เที่ยวชมดอกไม้ 5 ชนิดในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่น

เที่ยวชมดอกไม้ 5 ชนิดในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่น

UP DATE 21 มิ.ย.2562

ถึงแม้ว่าในช่วงหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่นจะเป็นช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวไม่ต่างจากประเทศไทยมากนัก แต่ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินเต็มที่ไม่แพ้ฤดูกาลอื่น ไม่ว่าจะเป็น งานเทศกาลหน้าร้อน ทะเล วัด หรือศาลเจ้า ฯลฯ อีกมากมาย ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อนนั่นก็คือ “ดอกไม้” ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของดอกไม้ในฤดูร้อนอยู่มากมาย เพราะฉะนั้นเราไปดูกันเลยว่า “ดอกไม้” ที่บานในช่วงหน้าร้อนเดือนกรกฏาคมมีดอกอะไรบ้าง พร้อมแนะนำสถานที่ขึ้นชื่อ

ดอกทานตะวัน

ดอกไม้บานในช่วงเดือนกรกฏาคม ไปจนถึง เดือนกันยายน

ภาษาดอกไม้ : หลงรัก / จะมองแค่คุณคนเดียว

 “ดอกทานตะวัน” ในประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า “ฮิมาวาริ” หากพูดถึงดอกไม้ที่บานในช่วงหน้าร้อนก็คงหนีไม่พัน “ดอกทานตะวัน” อย่างแน่นอน ซึ่งสถานที่ขึ้นชื่อที่จะมาแนะนำในครั้งนี้ก็คือ “Expo’70 Commemorative Park ” หรือ อนุสรณ์ Expo’70  ทางตอนเหนือของตัวเมืองโอซาก้า โดยความพิเศษของที่นี่ก็คือสวนดอกทานตะวัน 22 ชนิดกว่า 1 หมื่นต้น ทั้งแบบกลีบชั้นเดียว หรือหลายๆ ชั้นซ้อนๆ กัน ทั้งสีออกโทนเหลือง ไปจนถึงส้ม มีดอกทานตะวันหลากหลายสายพันธุ์ที่ไม่สามารถหาชมได้ในประเทศไทยอยู่มากมายให้ตื่นตาอย่างเต็มที่

การเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินมายัง “สถานีเซ็นริชูโอ(Senri-Chuo Station)” จากนั้นนั่ง Osaka-Monorail จาก “สถานีเซ็นริชูโอ(Senri-Chuo Station)” นั่งไปประมาณ 5 นาที และลงที่ “สถานีบัมปากุคิเน็นโคเอ็น (Bampakukinenkoen Station)

ดอกคอสมอส

ดอกไม้บานยาวตั้งแต่ฤดูร้อนไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนมิถุนายน ไปจนถึง เดือนพฤศจิกายน

ภาษาดอกไม้ : ความจริงใจของหญิงสาว / ความรัก / การเข้ากันได้ดี

 “ดอกคอสมอส” เป็นดอกไม้ที่มีสีสันสดใสสวย มีทั้งสีขาว ชมพูทั้งอ่อน และเข้ม ตามความหมายที่ดีของดอกไม้ชนิดนี้ ซึ่งการบานของดอกไม้ชนิดจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงก็คือประมาณ ช่วงดอกไม้บานฤดูร้อน เดือนกรกฏาคมถึงเดือนสิงหาคม, ช่วงดอกไม้บานฤดูใบไม้ร่วง เดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศิกายน และช่วงดอกไม้ที่บานเร็วในเดือนกันยายน นั่นเอง

*ภาพไม่เกี่ยวกับสถานที่

ซึ่งส่วนมากจะหาชมได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศิกายน แต่ก็มีที่ที่เหมาะสำหรับการชมดอกคอสมอสในช่วงเดือนกรกฏาคมอยู่ นั่นก็คือ “วัดฮันเนียะจิ” ในจังหวัดนารา หรือวัดแห่งดอกคอสมอสที่สามารถชมดอกคอสมอสบานในฤดูร้อนได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงต้นเดือนกรกฏาคม นอกจากจะได้ชมดอกคอสมอสแล้วที่วัดนี้ยังมี “เครื่องรางดอกคอสมอส” หลากหลายสี น่ารักๆ อีกด้วย ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

