Day1-5 เยี่ยมชม “ศาลเจ้าอาซากุสะ”「ASAKUSA JINJA」ชมบรรยากาศงานเทศกาลฤดูร้อน “เทศกาลซันจะ”「SANJA MATSURI」และกราบไหว้ “ศาลเจ้าอาซากุสะ ฟูจิเซ็นเก็น”「ASAKASA FUJI SENGEN SHRINE」เพื่อเตรียมตัวก่อนปีนขึ้นภูเขาฟูจิ

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-5 เยี่ยมชม “ศาลเจ้าอาซากุสะ”「ASAKUSA JINJA」ชมบรรยากาศงานเทศกาลฤดูร้อน “เทศกาลซันจะ”「SANJA MATSURIและกราบไหว้ “ศาลเจ้าอาซากุสะ ฟูจิเซ็นเก็น”「ASAKASA FUJI SENGEN SHRINE」เพื่อเตรียมตัวก่อนปีนขึ้นภูเขาฟูจิ

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

จากความเดิมตอนที่แล้วที่ ICHIGO-CHAN ได้ไปเดินเที่ยวชม “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」และเยี่ยมชม “วัดเซ็นโซ”「SENSOJI」แล้ว

วันนี้เราจะไป “ศาลเจ้าอาซากุสะ” ที่อยู่ข้างวัดเซ็นโซเพื่อไปดูเทศกาล “นัตสึโมเดะ”「NATSUMOUDE」จากนั้นก็ไปยัง “ศาลเจ้าอาซากุสะเซ็นเก็น”「ASAKUSA FUJI SENGEN SHRINE」ศาลเจ้าที่มี「ภูเขาฟูจิ」คืออะไรไปชมกันเลย

ก่อนอื่นก็เดินไปทางขวามือเมื่อหันหน้าไปที่อาคารหลักของวัดเซ็นโซ เดินไปไม่ถึง 30 วินาทีก็ถึง “ศาลเจ้าอาซากุสะ”『ASAKUSA JINJA』เลย

เดิมทีศาลเจ้านี้เคยเป็นหนึ่งเดียวกับวัดเซ็นโซ แต่ถูกแยกออกจากกันเนื่องจากเกิดความแตกต่างระหว่าง การเซ่นไหว้พระพุทธเจ้า「วัดเซ็นโซ」และการเซ่นไหว้เทพเจ้า「ศาลเจ้าอาซากุสะ」ตั้งแต่เมื่อ 140 ปีก่อน

“ศาลเจ้าอาซากุสะ” นี้เป็นศาลเจ้าตัวแทนของโตเกียวที่มีการจัดงานเทศกาลซันจะ「SANJA MATSURI」โดยจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ในวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน เป็นเวลา 3 วัน

มีทั้งขบวนแห่ “มิโคชิ” กว่า 100 กลุ่ม รวมไปถึงขบวนระบำ “บินซะซาระไม”「BINZASARAMAI」นอกจากนี้ยังมีการระบำต่างๆ ของผู้ที่มาร่วมงานอยู่ภายในศาลเจ้าอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลที่ครึกครื้นและมีผู้คนมาเข้าร่วมงานกว่า 1 ล้าน 5 แสนคนจากข้อมูลปีที่ผ่านๆ มา เป็นช่วงที่อาซากุสะครึกครื้นมากที่สุดในหนึ่งปีเลยก็ว่าได้ค่ะ

ศาลเจ้าอาซากุสะแห่งนี้ได้มีการเริ่มจัดเทศกาล “นัตสึโมเดะ”『NATSUMOUDE』ขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน

ที่ประเทศญี่ปุ่นเองจะมีการเรียกการสักการะศาลเจ้าในช่วงวันปีใหม่ขึ้นเพื่อขอพรให้ปีนั้นๆ ให้เป็นปีที่ดี สุขภาพแข็งแรง พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง ค้าขายรุ่งเรือง ซึ่งเรียกว่า “ฮาสึโมเดะ”「HATSUMOUDE」ซึ่งในช่วงหน้าร้อน “นัตสึโมเดะ” จะจัดในเดือนกรกฏาคม เป็นเวลาครึ่งปีหลังจาก “ฮาสึโมเดะ” ในช่วงปีใหม่พอดี โดยขอพรเพื่อให้ครึ่งปีหลังเป็นไปอย่างราบรื่นหลังจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถือเป็นวัน「ENNICHI」อ่านว่า “เอ็นนิจิ” แปลว่า “งานวัด” เช่นเดียวกับ “ฮาสึโมเดะ” ในช่วงปีใหม่ คือภายในศาลเจ้าจะมีร้านค้าต่างๆ มาจำหน่ายอาหารหรือมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย อย่างคึกคัก ซึ่งถ้าพูดถึง “งานวัด” ของญี่ปุ่นก็คงต้องนึกถึง “ร้านอาหาร” แผงลอยต่างๆ มากมาย อย่างเช่น ทาโกยากิ, โอโคโนมิยากิ, ไส้กรอก หรือ มันทอด ฯลฯ น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ ซึ่งงานวัดจะสามารถเดินทานได้ตามปกติ ต่างจากนาคามิเสะหน้าวัดเซ็นโซที่ห้ามเดินทางนะคะ ดีมากๆ เลยได้บรรยากาศงานวัดญี่ปุ่นสุดๆ ไปเลยค่ะ

