Day1-4 ตื่นตาตื่นใจย่าน “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」ดินแดนของคนรักการทำอาหาร พร้อมเยี่ยมชมสถานที่ไฮไลท์ของอาซากุสะ “วัดเซ็นโซ”「SENSOJI」

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-4 ตื่นตาตื่นใจย่าน “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」ดินแดนของคนรักการทำอาหาร พร้อมเยี่ยมชมสถานที่ไฮไลท์ของอาซากุสะ “วัดเซ็นโซ”「SENSOJI」

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

จากความเดินตอนที่แล้วที่ ICHIGO-CHAN ได้ชมการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」ฟรี! ที่สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์แห่งใหม่ของอาซากุสะ「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」และทานอาหารขึ้นชื่อของอาซากุสะกับเมนูข้าวหน้าเท็มปุระกันไปแล้ว

Day1-3 ชมการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」ของเกอิชาอาซากุสะ ที่อ่อนช้อยงดงามในแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากนั้นเติมพลังด้วยข้าวหน้าเท็มปุระอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่กับร้าน “อากิมิสึ” 「AKIMUTSU」

เราจะยังคงเดินเที่ยวอาซากุสะกันต่อ หลังจากที่ได้ทานอาหารกลางวันแล้วจากนี้เราจะมุ่งหน้าไปที่ “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」ถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า「DOUGU GAI」อ่านว่า “โดกุไก” ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ทำอาหาร ภาชนะ ของใช้ในครัวเรือน เครื่องมือต่างๆ สำหรับเชฟ หรือนอกจากนี้ก็มีโมเดลอาหารตัวอย่างที่ใช้สำหรับจัดแสดงหน้าร้านอาหารต่างๆ ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่น้อย

ดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมสินค้าโมเดลอาหารตัวอย่างต่างๆ ที่นิยมตั้งโชว์อยู่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่น พร้อมชมขั้นตอนการทำสินค้าเหล่านี้ที่ “คัปปะบาชิ” และพาเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชม “วัดเซ็นโซ” สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของอาซากุสะกันค่ะ ไปกันเลย

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ทานอาหารขึ้นชื่อของอาซากุสะเป็นข้าวหน้าเท็มปุระสุดอลังการล้นจาน ที่ร้าน “อากิมาสึ”「AKIMITSU」แล้ว ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปที่“คัปปะบาชิ” โดยออกจากร้านไปทางขวามือ และข้ามทางม้าลายที่อยู่ข้างห้าง ASAKUSA ROX ไปและเดินตรงไปเรื่อยๆ ผ่านซอยแคบๆ ไปเรื่อยๆ ระหว่างทางทั้งสองฝั่งข้างทางจะมีร้านกาแฟเล็กๆ ร้านรองเท้าหรือกระเป๋าแฮนด์เมด และบ้านคนเรียงกันอยู่

เดินไปตามถนนซอยเล็กๆ ไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที ก็จะออกมาสู่ถนนใหญ่เส้นนี้ก็คือ “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」ภายในถนนเส้นนี้จะมีร้านขายอุปกรณ์เครื่องครัว ภาชนะในครัวเรือน หรือโมเดลอาหารตัวอย่างแสดงหน้าร้านเรียงกันอยู่มากมายกว่า 170 ร้าน ตามทางเดินก็จะมีทั้งคนอาหารมือโปร นักท่องเที่ยว ไปจนถึงบุคคลทั่วไปเดินกันอย่างพลุกพล่าน

ที่ “คัปปะบาชิ” นี้จะมีตั้งแต่สินค้าสำหรับเชฟมืออาชีพ ไปจนถึงสินค้าราคาถูก ให้ได้เลือกมากมายในธีม「สวรรค์ของคนรักการทำอาหาร」สินค้ามีตั้งแต่ ที่คีบไซส์ต่างๆ ที่สามารถคีบไก่ทอดชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงเท็มปุระชิ้นโตได้ ที่คีบแบบทนความร้อน หรือที่คีบราคาถูก ฯลฯ เรียกได้ว่าสินค้าชนิดเดียวก็มีให้เลือกหลากหลายแบบมากๆ

