บริการส่งสัมภาระระหว่างท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่นที่จะช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวได้สบายมากขึ้น

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าเมืองใหญ่อย่าง「โตเกียว」หรือ「โอซาก้า」ย่อมเป็นที่ที่จะต้องไป แต่นอกจากนั้นก็มีภูเขาไฟฟูจิ เกียวโต หรือทาคายาม่า เหล่านี้ก็เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันอยากจะไปเช่นกัน

ยกตัวอย่าง เช่น เส้นทางบินลงจากโตเกียว และวนไปที่ฮาโกเนะหรือภูเขาไฟฟูจิก่อน ต่อด้วยเกียวโต โอซาก้า เป็นเส้นทางยอดฮิตเลย

ช่วงนี้อาจจะมีนักท่องเที่ยวที่ไปลงนาโกย่า เพื่อไปที่ชิราคาวะโกะหรือทาคายาม่า หลังจากนั้นก็ต่อด้วยคานาซาว่า เกียวโต และโอซาก้า เรียกได้ว่าเป็น 「Dragon Route」ที่ได้รับความนิยมมากๆเส้นทางหนึ่งเลย

และสิ่งที่จะเป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยวที่ต่างๆก็คือ「สัมภาระ」

บางคนก็ลากกระเป๋าเดินทางเปล่าๆมาเพื่อช้อปปิ้งในวันสุดท้าย หรือบางคนก็ลากกระเป๋าหนักๆ คนที่เที่ยวแบบลำบากๆ ก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการแก้ปัญหาสัมภาระเหล่านี้ให้คนที่กำลังประสบปัญหานี้กันอยู่

รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายในรถไฟตอนไปสนามบินของ ICHIGO-CHAN ทุกครั้งก็จะเป็นแบบนี้เลย

กระเป๋าเดินทางเต็มไปหมดจนไม่มีที่ว่างเลย แถมยังล้นออกมาขวางประตูทำให้จะขึ้นหรือลงก็ลำบาก

ทั้งๆที่ซื้อตั๋วแบบรถไฟด่วนพิเศษเพื่อจะได้นั่งไปอย่างสบายๆ แต่ก็เห็นนักท่องเที่ยวบางคนต้องมายืนเฝ้าของๆตัวเองด้วย

Delivery Service จากสนามบิน

สนามบินระหว่างประเทศส่วนใหญ่ที่มีเที่ยวบินตรงจากประเทศไทย(ยกเว้นโอกินาวว่านะฮะ)ส่วนใหญ่จะมี Delivery Service

ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนใหญ่จะอยู่มุมริมสุดชั้นเดียวกับทางออกขาเข้าประเทศ ยังไงลองไปถาม Information Counter ของสนามบินดูได้ว่า Delivery Service อยู่ที่ไหน

「KUUKOU TAKUHAI BIN WA DOKODESUKA??」

「คูโค ทาคุไฮ บิน วะ โดโคเดสก้ะ??」

บริษัทส่งของหลักๆ ก็จะมี 「YAMATO」「QL Liner」「JAL ABC」และ「SAGAWA」เป็นต้น

ในบางสายการบินอาจได้รับ Mileage หรือส่วนลดจากบัตรเครดิตได้ด้วย ยังไงลองหาข้อมูลกันไว้ก่อนก็น่าจะดีนะ

โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ AMEX หรือ JCB ที่ทำที่ไทยส่วนใหญ่จะมีส่วนลดด้วย

เมื่อถึงเคาเตอร์แล้วพนักงานก็จะให้กรอกใบส่งของโดยกรอก ชื่อ เบอร์โทรศัทพ์ และที่อยู่ปลายทาง(ชื่อโรงแรม)

Delivery Service มีทั้ง「ใบส่งของ」ภาษาอังกฤษ หรือพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย

โดยปกติแล้วถ้าส่งของก่อน 11 โมงเช้า ของก็ส่งไปถึงเมืองใหญ่ๆที่อยู่ใกล้ๆ ภายในวันนั้นเลย แต่ถ้าเป็นหลัง 11 โมงเช้า สินค้าจะส่งถึงที่หมายในวันถัดไป ส่วนค่าใช้จ่ายกระเป๋าเดินทางต่อชิ้นจะอยู่ที่ 2000 เยน

