Day1-3 ชมการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」ของเกอิชาอาซากุสะ ที่อ่อนช้อยงดงามในแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากนั้นเติมพลังด้วยข้าวหน้าเท็มปุระอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่กับร้าน “อากิมิสึ” 「AKIMUTSU」

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-3 ชมการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)ของเกอิชาอาซากุสะ ที่อ่อนช้อยงดงามในแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากนั้นเติมพลังด้วยข้าวหน้าเท็มปุระอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่กับร้าน “อากิมิสึ” 「AKIMUTSU」

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่โตเกียวมากกว่าครึ่งก็คงไม่พลาด “อาซากุสะ” นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เด่นๆ แล้ว ก็มี「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」ตรงข้าม 「คามินาริมง」เป็นสถานที่ที่เพื่อนๆ สามารถชมวิวจากดาดฟ้า หรือ ร่วมกิจกรรมเดินทัวร์อาซากุสะฟรี และกิจกรรมอื่นๆ เอาใจนักท่องเที่ยวอีกมากมาย

ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเปิดประสบการณ์ชมการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」ฟรี ! พร้อมตะลอนทานอาหารขึ้นชื่อของอาซากุสะกับเมนู “เท็มปุระยักษ์” กัน ไปดูกันเลย

หลังจากที่ได้ร่วมชม 「การละเล่นโอะซะชิกิ (OZASHIKI ASOBI)」กันไปแล้ว ต่อไปจะเป็นเวลาของการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」ซึ่งการแสดงของวันนี้จะมีทั้งหมด 5 แบบคือ “สึกุบาเนะ”「TSUKUBANEつくばね」 “อาซากุสะโกโยมิ”「ASAKUSA GOYOMI浅草ごよみ」 “อาซากุสะเมบุสึ”「ASAKUSA MEIBUTSU浅草名物」 “ซาวากิ”「SAWAGIさわぎ」และ “ยักโกะซัง”「YAKKOSAN奴さん」ทั้งการเคลื่อนไหว ท่าทาง กริยาต่างๆ ดูละเอียดออ่อน และประณีต ทุกอย่างเป็นการแสดงที่มีความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เราไปชมกันเลย

การแสดง “โอะซะชิกิ โอโดริ” นี้มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 300 ปี ย่านอาซากุสะที่เป็นเมืองหน้าประตูวัดเซ็นโซนั้น เป็นย่านที่เด่นที่สุดในโตเกียวจนถึงช่วงก่อนสงครามแปซิฟิก ในบรรดาย่านต่างๆ ในโตเกียวอย่างกินซ่า หรืออุเอโนะ ภายในภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะมี “เกอิโกะ” มาคอยแสดงโชว์ต่างๆ ทั้ง 「การละเล่นโอะซะชิกิ (OZASHIKI ASOBI)」และ การแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」เพื่อเอาใจแขกที่มารับประทานอาหาร

ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามแปซิฟิก ก็ได้มีการงดสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งบันเทิงเริงรมย์ รวมไปถึง “การละเล่นโอะซะชิกิ” จนทำให้「การละเล่นโอะซะชิกิ (OZASHIKI ASOBI)」เริ่มค่อยๆ จางหายไปจากอาซากุสะ และเริ่มกลับมาอีกครั้งหลังสิ้นสุดสงครามแปซิฟิก สืบเนื่องต่อมาจนถึงปัจจุบัน ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงให้กับแขก VIP ที่มาจากต่างประเทศ โดยเมื่อช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการแสดงให้กับนายกรัฐมนตรีของประเทศทางฝั่งยุโรปที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน

โดยปกติแล้วการจะชมการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」นั้น ส่วนใหญ่จะสามารถชมได้เฉพาะที่ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นของอาซากุสะ และต้องจ่ายค่า “ฮานะได HANADAI” หลายหมื่นเยนเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมเต้นใกล้ๆ ส่วนตัวเหมือนกับโรงน้ำชาหรือภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น แต่ในครั้งนี้เราจะได้ชมแบบฟรีๆ เลยถือว่าคุ้มมากๆ เลยจริงๆ ค่ะ