สำหรับช่วงนี้ที่การทำอาหารด้วยตนเองเริ่มบูมขึ้นมากๆ ในประเทศไทย ถ้าได้ลองมาเดินที่นี่รับรองว่าจะไม่อยากไปไหนอีกเลย หรือแม้กระทั่งเพื่อนๆ ที่ไม่ถนัดเรื่องการทำอาหารก็สามารถชมขั้นตอนวิธีการผลิต โมเดลอาหารตัวอย่างที่ตั้งโชว์หน้าร้านอาหารในญี่ปุ่น พร้อมเลือกซื้อสินค้าที่น่าสนใจติดไม้ติดมือกันไปเล็กน้อยก็เป็นอีกหนึ่งความสนุกของการได้มาเดินบริเวณนี้นะคะ

อย่างเช่น ซูชิหน้าแซลมอน 972 เยน หรือ หน้าไข่หวาน 771 เยน ….. สินค้าเหล่านี้เป็นซูชิปลอมตั้งโชว์หน้าร้านนะคะ อย่าเข้าใจผิดไปว่าทำไมซูชิที่นี่แพงจัง 555 ทำออกมาได้เหมือนจริงมากจนแทบจะแยกไม่ออกเลยจริงๆ ค่ะ ซึ่งที่บริเวณ “คัปปะบาชิ” จะมีร้านจำหน่ายอาหารตัวอย่างลักษณะนี้อยู่หลายสิบร้าน ไม่ว่าร้านไหนก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งนั้น แน่นอนว่าสินค้าตัวอย่างเหล่านี้คนทั่วไปสามารถซื้อได้ปกติเลยนะคะ

ร้านจำหน่ายอาหารตัวอย่างทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นการจำหน่ายสินค้าที่รับมาจากที่อื่นอีกที แต่ที่ร้าน『SATO SAMPLE』จะเป็นร้านเก่าแก่ชื่อดังที่ผลิตอาหารตัวอย่างเองในทุกขั้นตอน

ด้วยเทคนิคขั้นตอนการผลิตที่ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นทำให้สินค้าเหมือนจริงมากๆ ทั้งข้าวหน้าแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า พาสต้า โซบะ หรือ ราเม็ง แต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ แค่เดินดูเฉยๆ ก็เพลินมากๆ

และนี้ก็คือช่างทำโมเดลอาหารตัวอย่าง「SATO SAMPLE」ซึ่งที่ร้านนี้สามารถผลิตสินค้าที่ไม่มีโชว์ที่ร้าน ทำตามออเดอร์แบบที่ลูกค้าต้องการได้ นอกจากนี้ที่ร้านยังมีคาแรคเตอร์ประจำร้านชื่อว่า “คัปปะ คาวะทาโร่”「KAPPA KAWATORO」ด้วย ถ่ายรูปรวมกันซักรูป ตัวพอๆ กันเลยด้วย ดีจังเลย ICHIGO-CHAN ได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีกแล้ว♪

ออกจากร้าน「SATO SAMPLE」ไปทางขวาประมาณ 2 ร้านก็จะเจอซูชิกุ้งขนาดใหญ่มากๆ อยู่ระหว่างทาง และร้านที่อยู่ด้านข้างนี้ก็คือ…….

ร้าน『GANSO SAMPLE』ที่กำลังได้รับควานิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก

ภายในร้านมีสินค้ามากมายกว่าหลายร้อยชนิด ในราคาไม่แพงมาก เช่น 「โซบะ」หรือ「ยากิโซบะ」พร้อมตะเกียบลอยอยู่ในอากาศ และข้าวผัดหน้าตาน่าทาน(แต่ละชนิด 1905 เยน)

