ ที่สามารถเดินทางไปสู่ เมืองต่างๆ ในนาโกย่า หรือ จังหวัดกิฟุได้

โดยการเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ ไปภายในตัวเมืองนาโกย่า นั้นสามารถเดินทางได้ 3 วิธี คือ รถไฟด่วนพิเศษมิวสกาย「LIMITED EXPRESS μ SKY」“รถไฟแบบด่วนพิเศษ LIMITED EXPRESS” และ “รถไฟ LOCAL EXPRESS” โดยแต่ละชนิดจะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว หากนั่ง รถไฟด่วนพิเศษมิวสกาย「LIMITED EXPRESS μ SKY」ก็จะใช้เวลาในการเดินทาง 28 นาทีไปยัง “สถานีนาโกย่า” หากต้องการนั่ง “รถไฟแบบด่วนพิเศษ LIMITED EXPRESS” หรือ “รถไฟ LOCAL EXPRESS” ที่ไม่จำเป็นต้องเสียตั๋วขึ้นรถไฟเพิ่มก็สามารถซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลย แต่หากเป็น「LIMITED EXPRESS μ SKY」แนะนำให้ซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์จะสะดวกกว่าค่ะ

ส่วน ICHIGO- CHAN เลือกใช้「LIMITED EXPRESS μ SKY」ดังนั้นจึงจะไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว

ณ ข้อมูลปัจจุบัน เดือนตุลาคม ปีพ.ศ.2561 ยังไม่มีการรองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เพราะฉะนั้นควรเติมเงินสดเอาไว้ให้พร้อมค่ะ ราคาตั๋วรถไฟไปนาโกย่าจะอยู่ที่ 870 เยน และต้องจ่ายเพิ่มอีก 360 เยน(ราคาไม่รวมภาษี) สำหรับตั๋วขึ้นรถไฟ μ SKY แบบ Reserved Seat

LIMITED EXPRESS μ SKY นั้นจะต้องผ่านช่องตรวจตั๋วที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ไป และไปทางขวามือ เพื่อขึ้นรถไฟที่ชานชาลาหมายเลข 1

รถไฟด่วนพิเศษของญี่ปุ่น รวมถึง μ SKY นั้นส่วนใหญ่สามารถหมุนที่นั่งได้ค่ะ คือสามารถหันเก้าอี้ให้หันหน้าเข้าหากันเป็น 4 คนได้ค่ะ แต่ละคันก็จะมีวิธีหมุนเก้าอี้ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนรถไฟคันนี้สามารถหมุนได้โดย การจับส่วนที่อยู่ในวงกลมสีเหลืองตามรูป จากนั้นก็ดันหมุนเก้าอี้ได้เลยค่ะ

ซึ่งในบางกรณีที่มีผู้โดยสารนั่งอยู่ด้านหน้าเอนเบาะที่นั่งจะทำให้ไม่สามารถหมุนได้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะรบกวนให้คนด้านหน้าช่วยปรับพนักเก้าอี้ให้ได้โดยพูดว่า

「SUIMASEN SUKOSHINO AIDA DAKE ZASEKI NO SEWO MODOSHITE MORATTE

IIDESUKA??」

「ซูมิมาเซ็น ซูโคชิโนะไอดะ ดาเคะ ซาเซกิ โนะ เสะโอะ โมโดชิเตะ โมรัตเตะ อี้เดสก้ะ??」

(ขอโทษนะคะรบกวนปรับพนักเก้าอี้สักครู่ได้ไหมคะ??)

นั่งรถไฟ μ SKY จากนาโกย่ามาเป็นเวลา 28 นาที เพื่อมาสู่สถานีรถไฟเมเท็ตสึนาโกย่า เมื่อลงจากรถไฟแล้ว ให้เดินขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลา จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ เพื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็เดินไปทางขวามือ และขึ้นบันไดไป ก็จะเจอประตูทางเข้า Hirokoji Side สถานีรถไฟ JR นาโกย่า

เมื่อเข้ามาสู่สถานีนาโกย่า จากประตูทางเข้า Hirokoji Side แล้วก็เดินไปทางขวามือ จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอลานกว้างที่มีนาฬิกาทองขนาดใหญ่อยู่ทางขวามือ ซึ่งลานกว้างแห่งนี้เป็นจุดนัดพบยอดนิยมของคนในพื้นที่ เป็นจุดที่สังเกตุง่ายดังนั้นหากจะนัดใครก็สามารถนัดที่นี่ได้เลย

จากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆ โดยจะเห็นลานกว้างนาฬิกาทองอยู่ทางขวามือ เพื่อนเดินไปที่เทอร์มินอลกันเลย