ที่ญี่ปุ่นจะมีสำนวนซึ่งตรงกับสำนวนไทยที่ว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” ถึงคนอื่นจะพูดยังไงแต่ก็ไม่เท่าเห็นด้วยตาตัวเองใช่ไหมคะ? เพราะฉะนั้นเราจึงได้นำคลิปการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」มาให้เพื่อนๆ ได้เห็นกับตาเลยค่ะ คลิ๊กเลย

เสียง “ฉะมิเซ็น” เครื่องดนตรีญี่ปุ่นที่ไพเราะสละสลวยงดงามในแบบญี่ปุ่น ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการแสดงที่งดงาม แปปเดียวก็ผ่านไปแล้ว 30 นาที

สำหรับใครที่อยากชมวิดีโอแบบละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูวิดีโอของทาง「The Asakusa Tourism Federation」ได้เลยค่ะ เราจะได้เห็นเกอิโกะในชุดสวยๆ กำลังนั่งอยู่บนรถลากโบราณของญี่ปุ่นด้วยค่ะ ได้บรรยากาศและเข้ากับบรรยากาศรอบๆ อาซากุสะมากๆ นักท่องเที่ยวก็รอถ่ายรูปกันอย่างคับคั่ง ซึ่งหลังจากที่แสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」เสร็จเรียบร้อยแล้วผู้โชคดีที่ได้ร่วมเล่นเกมบนเวทีเมื่อซักครู่ก็จะได้ถ่ายรูปคู่กับเกอิชาด้วย ICHIGO-CHAN ไม่ได้รับเลือกเลยไม่ได้ไปถ่ายด้วยเลย เสียใจจังเลยค่ะ

ที่「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」นี้นอกจากกิจกรรม「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」แล้วก็ยังมีการแสดงอื่นๆ ของญี่ปุ่นอีกในทุกๆ วันอาทิตย์ รอบเวลา 11.00・13.00・15.00 น. ใช้เวลาในการแสดงรอบละ 1 ชั่วโมง ในส่วนนี้จะจัดแสดงตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงวันหยุดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และที่สำคัญคือสามารถเข้าชมได้ฟรี! หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น ก็ลองไปกันดูนะคะ

หลังจากได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」แล้วเราจะลงลิฟต์หรือบันไดไปที่ชั้น 1F ซึ่งที่ชั้น 2F และ 1F จะเป็นส่วนที่มีบริการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการท่องเที่ยวมากมายทั้งโซนคอมพิวเตอร์ที่สามารถค้นหาข้อมูล หรือส่งเมลต่างๆ หรือโซนชาร์ตแบตมือถือหรือแท็บเล็ต ฯลฯ แน่นอนว่าแต่ละอย่างสามารถใช้บริการได้ ฟรี ! ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนชั้น 1F จะเป็นห้องกระจก เพราะฉะนั้นเราสามารถชาร์ตแบตมือถือ หรือแท็บเล็ตไปพร้อมๆ กับชมวิวด้านนอกหน้า “คามินาริมง” หรือ โซนจัดแสดงด้านในได้อีกด้วย 「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」นี้เป็นสถานที่เพื่อนักท่องเที่ยวจริงๆ เลยค่ะ

