Day4-3 ทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับเมนู “กุ้งทอด” ที่ “ร้านอาหารมารุฮะ”「MARUHA RESTAURANT」และเดินช้อปปิ้งในเมืองนาโกย่าก่อนเดินทางไปยังท่าอากาศยานชูบุเซ็นแทรร์

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day4-3 ทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับเมนู “กุ้งทอด” ที่ “ร้านอาหารมารุฮะ”「MARUHA RESTAURANT」และเดินช้อปปิ้งในเมืองนาโกย่าก่อนเดินทางไปยังท่าอากาศยานชูบุเซ็นแทรร์

NAGOYAHIDAFURUKAWAHIDATAKAYAMA-SHIRAKAWAGOTOYAMAKUROBE・KYOUKOKUYUKINOOTANI-TOYAMANAGOYA

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ จากความเดิมตอนที่แล้ว ICHIGO-CHAN ได้ไปเที่ยวชม “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า”「TOYOTA

COMMEMORATIVE MUSEUM OF INDUSTRY AND TECHNOLOGY」และช้อปปิ้งที่「OASIS 21」

Day4-2 ชมวิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ของ “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า”「TOYOTA COMMEMORATIVE MUSEUM OF INDUSTRY AND TECHNOLOGY」และช้อปปิ้งภายในเมืองนาโกย่า

ตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลาเดินทางไปที่สนามบินกันแล้ว แต่ก่อนไปเราจะไปหาอะไรทานกันก่อน ซึ่งครั้งนี้เราจะไปทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับเมนู “กุ้งทอด” ตัวใหญ่ที่ร้าน “ร้านอาหารมารุฮะ”「MARUHA RESTAURANT」จากนั้นจะมุ่งหน้าไปที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์กันค่ะ

ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ก็ได้มาที่ “ร้านอาหารมารุฮะ”『MARUHA RESTAURANT』ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณซากาเอะ・นาโกย่ากับห้าง「LACHIC」ที่ชั้น 8F เข้าไปในร้านกันเลย

 “ร้านอาหารมารุฮะ”「MARUHA RESTAURANT」นี้ถึงแม้ว่าชื่อจะดูธรรมดาเหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นทั่วไป แต่พอเข้ามาในร้านแล้วร้านดูเรียบหรู ชิคและดูดีมากๆ อีกทั้งยังสามารถชมวิวสวน「HISAYAODORI PARK」ยามค่ำคืนได้จากหน้าต่างบานใหญ่ ภายในร้านจะมีทั้งที่นั่งแบบโต๊ะ แบบโซฟา และแบบเคาน์เตอร์ ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ก็นั่งได้สบายเลยค่ะ

บริเวณทางเข้าร้านก็จะมีตู้ปลาอยู่ด้วย มีทั้งปู กุ้ง แล้วก็หอยเต็มไปหมด

 “ร้านอาหารมารุฮะ”「MARUHA RESTAURANT」นี้มีเมนูมากมายทั้งเมนูปลาดิบนานาชนิดที่สดใหม่ แต่เมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คืออาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับ “กุ้งทอด” ดูจากเมนูที่มีรูปข้าวหน้ากุ้งทอดเต็มๆ แบบนี้แล้วก็รู้เลยนะคะว่าต้องเป็นเมนูยอดนิยมมากๆ กับ ข้าวหน้ากุ้งทอดขนาดใหญ่ “โอเอบิฟรายดง”(1480 เยน)แน่นอนว่า ICHIGO-CHAN ก็จะสั่งเมนูนี้ด้วย

ระหว่างรออาหารก็ชมวิวนาโกย่าไปเพลินๆ

 “โอเอบิฟรายดง”(1480 เยน)กับกุ้งตัวใหญ่มากถึงสองตัว ใหญ่กว่าหน้า ICHIGO-CHAN อีก

กลิ่นก็หอมมากๆ กับกลิ่นหอมๆ ของมิโซะที่มีรสชาติหวานๆ เค็มๆ ที่มีเอกลักษณ์ของนาโกย่า คิดว่าจะต้องถูกปากหลายๆ คนแน่ๆ ค่ะ กุ้งที่ทอดใหม่กรอบๆ กับเนื้อกุ้งนุ่มๆ ด้านใน กุ้งก็สดมากๆ ด้วย

