การท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้วก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นไม่แพ้กันก็คือ “อาหาร”ซึ่งที่ผ่านมาเราได้นำเสนออาหารขึ้นชื่อของ “โอซาก้า”“นาโกย่า” “ฮิดะทาคายาม่า”และ “โทยามะ” กันไปแล้ว วันนี้ก็เป็นครั้งที่ 5!!
แล้วที่เราได้แนะนำอาหารขึ้นชื่อของแต่พื้นที่ในญี่ปุ่น ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับอาหารขึ้นชื่อของ“ฟุกุอิ”「FUKUI」ที่เรากำลังจะแนะนำอยู่ในคอนเทนท์「Round the CHI」ของ ICHIGO-JAPAN
อาหารขึ้นชื่อของฟุกุอิที่มีเมนูถูกปากคนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติมากมาย ซึ่งลักษณะเด่นของอาหารฟุกุอิก็คือ อาหารที่มีรสชาติเข้มข้น ชัดเจน โดยจังหวัดฟุกุอินั้นสามารถนั่งรถไฟจากโอซาก้าไปเพียง 2 ชั่วโมง หรือนั่งจากเกียวโตมา 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น อาหารขึ้นชื่อของ “ฟุกุอิ” จะน่าทานแค่ไหน ลองไปดูกันเลย!
① ซอสคัตสึดง SAUCE KATSUDON
อาหารญี่ปุ่นที่คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบ โดยเฉพาะ「ทงคัตสึ」หรือ หมูทอด ที่โปะอยู่บนข้าว เรียกว่า「KATSU DON」ซึ่งเมื่อพูดถึงคัตสึดงที่ญี่ปุ่นแล้ว ก็คงจะนึกถึงเมนูหมูทอดกับไข่ แต่ข้าวหน้าหมูทอดของฟุกุอินั้นจะเป็น「SAUCE KATSUDON」คือ หมูทอดที่จุ่มซอสหวานเค็มเข้มข้น บนข้าวเปล่า แต่ละร้านก็จะแตกต่างกันออกไป บางร้านก็มีแค่ข้าวหน้าหมูทอดเท่านั้น หรือบางร้านอาจเป็นข้าวหน้าหมูบวกกระปล่ำปลีหรือราดมองยองเนสลงบนข้าว ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำร้านควรไปจำนวน 2 ร้านด้วยกัน
หากพูดถึงซอสคัตสึของฟุกุอิก็ไม่ควรพลาดร้าน “โยรปปะเค็น”『YOROPPAKEN』
ร้าน “โยรปปะเค็น”「YOROPPAKEN」นี้เป็นร้านเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่า 105 ปีเปิดทำการตั้งแต่ปี พ.ศ.2456 เป็นร้านต้นตำรับของซอสคัตสึดง สาเหตุที่ร้านนี้มีชื่อว่า “โยรปปะเค็น” เนื่องจากในเจ้าของร้านได้เดินทางไปเรียนทำอาหารเยอรมันเพื่อไปเรียนรู้อาหารยุโรป ซึ่งคำว่า “ยุโรป” สำเนียงญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า “โยรปปะ” นั่นเอง
ร้าน “โยรปปะเค็น”「YOROPPAKEN」ตั้งอยู่ในสถานที่ที่เข้าถึงได้ง่าย อยู่ในพื้นที่บริเวณ สถานีฟุกุอิ หรือ ย่านร้านค้า “คาตะมาจิ”「KATAMACHI」
สะดวกต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวมากๆ 『MAP』
“ซอสคัตสึดง” ขึ้นชื่อของร้านจะมาเสริฟ์พร้อมสลัด กับซุป กับ「KATSU DON SET」(1080 เยน)ซึ่งแขกที่มาทานที่ร้านนี้ส่วนใหญ่จะสั่งเมนูนี้ ด้วยวูสเตอร์ซอสแบบเยอรมัน และการรักษามาตรฐานความอร่อยของซอสไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มเปิดบริการจนถึงปัจจุบัน ส่วนเนื้อหมูทอดก็ไม่หนาจนเกินไป มีความกรอบในขณะที่รสชาติเข้มข้น ไม่มันและเลี่ยนจนเกินไป ซอสของหมูทอดที่ซึมลงสู่ข้าวเล็กน้อยก็ทำให้ไม่สามารถหยุดทานได้เลยทีเดียว
