เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day4-3 จบทริป! เที่ยวชม「Flight of Dreams」ภายในท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย
NAGOYA-TAKAYAMA-SHINHODAKAROPEWAY-HIRAYU-MATSUMOTO-KOMAGATAKEROPEWAY-NAGOYA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินเที่ยวภายใน “ย่านร้านค้า OSU-SHOPPING STREET” ทั้ง ช้อป ชิม และเที่ยวทั้งวัดและศาลเจ้ากันไปแบบครบรสแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับประเทศไทยกันแล้ว
Day4-2 เที่ยว ชิม ช้อป ที่ย่านร้านค้า「OSU-SHOPPING STREET」
เราจะใช้เวลาเดินทางจาก “ย่านร้านค้า OSU-SHOPPING STREET” ที่อยู่ใจกลางเมืองนาโกย่าไปยัง “ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์” เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนอื่นเราจะเดินทางจาก “ย่านร้านค้า OSU-SHOPPING STREET” ไปยังนาโกย่าด้วยรถไฟใต้ดินก่อน จากนั้นจึงนั่งรถไฟเท็ตสึจากนาโกย่า ไปยังสนามบินกันค่ะ
โดยการท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด -โปรแกรมมัทสึโมโตะ มาโกเมะ โคมากาเนะ-」ในตอนสุดท้ายที่ 16 นี้จะเป็นการเดินทางจาก “ย่านร้านค้า OSU-SHOPPING STREET” ไปยัง “ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ (นาโกย่า) Chubu International Airport (Nagoya)” และเที่ยวในส่วน「Flight of Dreams」ภายในสนามบินที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นสถานที่สามารถชมเครื่องบินของจริง ไปพร้อมๆ กับการช้อปปิ้งและทานอาหารค่ะ
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินเล่นถนนสาย「HIGASHI NIOMON DORI(東仁王門通)」ที่เป็นหนึ่งในเส้นทางหลักของย่านร้านค้า OSU-SHOPPING STREET แหล่งรวมร้านอาหารต่างๆ มากมายแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางไปสนามบินกันแล้ว
โดยวันนี้เราจะเดินทางกลับประเทศไทยจาก ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ด้วยเที่ยวบิน XJ639 รอบ 16:30 น. เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเผื่อเวลาเช็คอินด้วย จึงต้องไปถึงสนามบินเวลา 14:00 น.
การเดินทางจาก “ย่านร้านค้า OSU-SHOPPING STREET” ไปยัง “ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์” นั้นสามารถเดินทางได้ดังนี้
- นั่งรถไฟใต้ดินสายสึรุไม SUBWAY TSURUMAI LINE ไปยังสถานีฟูชิมิ FUSHIMI STATION
- นั่งรถไฟใต้ดินสายฮิงาชิยามะ SUBWAY HIGASHIYAMA LINE จากสถานีฟูชิมิ ไปยัง สถานีนาโกย่า
- นั่งรถไฟเมเท็ตสึ จากสถานีนาโกย่า ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์
ถึงแม้ว่าอาจจะต้องนั่งรถไฟหลายต่อ แต่รถไฟที่เราจะขึ้นนั้นจะมีรอบวิ่งอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นสามารถเดินทางได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมงค่ะ
ก่อนอื่นก็ต้องเดินกลับไปที่ “โอสึ แคนนอน” ตามทางเดิมเลย