ICHIG-CHAN ได้ทานอาหารนาโกย่าปิดท้ายทริปแล้ว เมนู “โอเอบิฟรายดง” ราคา 1480 เยน ญี่ปุ่น ที่ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนของก็แพงไปหมด แต่เมื่อเทียบคุณภาพที่ได้มากแล้วถือว่าคุ้มมากๆ ถ้านับรวมทุกอย่างโดยภาพรวมแล้วก็ถือว่าอาจจะถูกกว่าที่ไทยไปเลยก็ได้นะคะ

พนักงานที่นี่บริการดีมากๆ ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะมีนั่งท่องเที่ยวไต้หวันมาเที่ยวเยอะขึ้นเพราะว่าร้านนี้กำลังเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลาย

ยังไงก็ลองไปทานดูนะคะ ไปทานกุ้งตัวใหญ่ๆ กับซอสหอมหวานกัน

ตอนนี้ก็ใกล้ 2 ทุ่มแล้ว ได้เวลาจะต้องเดินทางไปสนามบินกันแล้ว ไปเดินเล่นภายในซากาเอะกันอีกซักนิด ออกจาก “ร้านอาหารมารุฮะ”「MARUHA RESTAURANT」ที่อยู่ในห้าง LACHIC โดยออกจากประตูฝั่งตรงข้ามตอนขามา เมื่อออกประตูมาแล้วเดินไปทางขวา จากนั้นก็ข้ามทางม้าลายไปทางฝั่งซ้าย ก็จะเจอกับห้าง MELSA ภายในห้างก็จะมีทั้ง「UNIQLO」「ABC MART」และร้านร้อยเยน “ไดโซะ” และที่อยู่ด้านข้าง MELSA ฝั่งซ้ายก็คือ……..

ช้อป Onitsuka Tiger ขนาดใหญ่ ที่ร้าน Onitsuka Tiger ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณนาโกย่านี้ มีสินค้าให้เลือกเยอะมาก และที่สำคัญคือที่ร้านจะมีโซน「NIPPON MADE」ที่เป็นรุ่นแพงๆ สินค้าที่ผลิตที่ญี่ปุ่นเด้วย

หลังจากแวะช้อป Onitsuka Tiger เล็กน้อยแล้วก็ไปสนามบินกันเลย โดยเราจะนั่งรถไฟใต้ดินสายฮิกาชิยามะ HIGASHIYAMA LINE เพื่อเดินทางจากซากาเอะไปสถานีนาโกย่า และเปลี่ยนเป็นรถไฟ MEITETSU ที่สถานีนาโกย่า ก่อนอื่นก็เดินออกจากห้าง MELSA ไปและข้ามทางม้าลายที่เพิ่งข้ามมาเมื่อสักครู่ และตรงไปเรื่อยๆ และข้ามทางม้าลายต่อจากนั้นก็เลี้ยวไปทางซ้ายและข้ามถนนไปอีกรอบ

และที่เห็นอยู่ตรงหน้าในตอนนี้ก็คือ นาโกย่า ทีวี ทาวเวอร์ พอดูแบบนี้ที่นี่สวยเหมือนหอไอเฟลเลย เซลฟี่ด้วยซักหน่อยก่อนไปสนามบิน

สถานีรถไฟใต้ดินซากาเอะ สายฮิกาชิยามะ จะเชื่อมต่อกับ OASIS 21 ที่เราเพิ่งไปเมื่อสักครู่ ความจริงแล้ว ลงบันไดเลื่อนที่ OASIS 21 ไปก็จะใกล้กว่า แต่ถ้าใครอยากเดินบนดินเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ เมืองก็ไม่เลวเหมือนกันนะคะ

ลงบันไดเลื่อนที่ OASIS 21 เพื่อไปชั้นใต้ดินแล้ว ก็เลี้ยวไปทางซ้าย ผ่านด้านหน้า STARBUCKS และขึ้นบันไดเลื่อนๆ เล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้าไปก็จะเป็นสถานีรถไฟใต้ดินสถานีซากุเอะ สายฮิกาชิยามะเลย