นอกจากนี้ยังมีสินค้าน่าสนใจที่สามารถใช้ได้จริงอย่าง「สเต็กแม่เหล็ก」(3000 เยน)หรือ เมนูแพนเค้กน่าทานกับ「กล่องใส่ของรูปแพนเค้ก」(แต่ละแบบ 3500 เยน)และ「ซูชิแม่เหล็ก」(แต่ละชนิด 1200 เยน)ที่เหมือนของจริงแถมยังน่าทานมากๆ ซื้อไปเป็นของฝากหรือซื้อกลับไปใช้เองก็น่าสนใจดีนะคะ

เท่านั้นไม่พอที่ร้านนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ลองลงมือทำอาหารโมเดลเหล่านี้เองกับ『ทดลองทำโมเดลอาหาร』 เปิด 3 รอบต่อวัน

เวลา 11.00・14.00・16.00 น. เป็นระยะเวลา 60-75 นาที(ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าร่วม)ซึ่งเมนูที่สามารถลองทำก็คืออาหารที่ได้รับความนิยมจากคนไทยอย่าง「เท็มปุระ」และ ผักกะหล่ำปลี หากที่ว่างก็สามารถเข้าไปติดต่อได้เลยโดยที่ไม่ต้องจองล่วงหน้า

บริเวณ “คัปปะบาชิ” นี้นอกจากอุปกรณ์เครื่องครัวแล้ว ก็มีร้านขนมหรือร้านขายวัตถุดิบอาหารต่างๆ อยู่หลายร้าน เป็นร้านแบบขายปลีกที่ราคาถูกกว่าซื้อในเมืองแน่นอน ทั้งขนมญี่ปุ่นแบบจำหน่ายยกแพ็ค เหมาะกับการซื้อไปแจก ที่ทำงานหรือเพื่อนๆ ที่โรงเรียนมากๆ

หลังจากที่ได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ “คัปปะบาชิ” และแล้วก็ได้เวลาไปสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของอาซากุสะที่ “วัดเซ็นโซ” 「SENSOJI」แล้วค่ะ โดยออกจากร้าน「GANSO SAMPLE」 หรือ「SATO SAMPLE」ไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ จนเจอแยก “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」ซึ่งแยกนี้จะมีป้ายแบบในภาพบนเป็นสัญลักษณ์ ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกนี้ เพื่อเดินไปตามทางเดินเล็กๆ ทั้งสองข้างทางจะมีทั้งร้านขนมเก่าแก่ ร้านอุนางิ(ปลาไหล) หรือร้านเท็มปุระต่างๆ เรียงกันอยู่หลายร้าน กินหอมเตะจมูกมากๆ เลยค่ะ

เดินไปตามถนนแคบๆ เรื่อยๆ และข้ามถนนใหญ่ไป ก็จะเจอ「ดองกี้โฮเตะ」และตรงกันข้ามก็คือห้างจำหน่ายสินค้าพิเศษต่างๆ มากมายจากทั่วประเทศญี่ปุ่นกับห้าง「MARUGOTO NIPPON」ถึงแม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปช้อปปิ้งจะเป็นย่าน “ชินจุกุ” แต่ที่บริเวณนี้อย่าง “ASAKUSA ROX” “ดองกี้โฮเตะ”” หรือ ย่าน “คัปปะบาชิ” ก็มีสินค้าต่างๆ ให้เลือกมากมายเช่นกัน ไม่ต้องออกไปถึงชินจุกุก็สามารถเลือกซื้อของที่ต้องการได้ที่นี่เลย

พอได้เข้าไปแล้วก็เหมือนโดนดูดเข้าสู่โหมดช้อปปิ้ง แต่วัดเซ็นโซจะปิดเวลา 17.00 เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องเวลาด้วยนะคะ

