Day3-6 ชมอุโมงค์ซากุระที่「NIHONBASHI SAKURA STREET」และรีวิวโรงแรม「NIHONBASHI SAKURA STREET」ที่อากะซากะ

ROUND THE C・H・I 

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-6 ชมอุโมงค์ซากุระที่「NIHONBASHI SAKURA STREET」และรีวิวโรงแรม「NIHONBASHI SAKURA STREET」ที่อากะซากะ

ทริป  นาโกย่า-ชิสึโอกะ-ฟูจิ (คาวากุจิโกะ)-โตเกียว

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินเล่น เดินช้อปปิ้งที่ อุเอโนะ แล้ว

ด้วยสภาพอากาศของญี่ปุ่นในปีนี้ ที่แตกต่างจากปีอื่น ๆ ทำให้ซากุระในปีนี้จะบานเร็วกว่าปีอื่น ๆ

ทำให้เราได้เห็นซากุระบานที่ 「UENO ONSHI PARK」ด้วย รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเลย เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็น

และเมื่อลองค้นหาแฮชแท็กใน SNS ที่เกี่ยวกับสถานที่ที่ดอกซากุระบานเร็วที่โตเกียวดูว่ามีที่ไหนไหม ICHIGO-CHAN ก็เจอว่ามีซากุระบานอยู่ที่「NIHONBASHI SAKURA STREET」ใกล้ ๆ สถานีโตเกียวด้วย

ก่อนไปที่พักของเราในคืนนี้เลยอยากจะแวะไปดูซากุระที่「NIHONBASHI SAKURA STREET」ในตอนกลางคืนซักหน่อย

วันนี้เราจะมารีวิวซากุระในยามค่ำคืนที่นิฮนบาชิ และที่พักของเราในคืนนี้ที่「KEIO PRESSO INN AKASAKA」ไปดูกันเลย

ICHIGO-CHAN เดินทางจากสถานีอุเอโนะไปที่สถานีนิฮนบาชิด้วยรถไฟใต้ดินสายกินซ่า GINZA SUBWAY LINE

และเดินจากสถานีนิฮนบาชิมา「NIHONBASHI SAKURA STREET」ประมาณ 2 นาที

ที่จริงใน SNS บอกว่าซากุระบานแค่ 10% แต่ตอนนี้น่าจะบานประมาณ 30% แล้ว

อาจจะไม่ได้บานแบบเต็มที่ แต่ก็เป็นอุโมงค์ซากุระที่สวยเลย

เมื่อเดินเข้าไปเรื่อย ๆ จากซากุระที่บานแค่ประมาณ 30% ก็จะบานเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเกือบ 50% เลย

ถ้าเดินมาถึงขนาดนี้แล้ว ซากุระที่เห็นก็เหมือนกับบานเต็มที่เลย เดินเล่นไปเรื่อย ๆ เพื่อชมซากุระในยามค่ำคืน

ในปีก่อน ๆ ที่ผ่านมา ซากุระที่โตเกียวจะบานช่วงปลายเดือนมีนาคม ไปจนถึง ต้นเดือนเมษายน ความจริงแล้วถ้าเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคมแบบที่ ICHIGO-CHAN มาในครั้งนี้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่เราจะได้เห็นซากุระ แต่ซากุระที่บานเร็ว และบานช้ากว่าทั่วไป ก็มีอยู่เหมือนกันนะ

เช่น ถ้าเป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์ช่วงครึ่งแรกของเดือน ก็ยังมีซากุระที่บานช้าให้ได้ชมกันที่โตเกียวอยู่เหมือนกัน ยังไงลองเช็คดูจาก แฮชแท็ก ใน SNS อาจจะเจอซากุระที่กำลังบานอยู่ในช่วงที่เราไปเที่ยวก็ได้นะ

ที่ NIHONBASHI SAKURA STREET นี้จะมีงาน「SAKURA MATSURI」「เทศกาลซากุระ」ในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนอยู่ ที่นี่จะมีร้านค้าหรือเวทีต่าง ๆ อยู่ตลอดข้างทาง ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับร้านเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กับชมซากุระได้เลย ทำให้ที่นี่คึกครื้นไปด้วยผู้คนที่มาปูเสื่อสังสรรค์กันท่ามกลางบรรยากาศซากุระบานในช่วงนี้

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ชมซากุระยามค่ำคืนไปแล้ว ต่อไปเราก็จะมุ่งหน้าไปที่「KEIO PRESSO INN AKASAKA」กันเลย