เที่ยวบินจากไทยส่วนใหญ่จะถึงในตอนเช้าอยู่แล้วเพราะฉะนั้น (กรณีเมืองใหญ่ใกล้ๆ)ของก็จะส่งไปถึงที่หมายภายในวันเดียวกันเลย

ข้อดีของ Delivery Service จากสนามบิน

〇 ในกรณีที่ถึงในช่วงเช้า ของก็จะส่งไปเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆได้ภายในวันเดียวกันเลย ⇒ จากนั้นก็เที่ยวแบบมือเปล่าได้เลย

〇 พนักงานบริการอำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติ

〇ได้สิทธิพิเศษจาก Mileage หรือ บัตรเครดิต

  1. บริการไปรษณีย์

สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ สนามบินคันไซ หรือสนามบินชูบุ หรือสนามบินหลักๆ ส่วนใหญ่จะมีไปรษณีย์อยู่

สามารถส่งกระเป๋าเดินทางได้จากบริการ「ยูแพค」ได้เลย

เมื่อเทียบกันแล้วไปรษณีย์ของสนามบินส่วนใหญ่อาจจะหาเคาเตอร์ยากกว่า Delivery Service

เช่น ถ้าสนามบินนาริตะ จะอยู่ตึกหลักขาออกเที่ยวบินระหว่างประเทศ ส่วนสนามบินคันไซจะต้องใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อนเพื่อไปชั้นขาออกเที่ยวบินภายในประเทศ

ข้อได้เปรียบของไปรษณีย์จะมีอยู่ 2 อย่างก็คือ

อันแรกคือราคากระเป๋าเดินทางไซส์เล็กแบบถือขึ้นเครื่อง(สายการบินส่วนใหญ่ต้องมีขนาดความสูง×กว้าง×ยาวรวมกันแล้วไม่เกิน115 เซน)กรณีส่งเมืองใหญ่ๆบริเวณใกล้ๆราคาจะอยู่ที่ 1500 เยน เมื่อเทียบกับ Delivery Service แล้วจะถูกกว่า

และข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ พื้นที่

ถ้าเป็น Delivery Service อาจจะถูกจำกัดพื้นที่ในการส่ง แต่ถ้าเป็นไปรษณีย์นั้นสามารถส่งได้ตั้งแต่ ฮอกไกโดไปจนถึงโอกินาว่าเลย ส่งได้ทั้งโรงแรมและทุกๆที่ในญี่ปุ่นเลย

และที่สะดวกมากๆก็คือ「บริการส่งของไปยังที่ทำการไปรษณีย์ใกล้เคียง」

ในกรณีที่เริ่มเดินทางจากโอซาก้า แล้วต้องกลับประเทศไทยที่โตเกียว ก็สามารถส่งของมายังไปรษณีย์ใกล้ๆสถานที่ที่เราจะไปเที่ยวหรือช้อปปิ้งก็ได้

ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะส่งกระเป๋าจากสนามบินคันไซ ไปไปรษณีย์สาขาชินจุกุที่โตเกียวก็ได้

เป็นบริการที่สะดวกมากๆ

แต่ทว่า มีข้อควรระวังในการใช้บริการไปรษณีย์อยู่

  • บริการนี้ไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ดังนั้นการสื่อสารอาจเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
  • ระยะเวลาทำการที่สั้น(ยกตัวอย่างเช่น สนามบินนาริตะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8:30 – 20:00 ถ้าถึงเที่ยวบินเช้ามากก็อาจจะต้องรอ)
  • ส่วนมากจะใช้เวลาในการส่งของนานกว่า Delivery Service(เมืองใกล้เคียงส่งวันถัดไป / จากโอซาก้าไปโตเกียวใช้เวลาประมาณ2 วัน)

บริการไปรษณีย์สามารถใช้บริการสาขาอื่นๆนอกจากสาขาสนามบินได้เช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น ช้อปปิ้งที่โอซาก้าในวันแรก และใส่ของที่เพิ่งซื้อมาในกระเป๋าเดินทางและส่งไปที่ไปรษณีย์ในโตเกียวหรือโรงแรมก็ได้

ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งได้ทั้งที่โอซาก้าและโตเกียวเลย

ข้อดีของการใช้บริการไปรษณีย์

〇 ราคาถูก

〇 สามารถส่งของได้ทุกที่ทั่วประเทศหรือ ส่งไปยังไปรษณีย์สาขาอื่นๆได้

〇  เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ หลายๆที่

บริการ「LUGGAGE FREE TRAVEL」

เป็นบริการที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาสัมภาระของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ

