มารู้จักกับ IC CARD สำหรับรถไฟของญี่ปุ่นกัน

คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น อย่างน้อยจะต้องมีซักครั้งอยู่แล้วที่จะขึ้นรถไฟ

「ประเทศแห่งรถไฟ」 เมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียวหรือโอซาก้า ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถใช้รถไฟหรือรถไฟใต้ดินได้แทบจะทุกที่

แต่ที่จะลำบากหน่อยคือการซื้อตั๋วรถไฟ

ถ้าจะต้องหาเส้นทางรถไฟจากแผนผังที่อยู่ด้านบนตู้จำหน่ายตั๋วแล้ว ยังต้องซื้อตั๋วทุกๆครั้งที่ขึ้นรถไฟอีก

ในเวลาแบบนี้ ที่จะช่วยเราได้มากเลยก็คือ IC CARD สามารถทำให้เราไม่ต้องไปซื้อตั๋วทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟ และยังทำให้เราได้ท่องเที่ยวอย่างสบายใจอีกด้วย

ที่กรุงเทพก็จะมี Rabbit Card ,MRT card หรือ SmartPass ของแอร์พอร์ตลิงค์อยู่

ซึ่งจะใช้ได้เฉพาะบัตรของมันเท่านั้นในแต่ละที่ เวลา ICHIGO-CHAN ขึ้น MRT กับ BTS ทุกวันก็ต้องพกบัตรไปทั้งสองใบเลย

ขอนอกเรื่องนิดนึง…..แค่อยากจะบอกว่า บัตร Rabbit Card ของ ICHIGO-CHAN เป็นลาย คุมมะมงด้วยนะ

เอาล่ะพักเรื่องนี้ไปก่อน… มาต่อกัน IC CARD ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะสามารถใช้ร่วมกับอย่างอื่นได้ด้วย

ยกตัวอย่างเช่น เราจะสามารถนำบัตรรถไฟ IC CARD ที่ซื้อจากโตเกียวไปใช้กับรถบัสที่ฮอกไกโดหรือคิวชูได้ด้วย

IC CARD ก็จะมีอยู่หลายชนิดขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทและพื้นที่นั้น

หลักๆก็จะมี

Suica(JR HIGASHI NIHON)

TOICA(JR TOKAI)

ICOCA(JR NISHI NIHON)

PASMO(บริษัทรถไฟเอกชนของแถบคันโต KEIKYU・ODAKYU・SEIBU)

PiTaPa (บริษัทรถไฟเอกชนของแถบคันไซ HANKYU・HANSHIN)

นอกจาก PiTaPa จะเป็นบัตรแบบ Prepaid

ราคา 2000 เยน (ค่ามัดจำ 500 เยน ใช้เงินได้เป็นจำนวน 1500 เยน) นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวแค่แปปเดียวก็สามารถซื้อได้

วิธีซื้อก็ง่ายนิดเดียว

สามารถซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติได้เลย

ก่อนอื่นก็เปลี่ยนหน้าจอให้เป็นภาษาอังกฤษ และกดที่「Purchase ICOCA(ชื่อ IC Card)」

แล้วกดไปที่ ICOCA(ชื่อ IC Card)2000 จากนั้นก็แค่ใส่เงินก็เป็นอันเสร็จ

แน่นอนว่าจะซื้อที่ช่องจำหน่ายตั๋วก็ได้เหมือนกัน

ถ้ารู้สึกว่าซื้อที่ตู้อัตโนมัติแล้วมันกดดันก็ไปซื้อที่ช่องจำหน่ายตั๋วได้

พอซื้อ IC CARD เสร็จแล้วก็นำบัตรที่ซื้อมาไปแตะในช่องวงกลมสีเหลืองได้เลย แค่นี้ก็สามารถผ่านเข้าไปในชานชาลาได้เลย ค่าใช้จ่ายก็จะถูกหักออกไปตอนที่เราแตะออกเลย

ถ้าเป็น IC CARD ที่ไทยเวลาที่เราอยากจะเติมเงินเราก็ต้องไปต่อแถวที่ช่องจำหน่ายตั๋วเพื่อเติมเงินในบัตร แต่ที่ญี่ปุ่นเราสามารถเติมเงินในบัตรได้จากตู้อัตโนมัติเลย

วิธีเติมก็ง่ายนิดเดียว

ก่อนอื่นเลยก็ให้ใส่บัตรเข้าไปในช่องวงกลมสีเหลือง พอใส่เข้าไปแล้วก็กดปุ่ม 「English 」จากนั้นก็กดจำนวนเงินที่ต้องการจะเติม และก็ใส่เงินลงไปในขั้นตอนสุดท้าย เท่านี้ก็เสร็จแล้ว

