“ศาลเจ้า” ญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดใน “โตเกียว”

จุดประสงค์ของการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้ว มีทั้ง “การช้อปปิ้ง” “อาหาร” “ธรรมชาติ” หรือ “การสัมผัสวัฒนธรรม” ต่างๆ ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเลยนั่นก็คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นญี่ปุ่นมากๆ อย่าง “วัด” หรือ “ศาลเจ้า” โดยเฉพาะ “ศาลเจ้า” ที่มีอยู่มากมายในประเทศญี่ปุ่น เกือบ 8 หมื่นกว่าแห่ง

ซึ่งศาลเจ้าขึ้นชื่อของญี่ปุ่นนั้นมีอยู่มากมาย ทั้ง “ศาลเจ้าอิเสะ”, “ศาลเจ้าอินาริ” ที่โดดเด่นเรื่องการให้โชคทางด้านการค้าขายรุ่งเรือง, “ศาลเจ้าเท็มมังงุ” บูชาเทพเจ้าแห่งการเรียน หรือ “ศาลเจ้าเซ็นเก็น” ที่บูชาภูเขาไฟฟูจิ ฯลฯ อีกมากมาย โดยแต่ละที่จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป

ในตอนที่ผ่านมา(วันที่ 4 ธันวา) ได้พูดถึงศาลเจ้าที่น่าสนใจภายในแถบคันไซ(โอซาก้า・เกียวโต)กันไปแล้ว ส่วนในครั้งนี้จะเป็นตอนที่ 2 ที่จะพูดถึง “ศาลเจ้าที่น่าสนใจในโตเกียว”

1. “ศาลเจ้าสุกะ SUGA JINJA須賀神社”(Yotsuya ในโตเกียว)

ศาลเจ้าแรกก็คือ “ศาลเจ้าสุกะ”『SUGA JINJA(須賀神社)』ตั้งอยู่ Yotsuya ในโตเกียว

เมื่อขึ้นบันไดไปแล้ว ก็จะเจอโทริอิที่ประดับด้วย ชิเมนะวะ(พวงเชือกฟาง) ซึ่งบริเวณศาลเจ้าจะมีต้นซากุระถูกปลูกเอาไว้มากมาย มีผู้คนมากมายมากราบไหว้สักการะ รวมไปถึงวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดา หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ แน่นอนว่านักท่องเที่ยวต่างชาติก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

ซึ่งสาเหตุที่ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นนั่นก็เพราะว่าศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือศาลเจ้าที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง “คิมะ โนะ นาวะ”『KIMI NO NAWA(君の名は)』 ที่โด่งดัง ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศนั่นเอง

แผ่นไม้ “เอมะ絵馬”(แผ่นไม้เขียนขอพร) ที่จำหน่ายอยู่ใน “ศาลเจ้าสุกะ” แห่งนี้จะเป็นแผ่นไม้ที่มีรูปหนึ่งซีนในภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ ซึ่งแผ่นไม้นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถูกเขียนขอพรในหลายๆ ภาษา รวมถึงภาษาไทยอีกด้วย

เมื่อกราบไหว้สักการะที่ “ศาลเจ้าสุกะ” แล้วก็สามารถเดินจากศาลเจ้าไป 15 นาที เพื่อไปที่คาเฟ่『Cafe La Bohéme』เรียบ “อุทยานแห่งชาติชินจูกุเกียวเอน(新宿御苑)”

ซึ่งสถานที่นี้ก็เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง “คิมะ โนะ นาวะ”「KIMI NO NAWA(君の名は)」เป็นร้านที่ตัวเอกของเรื่องทำงานเป็นพนักงานพาร์ททามอยู่ ปรากฏออกมาในเรื่องอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังเป็นร้านที่สามารถนั่งทานอาหารจิบกาแฟ ไปพร้อมๆ กับชมวิวสวนสาธารณะ(อุทยานแห่งชาติชินจูกุเกียวเอน)จากหน้าต่างบานใหญ่ของร้านได้อีกด้วย