สถานีที่ใกล้ KEIO PRESSO INN AKASAKA มาที่สุดก็คือ รถไฟใต้ดินสถานีอากาซากะ เส้นจิโยดะ CHIYODA LINE จากสถานีนิฮนบาชิ ที่ที่ ICHIGO-CHAN อยู่ตอนนี้ เราจะต้องนั่งไปที่สถานีโอเตะมาจิ OTEMACHI STATION ด้วยเส้นโทไซ TOZAI LINE ก่อน จากนั้นก็นั่งเส้นจิโยดะ CHIYODA LINE เพื่อไปยังที่หมาย ให้เดินกลับไปทางเดินเพื่อไปที่ช่องตรวจตั๋วสถานีนิฮนบาชิก่อน

ก่อนอื่นเราก็จะต้องซื้อตั๋วซะก่อน เช็คราคาตั๋วรถไฟที่จะไป「สถานีอากะซากะ」จากนั้นก็กด「English」บนหน้าจอเพื่อเปลี่ยนภาษา แต่ !!!!!!!! เครื่องจำหน่ายตั๋วที่สถานีนิฮนบาชินี้เป็นเครื่องแบใหม่ที่มี「ภาษาไทย」ด้วย เจ๋งมาก

หน้าจอทั้งหมดเป็นภาษไทยหมดเลย กดราคาตั๋วไปสถานีอากะซากะ 「170เยน」ใส่เงินเข้าไป ก็เรียบร้อย จากที่ ICHIGO-CHAN ลองเช็คดูแล้ว เครื่องที่มีภาษาไทยยังมีน้อยอยู่ เพราะฉะนั้นที่เราเจอนี้คือแรร์มาก หวังว่าเครื่องที่มีภาษาไทยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะคะ

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านช่องตรวจตั๋วเข้าไปเลย พอผ่านแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายเพื่อลงบันไดไปที่ชานชาลา สายโทไซ「TOZAI LINE」ลงบันไดมาแล้ว ก็นั่งรถไฟที่จะมุ่งหน้าไป มิคาตะ「MITAKA」หรือ นาคาโนะ「NAKANO」ที่ชานชาลาด้านซ้าย

นั่งไป 1 สถานีเพื่อไปเปลี่ยนสายที่ โอเตะมาจิ「OTEMACHI」เมื่อถึง โอเตะมาจิ แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ฝั่งด้านหน้าชานชาลา ขึ้นบันไดเลื่อนไป 2 รอบ แล้วเดินตรงไปตามทางเรื่อย ๆ เพื่อไปช่องตรวจตั๋วที่มีลานจุดนัดพบ เมื่อถึงช่องตรวจตั๋วแล้วก็เลี้ยวไปทางขวาเพื่อลงบันไดไปชานชาลา สายจิโยดะ CHIYODA LINE

เมื่อถึงชานชาลา สายจิโยดะ CHIYODA LINE แล้วก็ขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ โยโยงิอูเอฮาระ「YOYOGI UEHARA」ที่ชานชาลาฝั่งซ้ายมือ นั่งไปประมาณ 9 นาทีเพื่อไปสถานีฮากะซากะ เมื่อถึงสถานีอากะซากะแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ฝั่งด้านหน้าชานชาลาเพื่อไปช่องตรวจตั๋ว และเมื่อขึ้นมาแล้ว ก็ยูเทิร์นไปทางขวาเพื่อออกจากช่องตรวจเบอร์  5 เลย

หลังจากออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่เลยไปทางซ้าย  เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนแล้ว ก็ขึ้นบันไดที่อยู่ขวามือทันที เพื่อขึ้นไปบนดิน ก็จะเจอกับสี่แยกไฟแดงทันที ให้เลี้ยวขวาไป ก็จะเจอตึกที่มีลายขวาง「KEIO PRESSO INN AKASAKA」อยู่ทางซ้ายมือทันที

และแล้วเราก็มาถึง『KEIO PRESSO INN AKASAKA』

โรงแรมดูสะอาดสะอ้าน สงบแล้วก็ดูดีมีสไตล์ มุมหนึ่งของล๊อบบี้ก็มีโซฟาสำหรับนั่งพักด้วย ICHIGO-CHAN ได้เช็คอินออนไลน์เอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นแค่แสดงหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตให้พนักงานเท่านั้นก็เรียบร้อย

