ทำความรู้จักกับ “ช่วงวันหยุดยาวของประเทศญี่ปุ่น” กัน
UP DATE 3 มิ.ย.2562
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ต้องการไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบสบายๆ ผู้คนไม่แออัด และเดินทางไม่ลำบาก ก็คงอยากหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัดในช่วงวันหยุดยาวของประเทศญี่ปุ่น และต้องการเตรียมพร้อมรับมือหากต้องไปท่องเที่ยวในช่วงเวลาเหล่านี้ใช่ไหมคะ? ขึ้นชื่อว่าช่วงวันหยุดยาวก็แน่นอนว่าจะต้องมีความวุ่นวายมากกว่าช่วงอื่นๆ อย่างแน่นอน แล้วที่ญี่ปุ่นจะมีช่วงวันหยุดยาวช่วงไหนบ้าง? ครั้งนี้เราจะไปดูพร้อมๆ กันเลยว่าช่วงวันหยุดยาวของประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย
| ช่วงวันหยุดสิ้นปีปีใหม่ |
“โอเซจิ” อาหารที่รับประทานในวันขึ้นปีใหม่
แน่นอนว่าในช่วงวันหยุดสิ้นปีปีใหม่นั้น ไม่ว่าประเทศไหนๆ ก็เป็นช่วงวันหยุดยาวที่ทุกคนต่างเดินทางกลับบ้านเพื่อเฉลิมฉลองช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับครอบครัวหรือเพื่อนๆ กันอย่างคึกคัก ซึ่งในแต่ละประเทศก็จะมีการเฉลิมฉลองที่แตกต่างกันออกไปอย่างเช่นที่ประเทศไทยก็จะกินเลี้ยงสังสรรค์ หรือปาร์ตี้เคาท์ดาวน์กันอย่างสนุกสนานรื่นเริง ซึ่งก็ไม่ต่างจากประเทศญี่ปุ่นในบางส่วนที่กินเลี้ยงสังสรรค์ปาร์ตี้เคาท์ดาวน์กันอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีบางส่วนที่มีช่วงเวลาวันหยุดสิ้นปีปีใหม่แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น การทำความสะอาดบ้านในวันที่ 30 ธันวาคมก่อนวันสิ้นปี หรือการไปศาลเจ้าหรือวัดในช่วงวันขึ้นปีใหม่เป็นต้น
ดังนั้นสถานที่ที่จะมีผู้คนแออัดเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดสิ้นปีปีใหม่นั่นก็คือ “ศาลเจ้า หรือ วัด” เนื่องจากว่าเมื่อเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ ช่วงประมาณวันที่ 1-3 มกราคม จะเป็นช่วงที่คนญี่ปุ่นจะไปกราบไหว้ศักการะขอพรที่ศาลเจ้าหรือวัดกันอย่างล้นหลาม ซึ่งผู้คนที่มากราบไหว้สักการะที่ศาลเจ้าหรือวัดจะมีจำนวนมากกว่าปกติหลายเท่าตัวบรรยากาศแออัด โดยเฉพาะศาลเจ้าหรือวัดที่อยู่ในเมือง มีขนาดใหญ่ หรือมีชื่อเสียง อาจต้องต่อแถวเพื่อรอกราบไหว้สักการะ หรือบูชาเครื่องรางของขลังต่างๆ เป็นชั่วโมงเลยก็ว่าได้
และอีกสถานที่หนึ่งก็คือ “ห้างสรรพสินค้า” เนื่องจากในช่วงปีใหม่จะมี “ฮะสึอุริ : 初売” ก็คือ “การลดราคาสินค้าช่วงปีใหม่” ตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นจะลดราคาวันปีใหม่กันในวันที่ 1 หรือ 2 มกราคม โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่นอย่าง เสื้อผ้า รองเท้า หรือ กระเป๋าที่อาจลดมากถึง 30-50% เลยทีเดียว ภายในเมืองก็จะเต็มไปด้วยวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ บรรยากาศคึกคัก โดยเฉพาะ “ฟุกุบุคุโระ” หรือ “ถุงโชค” ที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะถูกจำหน่ายอยู่ทั้งห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การค้า, Apple Store, สตาร์บัค หรือแมคโคนัล ฯลฯ อีกมากมาย ซึ่งหากโชคดีอาจได้สินค้าที่ถูกลงไปหลายเท่า ยิ่งเป็นร้านที่ได้รับความนิยมก็จะยิ่งมีคนมารอต่อแถวซื้อกันตั้งแต่หัวค่ำเลยทีเดียว แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อยก็คือในช่วงนี้บางร้านที่เป็นกิจการส่วนตัวอาจจะปิดให้บริการ
| ช่วงโกลเด้นวีค (Golden Week) |
