อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เดือนกันยายน อากาศที่ร้อนจัดของประเทศญี่ปุ่นก็กำลังจะหมดลง เป็นช่วงเริ่มฤดูใบไม้ร่วง อุณภูมิก็จะลดต่ำลงเรื่อยๆ เพื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเมื่อพูดถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้วก็จะต้องนึกถึง การเก็บเกี่ยวผลไม้ การชมภูเขาไฟฟูจิ หรือช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ 「SHOKUYOKU NO AKI」หรือ “ฤดูใบไม้ร่วงแห่งความอยากอาหาร” ที่เป็นช่วงที่อาหารอุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว ช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อุณภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็ฯช่วงเวลาเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ และฤดูร้อนที่ร้อนระอุ เพื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่มีวัตถุดิบอุดมสมบูรณ์ และอาหารอร่อยๆ มากมาย
เราไปดูกันเลยว่า วัตถุดิบจากทะเล（ซีฟู้ด ）ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจำนวน 3 ชนิดที่จะมาแนะนำในวันนี้จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
เมื่อไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่พลาดไม่ได้อย่างหนึ่งเลยก็คือ “อาหารการกิน” การเพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นก็แตกต่างกันออกไป ทั้งการทานซูชิหรือซาชิมิจากแหล่งต้นกำเนิด การทานอาหารญี่ปุ่นที่เคยทานมาก่อน หรือการลิ้มลองอาหารที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นอย่าง ราเม็ง หรือ หมูทอดทงคัตสึ
ไหนๆ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็กำลังใกล้เข้ามาถึงแล้ว ถ้าไม่ได้ลองวัตถุดิบเฉพาะของฤดูใบไม้ร่วง ก็คงน่าเสียดายไม่น้อย การได้เพลิลดเพลินไปกับเมนูราเม็ง ต่างๆ ก็เป็นหนึ่งในทางเลือก แต่การได้ลองทานซูชิ หรือปลาดิบ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นอีกหนึ่งการเพลิดเพลินกับอาหารญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว และที่ได้รับความนิยมมากๆ อย่างหนึ่งเลยก็คือ
- “ปลาแซลมอน”
หนึ่งในปลานานาชนิดที่ได้รับความนิยม ที่ที่ประเทศญี่ปุ่นจะเรียกปลาแซลมอนว่า「ชาเกะ（SHAKE）」ซึ่งหากพูดแค่คำว่า “ชาเกะ” ก็จะถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายชนิด SHIROZAKE（AKI ZAKE）, BENI ZAKE(ปลาแซลมอนซ๊อกอาย), GINZAKE(ปลาแซลมอนโคโฮ), ปลาแซลมอนแอตแลนติก หรือ ปลาเรนโบว์เทราต์(ตระกูลแซลมอน) และหนึ่งในนั้นจะมีปลา “SHIROZAKE หรือ ปลาแซลมอนชัม” เป็นหนึ่งในปลานานาชนิดของญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งใช้เวลาท่องทะเลยาวนานกว่า ２～８ ปี เพื่อกลับมาวางไข่ที่แม่น้ำบ้านเกิด ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง（ตั้งแต่เดือน กันยายน ไปจนถึงเดือนธันวาคม）ทำให้ปลาเหล่านี้จะไม่มีมัน มีลักษณะเด่นคือ ในเพศผู้จะมี ชิราโกะ SHIRAKO ส่วนเพศเมียจะมี ไข่ปลา（SUJIKO）ถึงแม้ว่าพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการตกปลาแซลมอนก็คือ ทางเหนือของญี่ปุ่นบริเวณฮอกไกโด หรือ โทโฮกุ แต่ช่วงนี้จะมี「SHINSHUU SALMON」ที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เป็นปลาแซลมอนจากจังหวัดนางาโนะในพื้นที่อะซุมิโนะ ที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังเส้นทางอัลไพน์ หรือคามิโคจิ เป็นต้น
ท่านสามารถทานแซลมอนที่หอมมันต่างจากที่ทานที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน ซึ่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นช่วงของปลาแซลม่อน เพราะฉะนั้นท่านสามารถพบเห็นได้ที่ ตลาดปลาสึกิจิ ตลาดคุโรมง หรือตลาดโอมิโจ นอกจากนี้ก็ยังสามารถทานได้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน จะทานแบบ ซูชิ ซาชิมิ(ปลาดิบ) หรือข้าวหน้าปลาดิบ ก็ล้วนอร่อยถูกปากอย่างแน่นอน แต่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ 「ABURI SALMON」อ่านว่า อาบูริ แซลมอน แปลว่า “แซลม่อนลนไฟ” ที่สุกกำลังพอดี สำหรับคนที่ไม่ชอบทานดิบ จะทานกับน้ำจิ้ม หรือเกลือก็หอมอร่อย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
- “หอยนางรม” ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “คา-คิ KAKI”
หอยนางรมที่เป็นหอยที่ได้รับความนิยมในหมู่คนทั่วไป ในช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงเวลาเริ่มเก็บหอยนางรมในแต่ละพื้นที่ หลังจากยกเลิกคำสั่งห้ามตก ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสถานที่ขึ้นชื่อของ “หอยนางรม” ก็คือ บริเวณ “ฮิโรชิมะ” ที่มีโทริอิกลางทะเล ในมิยาจิมะ Miyajima ของศาลเจ้าอิสึกุชิมะ, “โทบะ Toba” ที่พื้นที่ชิมะ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามใกล้ศาลเจ้าอิเสะ หรือ บริเวณ “ไมซุรุ Maizuru” ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่น เป็นต้น
