แชร์ประสบการณ์บินไปโอซก้า เดือนกรกฎาคม 2022

ครั้งนี้ได้มีโอกาสเดินทางจากไทยไปญี่ปุ่น ที่โอซาก้า จึงอยากนำประสบการณ์การเข้าประเทศในช่วงนี้มาฝากเพื่อนๆ กัน โดยการเดินทางด้วยวีซ่าเยี่ยมญาติ

ตามข่าวสารอัพเดตปัจจุบัน คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยการขอวีซ่าเยี่ยมญาติ ทำงาน เรียน ส่วนเข้าประเทศแบบท่องเที่ยวจะต้องเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ ผ่านบริษัททัวร์ และจำเป็นต้องขอวีซ่า

การเดินทางครั้งนี้ เป็นเดินทางด้วยสายการบินไทย TG622 เวลา 23:59 น.เวลาไทย วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไปยังสนามบินนานาชาติคันไซที่โอซาก้า

สิ่งที่จะต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางสำหรับคนที่ได้รับวีซ่าแล้ว คือ

1.ใบรับรองการตรวจ RT-PCR ก่อนบิน 72 ชั่วโมง โดยต้องเป็นแบบฟอร์มที่ทางการญี่ปุ่นกำหนดเท่านั้น

สามารถเข้าไปดูแบบฟอร์ตัวอย่างและดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ลิงค์ด้านล่าง

https://www.mhlw.go.jp/content/000909639.pdf

2.ลงทะเบียนการเข้าประเทศผ่านแอปพลิเคชั่น “MY SOS” ซึ่ง *จะต้องลงทะเบียนก่อนบิน 6 ชั่วโมง* โดยจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงเนื้อหาการเดินทางเข้าประเทศ

เริ่มเดินทางกันเลย

เที่ยวบินเวลา 23:59 น. แต่ช่วงก่อนได้ข่าวว่าแถวเช็คอินยาวมากๆ จึงรีบเดินทางไปสแตนบายที่สนามบินก่อนเวลาหลายชั่วโมง ไปต่อแถวเช็คอินที่เคาน์เตอร์การบินไทยที่สุวรรณภูมิช่อง B ประมาณก่อน 2 ทุ่มเคาน์เตอร์เช็คอินก็เปิดให้เช็คอินแล้ว และเนื่องจากเผื่อเวลาไปค่อนข้างเยอะ จึงใช้เวลาต่อแถวรอเช็คอินไม่นาน

สิ่งที่เจ้าหน้าที่เช็คอินจะดู คือ 1.พาสปอร์ตผู้เดินทาง 2.ใบรับรองตรวจ PCR ตามแบบฟอร์มญี่ปุ่น 3.หน้าแอปพลิเคชั่นที่ได้ทำการลงทะเบียน “MY SOS” เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมื่อ เพื่อเข้าไปยังเกทกันเลย

เกทอยู่ที่ประตู C8 เกือบสุดทางเลย วันนี้เที่ยวบินไม่เต็ม ส่วนใหญ่คนที่เดินทางเป็นคนญี่ปุ่น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆ สำหรับขาไป

ก่อนถึงญี่ปุ่นมาอธิบายรายละเอียด แอปพลิเคชั่น MY SOS กันซักเล็กน้อย

แอปพลิเคชั่น MY SOS คือแอปพลิเคชั่นที่ถูกใช้งานในช่วงโควิด เพื่อการติดตามคนเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ที่เดินทางตั้งแต่ช่วงต้นกรกฎาคมเป็นต้นไป จะมีบริการส่วน FAST TRACK ที่ทำให้ขั้นตอนด่านตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้นจากแต่ก่อน โดยจำเป็นจะต้องลงทะเบียน FAST TRACK ก่อนการบิน 6 ชั่วโมง

วิธีการลงทะเบียน คือ เข้าไปยังแอปพลิเคชั่น โดยสามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้เพราะฉะนั้นคลายกังวลเรื่องภาษา สามารถลงทะเบียนได้อย่างง่ายดายด้วยตนเอง

รายละเอียดการลงทะเบียน FAST TRACK จากทางการ เป็นภาษาอังกฤษ

https://teachme.jp/111284/manuals/14631275/

อธิบายอย่างง่ายให้กับเพื่อนๆ หากเพื่อนๆ อยากทราบทุกขั้นตอนอย่างละเอียดสามารถศึกษาจากลิงค์ด้านบนได้เลย

เมื่อเข้าไปในแอปพลิเคชั่นแล้ว แอปพลิเคชั่นจะขึ้นสอบถาม เพื่อทำการลงทะเบียนเข้าประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ จากนั้น ตอบว่า ใช่ และเริ่มดำเนินการได้เลย

โดยก่อนลงทะเบียน หน้าจอดำเนินการจะเป็นสีแดง และถ้าทุกอย่างเสร็จสิ้นพร้อมเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ หน้าจอจะต้องเป็นสีน้ำเงินแบบภาพด้านขวามือข้างต้น

ลงทะเบียนทั้งหมด 4 ส่วน คือ

1.คำถามข้อมูลทั่วไป

2.ใบสัญญา ระบุส่วนที่อยู่ที่พักอาศัยในญี่ปุ่น (กรณีการเดินทางเยี่ยมญาติ จะเป็นที่อยู่บ้านญาติในญี่ปุ่น)