เดินผ่านไปทางหน้าวัดโอสึ แคนนอน และเลี้ยวไปทางซ้ายมือ เพื่อลอดผ่านประตูใหญ่กลับไปทางถนนใหญ่ เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่แล้ว ก็เดินไปทางขวามือ จากนั้นก็จะเจอทางเข้า สถานีรถไฟโอสึ แคนนอนเลย เมื่อลงบันไดไปแล้ว ก็เดินไปทางช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ขวามือเลย
เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติจะอยู่ข้างๆ ช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นก่อนขึ้นรถไฟ เราจะซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินกันก่อนเลย โดยเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ เพื่อเดินทางจาก “สถานีโอสึ แคนนอน” ไป “สถานีนาโกย่า”(200 เยน)จากนั้นก็กด「English」บนขวาหน้าจอ หน้าจอจะแสดงผลให้เลือก「Ticket」และกด「200」ต่อด้วยใส่เงินเข้าไปในเครื่องเท่านี้ก็เรียบร้อย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านช่องตรวจตั๋วเข้ามา จากนั้นก็ลงบันไดที่อยู่เยื้องไปทางขวามือ เพื่อนลงไปที่ชานชาลาสายสึรุไม ที่มุ่งหน้าไปสู่สถานีฟูชิมิ จากชานชาลาหมายเลข 2 ซึ่งรถไฟสายสึรุไมจะวิ่งทุกๆ 10 นาที ให้นั่งไป 1 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 2 นาที เพื่อไปลงที่สถานีฟูชิมิ
และเมื่อถึงสถานีฟูชิมิแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลาไปเพื่อไปที่รถไฟใต้ดินสายฮิงาชิยามะ SUBWAY HIGASHIYAMA LINE กันเลย
ขึ้นบันไดเลื่อนไป จากนั้นขึ้นบันไดสั้นๆ ไปก็จะเจอชานชาลารถไฟสายฮิงาชิยามะ SUBWAY HIGASHIYAMA LINE มุ่งหน้าไป “สถานีนาโกย่า” เลย ซึ่งรถไฟสายฮิงาชิยามะ SUBWAY HIGASHIYAMA LINE จะวิ่งทุกๆ 3-5 นาที ขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ทาคาฮะตะ เพื่อนั่งไป 1 สถานี ใช้เวลาเพียง 2 นาที ไปยัง “สถานีนาโกย่า” กันเลย
เมื่อถึงสถานีนาโกย่าแล้ว ก็เดินไปทางด้านหลัง จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่ไปสู่ “ช่องตรวจตั๋วใต้ SOUTH WICKET” เลย
เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วทิศใต้แล้ว ก็เดินเยื้องออกไปทางขวามือ และเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอช่องตรวจตั๋วและเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของสถานีรถไฟเมเท็ตสึ สถานีนาโกย่าเลย ซึ่งการเดินทางจาก “สถานีรถไฟเมเท็ตสึ สถานีนาโกย่า” ไป “สนามบินชูบุ” นั้นสามารถเดินทางได้ด้วย「บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด -โปรแกรมมัทสึโมโตะ มาโกเมะ โคมากาเนะ-」เพราะฉะนั้นสามารถแสดงพาสนี้เพื่อรับตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเลย
ซึ่งการเดินทางจาก “สถานีรถไฟเมเท็ตสึสถานีนาโกย่า” ไป “สนามบินชูบุ” นั้นสามารถเดินทางได้ 3 วิธี คือ รถไฟด่วนพิเศษมิวสกาย「LIMITED EXPRESS μ SKY」ในที่นั่งแบบ Reserved Seat ทั้งหมด หรือ “รถไฟแบบด่วนพิเศษ LIMITED EXPRESS” ที่ส่วนหนึ่งเป็นที่นั่งแบบ Reserved Seat และ “รถไฟ LOCAL EXPRESS”
หากเดินทางจากสถานีนาโกย่าจะใช้เวลาในการเดินทางดังนี้
LIMITED EXPRESS μ SKY :ประมาณ 28 นาที
LIMITED EXPRESS:ประมาณ 35 นาที
LOCAL EXPRESS:ประมาณ 45 นาที