การเดินทางไปยัง “ศาลเจ้าสุกะ” นั้นสามารถนั่งรถไฟโตเกียวเมโทร สายมารุโนะอุจิ จากแต่ละสถานที่ในบริเวณชินจุกุในโตเกียว เพื่อมาลงที่ “Yotsuya 3 Chome(四谷三丁目)” และออกจากประตูหมายเลข 3 ออกมาที่ชั้นบนดิน จากนั้นก็เดินอีกประมาณ 7 นาที หรือนอกจากนี้ยังสามารถเดินจาก สถานีรถไฟ JR สายหลักชูโอ Chuo Line สถานี Yotsuya Station หรือ Shinanomachi Station มาได้โดยใช้เวลาเดินเท้า 15 นาที ยังไงลองเดินเที่ยวดูสถานที่เหล่าเพื่อสัมผัสบรรยากาศต่างๆ ในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง “คิมะ โนะ นาวะ”「KIMI NO NAWA(君の名は)」ดูได้เลย

2. ศาลเจ้าชินางาวะ SHINAGAWA JINJA 品川神社

และศาลเจ้าต่อไปก็คือ “ศาลเจ้าชินางาวะ”『SHINAGAWA JINJA(品川神社)』

เป็นหนึ่งในบรรดาหลายสิบศาลเจ้าในโตเกียวที่เรียกได้ว่ามีระเบียบแบบแผนเป็นค่อนข้างสูง อีกทั้งยังเป็นศาลเจ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว

ซึ่งสิ่งที่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีความน่าสนใจ หนึ่งในนั้นก็คือ “โทริอิ(鳥居)” ที่มีลวดลายมังกรพันอยู่รอบเสา เป็นโทริอิที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในศาลเจ้าอื่นๆ กับโทริอิสไตล์ “โซริวโทริอิ”「SORYU TORII(双龍鳥居)」ที่เสาข้างหนึ่งจะเป็นมังกรปีนขึ้น ส่วนเสาอีกข้างจะเป็นมังกรปีนลง

และหากพูดถึง “ศาลเจ้าชินางาวะ” ก็จะต้องนึกถึง「FUJIDUKA(富士塚)」อ่านว่า “ฟูจิซึกะ”

โดย “ฟูจิซึกะ”「FUJIDUKA(富士塚)」นี้ก็คือ ภูเขาเล็กๆ ที่มีไว้สำหรับผู้ที่อยากปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ แต่ไม่สามารถปีนได้ ภายในบริเวณศาลเจ้าจะมี “ฟูจิซึกะ” อยู่หลายสิบแห่ง และมีความเชื่อว่าหากได้ปีน “ฟูจิซึกะ” ก็เหมือนได้ปีนภูเขาไฟฟูจิของจริงเลย ซึ่ง “ฟูจิซึกะ”「FUJIDUKA(富士塚)」ที่สูงที่สุดในศาลเจ้าชินางาวะแห่งนี้มีความสูงถึง 15m หรือเกือบเท่ากับตึก 7F ชั้นเลยทีเดียว และเมื่อขึ้นไปบริเวณ “ยอดเขา” ก็จะสามารถชมวิวบ้านเมืองบริเวณรอบๆ เหมือนได้ปีนภูเขาจริงๆ เลยนั่นเอง

โดยการเดินทางไปยัง “ศาลเจ้าชินางาวะ” นั้นสามารถเดินจาก「Shimbamba Station」ในรถไฟสาย Keikyū Line ได้เพียง 1 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเดินจากสถานีรถไฟ JR สถานีชินางาวะ ได้โดยใช้เวลา 20 นาที เป็นสถานีลงจอดรถไฟความเร็วสูงโทไคโดชินคันเซ็น อีกทั้งยังสามารถเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะได้โดยตรง เปรียบเสมือนประตูหน้าบ้านของโตเกียวเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่อยากเดินทางไปสัมผัสภูเขาไฟฟูจิ แต่ไม่มีเวลาก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลย

3. “ศาลเจ้าคันดะ KANDA MYOUJIN神田明神”

และศาลเจ้าสุดท้ายก็คือ “ศาลเจ้าคันดะ”『KANDA MYOUJIN(神田明神)』ที่อยู่ใกล้ย่าน “อากิฮาบาระ” ย่านของเหล่าโอตาคุ

เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน มีอายุกว่า 1300 ปี ศาลเจ้าเก่าแก่มีแบบแผนที่อยู่คู่ชาวเมืองโตเกียวมาช้านาน อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปีกับงาน “เทศกาลคันดะ”「KANDA MATSURI(神田祭)」(ครั้งต่อไป เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ.2562)ที่เป็นหนึ่งในสามสุดยอดงานเทศกาลของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเวลาของงานเทศกาลบรรยากาศบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมงานมากมายทั้งคนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีแบบแผน แต่ภายในศาลเจ้าจะมีคาแรคเตอร์น่ารักๆ ของอนิเมะเรื่อง「LOVE LIVE(ラブライブ)」อยู่อีกด้วย โดยมีเครื่องรางของขลังเกี่ยวกับอนิเมะเรื่อง LOVE LIVE(ラブライブ) จำหน่ายอยู่ทั้ง เครื่องราง แผ่นไม้เอมะ หรือกระดาษแผ่นยันต์ รวมไปถึงสินค้าต่างๆ เช่น เสื้อยืด แฟ้ม หรือพวงกุญแจจำนหน่ายอยู่อีกด้วย มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่เดินทางมาเพื่อซื้อไอเท็มที่มีจำหน่ายอยู่เฉพาะที่นี่เท่านั้น เป็นศาลเจ้าที่มีผู้คนมากราบไหว้สักการะกันอย่างคึกคื้นตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้

ซึ่งการเดินทางไปยัง “ศาลเจ้าคันดะ” นั้นสามารถเดินจาก “สถานีอากิฮาบาระ” ที่มีทั้ง เส้นทางรถไฟ JR สายยามาโนเตะ Yamanote Line・สายโซบุ Sobu Line หรือ เส้นทางรถไฟโตเกียวเมโทร และ เทอร์มินอลของ TSUKUBA EXPRESS โดยใช้เวลาในการเดินเท้า 10 นาที นอกจากนี้ยังสามารถเดินจาก “สถานีโอฉะโนะมิซึ Ochanomizu Station”  ของรถไฟ JR สายชูโอ Chuo Line ได้เพียง 7 นาทีอีกด้วย ซึ่งย่านอากิฮาบาระนี้นอกจากจะเป็นแหล่งยอดนิยมของเหล่าโอตาคุแล้ว ยังเป็นย่านที่มีทั้งร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือร้านกล้อง ฯลฯ ให้ได้เลือกช้อปปิ้งอีกมากมาย ยังไงก็ลองแวะไปกันดูได้เลย

ศาลเจ้าที่น่าสนใจใน “โตเกียว” ทั้งหมด 3 แห่งได้แก่

“ศาลเจ้าสุกะ”『SUGA JINJA(須賀神社)』ที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังเรื่อง “คิมะ โนะ นาวะ”「KIMI NO NAWA(君の名は)」

“ศาลเจ้าชินางาวะ”『SHINAGAWA JINJA(品川神社)』ศาลเจ้าที่สามารถสัมผัสการปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ

และ “ศาลเจ้าคันดะ”『KANDA MYOUJIN(神田明神)』พร้อมพบกับตัวการ์ตูนอนิเมะเรื่อง “LOVE LIVE”

ที่ได้พูดถึงกันไปนี้เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวที่สามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายดาย ยังไงหากได้มาเที่ยวภายในเมืองโตเกียว ก็อย่าลืมแวะมาถ่ายรูป ร่วมแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ในศาลเจ้าเหล่านี้ได้เลย และพบกันใหม่ในตอนหน้า♪