ช่วงโกลเด้นวีคโดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงปลายเดือนเมษายน ไปจนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะมีวันหยุดต่างๆ รวมกันเป็นเวลานานถึง 9 หรือ 10 วันขึ้นอยู่กับปีนั้นๆ ซึ่งโกลเด้นวีคในปีพ.ศ.2562 ที่ผ่านมานี้ก็มีวันหยุดยาวนานถึง 10 วันตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคมกันเลยทีเดียว ทำให้ช่วงนี้สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นเป็นพิเศษ ถือเป็นช่วงวันหยุดยาวเพื่อท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศของคนญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่เลยทีเดียว
| ช่วงเทศกาลโอบง (お盆) |
และช่วงวันหยุดยาวสุดท้ายก็คือช่วง “โอบง” ที่กำลังใกล้เข้าถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้ในเดือนสิงหาคม โดยจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วช่วงเทศกาลโอบงจะอยู่ในช่วงวันที่ 13-16 สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงงานเทศกาลทางศาสนาพุทธของคนญี่ปุ่นที่ชาวญี่ปุ่นจะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อเส้นไหว้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ และผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าช่วงเทศกาลโอบงนี้จะเป็นช่วงที่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษจะกลับมาเยี่ยมเยือนครอบครัวญาติพี่น้องที่โลกมนุษย์ถึงต้องมีการต้อนรับ หรือทำบุญให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง ซึ่งในปีนี้เมื่อประกอบกับช่วงวันหยุดอื่นๆ ที่อยู่ติดกับช่วงเทศกาลโอบงพอดี ก็จะทำให้ปีนี้จะมีวันหยุดยาวนานถึง 9 วันเลยทีเดียว คือตั้งแต่วันที่ 10-18 สิงหาคมนั่นเอง
| ข้อควรระวังในช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น |
การคมนาคมนั้นไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมขนส่งสาธารณะทาง “รถไฟ” “รถบัส” หรือ การเดินทางด้วย “เครื่องบิน” ก็เป็นช่วงที่มีผู้คนใช้บริการการเดินทางเหล่านี้กันอย่างล้นหลาม ดังนั้นการเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางในช่วงนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง อาจจะต้องเดินทางออกไปยังสนามบิน สถานี หรือบัสเทอร์มินอล เร็วกว่าปกติเพื่อให้ทันการโดยสารทันรอบต่างๆ ที่จองไว้
หากเป็นการเดินทางด้วยเครื่องบิน ก็อาจต้องเดินทางไปสนามบินล่วงหน้าก่อนเวลาออกบินอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว หรือการเดินทางด้วยเส้นทางบนท้องถนนที่ไม่อาจคาดการณ์เวลาการเดินทางที่แน่นอนได้ในกรณีที่การจารจรบนท้องถนนติดขัด สำหรับการเดินทางด้วยรถบัสหรือรถยนต์ส่วนตัวก็ควรเผื่อใจและเผื่อเวลาเอาไว้ว่าอาจไม่ได้ถึงที่หมายตามเวลาที่กำหนดไว้นั่นเอง
และที่ควรคำนึงมากๆ เลยก็คือการจองตั๋วการเดินทางต่างๆ ที่ราคาอาจพุ่งสูงขึ้นกว่าปกติถึงหลายเท่าตัว และหากไม่จองล่วงหน้าเอาไว้แต่เนิ่นๆ ก็อาจไม่มีที่นั่งว่างให้ได้ใช้บริการกันอีกด้วย
เช่นเดียวกับ “ที่พัก” ที่นอกจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นมากแล้ว ที่พักก็อาจไม่ว่างตามวันที่ต้องการเข้าพักก็เป็นได้ ดังนั้นสำหรับที่พักที่ได้รับความนิยมก็อาจต้องจองล่วงหน้ามากกว่า 2 เดือนกันเลยทีเดียว
ในครั้งนี้เราได้พูดถึงเรื่องวันหยุดยาวในช่วงต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น และข้อควรระวังสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้มาฝากกันแล้ว ซึ่งช่วงวันหยุดยาวเหล่านี้ถือเป็นช่วงการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นที่ต้องมีการเตรียมตัวที่ดีและพร้อมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีการเตรียมความพร้อมที่ดีแล้วเชื่อว่าการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของคุณจะเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้นแน่นอน หวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