3.หลักการฐานการฉีดวัคซีน กรอกข้อมูลพร้อมแนบหลักฐาน หรือรูป

4.หลักการฐานการตรวจ PT-PCR ที่มีผลเป็นลบ ด้วยแบบฟอร์มจากญี่ปุ่น

เมื่อกรอกทั้ง 4 ส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว ทางแอปพลิเคชั่นจะประมวลผลตรวจสอบข้อมูล เมื่อแอปเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แสดงว่าสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว

ระหว่างอยู่บนเครื่องจะได้รับแบบฟอร์มทั้งหมด 2 ใบสำหรับชาวต่างชาติ ใบซ้ายมือคือใบผ่านศุลกากร ส่วนใบขวามือคือใบตรวจคนเข้าเมือง

สำหรับคนญี่ปุ่นกรอกเฉพาะใบศุลกากร

เมื่อเครื่องลงจอดที่สนามบินคันไซ จากนั้นเดินลงเครื่องแล้วก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ มีเจ้าหน้าที่โบกมือให้เดินไปตามทางอยู่ตามจุดต่างๆ สำหรับคนที่ได้รับ QR ของ FAST TRACK แล้วสามารถเดินลัดไปที่ช่องสแกน QR จากเจ้าหน้าที่ได้เลย

เมื่อเรียบร้อยแล้วจะได้รับใบสุขภาพ ตามภาพข้างต้น แล้วก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ โดยไม่ต้องขึ้นรถไฟฟ้า เดินผ่านไปที่ด่านสุดท้าย ซึ่งจะสอบถามว่า เดินทางมาจากที่ใด เท่านั้น ให้แจ้งว่า “มาจากไทย” เท่านั้นก็ผ่านไปที่โซนด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย

โดยแยกเป็นช่องชาวต่างชาติ และญี่ปุ่น

ยื่นพาสปอร์ตพร้อมแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเอาใบที่มีรูปกัญชา ฯลฯ ซึ่งเป็นของต้องห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่นประมาณ 3-4 อย่างให้ดูและสอบถามว่าได้เอาสิ่งของเหล่านี้มาไหม หากไม่ได้นำมา ก็แจ้งสว่า “ไม่” ได้เลย

จากนั้นเซ็นใบสัญญารับรองว่าไม่ได้นำสิ่งของต้องห้ามมา

ต่อด้วยขั้ตอนการสแกนนิ้วมือ นิ้วชี้ทั้ง 2 ข้าง พร้อมถ่ายรูปโดยถอดหน้ากากออก แล้วก็ผ่านฉลุยเลย

ไปรับกระเป๋าเดินทางได้เลย เมื่อรับกระเป๋ามาแล้วก็ไปด่านศุลกากรด่านสุดท้าย ยื่นใบศุลกากร และพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ สำหรับครั้งนี้ทางเราเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไป 1 ใบ ใบเล็ก 1 ใบ และกระเป๋าถืออีก 2 ใบ ไม่โดนตรวจอะไรเลย เข้าญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์!

เข้าญี่ปุ่นมาแล้ว ใช้เวลาทั้งหมดตั้งแต่ลงเครื่อง ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเลย เร็วมากๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะ FAST TRACK ที่ได้ทำการลงทะเบียนมาล่วงหน้า ออกมาประมาณ 8 โมงกว่าๆ เวลาญี่ปุ่น ไม่มีชนกับเที่ยวบินอื่น ทำให้คนเลยโล่งมากๆ

ไปดูบรรยากาศภายในสนามบินกันซักหน่อย จะเห็นว่าโซนชั้น 2 ที่มีร้านอาหารของฝากอยู่ รวมไปถึงชั้น 3 กำลังปิดปรับปรุงบางส่วน และจะเปิดให้บริการโฉมใหม่ช่วงประมาณฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นปี 2022 นี้ ไม่แน่ว่าช่วงนั้นญี่ปุ่นอาจจะเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบส่วนตัวแล้ว ยังไงต้องรอติดตามข่าวสารกันต่อไป

เดินออกจากสนามบิน ก็เดินไปที่สถานีรถไฟกันเลย โดยเดินข้ามสะพานทางเชื่อมจากชั้น 2

และนี่ก็คือสถานีรถไฟสนามบินคันไซ ทั้งเส้นทางบริษัทรถไฟ JR และบริษัท นันไค NANKAI

บริษัทรถไฟ JR สำหรับเดินทางด้วย OSAKA LOOP LINE สถานีเท็นโนจิ สถานีโอซาก้า เป็นต้น

ส่วนรถไฟนันไค สะดวกมากๆ หากต้องการเดินทางไปนัมบะ โดยนั่งไปสุดสายเลย

มีจุดแลกเงินตราต่างประเทศเปิดให้บริการอยู่ด้วย

และส่วนนี้ก็คือช่องจำหน่ายตั๋วรถไฟ ทั้งเคาน์เตอร์พร้อมเจ้าหน้าที่ และตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

และนี่ก็คือช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติของทั้ง 2 บริษัท เพื่อเข้าไปยังชานชาลา ขึ้นรถไฟของแต่ละสาย ที่แยกส่วนจากกัน

ส่วนด้านสีน้ำเงินคือบริษัทรถไฟ JR

ส่วนสีส้มเป็นบริษัทรถไฟนันไค เมื่อซื้อตรวจแล้วก็เดินเข้าไปขึ้นรถไฟกันเลย

หลังจากนี้ ICHIGO จัง จะเดินทางไปไหนบ้างต้องรอติดตามกันต่อไป

รับรองว่า ICHIGO จัง จะมาแชร์ให้เพื่อนๆ อย่างแน่นอน แล้วพบกัน!