เมื่อเดินตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที ก็จะมาถึงเทอร์มินอลรถบัสสถานีนาโกย่าเลย หากต้องการเดินทางจาก “สถานีนาโกย่า” ไปยัง “ปราสาทนาโกย่า” เดินทางด้วย “รถบัส” จะสะดวกที่สุดค่ะ ซึ่งบัสจากสถานีนาโกย่า ไป ปราสานาโกย่า ก็จะมีอยู่หลายสาย แต่ครั้งนี้เราจะใช้รถบัสสาย 2 ที่เขียนกำกับว่า「基幹2番」โดยนั่งรถบัสจากสถานีนาโกย่า ไปสู่ปราสาทนาโกย่า เพื่อลงที่ป้าย「SHIYAKUSHO(市役所)」ใช้เวลาเดินทาง 12 นาที(210 เยน)จะต้องขึ้นรถบัสที่ป้ายหมายเลข 10 วิ่งทุกๆ 4- 5 นาที จะเห็นได้ว่ารถบัสมีรอบวิ่งตลอด เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเช็คตารางเวลาเลยค่ะ เป็นรถบัสที่เหมือนกับ BRT ของกรุงเทพเลยนะคะ

ซึ่งวิธีขึ้นรถบัสในประเทศญี่ปุ่นก็จะมีความแต่งต่างกันออกไปตามบริษัทต่างๆ โดยรถบัสที่เราจะใช้บริการในครั้งนี้ จะต้องขึ้นรถบัสจากประตูกลาง และลงรถบัสจากประตูด้านหน้าค่ะ ราคา 210 เยน สามารถชำระเงินโดยใส่เงินสดตามจำนวนได้ที่กล่องชำระเงินข้างคนขับขณะลงรถบัส หรือชำระด้วยบัตร IC Card อย่าง TOICA, Suica หรือ ICOCA เป็นต้น

เมื่อลงรถบัสที่ป้าย「SHIYAKUSHO(市役所)」แล้วก็ถึงหน้าปราสาทนาโกย่าเลย เมื่อลงรถมาที่ป้ายรอรถบัสแล้ว ก็เดินไปทางด้านหน้า ไปเรื่อยๆ และเดินข้ามทางม้าลายไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็ข้ามทางม้าลายไปทางขวามืออีกรอบ และตรงไปอีกประมาณ 3 นาที

เดินไปตามทางเรื่อยๆ จะเจอทางเข้าปราสาทนาโกย่าอยู่ทางซ้ายมือ เดินหักไปทางซ้ายมือเพื่อเข้าไปสู่เขตปราสาทนาโกย่า จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นหลังคาที่เป็นจุดจำหน่ายตั๋ว และทางเข้าอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ

ก่อนเข้าไปในปราสาทนาโกย่าเราจะต้องไปซื้อตั๋วกันก่อน หากพูดถึงปราสาทนาโกย่า ก็คงจะต้องนึกถึงหอคอยปราสาทที่มีรูปปั้นปลาสีทอง「KIN NO SHACHIHOKO(金のしゃちほこ)」ประดับอยู่ แต่ปัจจุบันกำลังทำการปรับปรุงเพื่อให้ตัวโครงสร้างไม้กลับมาสู่สภาพเดิม โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 7 เดือนพฤษภาคม เป็นเวลาหลายเดือน(คาดการณ์ว่าจะเสร็จในปีพ.ศ.2565)น่าเสียดายที่ช่วงระยะเวลาปรับปรุงเราไม่สามารถชมด้านในได้ แต่เราสามารถเที่ยวชมภายในอาคารปราสาทหลัก Honmaru Palace(本丸御殿) ที่อยู่ข้างหอคอยปราสาท หรือ ชมรอบๆ หอคอยปราสาทได้

ค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 500 เยน(เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี)รองรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น

สถานที่แรกของทริปก็คือ “ปราสาทนาโกย่า” เป็นปราสาทที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 420 ปี ซึ่งปราสาทนาโกย่าแห่งนี้ถือเป็นปราสาทของ “ตระกูลโทกูงาวะ” เป็น “โชกุน” ผู้ปกครองสูงสุดในบรรดาซามุไรของญี่ปุ่น ใน “ยุคเอโดะ” ที่ยาวนานมากกว่า 250 ปี

บริเวณมุมหลังคาทั้งสองมุมจะประดับด้วย「KIN NO SHACHIHOKO(金のしゃちほこ)」รูปปั้นปลาสีทอง ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของนาโกย่า อยู่คู่ชาวนาโกย่า และคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน

ในตอนหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “ปราสาทนาโกย่า” และทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪

【ตารางการเดินทาง Day1-1 NAGOYA CASTLE】

        Go to the top Page        

  NEXT ▶