ให้บริการส่งสัมภาระตั้งแต่ สนามบินหลักๆ ⇒โรงแรม

โรงแรม ⇔ โรงแรม

โรงแรม ⇒ สนามบินหลักๆ

Delivery Service ของสนามบินมีพนักงานที่คุ้นเคยกับชาวต่างชาติ 「ใบส่งของ」ก็เป็นภาษาอังกฤษ แต่การส่งของระหว่างเมือง นอกจากสนามบินหรือ การส่งของในเมืองไปสนามบินยังเป็นเรื่องยากสำหรับชาวต่างชาติ

「LUGGAGE FREE TRAVEL」สามารถกรอก สถานที่ที่ต้องการส่ง สถานที่รับของ ได้ด้วยตัวเองใน เว็ปไซต์ และสามารถชำระค่าบริการด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย จากนั้นเพียงแค่นำ QR CODE ที่ได้มาไปแสดงให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น สะดวกกับชาวต่างชาติมากๆ

ก่อนอื่นให้เลือกว่าจะส่งของแบบไหน ตามตัวเลือกดังนี้

  • สนามบินหลักๆ ⇒ โรงแรม
  • โรงแรม ⇔ โรงแรม
  • โรงแรม ⇒ สนามบินหลักๆ

และเลือกสนามบินจากตัวเลือกและจังหวัดที่ต้องการจะส่ง

จากนั้นก็ระบุขนาดของสัมภาระ

ไซส์ S คือ กระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก (ควาสูง×ความยาว×ความกว้างต้องไม่เกิน120 เซน)น้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม

นอกจากนี้ให้เลือกเป็นกระเป๋าเดินทางไซส์ L

เมื่อกดไปที่「Proceeding Booking」ค่าใช้จ่ายรวมก็จะแสดงออกมา

วันที่ 7 มีนาคม 2018 ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะส่งจากที่ไหนไปที่ไหนไซส์ S จะอยู่ที่ 2000 เยน+VAT

ส่วนไซส์ L อยู่ที่ 2500 เยน+VAT

และกรอกที่อยู่สถานที่ส่งแบบละเอียด(ณ ตอนนี้มีเฉพาะตัวเลือกที่กำหนดไว้เท่านั้น)วันเวลาที่ต้องการส่ง และวันเวลารับสัมภาระ

วันที่ส่งสามารถส่งวันที่กรอกได้ด้วย ถ้าเป็นเส้นทางโอซาก้า-โตเกียวของจะส่งถึงที่หมายในวันถัดไปเลย

ในครั้งแรกอาจจะต้องกรอกชื่อและข้อมูลส่วนตัวในการลงทะเบียน และจ่ายด้วยบัตรเครดิต เท่านี้ QR CODE ก็จะถูกส่งมาในเมลที่ลงทะเบียนไว้

เวลาจะส่งของก็แค่แสดง QR CODE ที่เคาเตอร์สนามบินหรือโรงแรม และฝากสัมภาระเอาไว้เท่านั้น

ถึงแม้ว่า ณ ตอนนี้โรงแรมที่ให้บริการยังมีจำนวนจำกัด ไม่สามารถให้บริการได้ทุกโรงแรม แต่บริการแบบนี้สะดวกกับการเดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆมากๆ

ข้อดีของบริการ「LUGGAGE FREE TRAVEL」   

〇 สามารถส่งได้ระหว่าง โรงแรม ⇔ โรงแรม และ โรงแรม ⇒ สนามบิน

〇 สามารถจองผ่าน WEB ได้ และนำ QR CODE มาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ เท่านั้นโดยเจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นจะต้องพูดภาษาอังกฤษได้

〇 สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้

〇 สะดวกกับการเดินทางแบบเคลื่อนที่ไปที่ต่างๆ

ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังเร่งพัฒนาบริการที่จะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและสบาย เที่ยวได้โดยไม่ต้องแบกสัมภาระหนักๆไปมา

และคิดว่าจะเพิ่มการบริการในลักษณะแบบนี้ให้มีมากขึ้นเรื่อยๆ

และ ICHIGO-JAPAN เองก็จะนำข้อมูลต่างๆมาคอยอัพเดตแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ยังไงลองเข้ามาเช็คกันดูบ่อยๆนะคะ ทุกๆวันเลยก็ยิ่งดีค่ะ ♪