ซึ่งปริมาณข้าวที่เสิรฟ์ในแต่ละเมนูของญี่ปุ่น หลายคนอาจจะคิดว่าได้ข้าวเยอะจนทานไม่หมด เราสามารถเหลือข้าวที่ทานไม่หมดได้ค่ะ แต่หากใครที่ต้องการลดข้าวตั้งแต่แรก ก็สามารถพูดกับพนักงานว่า
「GOHAN NO RYOU WA SUKUNAME DE ONEGAISHIMASU」
「โกะฮัง โนะ เรียว วะ ซุคุนาเมะ เด้ะ โอเนกาอิชิมัส(ขอข้าวไม่เยอะนะคะ)」
และอีกร้านหนึ่งที่อยากจะแนะนำก็คือร้าน “ฟุกุชิน”「RESTAURANT FUKUSHIN」นั่งแท็กซี่จากสถานีฟุกุอิไปประมาณ 10 นาที เป็นร้าน “ซอสคัตสึดง” ขึ้นชื่อของพื้นที่ในฟุกุอิเทียบเคียงกับร้าน “โยรปปะเค็น”「YOROPPAKEN」ถึงแม้ว่าบริเวณโดยรอบนี้จะไม่มีระบบขนส่งในการเดินทางที่สะดวกต่อนักท่องเที่ยว แต่ก็สามารถนั่งแท็กซี่ไปทานได้ค่ะ 『MAP』
ซึ่งจุดขายของร้านนี้ก็คือ ความอร่อย และปริมาณของซอสคัตสึที่ได้ เป็นเมนูซอสคัตสึดงที่เราจะได้หมูทอดหลายชิ้นวางซ้อนๆ กันแบบนี้ น่าถ่ายรูปลงโซเชียลมากๆ
เมนู「SAUCE KATSUDON・BIG」(1100 เยน)นี้จะได้ปริมาณเยอะมากๆ เพราะฉะนั้นซื้อมาแชร์กันทานก็ไม่เลวนะคะ
② ปูเอจิเซ็น ECHIZEN GANI
อีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วก็อยากลองทานดูซักครั้ง นั่นก็คือ「ปู」ซึ่งเมนูปูที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นปูที่ต่างจากประเทศไทย ซึ่งจะใหญ่ ขายาว และหวานอร่อยกว่ามากๆ สีแดงสวยเหมาะเอาลงโซเชียลอีก
“ปูเอจิเซ็น” เป็นปูที่มีความหวานและขนาดใหญ่กว่าปูชนิดอื่นๆ ในญี่ปุ่น และยังเป็นปูที่ถวายให้แก่พระราชวัง(ครอบครัวของพระจักรพรรดิ)ของญี่ปุ่นทุกๆ ปีด้วย เป็นปูอันดับหนึ่งที่เมื่อได้รับการเช็คขนาดและเนื้ออย่างละเอียดแล้วก็จะถูกติดป้ายสีเหลืองแบบในภาพ รับรองว่าได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว
และช่วงของปูเอจิเซ็น ก็คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคม ซึ่งหากใครต้องการทานปูเอจิเซ็น(แบบไม่แช่แข็ง)อร่อยๆ ก็แนะนำให้มาฟุกุอิช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ ในช่วงที่อากาศหนาวเย็น ส่วนใหญ่การทานปูเอจิเซ็นจะเป็นการจองจากแพลน「ECHIZENGANI DINNER」พร้อมที่พักตามโรงแรมหรือเรียวคัง แต่ในวันนี้เราจะมาแนะนำร้านที่สามารถทานปูเอจิเซ็นได้โดยไม่ต้องจองที่พักกันค่ะ
ถึงแม้ว่าที่ในตัวเมืองฟุกุอิเองก็มีร้านที่สามารถทานปูได้หลายร้าน แต่ร้านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวหรือคนในพื้นที่มากๆ ก็คือรร้านที่มีปูตัวใหญ่ยักษ์เกาะบนหลังคา กับร้าน “คานิโนะโบ”「KANI NO BOU」โดยนั่งรถไฟจากสถานีฟุกุอิมาประมาณ 50 นาที ร้านจะอยู่หน้าสถานีมิคุนิมินาโตะ MIKUNI MINATO EKIMAE เลย ตามที่เราได้แนะนำไปในทริปท่องเที่ยว “มิคุนิมินาโตะ”
