Day3-5 รีวิวโซบะยืนกินสไตล์ญี่ปุ่น「TSURUYA สึรุยะ」 และร้านซูชิสายพาน 「OEDO UENO 2GOUTEN」 ที่ อุเอโนะ อะเมโยโกะ


ROUND THE C・H・I 

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-5 รีวิวโซบะยืนกินสไตล์ญี่ปุ่น「TSURUYA สึรุยะ และร้านซูชิสายพาน 「OEDO UENO 2GOUTEN」 ที่ อุเอโนะ อะเมโยโกะ

ทริป  นาโกย่า-ชิสึโอกะ-ฟูจิ (คาวากุจิโกะ)-โตเกียว

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินเที่ยวช้อปปิ้งที่อุเอโนะอะเมโยโกะ「AMEYOKO」และที่ทาเคยะ「TAKEYAตึกม่วง」แล้ว

ถึงแม้ว่าอุเอโนะจะอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวแต่ที่นี่ก็ยังคงหลงเหลือบรรยากาศความเป็นท้องถิ่นอยู่

ซึ่งต่อไปเราจะไปเดินเล่นในเส้นทางอื่นเพื่อช้อปปิ้งต่อและหาร้านอาหารเพื่อดินเนอร์กัน

ขามา ICHIGO-CHAN ได้เดินผ่าน อะเมโยโกะ「AMEYOKO」ที่ในบรรยากาศเหมือนไนท์มาร์เก็ต เพื่อไปช้อปปิ้งที่ทาเคยะ「TAKEYAตึกม่วง」

ต่อไปเราจะผ่านไปทางถนนใหญ่กันบ้าง เพื่อดูบรรยากาศภายในเมืองไปพร้อมกับการช้อป และหาที่ทานดินเนอร์กันซะหน่อย ก่อนอื่นก็ต้องออกจากร้านและเดินข้ามสี่แยกที่อยู่ใต้ทางด่วน และก็ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านที่กั้นรถไฟไปเรื่อย ๆ ประมาณ 3 นาที ก็จะเจอสี่แยกใหญ่ ในเลี้ยวขวาที่แยกนี้เลย

และเมื่อตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ「TAKEYA SELECT UENO」ที่จำหน่ายสินค้าหรูต่างๆ ทั้งแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือกระเป๋า อยู่ทางด้านซ้ายมือ มีทั้งกระเป๋า anello หรือ KANKEN ส่วนนาฬิกาก็มีตั้งแต่ G-SHOCK ไปจนถึง OMEGA เลย

และที่อยู่ตรงข้ามทาเคยะก็คือ โยโดบาชิคาเมร่า มีทั้งร้านสาขาที่ 1 และ 2 เลย โดยเฉพาะที่ชั้น 2F ของสาขาที่ 2 จะมีทั้งของเล่น โมเดิลพลาสติก ฟิกเกอร์ และที่ชั้น 3F ที่เป็นชั้นเกม ก็มีเกมต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย ไม่จำเป็นต้องไปถึง ชินจุกุ หรือ อากิฮาบาระเลย

และที่อยู่เยื้องไปทางด้านขวาโยโดบาชิคาเมร่าก็คือสวนสาธารณะอุเอโนะ「UENO ONSHI PARK」ซึ่งที่นั่นมีดอกชิดาเระซากุระขนาดใหญ่บานอยู่ด้วย

ซากุระของสวนสาธารณะอุเอโนะนี้จะบานช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนเช่นปีที่ผ่านมา ซากุระที่อยู่บริเวณทางเข้าที่นี่จะบานตั้งแต่กลางเดือน มีนาคมเป็นต้นไป แต่ปีนี้โตเกียวอากาศอุ่นกว่าปกติทำให้เราสามารถเห็นซากุระบานตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเลย

ดีใจมาก ๆ เลยที่ได้เห็นซากุระบานพอดี เพราะไม่ได้คิดเอาไว้ว่าเราจะได้เห็นซากุระในทริปนี้ และด้านหลังซากุระคือ「โคมไฟเทศกาล」ที่ถูกแขวนอยู่เต็มไปหมด สร้างบรรยากาศการชมซากุระได้ดีเลย ซึ่งปกติแล้วซากุระที่นี่จะชมได้แค่ถึงอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนเท่านั้น สวนสาธารณะอุเอโนะนี้ก็เป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมในการชมซากุระมาก ๆ เมื่อถึงช่วงซากุระผู้คนมากมายจะเดินทางมา ณ ที่แห่งนี้เพื่อชมความสวยงามของซากุระไปพร้อม ๆ กับการทานข้าวและดื่มสังสรรค์กัน

