Day4-2 ชมวิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ของ “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า”「TOYOTA COMMEMORATIVE MUSEUM OF INDUSTRY AND TECHNOLOGY」และช้อปปิ้งภายในเมืองนาโกย่า

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day4-2 ชมวิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ของ “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า”「TOYOTA COMMEMORATIVE MUSEUM OF INDUSTRY AND TECHNOLOGY」และช้อปปิ้งภายในเมืองนาโกย่า

NAGOYAHIDAFURUKAWAHIDATAKAYAMA-SHIRAKAWAGOTOYAMAKUROBE・KYOUKOKUYUKINOOTANI-TOYAMANAGOYA

จากความเดิมตอนที่แล้ว ICHIGO-CHAN ได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อย่าง การนั่งรถไฟชมวิว KUROBE GORGE RAILWAY และ “กำแพงหิมะ” ของ “ทาเทยามะ คุโรเบะ เส้นทางอัลไพน์” แล้ว เราจะเดินทางออกจากโทยามะด้วยรถไฟด่วนพิเศษ WIDE VIEW HIDA เพื่อทุ่งหน้าไปที่นาโกย่า

Day4-1 ทานอาหารเช้าจากโรมแรมที่ถูกจัดอันดับเป็น “โรงแรมที่มีอาหารเช้าอร่อยที่สุด” และวิธีการเดินทางจากโทยามะไปสู่เมืองนาโกย่าด้วยรถไฟด่วนพิเศษ「WIDE VIEW HIDA」

และนาโกย่าที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมืองสุดท้ายนี้เราจะไป “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า”「TOYOTA COMMEMORATIVE MUSEUM OF INDUSTRY AND TECHNOLOGY」ที่เป็นที่ตั้งของบริษัทรถยนตร์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น “โตโยต้า” จากนั้นก็ไปช้อปปิ้งที่นาโกย่าก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

 “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า”『TOYOTA COMMEMORATIVE MUSEUM OF INDUSTRY AND TECHNOLOGY』ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในสถานที่ต้นกำเนิดของบริษัทโตโยต้า

ซึ่งพิพิธภัณฑ์นี้ได้รับการโหวตให้เป็น「สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว」ในเว็บไซต์ท่องเที่ยว Trip Advisor ติดต่อกันถึง 2 ปี เทียบเคียงกับ “วัดเสาเแดงฟูชิมิอินาริ” “อาราชิยามะ” ที่เกียวโต “ภูเขาไฟฟูจิ” ที่ชิซุโอกะ หรือย่านโดทงโบริที่โอซาก้า อีกทั้งยังสามารถชมวิวัฒนาการของบริษัทโตโยต้าได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

หากพูดถึงโตโยต้าทุกคนก็คงต้องนึกถึง รถยนต์ แต่ความจริงแล้วเดิมทีที่นี้เป็นบริษัทสิ่งทอ

เราจะได้เห็นโตโยต้าจากแรกเริ่มที่เป็นโรงงานทอผ้าทั่วไปเหมือนที่ประเทศไทย จนกลายมาเป็นบริษัทใหญ่โตเหมือนดั่งปัจจุบันจากการเรียนรู้ ทดลอง ต่างๆ

ค่าเข้า “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า” ราคา 500 เยน สามารถซื้อตั๋วได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วหรือเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่อยู่บริเวณทางเข้า

วิธีซื้อตั๋วจากเครื่องจำหน่ายตั๋วนั้นก่อนอื่นต้องกดปุ่มที่เขียนว่า「大人」แปลว่า “ผู้ใหญ่” อ่านว่า โอโตนะ    จากนั้นก็กดปุ่มสีฟ้าที่เขียนว่า「次へ」แปลว่า “ต่อไป” อ่านว่า ซึกิเอะ จากนั้นก็กดเลือกจำนวนใบในขั้นตอนสุดท้าย และใส่เงินเข้าไปเท่านี้ก็เรียบร้อย เครื่องนี้เป็นภาษาญี่ปุ่น และรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น

และถัดไปจากเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติก็คือ เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ที่สามารถใช้บัตรเครดิตในการชำระเงินได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากมีบัตรวันเดย์พาสของรถบัสท่องเที่ยวรอบนาโกย่า 「Me~guru Nagoya Sightseeing Route Bus」ก็จะได้รับส่วนลดไปอีก 100 เยน เพราะฉะนั้นซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์น่าจะสะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ เนื่องจากที่นี่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากดังนั้นพนักงานที่นี้จึงสามารถพูดภาษาอังกฤษได้และให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปข้างในกันเลย

เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเจอกันจุดแสดงโครงสร้างโรงงานโตโยต้าอยู่ 2 ส่วน คือ 「การจัดแสดงเกี่ยวกับสิ่งทอ」และ「การจัดแสดงเกี่ยวกับรถยนต์」ก่อนอื่นเราจะไปดูส่วนจัดแสดงที่เกี่ยวกับการปั่นด้ายกันก่อนเลย

โดยบริษัทโตโยต้านี้จุดเริ่มต้นคือ โรงงานทอผ้า ที่ตั้งอยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่อยู่ห่างจากสถานีนาโกย่าเล็กน้อย ซึ่งในสมัยนั้นจะใช้กังหันน้ำเป็นแรงขับเคลื่อนเครื่องปั่นด้าย ที่จุดแสดงส่วนแรกนี้ก็จะมีการจัดแสดงเครื่องจักรที่ถูกใช้จริงในสมัยนั้น และให้เห็นการทำงานของเครื่องเหล่านั้น

ถึงแม้ว่าแรกเริ่มเดิมทีโตโยต้าจะเป็นหนึ่งในโรงงานทอผ้าที่มีอยู่ทั่วไป แต่ก็ได้มีการพัฒนาเครื่องจักร การทำงานของเครื่องยนต์จนกลายเป็นผู้นำของบริษัทอื่นหลายๆ บริษัท

และนี้ก็คือเครื่องทอผ้าที่ถูกใช้จริงในสมัยนั้นค่ะ โตโยต้าที่เป็นที่รู้จักในเครื่องของวิวัฒนาการใหม่ๆ ต่างๆ มากมายจนเป็นต้นแบบให้กับหลายๆ บริษัทในตอนนี้ แม้ว่าเมื่อเทียบกับเครื่องทอผ้าที่เห็นอยู่ตอนนี้แล้วดูคลาสสิคมากๆ แต่นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของพัฒนาการต่างๆ

เราจะได้เห็นวิวัฒนาการตั้งแต่แรกเริ่มที่เริ่มทอผ้าจากคน พัฒนาไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมได้ด้วยเครื่องจักรทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถทอลายยากๆ ได้อย่างง่ายดาย

หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบแต่บริษัทโตโยต้าก็ยังคงมีโตโยต้าส่วนที่เป็นบริษัทสิ่งทออยู่ ซึ่งเบาะภายในรถยนต์หรือเบาะบนเครื่องบินก็เป็นเบาะที่มาจากโตโยต้าในส่วนบริษัทสิ่งทอนั่นเอง

ซึ่งรถยนต์ของบริษัทโตโยต้าเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานนักในช่วงปี พ.ศ. 2476 โดยที่ KUROBE GORGE RAILWAY ที่ ICHIGO-CHAN ที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2469 ซึ่งถือว่าเกิดขึ้นก่อน เรียกได้ว่าเพิ่งเกิดขึ้นมาเพียง 85 ปีก่อนเท่านั้น ซึ่งในสมัยนั้นการผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่จะมาจากแรงงานคน ตั้งแต่การสร้างโครงสร้างรถยนต์ ด้วยการตีแผ่นเหล็กให้เข้ารูปลงไปบนแม่พิมพ์ไม้ ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ทำจากแรงงานคนทั้งหมด สุดยอดมากๆ

ที่นี่มีการจัดแสดงรถรุ่นแรกของโตโยต้าด้วย เป็นรถที่ดูดีเหมือนรถหรูในปัจจุบัน ซึ่งในสมัยนั้นรถยนต์คันนี้เมื่อคิดเป็นเงินในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท ถือว่าไม่แพงมากเลย

เมื่อผ่านส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับสิ่งทอแล้ว ถัดไปก็จะเป็นส่วนของรถยนต์กันบาง ที่นี่จะมีการจัดแสดงรถตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงปัจจุบัน ให้ได้เห็นวิวัฒนาการอย่างชัดเจน ถึงจะเป็นคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องรถยนต์ก็สามารถดูได้เพลินมากๆ