การเดินทางจาก “JR สถานีนารา (JR Nara Station)” นั่งรถบัส “มุ่งหน้าไปสู่ “青山住宅行・州見台八丁目行(อาโอะยามะจูทากุ/ คุนิมิไดฮัตโจเม)” ไปประมาณ 15 นาที เพื่อลงที่ “ป้ายวัดฮันเนียะจิ(般若寺バス停)” จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 3 นาที

ส่วนการเดินทางจาก นั่งรถบัส “มุ่งหน้าไปสู่ “青山住宅行・州見台八丁目行(อาโอะยามะจูทากุ/ คุนิมิไดฮัตโจเม)” ไปประมาณ 10 นาที เพื่อลงที่ “ป้ายวัดฮันเนียะจิ(般若寺バス停)” จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 3 นาที

ดอกลาเวนเดอร์

ดอกไม้บานในช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึง เดือนสิงหาคม

ภาษาดอกไม้ : ความนิ่งเงียบ / ฉันขอคำตอบ / ความสงสัย / ความคาดหวัง

 “ดอกลาเวนเดอร์” (ภาษาญี่ปุ่น : ラベンダー) เป็นดอกไม้สีม่วงน่ามอง มีกลิ่นที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งหากพูดถึงทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในประเทศญี่ปุ่นแล้วก็คงหนีไม่พ้น “ฮอกไกโด” ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ นอกจากหิมะในช่วงฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแล้ว ในช่วงฤดูร้อนก็มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์ให้ชมมากมาย หนึ่งในทุ่งดอลาเวนเดอร์ภายใน “ฟุราโนะ” ในฮอกโดที่เป็นพื้นที่ขึ้นชื่อเรื่องลาเวนเดอร์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อยเลยก็คือ “FARM TOMITA” กับการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่สุดอลังการ มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์ให้ชมหลากหลายรูปแบบ โดยในส่วนลาเวนเดอร์นั้นนอกจากจะสามารถเดินชมดอกแล้ว ยังมีบริการรถนำเที่ยว “Lavender Bus” (มีค่าใช้จ่าย) ให้ได้เพลิดเพลินกันอย่างเต็มที่ เท่านั้นไม่พอยังมีทุ่งดอกไม้ชนิดอื่นๆ และสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับดอกลาเวนเดอร์ ร้านดอกไม้แห้ง คาเฟ่หลากหลายร้าน หรือโรงงานน้ำหอม ฯลฯ ให้ได้ตื่นตามากมาย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ คลิ๊กเลย ! “FARM TOMITA” (มีภาษาอังกฤษ)

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00-16:30 น. (*ส่วนทุ่งลาเวนเดอร์ Lavender East เท่านั้น ที่จะเปิดให้บริการเฉพาะเดือนกรกฏาคม ตั้งแต่ 9:00-16:30 น.)

ดอกไฮเดรนเยีย

ดอกไม้บานในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนกรกฏาคม

ภาษาดอกไม้ : มีทั้งความหมายที่ดี คือ “ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข” และความหมายที่ตรงข้ามคือ “ใจดำอำหิต” / สำหรับดอกไฮเดรนเยียสีขาวจะสื่อถึง “ความใจกว้าง” สีชมพู สื่อถึง “หญิงสาวที่ร่าเริง” และ สีฟ้าสื่อถึง “ความรักที่อดทน” สาเหตุที่มีทั้งควาหมายที่ดีและไม่ดีอาจมาจาการเปลี่ยนสีของดอกไม้นั่นเอง

 “ดอกไฮเดรนเยีย” หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “ดอกอาจิไซ”(あじさい) นั้นจะบานในช่วงฝนของญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน และเดือนกรกฏาคมพอดี มีหลากหลายสีสันไม่ว่าจะเป็นสีม่วง ฟ้า หรือชมพู ความพิเศษของดอกชนิดนี้คือ สีของดอกไม้จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของดิน และเมื่อดอกไม้บานก็จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ อีกด้วย นอกจากนี้เสน่ห์ของดอกไฮเดรนเยียก็คือ ดอกไม้จะสวยสดมากขึ้นเมื่อสัมผัสกับละอองฝนในช่วงดอกไม้บาน