ในกรณีของ μ SKY นั้นจะต้องซื้อตั๋วขึ้นรถไฟที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 360 เยนเพื่อเลือกที่นั่งแบบ Reserved Seat เพราะฉะนั้นหากนั่ง μ SKY ก็สามารถซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพิ่มได้พร้อมตอนแลกรับตั๋วเลย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปเลย จากนั้นขึ้นบันไดเล็กๆ ที่อยู่ซ้ายมือเพื่อไปที่ชานชาลา รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu International Airport(Nagoya)จะออกจากชานชาลาหมายเลข 4 ซึ่งที่ชานชาลาหมายเลข 4 จะมีรถไฟอื่นๆ ออกตัวจากชานชาลานี้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาขึ้นรถไฟต้องสังเกตุให้ดูก่อนขึ้นนะคะ ถ้าพลาดอาจทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทันเลย
โดยวันนี้เราได้เลือกนั่งรถไฟแบบด่วนพิเศษ Limited Express ที่ไม่ต้องซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพิ่มค่ะ ภายในรถไฟด่วนพิเศษจะเป็นที่นั่งแบบ CROSS SEAT ที่หันหน้าเข้าหากัน รวมเข้ากับที่นั่งแบบแถวยาว ถือว่าเป็นแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันนบ่อยๆ ถ้ามากันเป็นกลุ่มก็แนะนำว่าให้รีบนั่งแบบ CROSS SEAT ไว้เลยนะคะจะได้หันหน้าคุยกัน
ซึ่งรถไฟแบบด่วนพิเศษนี้มีที่นั่งแบบ Reserved Seat เพียง 2 โบกี้เท่านั้น เหมือนกับ μ SKY ที่เป็นที่นั่งแบบ Recllining Seat ซึ่งจะต้องจ่ายเพิ่ม 360 เยน หากใครที่ต้องการได้ที่นั่งแน่นอนก็สามารถใช้บริการตรงส่วนนี้ได้ค่ะ
รถไฟด่วนพิเศษจะใช้เวลาในการเดินทางจาก “สถานีนาโกย่า” ไปสู่ “ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์” เพียง 35 นาทีเท่านั้น
พาสท่องเที่ยวสุดคุ้มกับ「บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด -โปรแกรมมัทสึโมโตะ มาโกเมะ โคมากาเนะ-」เพื่อท่องเที่ยว “ฮิดะทาคายาม่า” “ชินโฮตากะ” หรือ “โคมากาทาเกะ” นี้ ก็เข้าสู่ช่วงท้ายของทริปกันแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไปย้อนดูกันเลยว่า เราสามารถใช้พาสนี้ไปคุ้มแค่ไหน ซึ่งราคา「บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด -โปรแกรมมัทสึโมโตะ มาโกเมะ โคมากาเนะ-」จะอยู่ที่ 7000 เยน
ราคาค่าโดยสารแบบปกติ
- สถานีท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ⇔ สถานีนาโกย่า(ไป-กลับ):1740 เยน
- ทาคายาม่า โนฮิ บัสเซ็นเตอร์ ⇒ กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ:2160 เยน
- กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ ⇒ ฮิรายุ:890 เยน
- ฮิรายุ ⇒ มัตสึโมโตะ บัสเทอร์มินอล:2370 เยน
- มัตสึโมโตะ บัสเทอร์มินอล ⇒ Matsumoto Inter-Mae Bus Stop:200 เยน
- Nagano-do Matsumoto ⇒ Chuo-do Komagane Bus Stop:1170 เยน
- Nyotai Iruguchi Bus Stop ⇔ Shirabidaira Station(ไป-กลับ):1900 เยน
- Chuo-do Komagane Bus Stop ⇒ นาโกย่า บัสเซ็นเตอร์:3010 เยน
Total:13440 เยน