ถึงแม้ว่ารถยนต์โตโยต้าจะเริ่มเตรียมการผลิตรถยนต์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2476 แต่หลังจากนั้นประมาณ 2 ปีก็ได้เริ่มมีการผลิตรถบรรทุกหรือรถบัสขึ้นแล้ว รถสีเขียวเข้มที่อยู่ในรูปด้านล่างซ้ายมือก็คือ รถบรรทุกรุ่นแรก

ซึ่งรถบรรทุกรุ่นแรกนี้ 1ℓ สามารถวิ่งได้ไม่ถึง 1km กิโลเมตร แต่เมื่อเวลาผ่านไปวิวัฒนาการต่างๆ ก็ถูกพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นรถพรีอุสที่เป็น รถไฮบริดประหยัดพลังงาน รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นรถประหยัดพลังงานมากนักในประเทศไทย แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นมีการใช้รถประหยัดพลังงานถึง 30% เปอร์เซ็นบนท้องถนนเลยทีเดียว

และที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์โตโยต้าก็คือ การขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งคำว่า「KAIZEN」อ่านว่า “ไคเซ็น” แปลว่า “เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น” นี้เป็นคำที่ถูกใช้กันในระบบโรงงานผลิต หรือโรงงานก่อสร้าง

“การขับเครื่องอัตโนมัติ” “การทุ่นแรง” และ “การมีประสิทธิภาพ” ด้วยการทำสิ่งเหล่าอย่างเต็มที่ คือสิ่งที่ทำให้โตโยต้าเติบโต แต่สิ่งที่คอยสนับสนุนนการทำงานเหล่านั้นก็คือ “เทคโนโลยีหุ่นยนต์” ภายในนี้มีการจัดแสดงการเล่นดนตรีจากหุ่นยนต์ด้วย

และนี่ก็คือ การบรรเลงไวโอลินจากหุ่นยนต์ค่ะ เราสามารถชมการแสดงจาก「PARTNER ROBOT」หุ่นยนต์ที่สามารถเดินสองขาถูกเปิดตัวขึ้นในงาน EXPO 2010 ได้วันละ 5 ครั้ง นอกจากการแสดงไวโอลินจากหุ่นยนต์แล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายทั้ง「LIVE TECHNO SHOW」ที่มีการอธิบายการทำงานของเครื่องจักรทั้งสิ่งทอและรถยนต์ พร้อมวัตถุดิบที่ใช้อย่างเข้าใจง่ายและน่าสนใจ ด้วยการที่มีกิจกรรมเยอะแบบนี้ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ได้ดูโซนต่างๆ แล้ว ก็ไปช้อปปิ้งที่ มิวเซียมชอป ที่จำหน่ายทั้งของฝากจากนาโกย่า เครื่องครัว(432 เยน-)หรือ รถของเล่น (864 เยน)ต่างๆ มากมาย

หลังจากเที่ยวรอบ “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า”「TOYOTA COMMEMORATIVE MUSEUM OF INDUSTRY AND TECHNOLOGY」เรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราไปช้อปกันที่นาโกย่า “ย่านช้อปปิ้งซากาเอะ” กันเลย ถึงแม้ว่าเราสามารถนั่งรถไฟไปซากาเอะได้ด้วยรถไฟใต้ดินจากสถานีนาโกย่า ที่ใช้เวลาไม่นาน แต่วันนี้เราจะนั่งรถบัสที่สามารถนั่งยาวไปที่ซากาเอะได้เลยโดยนั่งรถบัสท่องเที่ยว 『Me~guru』 กันเลย

ใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาทีเพื่อวนรอบ ปราสาทนาโกย่า สวนโทคุกาวะ หรือ สถานที่ขึ้นชื่อต่างๆ ในจนาโกย่า

รถบัสจะจอดที่ นาโกน่าทีวีทาวเวอร์ ให้ลงบัสที่นี่ ก่อนอื่นเราจะไปกันที่ 「OASIS 21」ที่เป็นสัญลักษณ์ของซากาเอะ โดยลงจากบัสไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอกับตึกรูปร่างแปลกๆ อยู่ตรงหน้า เดินจากบัสไปตามทางเรื่อยๆ และเลี้ยวเข้าไปในทางที่อยู่ซ้ายมือ ขึ้นบันไดหรือลิฟต์เพื่อไปที่ชั้น R(ชั้นดาดฟ้า)