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเดินเล่นชมดอกไฮเดรนเยียได้ตามวัด หรือสวนดอกไม้ เพื่อเพลิดเพลินกับธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน แต่อีกหนึ่งความพิเศษของการชมดอกไฮเดรนเยียที่ประเทศญี่ปุ่นก็คือ การนั่งรถไฟชมดอกไฮเดรนเยียที่บานสวยงามอยู่เรียบเส้นทางรถไฟนั่นเอง ซึ่งก็คือ การชมดอกอาจิไซจาก “รถไฟฮาโกเนะโทซัน (Hakone Tozan Train)” เมื่อเข้าสู่ช่วงของการชมดอกไฮเดรนเยียคือตั้งแต่ประมาณกลางเดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนกรกฏาคม จะเป็นช่วงที่เปิดให้บริการ “Hydrangea Train (รถไฟไฮเดรนเยีย)” ซึ่งรถไฟนี้จะเป็นที่นั่งแบบไม่สามารถจองที่นั่งล่วงหน้า และคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะฉะนั้นจึงแนะนำให้ไปวันธรรมดาอาจสะดวกกว่า

การเดินทางไปขึ้น “รถไฟฮาโกเนะโทซัน” นั้นต้องนั่งชินคันเซ็น หรือ JR สายโทไคโด จากสถานีโตเกียว มา “สถานีโอดาวาระ Odawara” เพื่อนั่งรถไฟฮาโกเนะโทซันที่มุ่งหน้าไปสู่ ”สถานีฮาโกเนะยูโมโตะ (Hakone-Yumoto Station)” ไปจนสุดสายเพื่อเปลี่ยนลดไปที่มุ่งหน้าไปสู่ “สถานีโกระ (Gra Station)” หรือ สามารถเดินทางจากชินจุกุไป ”สถานีฮาโกเนะยูโมโตะ (Hakone-Yumoto Station)” ด้วย รถไฟโอดะคิว Romance Car “HAKONE” ก็ได้เช่น

อ่านรีวิวการขึ้น “รถไฟฮาโกเนะโทซัน” คลิ๊กเลย ! (รีวิวช่วงฤดูหนาว)

ดอกบัว

ดอกไม้บานในช่วงเดือนกรกฏาคม ไปจนถึง เดือนสิงหาคม

ภาษาดอกไม้ : สื่อถึง ความบริสุทธิ์ หรือจิตใจที่บริสุทธิ์

 “ดอกบัว” ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “ดอกฮาสุ” (ภาษาญี่ปุ่น : ハス) สีดอกมีทั้งชมพู ขาว และเหลือง ถึงแม้ว่าที่ประเทศไทยก็มีดอกบัวให้ชมอย่างสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ แต่หากได้มาท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็จะมีสถานที่ที่ให้ได้ชมดอกบัวไปพร้อมๆ กับสิ่งก่อสร้างแบบญี่ปุ่น อย่างเช่นที่ “บ่อน้ำชิโนยาสุ” (不忍池) ของสวนอุเอโนะใจกลางเมืองโตเกียว ที่มีดอกบัวแผ่กว้างไปทั่วบ่อน้ำ พร้อมฉากหลังในมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “เบ็นเท็นโด (วิหารพระสุรัสวดี)” ที่งดงามตระกาลตา หรือตึกสูงของโตเกียว เป็นต้น โดยดอกบัวนั้นจะบานเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากต้องการชมดอกบัวที่สวยงามภายในบึง แนะนำให้ไปตั้งแต่เช้าจะดีที่สุด ซักประมาณ 7 โมง ถึง 9โมง โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าดอกจะบานในช่วงกลางเดือนกรกฏาคม ไปจนถึง กลางเดือนสิงหาคม

การเดินทาง : สามารถเดินทางจาก “สถานีอุเอโนะ” หรือ “สถานีเคเซย์อุเอโนะ” ที่อยู่บริเวณรอบๆ ได้ภายใน 1-2 นาทีเท่านั้น

นอกจากดอกไม้ทั้ง 5 ชนิดที่ได้แนะนำไปในครั้งนี้แล้ว ในช่วงหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่นยังมีดอกไม้ที่สวยงามให้ได้ชมอีกมากมาย ยังไงต้องลองมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเพื่อสัมผัสความสวยงามของดอกไม้นานาชนิดในช่วงหน้าร้อนด้วยตัวเอง แล้วคุณจะหลงรักช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นไม่แพ้ฤดูกาลอื่นๆ อย่างแน่นอน