“คานิโนะโบ”「KANI NO BOU」เป็นร้านอาหารของเรียวคัง「BOUYOUROU」ที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูปูเอจิเซ็นได้อย่างเต็มอิ่ม มีเมนูปูมากมายทั้ง「SPECIAL SEIKO DON」(5180 เยน)「ZUWAIDON」(7280 เยน)และที่สำคัญคือมีเมนูแบบ FULL COURSE(22000 เยน-39500 เยน)ถ้าได้ทานแบบจัดเต็ม FULL COURSE รับรองว่า มื้อนั้นจะต้องเป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวในครั้งนั้นแน่นอนเลยค่ะ
ซึ่งนอกจากอาหารขึ้นชื่ออย่าง “ซอสคัตสึดง” หรือ “ปูเอจิเซ็น” ที่เราได้แนะนำไปแล้วยังมีอาหารฟุกุอิอีกมากมาย อย่างเช่น 「SABA SUSHI」ซูชิซาบะที่สามารถซื้อไปเป็นของฝากหรือเปิดทานได้ในรถไฟ 「ECHIZEN SOBA」หอมอร่อย「KAISENDON」ปลาสดใหม่จากทะเลญี่ปุ่น และ「BORUPO RICE」ที่ประกอบไปด้วยข้าวห่อไข่ โปะด้วยทงคัตสึหมูทอด เป็นต้น
เมื่อเทียบกับโตเกียว หรือ โอซาก้า แล้วฟุกุอิ อาจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีอาหารขึ้นชื่ออยู่มากมายหลากหลายชนิด
“ฟุกุอิ” ที่เต็มไปด้วยอาหารขึ้นชื่อมากมายนี้ จะเดินทางไปทานร้านอาหารเฉพาะของแต่ละชนิดทุกร้านก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่ทำให้ได้ทานอาหารอย่างเต็มที่และเป็นการท่องเที่ยวไปในตัว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัด ไม่สามารถท่องเที่ยวกินอาหารขึ้นชื่อให้ครบทุกที่ เราจึงอยากแนะนำเป็นร้านอาหารที่รวมอาหารขึ้นชื่อของฟุกุอิเอาไว้มากมายอย่างร้าน “ฟุกุบุกุ ฉะยะ”「FUKUBUKU CHAYA」ที่อยู่ชั้น 2F ภายในตึก“แฮปปี้ริ่ง ฟุกุอิ”「HAPPIRING FUKUI」หน้าสถานีฟุกุอิ ที่รวบรวมอาหารขึ้นชื่อของฟุกุอิเอาไว้แบบครบครัน เลือกทานได้อย่างเต็มที่
ถึงแม้ว่า “ฟุกุอิ” จะไม่ใช่พื้นที่ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่น แต่ก็เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่อื่น ทั้งธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว และที่สำคัญเลยก็คือ “อาหารการกิน” โดยเฉพาะ “ปูเอจิเซ็น” ที่แตกต่างจากปูทั่วไปที่โตเกียวหรือโอซาก้า ทางฝั่งฟุกุอิที่มีอุณภูมิต่ำกว่าเมืองทางฝั่งทะเลแปซิฟิก นั้นมีทั้งธรรมชาติที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มากมาย ทั้ง “ซากุระ” ในฤดูใบไม้ผลิช่วงสงกรานต์ หรือ “หิมะ” ในฤดูหนาวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เมื่อมาเที่ยวแล้วก็ต้องรู้สึกอยากมาเที่ยวซ้ำอีก เช่นเดียวกับ “โตเกียว” “โอซาก้า” หรือ “ฟูจิ” ยังไงก็ลองไปเที่ยวกันดูนะคะ แล้วคุณจะหลงรัก “ฟุกุอิ” เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นแน่นอน แล้วพบกันใหม่ค่ะ