ก่อนอื่นก็จะต้องเช็คราคาตั๋วจากบอร์ดแผนผังที่อยู่ด้านบนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ราคาตั๋วไปถึงนาโกย่าอยู่ที่ 200 เยน

เมื่อเช็คราคาเรียบร้อยแล้วก็ใส่เงินเข้าไปในช่องก่อน จากนั้นก็กดจำนวนเงินที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอ ตามราคาตั๋วที่เราต้องการจะไป คือ 200 เท่านี้ก็เรียบร้อย

เราสามารถเช็คราคาตั๋วได้ก่อนล่วงหน้าจากเว็บไซต์ โดยค้นหาจากมือถือได้เพียงแค่ใส่ข้อมูลสถานีต้นทางและสถานีปลายทางเท่านั้น อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย !การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว

นอกจากนี้สำหรับใครที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ 10 คนขึ้นไปก็สามารถเลือกซื้อแบบ「回数券」「KAISUUKEN」อ่านว่า “ไคซูเค็น” แปลว่า “ตั๋วคูปอง” ได้“ไคซูเค็น” คืออะไร ? คลิ๊กอ่านรายละเอียดเลย !ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ มันคืออะไรไปดูกันเลย

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าไปในช่องตรวจตั๋วที่อยู่ตรงหน้าเลย และลงบันไดที่อยู่ตรงหน้าเพื่อไปที่ชานชาลา โดยหากต้องการไปที่นาโกย่า จะต้องนั่งรถไฟที่มุ่งหน้าไปยัง “ทาคาฮาตะ”「TAKAHATA」เมื่อลงจากบันไดมาจะอยู่ซ้ายมือ

เมื่อลงจากรถไฟใต้ดินแล้ว ก็เดินขึ้นบันไดที่อยู่ภายในชานชาลาเพื่อไปที่ลานกว้างภายในสถานี จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับช่องตรวจตั๋ว ออกจากช่องตรวจตั๋วไปทางขวามือ จากนั้นก็จะเห็นทางเดินใต้ดินขนาดใหญ่ ให้เดินไปทางซ้าย ไปซักพักก็จะเจอทางออกหมายเลข 8 อยู่ด้านขวามือ ขึ้นบันไดไปก็จะมาถึงสถานีนาโกย่าเลย

เข้าไปในสถานีและตรงไปเรื่อยๆ เดินไปจนเจอนาฬิกาสีทอง เมื่อเจอแล้วก็เดินเข้าซอยไปทางซ้ายมือ จะเป็นทางที่มีตู้ล๊อคเกอร์เรียงกันอยู่ เอาสัมภาระแล้วก็ออกจากสถานีที่ประตูทางออก「HIROKOJI」จากนั้นก็เดินข้ามทางม้าลายไป จะเจอบันไดทางเข้า「MEITETSU NAGOYA STATION」อยู่ทางขวามือทันที ลงบันไดไปเลย

เมื่อลงบันไดมาแล้วก็จะเจอจุดจำหน่ายตั๋วอยู่ทางซ้ายมือทันที

ก่อนอื่นกต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋ว ค่าเดินทางไปสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ ราคา 870 เยน เมื่อเช็คราคาเรียบร้อยแล้วก็ใส่เงินเข้าไปในช่องใส่เงินก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นก็กดจำนวนเงินตามราคาตั๋วที่ได้เช็คไว้คือ 870 เยน เท่านี้ก็เรียบร้อย

เราสามารถเช็คราคาตั๋วได้ก่อนล่วงหน้าจากเว็บไซต์ โดยค้นหาจากมือถือได้เพียงแค่ใส่ข้อมูลสถานีต้นทางและสถานีปลายทางเท่านั้น อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย !การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว

นอกจากนี้สำหรับใครที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ 10 คนขึ้นไปก็สามารถเลือกซื้อแบบ「回数券」「KAISUUKEN」อ่านว่า “ไคซูเค็น” แปลว่า “ตั๋วคูปอง” ได้“ไคซูเค็น” คืออะไร ? คลิ๊กอ่านรายละเอียดเลย !ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ มันคืออะไรไปดูกันเลย