ถึงจะเป็นงานเทศกาล แต่หากมาศาลเจ้าเจ้าแล้วก็ควรจะทำการชำระล้างร่างกายในสะอาดก่อนเข้าไปกราบไหว้สักการะภายในศาลเจ้านะคะ โดยมีวิธีการดังนี้

  1. ถือกระบวยด้วยมือขวา และตักน้ำให้เต็ม จากนั้นน้ำมาล้างมือซ้าย
  2. เปลี่ยนมือที่ถือกระบวยเป็นข้างซ้าย และล้างมือขวา
  3. เปลี่ยนมาถือกระบวยมือขวาอีกรอบ เทน้ำใส่มือซ้ายพอประมาณ และทำการบ้วนปาก
  4. ล้างมือซ้ายอีกรอบ
  5. ตั้งกระบวยขึ้น โดยหันหน้ากระบวยเข้าตัว เพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างที่จับกระบวย วางกระบวยไว้ที่เดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อทำขั้นตอนข้างต้นเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปกราบไหว้กันเลย

โดยโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)จากนั้นให้ทำการ

โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง

ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง

โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ

ซึ่งขั้นตอนวิธีการกราบไหว้นี้จะเป็นขั้นตอนของศาลเจ้าเท่านั้น หากกราบไหว้ที่วัด ก็เพียงแค่พนมมืออธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น

ในช่วง “นัตสึโมเดะ” นี้ ศาลเจ้าส่วนใหญ่ในอาซากุสะจะมีการประดับ「茅の輪CHINOWA」อ่านว่า “จิโนะวะ” เอาไว้หน้าศาลเจ้าหลัก โดยมีความเชื่อในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย หรือมลทินต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรก ให้ครึ่งปีหลังมีแต่สิ่งดีๆ พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บและสิ่งชั่วร้ายนั่นเอง ด้วยการลอดผ่านห่วงฟางนี้เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร่างออกจากตัวนั่นเองค่ะ

โดยช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึง เดือนกรกฏาคมจะเป็นช่วงฝนของญี่ปุ่นพอดี ซึ่งเรียกว่า「TSUYU」อ่านว่า “ซึยุ” ทำให้คนส่วนใหญ่จะป่วยในช่วงนี้กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงลอดห่วงฟางเพื่อให้พ้นจากรคภัยไข้เจ็บที่กำลังจะมาถึงด้วยนั่นเองค่ะ

ซึ่งในช่วงวันที่ 1 ถึง 7 เดือนกรกฏาคม จะเป็นช่วงที่มีทั้งงานเทศกาล “นัตสึโมเดะ” และ งาน “ทานาบาตะ” ทางเดินทั้งสองฝั่งจะมีทั้ง การประดับต้นไผ่ ซุ้มสวมชุดยูกาตะ การระบำถวายวัด โชเม็นลอยน้ำ และการเล่นไฟเย็นต่างๆ เป็นต้น ถ้าใครได้มาเที่ยวอาซากุสะช่วงนี้พอดีก็ลองไปร่วมสนุกกันดูนะคะ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินไปกับเทศกาลใหม่ของ “ศาลเจ้าอาซากุสะ” กับเทศกาล “นัตสึโมเดะ” ไปแล้ว สถานที่สุดท้ายในอาซากุสะที่เราจะไปก็คือ ศาลเจ้าในอาซากุสะที่มีภูเขาฟูจิลูกเล็กๆ อยู่ใน “ศาลเจ้าอาซากุสะ ฟูจิเซ็นเก็น”「ASAKASA FUJI SENGEN SHRINE」โดยเดินออกจากศาลเจ้าอาซากุสะไปทางขวามือ โดยหันหน้าเข้าหาตัวศาลเจ้า เดินตรงไปทางขวาเรื่อยๆ จนออกมาสู่ถนนใหญ่และก็ตรงไปอีกเรื่อยๆ

ซึ่งเส้นทางที่จะมุ่งไป “ศาลเจ้าอาซากุสะ ฟูจิเซ็นเก็น” จะมีเกสต์เฮาส์「KHAOSAN HOSTEL ORIGAMI」ในเครือ “KHAOSAN HOSTEL GROUP” ซึ่งคำว่าข้าวสารก็มาจาก “ถนนข้าวสาร” ที่กรุงเทพนั่นเอง สุดยอดไปเลยค่ะถนนข้าวสารของประเทศไทยโด่งดั่งมาถึงนี่เลย

เดินจาก “ศาลเจ้าอาซากุสะ” มาประมาณ 7-8 นาที เมื่อเดินมาสุดทางแล้วก็จะเจอกับ “ศาลเจ้าอาซากุสะ ฟูจิเซ็นเก็น”「ASAKASA FUJI SENGEN SHRINE」

“ภูเขาฟูจิ” ที่ไม่ว่าใครๆ ก็อยากลองปีนขึ้นไปดูซักครั้งนี้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการเดินทางปีนขึ้นภูเขาฟูจิจะสามารถปีนขึ้นไปได้ไม่ยากและไม่ลำบากมากนัก จนได้รับความนิยมแม้กระทั่งชาวต่างชาติ แม้แต่ ICHIGO-CHAN เองก็กำลังจะขึ้นไปนี้ แต่ในสมัยก่อนการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบากจึงทำให้ผู้คนไม่นิยมปีนขึ้นภูเขาฟูจิกันซักเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงได้มีการสร้าง “ศาลเจ้าเซ็นเก็น”「SENGEN JINJA」ขึ้นเพื่อเซ่นไหว้ “ภูเขาฟูจิ” ในสถานที่ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ผู้คนจึงนิยมกราบไหว้สักการะศาลเจ้าเซ็นเก็น「SENGEN JINJA」แทนการปีนขึ้นภูเขาฟูจิ ซึ่ง “ศาลเจ้าอาซากุสะ ฟูจิเซ็นเก็น”「ASAKASA FUJI SENGEN SHRINE」ก็คือหนึ่งใน “ศาลเจ้าเซ็นเก็น”「SENGEN JINJA」ที่มีประวัติความเป็นมาดังข้อความข้างต้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานวัดที่เรียกว่า “อูเอะคิอิจิ”「UEKIICHI」เพื่อให้เข้ากับช่วงเปิดภูเขาฟูจิในเดือนกรกฏาคมอีกด้วย

 “ศาลเจ้าอาซากุสะ” เองก็มีห่วงฟาง  “จิโนะวะ”「CHINOWA」เช่นกันค่ะ ที่นี่เป็นศาลเจ้าเพราะฉะนั้นสามารถกราบไหว้ได้เหมือน ศาลเจ้าอาซากุสะ เลยค่ะคือ โค้งคำนับ 2 ・ปรบมือ 2・โค้งคำนับ 1 ซึ่งศาลเจ้าที่เป็นเทพเจ้าแห่งภูเขานี้ จะมีการให้โชคที่แตกต่างออกไปหลากหลายแต่หลักๆ ก็คือ「การมีบุตร・การคลอดลูกอย่างปลอดภัย」แนะนำสำหรับคู่ใดที่อยากมีบุตรหรือคุณแม่กำลังตั้งครรภ์เลยค่ะ

ICHIGO-CHAN จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิพรุ่งนี้แล้วค่ะ ICHIGO-CHAN จะมาขอให้เราได้ขึ้นไปถึงยอดอย่างปลอดภัย และรับพลังจากศาลเจ้าแห่งนี้

บริเวณด้านขวามืออาคารหลัก จะมีสำนักงานศาลเจ้าที่จำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ อยู่ด้วย นอกจากนี้ก็มีเซียมซีอีกด้วย ICHIGO-CHAN ก็เลยลองดู สรุปผลที่ได้คือ……「凶โชคไม่ดี」ค่ะ ซึ่งเซียมซีที่ญี่ปุ่นโดยทั่วไปจะมีผลอยู่ 7 ระดับคือ “大吉=โชคดีมาก” ・ “中吉=โชคดีปานกลาง” ・ “小吉=โชคดีน้อย”・ “吉=มีโชค” ・ “末吉=โชคน้อย” ・ “凶=โชคไม่ดี” ・ “大凶=โชคไม่ดีมาก” แต่ “โชคไม่ดีมาก大凶” นั้นแทบจะไม่มีใครได้เลยค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะได้ผลออกมาเป็น 「凶โชคไม่ดี」แต่นั่นก็แสดงว่าตอนนี้อาจจะโชคร้าย แต่หลังจากนี้ก็จะมีแต่สิ่งดีๆ ค่อยๆ เข้ามา ถึงจะกังวลอยู่บ้างแต่ ICHIGO-CHAN ก็หวังว่าพรุ่งนี้เราจะสามารถปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างปลอดภัยนะคะ

ที่สำนักงานมีกระดิ่งรูปภูเขาไฟฟูจิจำหน่ายอยู่ด้วย กับ「กระดิ่งเซรามิกฟูจิ富士土鈴」ทั้งทรงภูเขาไฟฟูจิและลายซากุระที่อยู่รอบๆ น่ารักมากๆ ซึ่งกระดิ่งเซรามิกที่เป็นเครื่องรางให้โชคเรื่อง「อยากมีบุตร(子授)」หรือ「การคลอดลูกอย่างปลอดภัย(安産)」ค่ะ

และที่มุมหนึ่งของศาลเจ้าจะมีภูเขาฟูจิเล็กๆ ที่ถูกเรียกว่า「FUJIDUKA」อ่านว่า “ฟูจิซึกะ” แปลว่า “เนินดินฟูจิ” ซึ่งมีความเชื่อว่าหากได้ปีนภูเขาฟูจิจิ๋วนี้ก็สามารถปีนภูเขาฟูจิของจริงได้ ในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเขตคันโตนี้จะมีศาลเจ้าที่มี「ฟูจิซึกะ」อยู่หลายแห่ง และหนึ่งในนั้นมีศาลเจ้าชินางาวะ ที่มี “ฟูจิซึกะ” ที่มีความสูงถึง 15mแค่ปีนขึ้นก็รู้สึกลำบากเลย พอเห็นแบบนี้แล้วรู้สึกเลยว่าคนญี่ปุ่นยึดมั่นและศรัทธาในภูเขาฟูจิจริงๆ เลยค่ะ

โดยขึ้นไปจากทางขึ้นเนินที่อยู่ขวามือ ขึ้นบันไดไป แปปเดียวเท่านั้นก็ถึงสถานีภูเขาไฟฟูจิที่ 9 เลย บนยอดเนิน ก็จะมีศาลเจ้าจำลองศาลเจ้าเซ็นเก็นที่อยู่บนยอดภูเขาฟูจิด้วยค่ะ ทำความเคารพสักการะแล้วก็ลงจากเนินเลย ใช้เวลาประมาณ 1 นาทีเท่านั้นก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้ปีนขึ้นภูเขาฟูจิแล้วค่ะ

และที่ตรงกลางเนินดินฟูจิซึกะนี้จะมีหิน「KOSAZUKE」แปลว่า “หินการมีบุตร” เป็นหินที่เงาวับและกลมดิ๊กเลยค่ะ หลังจากที่ได้ขึ้นเนินจำลองฟูจิแล้ว ก็ได้เวลาออกจากอาซากุสะกันแล้วค่ะ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวอาซากุสะเต็มที่แล้ว ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปช้อปปิ้งกันที่ “ชินจุกุ” แต่ก่อนจะเดินทางไปชินจุกุ เราจะขอแวะลงที่สถานีอากาซากะ มิสึเกะ AKASAKA-MITSUKE STATION เพื่อไปฝากสัมภาระต่างๆ ที่โรงแรม「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」กันก่อน

จากศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็นไปสถานีอาซากุสะ สายกินซ่า จะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 10 นาที ก่อนอื่นก็เดินไปจนถึงสามแยกที่มีศาลเจ้าอาซากุสะอยู่ซ้ายมือ และอาหารหลักวัดเซ็นโซอยู่ขวามือ ให้เลี้ยวขวาที่แยกนี้ และเลี้ยวซ้ายทันที เดินเลยกระถางธูปไปอีก ก็จะเข้าไปสู่ถนนนาคามิเสะ ระหว่างทางก็เพลิดเพลินกับร้านค้าต่างๆ ภายในถนนนาคามิเสะ หรือหากใครไม่ต้องการผ่านทางคนเยอะๆ ก็สามารถเดินถนนด้านหลังได้ค่ะ

เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าสู่ย่านร้านค้าส่วนทางเดินที่มีหลังคาอยู่ด้านซ้ายมือ เมื่อถึงส่วนนี้แล้วก็เลี้ยวไปทางซ้าย จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ

เมื่อผ่านย่านร้านค้ามาแล้ว ก็จะออกมาสู่ถนนใหญ่ ให้ข้ามทางม้าลายไป จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ เข้าไปในสถานีของรถไฟสายโทบุ TOBU LINE เมื่อเข้ามาในสถานีซักพักแล้วก็จะเจอบันไดเพื่อลงไปสู่สถานีรถไฟใต้ดิน ให้ลงบันไดนี้ไปและตรงไปก็จะเจอกับช่องตรวจตั๋วเลย

ซึ่งรถไฟใต้ดินจะสามารถใช้บัตร「Tokyo Subway 24 Hours Ticket」ที่สามารถใช้นั่งรถไฟ TOKYO METRO・TOEL SUBWAY ได้ไม่อั้นเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ที่ซื้อจากสนามบินนาริตะ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่มีบัตร「Tokyo Subway 24 Hours Ticket」หรือ IC CARD  เช่น Suica และICOCA ก็จะต้องทำการซื้อตั๋วก่อนผ่านเข้าช่องตรวจตั๋ว

โดยก่อนอื่นจะต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งตั๋วไปสถานี “สถานีอากาซากะ มิสึเกะ AKASAKA-MITSUKE STATION” อยู่ที่ 200 เยน จากนั้นกด「Language」ที่บนขวาหน้าจอ เพื่อเลือกภาษาเป็น “ภาษาไทย” และกดปุ่มตามขั้นตอน และเลือกราคาตั๋ว 200 เยนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัติโนมัติของโตเกียวเมโทรส่วนใหญ่จะรองรับภาษา “ไทย” ด้วยเพราะฉะนั้นคลายกังวลเรื่องการซื้อตั๋วได้เลยค่ะ

รถไฟโตเกียวเมโทรสถานีอาซากุสะจะมีชานชาลาอยู่ 2 อัน ซึ่งไม่ว่ารถไฟขบวนไหนก็จะผ่าน “อุเอโนะ” “กินซ่า” หรือ ที่หมายของเราที่ “สถานีอากาซากะ มิสึเกะ AKASAKA-MITSUKE STATION” ทั้งหมดค่ะ เพราะฉะนั้นผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปและเช็คที่ป้ายบอกเวลารถไฟว่าขบวนต่อไปจะออกเวลาเท่าไหร่ และออกจากชานชาลาใด แล้วก็ไปขึ้นที่ชานชาลานั้นเลยค่ะ

รถไฟสายกินซ่าจะมีทุกๆ 3 นาที ลงจากชานชาลาไหนก็สามารถไปได้ทั้งหมดเฉพาะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยค่ะ

เราจะนั่งไป 14 สถานี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 22 นาที เพื่อไปลงที่สถานีอากาซากะ มิสึเกะ ใกล้โรงแรม「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」ที่พักของเราในวันนี้ค่ะ

เมื่อถึงสถานีอากาซากะ มิสึเกะ แล้วก็เดินไปตามทางเดินเพื่อออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ เมื่อผ่านออกมาแล้วก็ยูเทิร์นไปทางซ้ายมือ

เมื่อยูเทิร์นมาแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปชั้นบนเลยค่ะ เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้วก็ออกจากประตูทางออกซ้ายมือ ก็จะเห็น「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」ที่พักของเราในคืนนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนอีกฝั่ง เมื่อออกจากสถานีแล้วเราจะเห็นทางม้าลายอยู่ตรงหน้าเลยเพราะฉะนั้นข้ามทางม้าลายไปที่โรงแรมกันเลย

เมื่อข้ามทางม้าลายไปแล้วก็จะเจอทางเข้าโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือทันที เพราะฉะนั้นเข้าไปข้างในกันเลย เข้าประตูไปก็จะเจอลิฟต์ 4 ตัวอยู่ตรงหน้า ขึ้นไปที่ชั้น 3F เลย เมื่อออกจากลิฟต์แล้วก็จะเจอฟร้อนท์อยู่ทางด้านซ้ายมือ เราไปฝากของกันเลย แต่ถ้าหากห้องเรียบร้อยแล้วก็สามารถเช็คอินเข้าห้องพักได้เลย

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวอาซากุสะอย่างเต็มที่แล้ว เราจะฝากของที่โรงแรมแล้วไปช้อปปิ้งที่ “ชินจุกุ” ต่อเลย แล้วเราจะพาเพื่อนๆ ไปช้อปปิ้งที่ “ชินจุกุ” และทานอาหารเย็นกันในตอนหน้านะคะ จะเป็นยังไงฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day1-5 FUJI ASAKUSA SENGEN SHRINE/ASAKUSA EXCEL HOTEL TOKYU】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