ออกจากดองกี้โฮเตะ มาก็จะมีทางแยกเป็นสองทาง「เยื้องไปทางขวา」และ「เยื้องไปทางซ้าย」ซึ่งเส้นทางเยื้องไปทางขวามือชื่อว่า「ลอกโดริ」ทั้งสองฝั่งข้างทางก็จะมีทั้งร้านขายของฝาก หรือร้านอาหารต่างๆ มากมาย มีร้านที่เราสนใจอยู่ร้านหนึ่งด้วยนั่นก็คือร้าน「ASAKUSA FUJIYAMA」เป็นร้านที่มีสินค้าเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิอยู่เต็มไปหมด “เสื้อยืดภูเขาไฟฟูจิ”(ชิ้นละ 1000 เยน-)หรือ “กระเป๋าผ้าภูเขาไฟฟูจิ”(ไซส์ M 1500 เยน・ไซส์ L 2000 เยน)พรุ่งนี้ ICHIGO-CHAN ก็จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิด้วยเลยตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ

เมื่อตรงไปตาม「ลอกโดริ」เรื่อยๆ เส้นทางนี้ก็จะเปลี่ยนชื่อเป็น “ถนนเด็นโบอิน”「DENBOUIN STREET」จากนั้นก็ตรงไปอีกเรื่อยๆ ก็จะมาถึงแยกเพื่อเข้าไปยังทางเดินหน้าวัดเซ็นโซ “นาคามิเสะ”「NAKAMISE」เมื่อถึง “นาคามิเสะ” แล้วก็เลี้ยวไปทางซ้ายมือ และเดินไปทางประตูใหญ่ SANMON (นิโอมง NIOUMON)เพื่อมุ่งไปสู่วัดเซ็นโซกันค่ะ

ภายในย่านร้านค้านาคามิเสะนี้จะมีร้านค้าต่างๆ ให้เราได้เพลิดเพลินมากมายทั้งร้านขายของฝากญี่ปุ่น หรือของจุกจิกน่ารักๆ นอกจากากนี้ก็มีของกินเล่นเรียงกันอยู่มากมายหลายร้าน ซึ่งของกินขึ้นชื่อของย่านร้านค้านาคามิเสะก็คงหนีไม่พ้น “ขนมปังทอด” “เมล่อนปัง” และ “นินเงียวยากิ” ตามภาพเลยค่ะ น่าทานทั้งนั้น ไหนๆ ก็มาแล้วเลยซื้อทานทุกอย่างเลยค่ะ ซึ่งแต่ละอย่างสามารถซื้อได้ตั้งแต่ชิ้นเดียว ราคาต่อชิ้นประมาณ 100-300 เยนเท่านั้น ถ้าใครอยากลองชิมก็ลองซื้อทานดูนะคะ แต่ข้อควรระวังของบริเวณย่านร้านค้านาคามิเสะนี้ก็คือ “ห้ามเดินทานอาหาร” ค่ะ เพราะฉะนั้นจะต้องยืนทานภายในพื้นที่ๆ ที่ร้านจัดเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย ก่อนออกเดินทางต่อ หรือนั่งที่นั่งที่วัดจัดเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ

เลี้ยวซ้ายที่ “ถนนเด็นโบอิน”「DENBOUIN STREET」ไปซักพักก็จะเดินมาถึงประตูนิโอมงของวัดเซ็นโซ ซึ่งประตูนี้ก็มีความใหญ่และอลังการไม่แพ้ “คามินาริมง” สวยและน่าถ่ายรูปพอๆ กันเลยค่ะ ประตูนี้ก็มีทั้ง โคมไฟขนาดใหญ่ ที่สามารถมองผ่านไปเห็นอาคารหลักของวัดเซ็นโซได้ด้วย เป็นมุมถ่ายรูปที่สวยมากอีกมุมหนึ่งเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในบริเวณวัดแล้วก็จะเห็นอาคารหลักเด่นอลังการ และควันฟุ้งลอยอยู่ตรงหน้า ซึ่งควันนี้มาจาก「JOUKOURO」อ่านว่า โจโคโระ แปลว่า กระถางธูป ขนาดใหญ่ อยู่ด้านหน้าอาคารหลัก และที่อยู่ด้านซ้ายมือเมื่อหันหน้าเข้าสู่บริเวณวัดก็คือ สำนักงานวัดที่จำหน่าย「เครื่องรางของขลัง」ต่างๆ และด้านขวามือก็คือ จุดจำหน่ายธูป เราจะเดินไปซื้อธูปเพื่อเอาไปปักที่กระถางกันก่อนเลย (100 เยน)