ICHIGO-CHAN ที่ได้ดูชิดาเระ「SHIDARE SUKURA」ที่กำลังบานเต็มที่ตรงทางเข้าสวนสาธารณะอุเอโนะ「UENO ONSHI PARK」ไปแล้ว เราลองดูรอบ ๆ เผื่อว่าจะได้เห็นซากุระบานที่อื่นอีก แต่ที่เจอก็มีแค่ดอกที่กำลังตูมอยู่ หรือบานแค่บางส่วนเท่านั้น

จากนั้นก็เดินกลับไปทางสถานีอุเอโนะเลย โดยเดินออกมาโดยให้สวนสาธารณะอุเอโนะอยู่ด้านหลัง และเดินไปทางซ้าย เมื่อข้ามทางม้าลายไปแล้วก็จะกลับมาที่ทางเข้าอะเมโยโกะ  และ ICHIGO-CHAN ก็เจอกับ

ถ้าดูจากรูปแล้วก็อาจจะรู้สึกว่าร้านนี้เป็นร้านโซบะธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือป้ายหน้าร้าน เราไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เพราะฉะนั้นไปดูคลิปสั้น ๆ กันเลย !!

เป็นยังไงกันบ้าง ? แอบหลอน ๆ เหมือนกันนะ ซึ่งป้ายร้านแบบนี้เราสามารถเห็นได้หลายที่ทั้งตามสถานีรถไฟใหญ่หรือในเมือง กับร้าน「โซบะแบบยืนกิน」เป็นร้านแนวร้านอาหารฟาสต์ฟู้ตสำหรับคนที่รีบ ๆ คนทำงานที่ไม่ต้องการเสียเวลานั่งทานอาหารเป็นเวลานาน แบบยืนทานโซบะ (หรืออุดง)อารมณ์เหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ที่ไทยเลย

เราเลยตัดสินใจเข้าร้านนี้เลย ส่วนหนึ่งก็เพราะป้ายหน้าร้าน 5555

ร้าน「TSURUYA สึรุยะ」เป็นร้านยืนทานแบบญี่ปุ่นๆ  ที่มีเมนูให้เลือกมากมาย ไม่รู้ว่ามีคนต่างชาติที่เลือกเข้ามาเพราะป้ายหน้าร้านเหมือน  ICHIGO-CHAN รึเปล่านะ เพราะที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษเด้วย 「TSURUYA สึรุยะ」ก็เป็นเหมือนร้านยืนกินแบบทั่วไปคือ สั่งอาหารแบบซื้อคูปองอาหาร เพียงแค่ใส่เงินเข้าไป กดเมนูที่ต้องการ เท่านี้ก็สามารถซื้อได้แล้ว ส่วนเมนูอาหารต่าง ๆ ก็มีรูปให้ดูด้วย เพราะฉะนั้นถึงจะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็ไม่ต้องห่วงเลย

เมื่อซื้อคูปองแล้ว ก็ยื่นให้พนักงานที่อยู่ในร้าน เมนูส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาทำแค่ประมาณ 1 นาทีเท่านั้น ขึ้นอยู่กับเมนูที่สั่งด้วย พ่อครัวจะทำอาหารให้อย่างรวดเร็วและวางใส่ถาด เมื่ออาหารของเราเสร็จแล้ว ก็หยิบถาดของเราไปที่โต๊ะได้ลย ถึงแม้ว่าร้าน「TSURUYA สึรุยะ」จะเป็นร้านแบบยืนกินโซบะ แต่บางส่วนก็มีเก้าอี้ให้นั่งทานได้แบบสบาย ๆ ด้วย