หอยนางรมที่เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอยู่เช่นกันในขณะนี้ เป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษในการรับประทาน ไม่สามารถหาทานสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ประเทศญี่ปุ่นที่มีขั้นตอนกรรมวิธีในการสังเกตุความสดใหม่และกรรมวิธีในการปรุงอาหารที่มีความั่นคงมาแต่ช้านาน เฉพาะฉะนั้นสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวล ซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น จะนิยมรับประทานหอยนางรมกับ เลม่อน หรือ พอนสึ แต่จะรับประทานกับน้ำปลา พริก หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้สำหรับคนไทยเลยใช่ไหมคะ
นอกจากหอยนางรมแบบดิบแล้ว การทานแบบหอยนางรมย่างไฟทาเนยราดโชยุ หรือจะเป็นหอยนางรมทอดก็อร่อยไม่แพ้กัน ท่านสามารถลิ้มลองเพลิดเพลินกับรสชาติหอยนางรมที่สดใหม่ได้อย่างเต็มที่ที่ประเทศญี่ปุ่น
- “ปู” ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “คา-นิ KANI”
หากได้มาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่จะยกมาเป็นอาหารแรกๆ เลยก็คือ “ปู” ซึ่งปูญี่ปุ่นจะมีขนาดที่ใหญ่ ขาวยาว ทั้งรสชาติที่เป็นเลิศ แถมยังเป็นอาหารที่น่าถ่ายรูปเป็นที่สุด ท่านสามารถทานและถ่ายรูปคู่กับปูตัวใหญ่ที่ไม่สามารถหาทานได้ที่ไทย เพื่อลงโซเชียลต่างๆ เรียกยอดไลค์ได้อย่างดีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าท่านสามารถพบเห็นปูตัวใหญ่ได้ตามตลาดปลาในสถานที่ต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่อนุญาติให้ทำการตกปูได้ในประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงวันที่ 20 มีนาคม เป็นเวลา 4 เดือนเท่านั้น（ยกเว้นบางส่วน）ดังนั้นปูที่พบเห็นในตลาดๆ ต่างๆ นอกเหนือจากช่วงเวลาเก็บเกี่ยวส่วนใหญ่จะเป็นปูแช่แข็ง หรือเป็นปูที่รับมาจากรัสเซีย
ในช่วงดือนพฤศจิกายนที่สามารถชมใบเปลี่ยนสีที่งดงาม ท่านสามารถรับประทานปูในช่วงฤดูที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงเหลืองส้ม ได้ในพื้นที่ต่างๆ แถบฝั่งทะเลญี่ปุ่นอย่าง “ฟูกุอิ” “คานาซาว่า(อิชิคาวะ)” “โทยามะ” หรือ “คิโนะซากิออนเซ็น” เป็นต้น
ซึ่งการรับประทานปูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคนไทยก็คงจะเป็น “ขาปูย่าง” เป็นการเพลิดเพลินกับรสชาติความอร่อยของปู จากขาปูเนื้อแน่นๆ ทั้งหอม และหวาน ที่เป็นเอกลักษณ์ของปูญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ โดยปกติแล้วประเทศญี่ปุ่นจะรับประทานปูโดยการจิ้มซอสพอนสึ หรือโชยุ แต่สำหรับคนไทยแล้วน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทานอาหารทะเล หากท่านใดมีแพลนว่าจะทานปูอยู่แล้ว จะเตรียมน้ำจิ้มไปเองก็เป็นอีกหนึ่งความเพลิดเพลินในการทานปู แต่ข้อควรระวังก็คือ ในบางร้านอาจไม่สามารถนำน้ำจิ้มอื่นๆ นอกเหนือจากในเมนู เข้ามารับประทานในร้าน เพราะฉะนั้นควรทำการตรวจสอบโดยการถามทางร้านว่า
「SUIMASEN KANIWO TABERU-TOKI THAI NO TARE WO TUKATTEMO DAIJOUBU DESUKA？？」
（ซุยมาเซ็น คานิ โอะ ทาเบะรุโทกิ ไทย โนะ ทาเระ โอะ สึคัตเตะโมะ ไดโจบุ เดสก้ะ？？）แปลว่า นำน้ำจิ้มที่นำมาจากไทยมารับประทานได้ไหมคะ??
ในครั้งนี้เราได้แนะนำซีฟู้ดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นไปทั้งหมด 3 ชนิด เป็นเมนูขึ้นชื่อที่ขาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่นเลยใช่ไหมคะ นอกจากวัตถุดิบที่ได้แนะนไปแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศญี่ปุ่นยังมีวัตถุดิบตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ร่วงอร่อยๆ อีกมากมาย อย่างเช่น 「ปลาซันมะ」「ปลาอายุ」「ปลาคาสึโอะ(ปลาโอแถบ)」หรือ「ปลามากุโระ หรือปลาทูน่าแท้（เมบาจิมากุโระ หรือ Bigeye tuna）」ฯลฯ เป็นต้น อะไรลองทานอาหารตามฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นกันดูนะคะ ยิ่งทานวัตถุดิบต่างๆ ให้ถูกช่วงฤดูนั้นๆ แล้วท่านจะยิ่งได้เพลิดลเพลินกับความอร่อยที่แท้จริงของวัตถุดิบนั้นๆ ยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งในครั้ต่อไปจะมาพูดถึงวัตถุดิบตามฤดูใบไม้ร่วงตอนที่ 2 กันอีก จะเป็นการแนะนำ “วัตถุดิบทางภูเขา” อย่างเห็ดชั้นดี “เห็ดมัตสึทาเกะ” กันบ้าง พลาดไม่ได้เลย แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า♪