หลังจากที่ได้ใช้บริการ「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」ไปอย่างเต็มที่แล้ว ต่อไปเราจะไปทานอาหารกลางวันกับเมนูขึ้นชื่อของอาซากุสะ “ข้าวหน้าเท็มปุระ「TENDON」กันเลย ภายในย่านอาซากุสะนี้จะมีร้านข้าวหน้าเท็มปุระมากกว่า 100 ร้าน ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทานหนึ่งในร้านข้าวหน้าเท็มปุระที่มีอยู่มากมายหลายสาขากับร้าน “อากิมิสึ” 「AKIMUTSU」กันค่ะ โดยออกจาก ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER ไปข้ามทางม้าลาย ไปทางคามินาริมง ก็จะเข้าสู่โซนที่เต็มไปด้วยรถลาก และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ถึงแม้ว่า ICHIGO-CHAN จะผ่านสถานที่ไฮไลท์อย่าง “คามินาริมง” มาประมาณ 3 ครั้งแล้ว แต่เราก็ไม่สามารถเดินผ่านประตูที่เป็นไฮไลท์ ยิ่งใหญ่อลังการ และมีความญี่ปุ่นแบบนี้ไปไม่ได้ ต้องขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเยอะหน่อย ซึ่งด้านหลัง “คามินาริมง” ก็คือ 「นาคามิเสะ NAKAMISE」 และถัดไปก็คือ “วัดเซ็นโซ” เลย นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปีอย่างไม่ขาดสายเลย

และตอนนี้เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ร้านเท็มปุระ “อากิมิสึ” 「AKIMUTSU」โดยเดินไปทางซ้ายมือ เมื่อหันหน้าเข้าสู่คามินาริมง เดินตรงไปประมาณ 5 นาที ก็จะเจอสามแยกขนาดใหญ่ ให้เลี้ยวไปทางขวามือ ซักพักก็จะเจอกับห้างขนาดใหญ่ชื่อว่า「ASAKUSA ROX」ให้เลี้ยวขวาในซอยก่อนถึงห้างนี้

ห้าง ASAKUSA ROX นี้เป็นห้างที่นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่าครึ่งจะต้องมาช้อปปิ้งกันที่นี่ ซึ่งภายในนี้มีทั้ง「UNIQLO」「MIJI」หรือ「ABC-MART」ฯลฯ นอกจากนี้ที่ชั้นสูงสุดยังมีโรงอาบน้ำ “มาสึริยุ”『MATSURI-YU』ที่สามารถชมวิวสกายทรีไปพร้อมๆ กับแช่อ่างอาบน้ำๆ ได้อีกด้วย “มาสึริยุ”「MATSURI-YU」นี้ยังมีที่พักแบบแคปซูลในราคาไม่ถึง 3000 เยน สามารถจองที่พักได้ทางเว็ปไซต์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาถึงหรือออกเดินทาง กลางดึก หรือ เช้าตรู่ เป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเลี้ยวขวาที่ซอยหน้าห้าง ASAKUSA ROX มาแล้วก็จะมองเห็น “โตเกียวสกายทรี”「TOKYO SKYTREE」ขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า เดินต่อไปอีกประมาณ 1 บล็อคและเดินไปอีกเล็กน้อย

ร้านข้าวหน้าเท็มปุระอาหารขึ้นชื่อของย่านอาซากุสะ “อากิมิสึ” 『AKIMUTSU』 อยู่ทางซ้ายมือของเราเลย ถึงแม้ว่า ICHIGO-CHAN ตั้งใจมาหลังเวลาช่วงพีคอย่างอาหารกลางวัน(เวลา 14:30 น.)แต่ก็มีคนรอต่อแถวอยู่เล็กน้อย เป็นร้านที่ได้รับความนิยมทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเลยทีเดียว โชคดีที่แขกกลุ่มใหญ่ออกไปพอดีตอนที่เรามา ก็เลยได้รอแค่ 5 นาทีเท่านั้นค่ะ

การตกแต่งภายในร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่น มีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ ที่นั่งแบบโต๊ะประมาณ 30 ที่นั่ง และที่นั่งหลุมแบบญี่ปุ่นอีกประมาณ 15 ที่นั่ง เป็นห้องกึ่งส่วนตัวสามารถรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้

ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านข้าวหน้าเท็มปุระ เพราะฉะนั้นเมนูในร้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมนูข้าวหน้าเท็มปุระหรือเท็มปุระเป็นหลัก ทั้ง ข้าวหน้าเท็มปุระปลาตามฤดูกาล・ปลาหมึก・กุ้ง 2 ตัว ชุด(イอิ)1400 เยน ข้าวหน้าเท็มปุระปลาอานาโกะ・กุ้ง 1 ตัว・ปลาหมึก・ผัก ชุด(ロโระ)1900 เยน และข้าวหน้าเท็มปุระสุดอลังการชุดใหญ่ชื่อว่า “Godaime Chef’s Special Don” 2500 เยน เป็นต้น เมนูของที่นี้จะมีทั้งภาพและชื่อภาษาอังกฤษด้วยเพราะฉะนั้นสั่งได้สบายเลยค่ะ ไม่ว่าเมนูไหนก็น่าทานทั้งนั้นเลย เราแนะนำให้สั่งเป็นปลาอานาโกะตัวใหญ่เลยค่ะ ทั้งอร่อยแล้วก็น่าถ่ายรูปมากๆ

ยิ่งไปกว่านั้นมีเมนูที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดของร้านอยู่อีกกับเมนู「Godaime Chef’s Special Don “KIWA”」(5555 เยน)แค่เห็นราคาก็ต้องหัวเราะเลยค่ะ ซึ่งเมนูนี้จะมีวันละ 5 ชุดเท่านั้น เป็นเมนูที่อัดแน่นไปด้วย ปลาอานาโกะ อาหารทะเลตามฤดูกาล และผักอีกนานาชนิด น่าทานและน่าถ่ายรูปมากๆ ค่ะ และที่สำคัญคือเฉพาะเมนูนี้เท่านั้นที่สามารถสั่งมาแบ่งกันทานหลายๆ คนได้ ยิ่งดีเลยค่ะ

แต่น่าเสียดายตอนที่ ICHIGO-CHAN เมนูนี้ก็ SOLD OUT ไปแล้ว

และวันนี้ ICHIGO-CHAN ก็เลยสั่งเป็น “ข้าวหน้าเท็มปุระ”「TENDON(ロโระ)」(1900 เยน)และซุปมิโซะ(150 เยน)ปลาอานาโกะ ANAGO ที่ยาวกว่าถ้วยเกือบสองเท่าล้นออกมานอกถ้วยเลย ยาวกว่าส่วนสูงของICHIGO-CHAN อีกค่ะ

ในช่วงนี้ที่ไทยเองก็มีร้านต่างๆ กำลังเป็นที่แพร่หลายอย่างเช่นร้าน「เท็นยะ TENYA」ที่สามารถทานเท็มปุระแบบญี่ปุ่นได้ แต่ถ้าได้มากินที่ญี่ปุ่น ยิ่งเป็นที่อาซากุสะด้วยแล้ว ความรู้สึกที่ได้ทานจะแตกต่างกันเลยค่ะ เท็มปุระที่ทอดด้วยน้ำมันงา ทั้งกรอบและหอมมากๆ ซึ่งร้าน “อากิมิสึ” 「AKIMUTSU」นี้สามารถเดินจากประตู “คามินาริมง” ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของอาซากุสะมาเพียง 5-7 นาทีเท่านั้น แนะนำว่าควรไปดูซักครั้งเลยค่ะ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เต็มอิ่มกับอาหารขึ้นชื่อของอาซากุสะอย่าง “ข้าวหน้าเท็มปุระ” ไปแล้ว เราจะยังเที่ยวที่อาซากุสะกันต่อ โดยสถานที่ต่อไปก็คือ “คัปปะบาชิ”「KAPPA BASHI」ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของอาซากุสะ “คัปปะบาชิ” หรือชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “โดกุยะไก”「DOUGUYAGAI」ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับการทำอาหาร ทั้งอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ สำหรับเชฟมืออาชีพไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่รักการทำอาหาร นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่าย “โมเดลอาหารจัดแสดง” ที่น่าสนใจให้ได้ตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอดทาง

และครั้งต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」ต่อด้วยการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นศูนย์กลางของอาซากุสะอย่าง “วัดเซ็นโซ”「SENSOJI」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day1-3 ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION/TENDON AKIMITSU】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