และที่ ICHIGO-CHAN สั่งวันนี้ก็คือ เซ็ตข้าวหน้ากุ้งเท็ฒปุระ(630 เยน)เป็นข้าวหน้ากุ้งที่มีกุ้งตั้ง 5 ตัวเลย และในเซ็ตมีโซบะที่ใส่สาหร่ายวาคาเมะและต้นหอมด้วย ซึ่งน้ำซุปโซบะนี้เป็นน้ำซุปที่เคี่ยวจากปลาคาสึโอะ และผสมด้วยซอสโชยุแบบพิเศษ ประมาณ 1 อาทิตย กุ้งเท็มปุระก็นิ่มเด้ง ไม่เหมือนเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ตเลย ซึ่งที่จริงแล้วชั้น 2F ของร้าน「TSURUYA สึรุยะ」นี้เป็นร้านโซบะแบบดั้งเดิมที่เก่าแก่ อาหารที่เสิร์ฟอยู่ที่ชั้น 2F จะเป็นร้านโซบะยืนกินที่เสิร์ฟเมนูอาหารที่คิดขึ้นใหม่ทั้งนั้นเลย

หลังจากกินโซบะแบบยืนกินไปแล้ว เราก็จะไปเดินเล่นในเมืองกันต่อเลย ออกจากสึรุยะมาทางขวามือและเดินไปประมาณ 30 วินาที เราก็จะเจอกับ『YAMASHIROYA ยามะชิโระยะ』

ซึ่งตั้งแต่ชั้น 1F จนถึง 5F ของตึกนี้จะจำหน่ายของเล่น หรือของประดิษฐ์อยู่เต็มไปหมด อีกทั้งยังมีสินค้าให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วนเลย ภายในร้านมีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเต็มเลย โดยเฉพาะฟิกเกอร์ต่างๆ มีให้เลือกเยอะมาก แฟน ๆ ฟิกเกอร์ห้ามพลาดเลย

และเมื่อเข้าไปทางเดินใต้ทางด่วนระหว่าง「YAMASHIROYA ยามะชิโระยะ」กับ JR ก็จะเจอกับร้าน เนื้อย่าง หรือ ร้านเหล้า และร้านอาหารไทยยอดนิยมอย่างร้าน「MAE-AN」ด้วย เราเคยไปร้านนี้เมื่อหลายปีที่แล้ว เป็นร้านอาหารที่อร่อยกว่าร้านอาหารที่ไทยบางร้านด้วย สำหรับใครที่เบื่ออาหารญี่ปุ่น แล้วคิดถึงอาหารไทยก็ลองแวะไปทานกันดูได้นะคะ

มุมหนึ่งของย่านร้านอาหารมีร้านซูชิสายพานเรียงกันอยู่หลายร้านเลย เมื่อกี้ ICHIGO-CHAN เพิ่งกินโซบะมาเลยรู้สึกอิ่ม ๆ อยู่ แต่คืนนี้คือคืนสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ก็ต้องกินอาหารญี่ปุ่นให้เต็มที่สิเนอะ เราเข้าไปในร้านซูชิสายพาน『OEDO UENO 2GOUTEN』กันเลย

ซึ่งภายในร้านจะเป็นที่นั่งที่ล้อมรอบเค้าเตอร์ทำซูชิ มีสายพานอยู่ข้างหน้าแต่ละที่นั่ง  อาหารทุกจาน เมนูทุกอย่างจะอยู่ที่ราคาจานละ 150 เยน ซึ่งร้านซูชิสายพานราคาถูกส่วนใหญ่จะใช้เครื่องปั้นข้าวซูชิ แต่ที่โอเอโดะ「OEDO」นี้เชฟจะเป็นคนปั้นเองกับมือเลย

ทั้ง「มากุโระ」「ไข่ม้วน」「อูนิหอยเม่น」หรือ「อามะเอบิ กุ้งหวาน」ทุกอย่าง 150 เยน(ที่สำคัญคือ ราคารวมภาษีแล้ว)แน่นอนว่าเราสามารถหยิบซูชิที่อยากทานจากสายพานได้เลย แต่ก็สามารถสั่งเชฟให้ปั้นซูชิที่อยากทานให้ได้เช่นกัน

กินไปทั้งหมด 4 จาน 7 คำ ราคาทั้งหมด 600 เยน รวมภาษีแล้วด้วย ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ราคาประมาณ 170 บาท ถูกมากเลย ถ้าอยู่ใกล้บ้าน ICHIGO-CHAN จะมากินทุกวันเลยจริง ๆ