และดาดฟ้าแห่งนี้ก็คือสัญลักษณ์ของนาโกย่า ที่สามารถชมวิวนาโกย่าทีวีทาวเวอร์และวิวโดยรอบของเมืองนาโกย่าได้แบบฟรีๆ และตรงกลางก็จะมีสวนที่เป็นบ่อน้ำ ที่ก้นบ่อเป็นกระจกใสสามารถมองลงไปด้านล่างได้ เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ลงไปชั้นใต้ดินกันเลย ลงลิฟต์ไปเลย

เมื่อลงลิฟต์มาแล้วก็จะลงมาสู่ชั้นใต้ดินที่สามารถมองเห็นด้านนอกได้แบบนี้ เมื่อหันไปทางหลังคา ถ่ายรูปได้ในมุมๆ แปลกๆ สวยไปอีกแบบนะคะ

ภายในบริเวณนี้ก็จะมีทั้งร้านร้อยเยน ร้านมาสึโมโต้คิโยชิ หรือร้านขายของจิปลิ ที่ชื่อร้านว่า「DONGURI KYOWAKOKU」มีโตโตโร่อยู่หน้าร้านด้วย

นอกจากนี้ก็มีทั้งร้านสำหรับคนรักอนิเมะอย่างร้าน JUMP SHOP ที่มีสินค้าของการ์ตูนเรื่องต่างๆ ทั้งวันพีช เป็นต้น

และหนึ่งในนั้นก็มีร้าน STARBUCKS  ซึ่งสตาร์บัคที่ญี่ปุ่นในแต่ละที่ก็จะมีสินค้าที่แตกต่างกันออกไป เป็นสินค้าที่มีสัญลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ น่ารักมากๆ ICHIGO-CHAN ก็ชอบแบบนี้อยู่แล้วก็เลยไม่พลาดซื้อแก้วนาโกย่าไปซักหน่อย

ตอนนี้เวลาก็ใกล้ 1 ทุ่มแล้ว ได้เวลาเดินทางไปสนามบินกันแล้วค่ะ โดยก่อนเดินทางไปสนามบินเราจะไปทานดินเนอร์กันก่อนกับเมนู「กุ้งทอด」ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า ที่ร้าน“มารุฮะโชกุโด”「MARUHA SHOKUDOU」กันค่ะ โดยออกจากประตู STARBUCKS ไปทางขวามือ ขึ้นบันไดเลื่อนสั้นๆ ไป เพื่อเข้าไปสู่สถานีของรถไฟใต้ดินสายฮิกาชิยามะ HIGASHIYAMA เดินไปจนสุดทาง และเลี้ยวไปทางด้านซ้าย โดยไม่เข้าช่องตรวจตั๋วที่อยู่ขวามือ ตรงไปเรื่อยๆ ไปจนสึดทางสามแยกและเลี้ยวขวา และตรงไปอีกจนมาถึงทางเข้าห้าง「MITSUKOSHI」ไม่ต้องเข้าห้าง「MITSUKOSHI」แต่เดินเลยไปขึ้นบันไดที่อยู่ตรงหน้าเพื่อขึ้นไปชั้นบนดินเลย

ขึ้นบันไดไปทางขวามือเพื่อเข้าไปด้านในห้าง「LACHIC」เมื่อเข้ามาแล้วก็ขึ้นลิฟต์ที่อยู่ลึกเข้าไปซ้ายมือเพื่อขึ้นไปที่ชั้น 8F

เมื่อออกจากลิฟต์มาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ และที่อยู่ตรงหน้าเราก็คือร้าน “มารุฮะโชกุโด”「MARUHA SHOKUDOU」เป็นร้านที่ขึ้นชื่อทางด้านอาหารทะเลที่สดใหม่ และที่สำคัญคือมีข้าวหน้ากุ้งทอดขนาดใหญ่ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่าอีกด้วย

ครั้งต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารเย็นที่ร้าน “มารุฮะโชกุโด”「MARUHA SHOKUDOU」พร้อมแนะนำวิธีการเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪

【ตารางการเดินทาง Day4-2 TOYOTA COMMEMORATIVE MUSEUM/OASIS 21】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