แนะนำร้านอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น 3 อย่าง “ทาโกยากิ” “อุด้งสุกี้” และ “เนื้อโกเบ” ที่โอซาก้า (และโกเบ)

การท่องเที่ยวญี่ปุ่น การเลือกอาหารการกินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ

ตั้งแต่ ซูชิ ชาบู ทาโกยากิ พิชซ่าญี่ปุ่น ขนมรสชาเขียว และขนมขึ้นชื่อของแต่ละพื้นที่ หรือบางคนอาจจะชื่นชอบกับการช้อปปิ้งผลไม้ตามฤดูกาล

เพื่อเป็นของฝาก และถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีพื้นที่แคบกว่าประเทศไทย  ตั้งแต่ฮอกไกโดที่อยู่ภาคเหนือถึงโอกินาว่าที่อยู่ภาคใต้ ที่มีทั้งสภาพอากาศที่ต่างกันมาก และอาหารการกินก็เช่นกัน

คนญี่ปุ่นสมัยก่อนกล่าวไว้ว่า  “คนเกียวโตชอบหมดเงินกับการซื้อเสื้อผ้า”คนโอซาก้าชอบหมดเงินกับการกิน” ”คนโตเกียวชอบหมดเงินกับการดื่ม”

กล่าวคือ ที่เกียวโตเมืองเก่ามีกิโมโนสวยงามมากมายให้ซื้อ โอซาก้านั้นมีอาหารอร่อยมากมายให้เลือกทาน และโตเกียวที่ขึ้นชื่อเรื่องของเหล้าสาเกนั่นเอง

ครั้งนี้เราก็เลยอยากแนะนำร้านอาหารที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยว โอซาก้า โกเบ

มีอาหารรสชาติอร่อยมากมายให้คุณได้ลิ้มลอง ไปดูกันเลยยย

ถ้าพูดถึง “ทาโกยากิ” ก็คงเป็นอาหารที่ทุกคนคงรู้จักกันดี แต่รู้หรือไม่ว่า ”ทาโกยากิ” นั้นเป็นอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า

ปัจจุบันที่กรุงเทพ ตามศุนย์อาหารที่อยู่ในห้างต่างๆหลายร้าน   ก็มีร้านทาโกยากิ เช่น ”GINDACO”

ทาโกยากิของโอซาก้านั้นมีให้เลือกหลายรส แตกตากจากที่อื่นที่ส่วนใหญ่มีแค่รสชาติของซอสเท่านั้น

ร้านแรกที่เราจะแนะนำ คือ DAIKIN ร้านอยู่ในซอย APPLE SHOP SHINSAIBASHI

ทาโกยากิที่ขายที่ DAIKIN จะเป็นทาโกยากิแบบตะวันตก มีส่วนผสมของไข่ นมและมีไส้กรอก เป็นไส้ แทนปลาหมึก กับแป้งทาโกยากิรสพิซซ่า แป้งของทาโกยากิรสพิซซ่านั้นมีความเข้ากับไส้กรอกมากๆ

หรือจะเป็น ทาโกยากิ “หน้าต้นหอมราดพอนซึ( ซอสญี่ปุ่น)” หรือ “รสน้ำมันงาเผ็ด”

มันจะสนุกแค่ไหนถ้าเรามากันหลายๆคนและสั่งมาทานกันให้ครบทุกรสชาติเลย

และอีกร้านที่อยากจะแนะนำคือ ”CHAP CHAP” ทาโกยากิ ที่สามารถนั่งกินได้ที่ร้านได้『AKAONI』

จริงๆแล้วทาโกยากินั้นคืออาหารกินเล่น แต่ร้านนี้ได้ลงหนังสือมิชลินด้วย ( หนังสือแนะนำอาหารที่ขึ้นชื่อของฝรั่งเศษ)

ปกติทาโกยากิเมื่อย่างเสร็จราดซอสก็สามารถทานได้เลย แต่ ทาโกยากิ ของที่ “CHAP CHAP ” นั้นมีพิเศษกว่าที่อื่น

คือ “ทาโกยากิ ในซุปปลา ”  ความหอมของน้ำซุปปลาจะซึมเข้ามาในตัวของทาโกยากิ ช่วยเพิ่มความอร่อยและมีหลายคนที่ดื่มซุปปลาจนหมดถ้วยเลยก็มีนะคะ 

อาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า “ทาโกยากิ” ซึ่งย่านที่มีร้านทาโกยากิอร่อยๆ หลายร้านเลยก็คงจะไม่พ้นย่านโดทงโบริที่GEKIZENKU(เขตเกกิเซ็น) ภายในย่านนี้ก็จะมีทั้งย่านชินไซบาชิ SHINZAIBASHI ที่มีร้านรองเท้าโอนิสึกะไทเกอร์ หรือห้างไดมารุ นอกจากนี้บริเวณใกล้ป้ายกูลิโกะก็มีทั้งสตาร์บัค หรือร้าน「KANI DOURAKU」ที่มีป้ายปูขนาดใหญ่เด่นอยู่ และถ้าเข้าไปอีกเล็กน้อยเราก็จะเจอร้านทาโกยากิชื่อดังยู่หลายร้าน

ถ้าใครได้ไปโอซาก้าก็ลองไปบริเวณร้านที่อยู่ใกล้ๆ ป้ายกูลิโกะดูนะคะ (เพียง 3 นาที)

และต่อไปที่เราจะมาแนะนำก็คือ「UDONSUKI」หรือ อุดงสุกี้

“อุดงสุกี้” ก็คือ หม้อไฟที่ใส่ทั้งเนื้อปลา เนื้อต่างๆ หรือผักหลากหลายชนิดลงไป ก่อนอื่นเราจะต้องดื่มด่ำกับรสชาติน้ำซุปจากเนื้อปลา หรือเนื้อที่ซึมออกมา หลังจากนั้นเมื่อน้ำซุปได้ที่แล้วก็ใส่ “เส้นอุด้ง” ลงไปในหม้อไฟ

ในช่วงนี้ร้านอุด้งชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างร้าน「MARUGAME SEIMEN」หรือ “มารุกาเมะ เซเม็ง” ก็เริ่มไปเปิดสาขาที่กรุงเทพ ทำให้หลายๆ คนอาจเคยลิ้มลองเส้นอุด้ง「SANUKI UDON」หรือ “ซานุกิ อุด้ง” กันมาบ้างแล้ว

แต่「OSAKA UDON」หรือ โอซาก้าอุด้ง จะเป็นเส้นที่แตกต่างจากซานุกิ อุด้ง ที่มีความนุ่มกว่า ซึ่งอาจจะมีรสสัมผัสที่ถูกกับคนไทยมากกว่า

และร้านอุด้งสุกี้ขึ้นชื่อที่เราจะมีแนะนำในวันนี้ก็คือร้านอุด้งเก่าแก่ชื่อ『MIMIU』หรือ “มิมิอุ” ตั้งอยู่ใกล้สถานีฮนมาจิ「HONMACHI STATION」สามารถเดินทางจากสถานีใกล้ย่านโดทงโบริที่สถานีนัมบะ「NAMBA STATION」โดยนั่งจากสถานีนัมบะด้วยสายมิโดซุจิ MIDOSUJI LINE มา 3 นาที ประมาณ 5 นาทีเท่านั้นค่ะ

ร้าน “มิมิอุ” นี้เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลา 250 ปี ซึ่งร้านที่เป็นสาขาหลักนั้นถึงแม้ว่าร้านจะตั้งอยู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองโอซาก้า แต่บรรยากาศร้านจะให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่งที่มีความเป็นญี่ปุ่นมากๆ เลย ที่ร้านก็จะมีทั้งที่นั่งแบบห้องส่วนตัวด้วย เลยทำให้หลายคนอาจจะคิดว่า “ต้องเป็นร้านที่แพงแน่ๆเลย !?” ใช่ไหมคะ แต่ที่ร้านนี้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติอุด้งแบบดั้งเดิมกับเมนู「UDONSUKI COURSE NANIWA」หรือ “คอร์สอุด้งสุกี้นานิวะ” ในราคา 4500 เยน หรือเมนูอราคาสก็อยู่ในช่วงราคาประมาณ 1500 เยนเท่านั้น เป็นราคาที่จับต้องได้แถมยังได้ลิ้มลองรสชาติอาหารที่ดั้งเดิมด้วย

และต่อไปพลาดไม่ได้เลยกับ「KOBE BEEF」หรือ “เนื้อโกเบ” ที่ถ้าไปญี่ปุ่นก็จะต้องไปลองให้ได้ ด้วยรสสัมผัสที่นุ่มลิ้น เนื้อนิ้มแทบจะละลายในปากได้เลยกับ “เนื้อโกเบ” และที่กรุงเทพเองก็มีหลายๆ ร้านที่เราสามารถทานเนื้อโกเบของแท้ได้

「KOBE BEEF」หรือ “เนื้อโกเบ” ก็เป็นเนื้อที่มาจากจังหวัด โกเบ ที่อยู่ข้างโอซาก้าตามชื่อเลยค่ะ เราสามารถเดินทางไปโกเบจากโอซาก้าได้ด้วย JR KOBE LINE 23 นาที ส่วน HANKYU・HANSHIN LINE นั่งไป 30 นาทีเท่านั้น ถ้าเทียบระยะทางแล้วก็เหมือนเราเดินทางจากสุขุมวิทไปธนบุรี ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมาก เราก็สามารถเดินทางไปลิ้มลองรสชาติเนื้อโกเบของแท้ได้ที่โกเบเลยค่ะ วิธีทานเนื้อโกเบก็มีหลากหลาย ทั้ง “ซูชิเนื้อโกเบ” หรือ ใช้เนื้อโกเบบดมาทำเป็น “แฮมเบิร์กเนื้อโกเบ” เป็นต้น แต่ไหนๆ ถ้าได้มาเที่ยวที่ญี่ปุ่นแล้วก็คงจะต้องลองสเต็กเนื้อโกเบแบบเรียบๆ ดูเพื่อให้ได้รสชาติเนื้อโกเบไปแบบเต็มๆ คำ

ที่โกเบก็จะมีร้านที่ติดป้ายเนื้อโกเบอยู่หลายร้าน ซึ่งหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมมากๆ ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือร้าน『MOURIYA』ตั้งอยู่หน้าสถานีซันโนะมิยะ SANNOMIYA ที่โกเบ

ซึ่งเมื่อคนญี่ปุ่นจะไปกินเนื้อโกเบที่โกเบก็จะต้องนึกถึงร้านนี้กันเป็นส่วนใหญ่เลย ที่ตั้งของร้านนี้นั้นเดินออกจากสถานีซันโนะมิยะ ออกมาทางวงเวียนประตูเหนือ ไปทางซ้ายมือ และข้ามทางม้าลาย จากนั้นไปทางขวา และข้ามทางม้าลายไปอีกจากนั้นไปทางซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ  5 นาทีเท่านั้น

ภายในร้านจะมีเคาเตอร์ล้อมรอบ(≒  3000THB)แผ่นเหล็กกระทะร้อน ที่สามารถดูเชฟย่างเนื้อได้เพลินๆ ดินเนอร์ของที่นี่ราคาจะอยู่ที่ตั้งแต่ 1 หมื่นเยนไปจนถึง 2หมื่นเยน (≒   6000THB)เป็นพื้นฐาน ส่วนอาหารกลางวันก็จะมีทั้งเมนู ชุดอาหารกลางวันเซอร์ลอยน์(130g 4500 เยน)ชุดอาหารกลางวันเนื้อสันใน(110g 4500 เยน)ได้ลิ้มลองเนื้อโกเบแท้ ในราคาที่ไม่แพงมาก ถ้าใครไปญี่ปุ่นแล้วอยากทานมีหรูๆ เป็นเนื้อโกเบก็ลองไปร้านนี้ดูนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับร้านอาหารในโอซาก้า(และโกเบ)ทั้ง 3 ร้านที่เราได้แนะนำไป แต่ละร้านน่าสนใจเลยใช่ไหมคะ นอกจากนาโกยากิที่สามารถทานได้ในราคาไม่แพงแล้ว ในมื้อหรูๆ เราก็ได้แนะนำ “อุดงสุกี้” หรือ “เนื้อโกเบ” ให้ได้เลือกทานกันในราคาที่จับต้องได้

เวลามาญี่ปุ่นหลายๆ คนก็อาจจะทานแต่ราเม็งที่หาทานได้ง่าย ร้านเดิมๆ จนไม่ได้ลองอะไรใหม่ๆ แต่ไหนๆ ก็มาที่ญี่ปุ่นแล้ว ยังไงก็อยากให้เพื่อนๆ เพลิดเพลินไปกับอาหารของแต่ละพื้นที่ไปด้วยนะคะ และเราจะมาแนะนำอาหารขึ้นชื่อของ โตเกียว นาโกย่า หรือเกียวโตอีกในโอกาสหน้านะคะ รอติดตามได้เลยค่ะ♪

Related posts
เรื่องกินเรื่อใหญ่ ตอน “เจาะลึกเรื่อง ปู ปู ในญี่ปุ่น”
OSAKA IN LOVE! ️เก็บตกบรรยากาศวันวาเลนไทน์สไตล์ญี่ปุ่น
ต้อนรับปี 2022 ด้วย 1 DAY TRIP IN OSAKA ร่วมงานเทศกาลสำหรับการค้าขายรุ่งเรืองของญี่ปุ่น
ทำความรู้จักกับ “วัตถุดิบจากภูเขา” หรือ “อาหารป่า” ประจำฤดูใบไม้ร่วงแห่งใบไม้เปลี่ยนสี
อาหารตามฤดูกาลในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี กับวัตถุดิบทะเล(ซีฟู้ด)ทั้ง 3 ชนิด “แซลมอน” “หอยนางรม” และ “ปู”ร่วง
เที่ยวญี่ปุ่นต้องทานซักมื้อ ! ทำความรู้จักกับ “ราเม็ง” อาหารประจำประเทศญี่ปุ่น แบบ “มิโซะราเม็ง” “โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว)” และ “สึเกะเม็ง(ราเม็งจิ้มจุ่ม)”