ซึ่งคืนนี้เราจะไปพักกันที่ โตเกียว・อะกะซากะ「KEIO PRESSO INN AKASAKA」 นั่ง TOKYO METRO เพื่อไปที่อะกะซากะ แต่ ICHIGO-CHAN ได้ดูชิดาเระซากุระที่สวนสาธารณะอุเอโนะ「UENO ONSHI PARK」ไปแล้ว ก็เลยอยากดูอีก ลองค้นหาแฮชแท็กใน SNS ที่เกี่ยวกับ「สถานที่ดอกซากุระบานที่โตเกียว」ดูว่ามีที่ไหนบ้างในช่วงนี้ ก็เจอว่ามีซากุระบานอยู่ที่นิฮนบาชิใกล้ ๆ สถานีโตเกียวด้วย เราสามารถเดินทางจากสถานีอุเอโนะไปที่สถานีนิฮนบาชิได้ด้วยรถไฟใต้ดินสายกินซ่า GINZA SUBWAY LINE ได้โดยไม่ต้องต่อรถไฟเลย ลงบันไดหน้า「YAMASHIROYA」เพื่อไปรถไฟใต้ดินสถานีอุเอโนะได้เลย

เมื่อลงบันไดมาแล้ว ก็เลี้ยวไปทางซ้าย และตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอเครื่องจำหน่ายตั๋วรถไฟอัตโนมัติอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาตั๋วจากบอร์ดแผนผังรถไฟบนเครื่องจำหน่ายตั๋วรถไฟอัตโนมัติก่อน การจะหาราคาตั๋วจากเส้นทางรถไฟใต้ดินของโตเกียวเป็นเรื่องที่ยาก!!ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ยังไงลองเข้าไปอ่าน ICHIGO-JAPAN ของเราที่อธิบายเกี่ยวกับการค้นหาเส้นทางรถไฟ ต่อรถไฟ และราคารถไฟได้แบบง่ายดาย

คลิ๊กที่ลิงค์เลย >>『การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว』

ราคาตั๋วไปนิฮนบาชิจะอยู่ที่ 170 เยน กดไปที่ ¥170 ในขั้นตอนแรก จากนั้นก็ใส่เงิน เท่านี้ก็เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ โดยหันหน้าออกจากเครื่อง เดินไปช่องตั๋วเบอร์ 1 ที่อยู่ทางขวา

ถ้าเป็น MRT หรือ SRT ถึงแม้ว่าเราอยู่ที่ชานชาลาก็คงจะไม่รู้ว่ารถไฟอยู่ที่ไหน จะมาเมื่อไหร่ อีกกี่นาที แต่ที่ญี่ปุ่นประเทศที่เคร่งเรื่องเวลานั้น จะมีระบุไว้ที่ชานชาลาเป็นส่วนใหญ่เลย รถไฟใต้ดินที่โตเกียวจะส่งสัญญาณให้ทราบว่ารถไฟกำลังเข้ามาใกล้ๆ ด้วยไฟน่ารัก ๆ แบบในคลิป มาตั้งแต่เมื่อ 44 ปีก่อนหรือปีพ.ศ. 2517 มาแล้ว พอได้เห็นวิธีการแบบธรรมดา ๆ ในเมืองใหญ่ ๆ ที่เจริญแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกน่ารักดีนะ

เราสามารถนั่งรถไฟจากสถานีอุเอโนะถึงสถานีนิฮนบาชิได้แบบไม่ต้องต่อรถไฟเลย ใช้เวลา 14 นาที เมื่อถึงแล้วก็ขึ้นบันไดที่อยู่ภายในชานชาลา เพื่อออกจากช่องตรวจตั๋วไป เมื่อออกมาแล้วก็ไปทางซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 นาที จากนั้นขึ้นบันไดที่อยู่ทางขวามือของทางเดิน เมื่อถึงชั้นบนดินแล้วเลี้ยวซ้าย และเดินตรงไป 1 บล๊อค

เดินจากประตูทางออกสถานีนิฮนบาชิไปประมาณ 2 นาที เส้นทางถนนที่อยู่ด้านขวามือก็คือ「NIHONBASHI SAKURA STREET」

บรรยากาศเส้นนี้ก็ตามชื่อเลย ก็คือมีซากุระทั้งสองข้างทางเหมือนเป็นอุโมงค์ซากุระเลย อาจจะบานแค่ 2 ใน 3 แต่อุโมงค์ซากุระก็สวยมาก

ครั้งหน้าเราจะมารีวิวค่ำคืนที่「NIHONBASHI SAKURA STREET」และที่พักคืนสุดท้ายของเราที่「KEIO PRESSO INN AKASAKA」

【ตารางเดินทางวันนี้】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