เมื่อซื้อธูปเรียบร้อยแล้วก็ทำการจุดธูปที่กระถางรูปเลย ซึ่งกระถางธูปนี้มีเอาไว้เพื่อชำระล้างปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากผู้ที่มาสักการะ โดยหากต้องการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากส่วนใด ก็ให้ปัดควันไปถูกส่วนนั้นๆ ซึ่งหากลองสังเกตุผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นคนญี่ปุ่นหรือคนในท้องถิ่น ก็จะพบว่าจะนิยมปัดควันเข้าศรีษะ เพื่อให้ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากหัว=ให้ฉลาดมากขึ้น นั่นเอง บางคนก็นำกระเป๋าเงินออกมาโดนควันด้วย ทำบ้างดีกว่า 55555

และเมื่อเดินเลยกระถางธูปไปอีกก็จะมีที่ชำระล้างร่างกายอยู่ด้านขวามือ ซึ่งที่ชำระล้างร่างกายของวัดเซ็นโซจะมีน้ำไหลออกมาจากปากมังกรด้วย

เราจะต้องทำการล้างมือ ล้างปาก ชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อนเข้าไปทำการกราบไหว้ภายในวัด โดยมีวิธีการชำระล้างร่างกายดังนี้

  1. ถือกระบวยด้วยมือขวา และตักน้ำให้เต็ม จากนั้นน้ำมาล้างมือซ้าย
  2. เปลี่ยนมือที่ถือกระบวยเป็นข้างซ้าย และล้างมือขวา
  3. เปลี่ยนมาถือกระบวยมือขวาอีกรอบ เทน้ำใส่มือซ้ายพอประมาณ และทำการบ้วนปาก
  4. ล้างมือซ้ายอีกรอบ
  5. ตั้งกระบวยขึ้น โดยหันหน้ากระบวยเข้าตัว เพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างที่จับกระบวย วางกระบวยไว้ที่เดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อทำขั้นตอนข้างต้นเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปกราบไหว้กันเลย

อาคารหลักของวัดเซ็นโซ จะอยู่ภายในอาคารที่มีหลังคาขนาดใหญ่ พร้อมโคมขนาดใหญ่ประดับอยู่ด้านหน้า ซึ่งเราสามารถฟังการสวดที่จะมีขึ้นวันละ 3 รอบในช่วง 6.00(เดือนตุลาคม ~ เดือนมีนาคม เวลา 6 โมง 30 นาที)・10.00・14.00 ได้

บริเวณทางเข้าอาคารหลัก หรือด้านในจะเป็นส่วนที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด แต่ทว่าส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ห้ามถ่ายรูป ทำได้เพียงกราบไหว้พระ ชมพระสวด หรือชื่นชมความสวยงามของอาคารหลักด้วยตา หรือ สามารถเลือกซื้อเครื่องรางของคลังได้ที่บริเวณนี้เช่นกัน หน้าบริเวณทางเข้าอาคารหลักคนก็จะเยอะแบบในรูปเลยค่ะ ยังไงลองเข้าไปกราบไหว้ภายในอาคารหลักดูนะคะ ด้านในคนจะไม่เยอะเท่านี้ค่ะ

หลังจากที่เราได้กราบไหว้อาคารหลักแล้ว ต่อไปเราจะชมเทศกาลฤดูร้อน “นัตสึ มาสึริ”「NATSU MATSURI」ของ “ศาลเจ้าอาซากุสะ ASAKUSA JINJA” ข้างๆ วัดเซ็นโซ จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปที่「ภูเขาฟูจิ」กันในครั้งหน้า ฝากติดตามด้วยนะคะ

【ตารางการเดินทาง Day1-4 KAPPABASHI SHOPPING STREET/SENSOJI TEMPLE】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