ขึ้นลิฟต์เพื่อไปที่ห้องพักกันเลย กุญแจห้องพักเป็นแบบคีย์การ์ด เวลาขึ้นลิฟต์ก็จะต้องแตะคีย์การ์ดก่อนจึงจะกดชั้นที่ต้องการไปได้ ระบบความปลอดภัยถือว่าใช้ได้เลย

บรรยากาศภายในห้องแบบโทนสีส้มเหมือน ICHIGO-CHAN เลย ห้องให้บรรยากาศแบบอบอุ่น และที่สำคัญที่โต๊ะข้าง ๆ เตียงมีปลั๊กไฟให้เยอะเลย แล้วก็มีไฟสว่างให้ที่โต๊ะด้วย สะดวกสุด ๆ

ถึงจะเป็นห้องแบบซิงเกิ้ลแต่ก็มีความกว้างถึง 14㎡ เพราะฉะนั้นสามารถเปิดกางกระเป๋าเดินทางขนาดกลางได้แบบสบาย ๆ เลย

ห้องน้ำก็จะเป็นห้องที่มีทั้งชักโครกกับที่อาบน้ำอยู่ในห้องเดียวกัน ภายในห้องน้ำมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเตรียมไว้ให้ ทั้งแชมพูครีมนวดยี่ห้อSHISEIDO แปรงสีฟัน ที่โกน ที่ปั่นหู ไว้แบบครบครัน ไปแบบตัวเปล่าได้สบายเลย

เมื่อเช้า ICHIGO-CHAN ออกมาจากชิสึโอกะ จากนั้นชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่คาวากุจิโก ช้อปปิ้งที่อุเอโนะ แถมด้วยการชมอุโมงค์ดอกซากุระ เป็นหนึ่งวันที่ผ่านไปเร็วจริง ๆ คืนนี้ต้องขอตัวไปนอนก่อนนะคะ

ฝันดีค่ะ ทุกคน zzZ

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน และแล้วก็มาถึงเช้าวันสุดท้ายของทริปนี้กันแล้วค่ะ ICHIGO-CHAN ยังไม่อยากกลับเลย มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เราก็จะเห็นวิวเมืองโตเกียวที่กำลังเปียกฝนอยู่ ทั้งสวนสาธารณะ ตึกสูงรอบ ๆ เศร้าขึ้นมาทันทีเลย

เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยมื้อเช้าที่เรารอคอย ที่『KEIO PRESSO INN AKASAKA』นี้มีบริการอาหารเช้าให้กับแขกทุกคนที่มาพักที่นี่ อาหารเช้าจะถูกจัดไว้ที่ห้องอาหารข้าง ๆ ล๊อบบี้ บรรยากาศสงบ สบาย ๆ มีทั้งที่นั่งแบบเก้าอี้และโซฟา

อาหารเช้าฟรีของที่นี่จะมีทั้ง ข้าวปั้น แซนวิสที่สามารถทำเองได้ สามารถเลือกไส้ได้เอง มีวัตถุดิบทั้ง ขนมปังมัฟฟิน สลัด หมูซอสคัตสึ หรือโปเตโต้ เป็นต้น

มีเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องชงกาแฟ น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล ชาอู่หลง หรือน้ำเปล่า

แซนวิสทำเองของ ICHIGO-CHAN เป็นไงบ้างน่าทานไหมคะ ตอนแรกก็ว่าจะทำเป็นแซนวิส แต่เราตักไส้เยอะไปเลยกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว 555

เที่ยวบินกลับกรุงเทพของเราก็คือรอบ 17:25 ถ้าจะเผื่อเวลาให้ไปถึงสนามบินนาริตะประมาณ บ่ายสามโมง ก็ควรจะออกจากตัวเมืองโตเกียวประมาณช่วงเที่ยง ๆ ก็ควรออกเดินทางได้เลยค่ะ

เราจะเหลือเวลาก่อนเดินทางไปสนามบินประมาณ  2 ชั่วโมง กะว่าจะใช้เวลาที่เหลือนี้ไป ศาลเจ้าเมจิ MEIJI JINGU และเดินเล่นที่ ฮาราจุกุ กันหน่อย

ครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไป ศาลเจ้าเมจิ MEIJI JINGUและ ฮาราจุกุ จากนั้นก็จะเดินทางไปสนามบินนาริตะกันค่ะ

【ตารางเดินทางวันนี้】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