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ผ่านเข้าไปในช่องตรวจตั๋วเลย ขึ้นบันไดเล็กๆ ที่อยู่ซ้ายมือเพื่อขึ้นไปที่ลานจุดนัดพบสถานี รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ท่าอากาศยานชูบุเซ็นแทรร์ จะออกตัวจากชานชาลาที่ 4 ให้เดินเยื้องไปทางขวาเพื่อไปที่ชานชาลาหมายเลข 4

จะมีรถไฟอื่นๆ ออกตัวจากชานชาลานี้ด้วย เฉพาะฉะนั้นดูให้ดีๆ ก่อนขึ้นนะคะ อย่าลืมว่าต้องนั่งรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์เท่านั้น

รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ทั้งหมดจะเป็นแบบระบุที่นั่ง ของ LIMITED EXPRESS μ SKY ที่มีอยู่สามชนิดคือ แบบรถด่วนพิเศษ แบบด่วนและแบบด่วนระหว่างทาง ซึ่งวันนี้เราจะเลือกเป็นแบบด่วนพิเศษค่ะ

ภายในรถไฟด่วนพิเศษนี้ก็จะมีที่นั่งอยู่ 2 แบบภายในขบวนเดียว ทั้งที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากันได้ กับที่นั่งแบบแถวยาว

ถ้ามากันเป็นกลุ่มก็แนะนำให้จองที่นั่งแบบนั่งหันหน้าเข้าหากัน

เราจะใช้เวลานั่งรถไฟ 33 นาทีจนมาถึงสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ เมื่อออกมาจากช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินขึ้นทางสโลปไป และไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ที่อยู่ซ้ายมือ

เคาน์เตอร์ของสายการบินไทย จะอยู่ที่เคาน์เตอร์ F เข้ามาในเทอร์มินอลสนามบินไปทางซ้ายมือเคาน์เตอร์ที่ 2 เป็นเคาน์เตอร์แบบเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ เมื่อเทียบกับสนามบินคันไซ หรือสนามบินฮาเนดะที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นมากๆ ในช่วงบินรอบดึกแล้ว สนามบินชูบุในรอบดึกจะมีเพียงสายการบินไทยเท่านั้น เฉพาะฉะนั้นจะคนน้อยมากๆ ทั้งขั้นตอนของ ตม.หรือตรวจเช็คสัมภาระก็เป็นไปอย่างราบรื่น

 ในทริปนี้ ICHIGO-CHAN ได้ไปท่องเที่ยวเมือง “ฮิดะฟูรุคาวะ” เพื่อตามรอบเมืองในฉากภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง「KIMINONAWA」ที่ ICHIGO-CHAN ชอบ เดินเล่นตลาดเช้า และชมบรรยากาศเมืองเก่าแก่ที่ “ฮิดะทาคายาม่า” จากนั้นก็ไปชมหู่บ้านโบราณ “ชิราคาวาโกะ” ตามด้วยการชมทิวเขาทาเทยามะและแม่น้ำคุโรเบะ ด้วยการนั่งรถไฟชมวิว TOROKKO ต่อด้วย กำแพงหิมะ”ยูกินะโอทานิ” ที่ทาเทยามะคุโรเบะเส้นทางอัลไพน์ และปิดท้ายด้วยนาโกย่า

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไปแต่ละที่มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป แถมยังรู้สึกอยากไปอีก

 นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่าง “โตเกียว” “ฟูจิ” “โอซาก้า” และ “เกียวโต” แล้วประเทศญี่ปุ่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เราจะเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อเที่ยวให้ครบทุกที่ในประเทศญี่ปุ่น

เราจะนั่งเครื่องบินไปประมาณ 6 ชั่วโมง เพื่อเดินทางกลับไปประเทศไทย แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวเราจะกลับมาใหม่แน่นอนค่ะ แล้วพบกันใหม่นะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day4-3 NAGOYA/CHUBU INTERNATIONAL AIRPORT】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK