เที่ยวญี่ปุ่นต้องทานซักมื้อ ! ทำความรู้จักกับ “ราเม็ง” อาหารประจำประเทศญี่ปุ่น แบบ “มิโซะราเม็ง” “โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว)” และ “สึเกะเม็ง(ราเม็งจิ้มจุ่ม)”

การมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ อาหาร ความตื่นตาตื่นใจที่ได้จากการท่องเที่ยวส่วนหนึ่งก็มาจากการได้ทานอาหารอร่อยไ น่าตื่นตาอย่าง ซาชิมิ(ปลาดิบ), ซูชิ, เนื้อชั้นดีอย่าง เนื้อโกเบ หรือ อาหารขึ้นชื่อของพื้นที่ต่างๆ อย่างเช่น ทาโกยากิ เป็นต้น ซึ่งหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันอย่างแพร่หลายแม้กระทั่งในประเทศไทยนั่นก็คือ “ราเม็ง” เมนูที่ถ้าได้มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องได้ทานซักครั้ง และเมนูราเม็งนี้เองก็แบ่งออกเป็นหลากหลายชนิด อย่างเช่นที่ร้าน “ฮาจิบังราเม็ง” ที่มีอยู่หลายสาขาแม้กระทั่งในประเทศไทยก็มีราเม็งอยู่หลายแบบ เช่น “โชยุราเม็ง” “ชิโอะราเม็ง(ราเม็งเกลือ)” หรือ “ไปตันราเม็ง(ราเม็งซุปขาว)” ซึ่งราเม็งที่ญี่ปุ่นจะมีชนิดและรสชาติที่แตกต่ากันออกไปตามแต่ละร้านแต่ละพื้นที่ 

 ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาดูกันว่าญี่ปุ่นมีราเม็งแบบใดบ้าง พร้อมแนะนำร้านอร่อยควรไป ทั้งหมดแบ่งเป็น 2 ตอน ไปดูกันเลย

ในแต่ละร้านและแต่ละพื้นที่จะมีชนิดราเม็งที่แตกต่างกันออกไปเยอะแยะมากมาย วันนี้เราจึงจะแบ่งราเม็งออกเป็น 6 กลุ่มใหญ่ๆ โดยครั้งนี้เราจะพาไปดูในแบบที่ 4-6 กันบ้าง

1.โชยุราเม็ง「SHOUYU RAMEN醤油ラーメン」

2.ชิโอะราเม็ง(ราเม็งเกลือ) 「SHIO RAMEN塩ラーメン」

3.ทงคตสึราเม็ง(ราเม็งซุปหมู) 「TONKOTSU RAMENとんこつラーメン」

4.มิโซะราเม็ง「MISO RAMEN味噌ラーメン」

5.โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว) 「TORI PAITANMEN鶏ぱいたん麵」

6.สึเกะเม็ง(ราเม็งจิ้มจุ่ม) 「TSUKEMENつけ麺」

มาเริ่มกันที่ “มิโซะราเม็ง” หรือ ราเม็งเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นบด ถึงแม้ว่า มิโซะราเม็งนี้จะไม่ใช่ราเม็งหลักๆ เท่า “โชยุราเม็ง” หรือ “ทงคตสึราเม็ง” แต่ก็เป็นราเม็งที่อยู่คู่คนญี่ปุ่นมายาวนานเช่นกัน ด้วยการนำส่วนผสมของมิโซะและผักมาผัดผ่านความร้อน รวมไปถึงวัตถุดิบที่ต่างกันไปในแต่ละร้าน ทำให้รสชาติของแต่ละที่จะแตกต่างกันออกไป เป็นราเม็งที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็น เช่น 「SAPPORO RAMEN」「SENDAI RAMEN」หรือ「SHINSHU MISO RAMEN」เป็นต้น และจะโปะด้วยมันหมูบนราเม็งจึงทำให้ได้รสชาติที่หอมมัน และกลมกล่อม ยิ่งไปกว่านั้นการโปะมันหมูลงบนราเม็งจะเป็นการรักษาอุณภูมิของราเม็งเอาไว้ ให้เข้ากับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ

ซึ่งเราจะมาแนะนำร้าน “มิโซะราเม็ง” ขึ้นชื่อที่ตั้งอยู่ในจังหวัด “คานาซาว่า” กับร้าน “เม็งยะไทกะ”「MISO SENMON MENYA TAIGA」โดยร้านตั้งอยู่หน้าสถานีคานาซาว่า เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวคู่กับ “ฮิดะทาคายาม่า” หรือ “ชิราคาวาโกะ” นั่นเอง โดยเดินจากประตูกลาง CENTRAL EXIT ของสถานีมาเพียง 3-4 นาทีเท่านั้น เปิดให้บริการตั้งแต่ 11:30-15:00 และ 17:30-23:00 หยุดทุกวันจันทร์

ถึงแม้ว่าแขกแน่นร้านอยู่ตลอดเวลา แต่หากเป็นร้านราเม็งที่มีการสับเปลี่ยนลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ก็ไม่ต้องรอคิวนานเลยค่ะเมื่อเข้าไปนั่งที่ร้านทางร้านจะเสิร์ฟน้ำพร้อมกับน้ำผัก ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บริการให้ด้วย

เนื่องจากร้านนี้เป็นร้าน “มิโซะราเม็ง” โดยเฉพาะ ดังนั้นเมนูหลักของร้านก็ย่อมเป็น “มิโซะราเม็ง” ซึ่งที่ร้านจะไม่มีเมนูอื่นๆ อย่างเช่น เกี๊ยวซ่า หรือ ไก่ทอดเหมือนร้านราเม็งอื่นๆ เลย แต่ก็จะมีเมนู “มิโซะราเม็ง” ให้เลือกอยู่หลากหลาย เช่น 「มิโซะราเม็ง MISO RAMEN」(750 เยน)「คุโระมิโซะราเม็ง KUROMISO RAMEN黒味噌ラーメン」(800 เยน)「อากะมิโซะราเม็ง AKAMISO RAMEN赤味噌ラーメン」(830 เยน)「มิโซะสึเกะเม็ง MISO TSUKEMEN味噌つけめん」(850 เยน)และ「AKAMISO TSUKEMEN赤味噌つけめん」(900 เยน)เป็นต้น “มิโซะราเม็ง” ที่เป็นเมนูเด่นของร้านก็จะมาพร้อมกับ หมูชาชูแผ่นใหญ่ 3 แผ่น เม็นมะ(หม่อไม้ดอง) ต้นหอม เปลือกส้มยูสุ และขิง เป็นท้อปปิ้ง ด้วยรสชาติที่สดชื่นของเปลือกส้มยูสุ และรสชาติของขิงเป็นอะไรที่เข้ากับซุปมิโซะมากๆ ส่วนเส้นจะเป็นเส้นคล้ายบะหมี่เหลืองเหมือนที่ไทยทำให้น้ำซุปจะซึมเข้าเส้นทำให้ได้รสชาติของน้ำซุปอย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น สามารถลิ้มลองรสชาติได้หลากหลายรูปแบบจากแบบที่ยังไม่ผสมขิง กับแบบที่ผสมขิงลงไปในน้ำซุป ทานได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อแน่นอน

และราเม็งชนิดต่อไปก็คือ “โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว)”「TORI PAITANMEN」ราเม็งชนิดนี้เพิ่งจะได้รับความนิยมมากขึ้นจนเป็นราเม็งอันดับต้นๆ เมื่อไม่นานมานี้ โดย “โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว)” ก็จะมีลักษณะคล้ายกับ “ราเม็งทงคตสึ” แต่เป็นเวอร์ชั่น “ไก่” แทนหมูนั่นเอง เป็นน้ำซุปที่ขาวที่ต้มกับไก่ เพื่อดึงรสชาติความอร่อยของไก่ออกมาอย่างชัดเจน

ซึ่งหากพูดถึง “โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว)” เราของแนะนำร้าน “เม็งโกะ อุชิโอะ”「MENKO USHIO」เลย ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว ห่างจาก สถานีอากิฮาบาระ เพียงเดินไป 6 นาทีเท่านั้น เปิดให้บริการตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์ เวลา11:00-22:00 น.และวันเสาร์ถึงวันจันทร์เวลา 11:00-19:00 น. เปิดให้บริการทุกวันรวมถึงวันอาทิตย์ด้วยค่ะ ซึ่งร้าน “เม็งโกะ อุชิโอะ”「MENKO USHIO」จะมีเมนูที่มักติดอันดับในหัวข้อ「ราเม็งที่ผู้หญิงนิยม 5 อันดับ」อยู่เสมอกับเมนู 「โทริไปตันโซบะ」(870 เยน)※ชื่อ “โซบะ” แต่เส้นก็คือเส้นราเม็ง

โดยปกติแล้วหากพูดถึงราเม็งก็จะนึกถึงอาหารทางฝั่งเอเชีย แต่「โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว)」ของร้าน “เม็งโกะ อุชิโอะ”「MENKO USHIO」จะมีรสชาติที่ค่อนไปทางอาหารอิตาเลี่ยนหรืออาหารเอธนิค เสียมากกว่า

น้ำซุปของ「โทริไปตันโซบะ」นั้นจะเป็นการดึงรสชาติความหอมหวานออกมาจากเนื้อไก่ญี่ปุ่น พิถีพิถันใช้ระยะเวลาในการต้มเป็นเวลานาน จนได้น้ำซุปที่หอมหวานมันกลมกล่อม ซึ่งในน้ำซุปนี้ได้ผสมวิปครีมลงไปด้วย!! ด้วยการใส่วิปครีมลงไปทำให้น้ำซุปมีความกลมกล่อมมากขึ้นนั่นเอง เส้นที่ใช้ก็เป็นเส้นที่ทำขึ้นใหม่ทุกๆ วัน ให้รสสัมผัสที่แน่น เส้นบางและไม่อืดง่าย เมนูที่ร้านจะมีท้อปปิ้งให้เลือกหลากหลาย ทั้ง หน่อไม้ฝรั่งพันหมูสามชั้น(200 เยน)บล็อคโคลี่(100 เยน)หรือ โพชเอ้ก(100 เยน)เป็นต้น หากใครต้องการลองราเม็งแปลกใหม่ก็ลองมาที่ร้านนี้เลย

และชนิดสุดท้าย จะมีลักษณะคล้าย “ก๋วยเตี๋ยวแห้ง” ของไทย กับราเม็งไร้น้ำซุป “สึเกะเม็ง หรือ ราเม็งจิ้มจุ่ม” แต่ต่างกันตรงที่ราเม็งชนิดนี้จะมีน้ำซุปแยกออกมาให้จุ่มทาน คือ แยกน้ำซุปกับเส้น ซึ่งราเม็งชนิดนี้จะเป็นการเพลิดเพลิน เส้นราเม็ง แบบเต็มอิ่ม ดังนั้นเส้นราเม็งจะมีความหนากว่าแบบทั่วไปเป็นพิเศษ และน้ำซุปก็จะมีความเข้มข้นกว่าเพื่อให้ได้รสชาติไม่แพ้เส้นนั่นเอง

หากต้องการลิ้มลอง “สึเกะเม็ง” แนะนำเป็นร้าน “เม็งยะ อิตโต”「MENYA ITTO」เลย

เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในโตเกียว โดยสามารถเดินทาง จาก ย่านโอตาคุ “อากิฮาบาระ” ด้วยการนั่งรถไฟสายโซบุ SOBU LINE総武線 ที่มีสถานีปลายทางไปสู่จิบะ CHIBA ไปประมาณ 13 นาที เพื่อลงที่สถานี ชินโคะอิวะSHIN KOIWA และเดินไปอีกประมาณ 2 นาทีเท่านั้น เปิดให้บริการวันธรรมดา 11:00 – 15:00 และ 18:00 – 22:00 หยุดทุกวันจันทร์ ส่วนวันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุด เปิดให้บริการ 10:30 – 15:00 และ 18:00 – 22:00

ซึ่งร้านนี้จะเป็นการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์หญิง ดังนั้นภายในร้านจะเป็นแนวเรียบง่าย สไตล์อิตาเลี่ยน มีที่นั่งทั้งหมด 11 ที่นั่ง ยิ่งไปกว่านั้นร้าน “เม็งยะ อิตโต”「MENYA ITTO」นี้เป็นร้านราเม็งที่ติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นอีกด้วย และเคยติดอันดับ 1 ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียว

เมนูที่ร้าน “เม็งยะ อิตโต”「MENYA ITTO」จะมีอยู่ 4 ชนิดคือ

“ราเม็งจิ้มจุ่มทะเล”「NOUKOU GYOKAI TSUKEMEN」(830 เยน)

“ราเม็งทะเล”「NOUKOU GYOKAI RAMEN」(780 เยน)

“ราเม็งกลมกล่อม ซุปเกลือ”「HOUJYUU KOUMI SOBA・SHIO」(780 เยน)

และ “ราเม็งกลมกล่อม ซุปโชยุ”「HOUJYUU KOUMI SOBA・SHOUYU」(780 เยน)

ซึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ “ราเม็งจิ้มจุ่มทะเล”「NOUKOU GYOKAI TSUKEMEN」และสามารถเพิ่มไข่ทรงเครื่องมะตูม ได้ราคา 100 เยน เมนู “ราเม็งจิ้มจุ่มทะเล”「NOUKOU GYOKAI TSUKEMEN」 จะเป็นน้ำซุปรสชาติปลา ทานพร้อมกับเส้นราเม็งหนา ภายในซุปจะมีลูกชิ้นญี่ปุ่นอยู่ 2 ชิ้น พร้อม เนื้อชาชู 3 แผ่นแบ่งเป็น เนื้อหมูและเนื้อไก่ แต่ละอย่างจะมีรสชาติที่ชัดเจนเป็นวัตถุดิบที่มีความเข้ากันได้อย่างลงตัวมากๆ ในหนึ่งเมนูเลยทีเดียว

วันนี้เราได้แนะนำ “มิโซะราเม็ง” “โทริไปตันราเม็ง” และ “สึเกะเม็ง” รวมเป็นราเม็ง 3 ชนิด ประกอบกับรอบที่แล้วเราได้แนะนำราเม็งไปทั้งหมด 6 ชนิด เพื่อนๆ มีราเม็งชนิดโปรด หรือ ราเม็งที่อยากลองทานบ้างรึเปล่าคะ? ถึงแม้ว่าที่ประเทศไทยเองก็เริ่มมีร้านราเม็งญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การได้ลิ้มลองราเม็งจากที่ญี่ปุ่นโดยตรงก็จะได้ลิ้มลองรสชาติแบบดั้งเดิม และรสชาติแปลกใหม่อย่างเช่น โทริไปตันราเม็ง(ราเม็งไก่ซุปขาว) ของ “เม็งโกะ อุชิโอะ”「MENKO USHIO」ที่เราได้แนะนำไปในครั้งนี้ ได้สัมผัสทั้งบรรยากาศและรสชาติอาหารไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ ยังไงก็ลองไปร้านที่เราได้แนะนำไปหรือลองร้านอื่นๆ จาก SNS ต่างๆ ดูนะคะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

Related posts
เรื่องกินเรื่อใหญ่ ตอน “เจาะลึกเรื่อง ปู ปู ในญี่ปุ่น”
OSAKA IN LOVE! ️เก็บตกบรรยากาศวันวาเลนไทน์สไตล์ญี่ปุ่น
ต้อนรับปี 2022 ด้วย 1 DAY TRIP IN OSAKA ร่วมงานเทศกาลสำหรับการค้าขายรุ่งเรืองของญี่ปุ่น
ทำความรู้จักกับ “วัตถุดิบจากภูเขา” หรือ “อาหารป่า” ประจำฤดูใบไม้ร่วงแห่งใบไม้เปลี่ยนสี
อาหารตามฤดูกาลในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี กับวัตถุดิบทะเล(ซีฟู้ด)ทั้ง 3 ชนิด “แซลมอน” “หอยนางรม” และ “ปู”ร่วง
เที่ยวญี่ปุ่นต้องทานซักมื้อ ! ทำความรู้จักกับ “ราเม็ง” อาหารประจำประเทศญี่ปุ่นที่มีอยู่หลากหลายชนิด