แน่นอนว่า IC CARD เป็นบัตรที่ใช้สำหรับการเดินทางอยู่แล้ว แต่ว่าที่ร้านหรือสถานที่ต่างๆในญี่ปุ่นก็สามารถใช้บัตรนี้ได้เหมือนกัน เช่น ตู้กดอัตโนมัติ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าอย่าง LUMINE หรือ LUCUA  ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า BIC CAMERA หรือ Yodobashi camera โรงแรมบางที่ เหล่านี้สามารถใช้ได้

อาจจะลองถามพนักงานดูก่อนว่าใช้ IC CARD ได้หรือเปล่า

「Suica DE SHIHARAI DEKIMASUKA?」

「Suica เด้ะ ชิฮาไร เดคิมาสุก้ะ?」

(จ่ายด้วย Suica ได้ไหมคะ?)

IC CARD ที่ครอบคลุมมากที่สุดก็คือ Suica

ถ้าบอกชื่อบัตรชนิดอื่นพนักงานที่ร้านก็อาจจะไม่รู้จัก แต่ส่วนใหญ่จะรู้จัก Suica กัน

ICHIGO-JAPAN จะมาแนะนำ IC CARD ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รู้จักกัน

ก่อนอื่นเลยสำหรับคนที่จะไปแถบคันไซ แนะนำให้ใช้ 「KANSAI ONE PASS(ICOCA)」

ราคาก็เหมือนกัน IC CARD ทั่วไปคือ 2000 เยน(ค่ามัดจำ 500 เยน・จำนวนที่ใช้ได้ 1500 เยน)

ความจริงแล้วมันก็คือ ICOCA เพราะฉะนั้นจะใช้กับ JR บริษัทรถไฟเอกชน และบัสได้ทั่วประเทศ

และเสน่ห์อีกอย่างก็คือเราจะสามารถออกแบบลายของตัวเองได้ด้วย เฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้

ถ้าแสดงบัตรบ『KANSAI ONE PASS』ในสถานที่ส่วนใหญ่ในแถบคันไซ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ช้อปปิ้ง ร้านอาหาร หรือโรงแรม ส่วนใหญ่จะได้รับส่วนลดพิเศษด้วย

เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง 「Osaka Aquarium KAIYUKAN」ถ้าแสดงบัตร KANSAI ONE PASS ก็อาจจะได้รับของที่ระลึก ส่วนที่「ปราสาทฮิเมะจิ」ก็จะได้รับส่วนลด 20% จาก 1000 เยน เหลือ 800 เยน !!

แต่ที่สำคัญเลยคือไม่มีวันหมุดอายุ สมมุติว่าอีก 10 ปีข้างหน้าได้มาญี่ปุ่นอีกก็สามารถใช้ได้

สำหรับการซื้อหรือคืนเงินก็สามารถทำได้ที่ Information ของสถานีสนามบินคันไซ สถานีชินโอซาก้า สถานีฮันคิวอุเมะดะ หรือสถานีรถไฟหลักๆของคันไซได้

IC CARD นี้เป็นบัตรเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ดังนั้นจึงไม่สามารถซื้อจากตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติได้ ซื้อได้เฉพาะที่ช่องจำหน่ายบัตรเท่านั้น

แสดงหนังสือเดินทาง Passport (หน้าที่มีตราประทับขาเข้าประเทศ)และเตรียมเงินจำนวน 2000 เยนเอาไว้แล้วไปที่จำหน่ายตั๋วได้เลย

และท้ายนี้อยากจะแนะนำให้รู้จักกับ แอพพลิเคชั่นของ  Suica

ณ ตอนนี้ (เดือน กุมภาพันธ์ 2018) การลงทะเบียนยังมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น สำหรับคนที่ไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นก็อาจจะลำบากนิดนึง แต่สำหรับคนที่ใช้ iPhone8・iPhone8Plus・iPhone X ก็สามารถดาวน์โหลด และใช้  iPhone ของคุณแทน IC CARD ได้เลย (การลงทะเบียนจะต้องใช้บัตรเครดิต)

สามาถเติมเงินได้จาก บัตรเครดิตหรือ Apple Pay ได้เลย ใช้ iPhone เป็นตั๋วรถไฟได้ด้วยโลกนี้พฒนามากจริงๆ

ในครั้งนี้เราได้มาแนะนำ IC CARD ที่ใช้ในการเดินทางให้ทุกคนรู้จัก

แน่นอนว่า IC CARD สามารถช่วยให้ท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นก็จริง แต่เราก็ควรเลือก IC CARD ให้เหมาะกับสถานที่ และสไตล์การท่องเที่ยวของเราด้วย ยังไงถ้ามาครั้งหน้าก็ลองเลือกใช้กันดูน้า♪