และยิ่งไปกว่านั้น เรายังได้รับส่วนลดจาก「บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด」ในการขึ้น “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ” และ “กระเช้าลอยฟ้าโคมากาทาเกะ” ไปอีก 1050 เยน เพราะฉะนั้นราคารวมทั้งหมดคือ Total:14490 เยน ซึ่งราคาพาสนี้จะอยู่ที่ 7490 เยนเท่านั้น แสดงว่าเราใช้คุ้มไปกว่า 52% เลยทีเดียว เป็นไอเท็ม MUSTBUY !! จริงๆ เลยค่ะ
นั่งรถไฟมาแปปเดียวเท่านั้นตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินขึ้นทางสโลปไปก็จะออกมาสู่ชั้นผู้โดยสารขาออกเลย ซึ่งเมื่อเดินเข้าไปในอาคารทางด้านขวามือ จะเป็นเส้นทางภายในประเทศ ส่วนด้านซ้ายมือ จะเป็นเคาน์เตอร์เช็คอินของเที่ยวบินระหว่างประเทศค่ะ เพื่อฉะนั้นเดินไปทางด้านซ้ายมือเลย
ซึ่งครั้งนี้เราจะเดินทางกลับกรุงเทพด้วยสายการบิน AirAsia X เพราะฉะนั้นเมื่อเข้ามาในเทอร์มินอลแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ ไปที่เคาน์เตอร์ G เลย(※เคานเตอร์อาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบเช็คเคานเตอร์เช็คอินก่อน)เมื่อเคาน์เตอร์เช็คอินเปิด นักท่องเที่ยวก็มารอต่อแถวกันยาวเหยียด หากเพื่อนๆ ได้ทำการเช็คอินออนไลน์มาล่วงหน้าจากทางเว็ปไซต์แล้วก็สามารถต่อแถวพิเศษเพื่อฝากสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น ซึ่งเว็ปเช็คอินสามารถทำได้ตั้งแต่ก่อน 14 วัน ถึง 4 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เพราะฉะนั้นหากเช็คอินมาจากที่ไทยก่อนจะสะดวกมากขึ้นนะคะ
เช็คอินคลิ๊กเลย!『AirAsia Web Check-In』
เมื่อทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้ว หากมีเวลาเหลือเพื่อนๆ สามารถเดินเที่ยว『Flight of Dreams』ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 12 เดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้เลย
ซึ่งไฮไลท์ของส่วนนี้ก็คือการจัดแสดงเครื่องบินของจริง B787 ที่เป็นเครื่องบินที่ถูกใช้ทั่วโลกอย่างแพร่หลายทั้งสายการบินไทย หรือสายการบินญี่ปุ่นอย่าง ANA และ JAL สามารถชมเครื่องบินไปพร้อมๆ กับช้อปปิ้ง และทานอาหาร หรือร่วมสนุกทดลองบิน เปิดประสบการณ์การเป็นนักบินได้อีกด้วย โดยสามารถเดินจากเคาน์เตอร์เช็คอินไปทางสถานี จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเดินไปยังลานจอดรถ ไปจนสุดทางก็จะเจอทางเข้าอยู่ขวามือเลย
ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วก็จะได้เจอกับเครื่องบินขนาดใหญ่ B787 รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นเครื่องที่เคยถูกใช้จริงในการทดลองบิน หรือแสดงการบินมานับหลายพันครั้ง โดยนำชิ้นส่วนกว่าครึ่งมาจัดแสดง ณ Flight of Dreams ที่อยู่ตรงหน้าเพื่อนๆ ในขณะนี้นั่นเอง จากจุดชมวิวมุมสูงนี้จะได้เห็นทั้งความยิ่งใหญ่ของ B787 และเมืองจำลองซีแอตเทิล ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ซึ่งเมืองซีแอตเทิลก็คือแหล่งกำเนิดของ “สตาร์บัค” ที่เรารู้จักกันดี ดังนั้นจึงได้มีการจำลอง สตาร์บัคสาขาแรกเอาไว้ที่นี่อีกด้วย
ในย่านร้านอาหาร「Seattle Terrace」นี้จะมีร้านยอดนิยมของแท้ในเมืองซีแอตเทิลอยู่มากมาย นอกจากเมืองซีแอตเทิลแล้ว ก็ยังมีร้านชีส「BEECHERS」จากนิวยอร์กที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้นอีกด้วย
ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีร้านซูชิอยู่ด้วย แต่ก็เป็นร้านที่มาจากเมืองซีแอตเทิลเช่นกัน(ยกเว้น อลาสก้า และ ฮาวาย)เมืองในอเมริกาที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ญี่ปุ่นมากที่สุด เป็นเมืองที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่มากไม่แพ้กรุงเทพ ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นส่วน Seattle Terrace ที่เป็นศูนย์รวมร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่หลายร้าน และร้านที่ ICHIGO CHAN เลือกวันนี้ก็คือ…
ไหนๆ เราก็มาที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็อยากจะทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงเลือกทานร้านราเม็งที่ได้รับความนิยมในนาโกย่ากันค่ะ
ซึ่งเมนูที่ร้ายก็มีให้เลือกหลากหลายทั้ง ราเม็งซุปหมู「ทงคตสึราเม็ง TONKOTSU RAMEN」(760 เยน)เมนูยอดนิยมของนาโกย่า「TAIWAN MAZESOBA」(860 เยน)และนอกจากนี้ยังมีเมนูเสริมอย่าง ข้าวผัด(350 เยน) หรือ เกี๊ยวซ่า (350 เยน) ให้เลือกทานอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีเมนูราเม็งสไตล์อเมริกาของร้าน「SEATTLE JIRO(シアトル二郎)」อย่าง「SEATTLE-STYLE JIRO RAMEN」(860 เยน)หรือเมนูราเม็งเพิ่มชีส「WELTING CHEESE MISO RAMEN」(980 เยน)เป็นเมนูแปลกใหม่ ที่น่าลองมากๆ โดยวิธีการสั่งอาหารคือ สามารถสั่งได้ที่เคาน์เตอร์ เมื่อทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับเครื่องเตือน เมื่อเครื่องดังแล้วก็สามารถไปรับอาหารได้เลย การชำระเงินสามารถชำระได้ทั้งเงินสด และบัตรเครดิต ทานได้เต็มที่ก่อนเดินทางกลับไทยเลยค่ะ
ซึ่งที่นั่ง Seattle Terrace จะเป็นที่นั่งแบบเลือกนั่งอิสระ ที่มีที่นั่งส่วนระเบียงสามารถชมเครื่องบินได้ใกล้ๆ ให้เลือกนั่งได้ฟรีอีกด้วย ยิ่งได้ทานราเม็งอร่อยๆ ไปพร้อมๆ กับวิวดีๆ แล้วยิ่งได้บรรยากาศมากๆ เลยค่ะ
ในเมนูทงคตสึจะมีทั้งเนื้อหมูชาชูหนาๆ เส้นบางๆ และแมงกระพรุนกับต้นหอม โดยรวมแล้วเป็นรสชาติที่อร่อย และทานได้ง่ายมากๆ ถึงแม้ว่าดูภายนอกอาจเหมือนว่าเมนูนี้จะมันๆ แต่ความจริงแล้วรสชาติไม่เลี่ยนอร่อยกลมกล่อมมากๆ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่มีสาขาที่ไทยทั้งกรุงเทพ เชียงใหม่ และขอนแก่นอีกด้วย ถึงแม้ว่าเมนูหลักๆ ของที่ร้านที่ไทยจะเสิร์ฟแบบน้ำซุปแยกกับเส้น ให้จิ้มจุ่มทาน แต่เมนูทงคตสึนี้จะมีที่ญี่ปุ่นเท่านั้นค่ะ
หลังจากทานราเม็งอร่อยๆ แล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว เมื่อเทียบกับ สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ และสนามบินคันไซแล้ว สนามบินชูบุ เซ็นแทรร์แล้วขนาดอาจจะเล็กกระทัดรัดกว่า แต่ก็สามารถทำให้ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง หรือเช็คสัมภาระเป็นไปได้อย่างราบรื่น ครั้งนี้เราได้นั่งกระเช้าลอยฟ้าไปทั้งหมด 2 ครั้งคือ「กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ SHINHOTAKA ROPEWAY(新穂高ロープウェイ)」และ「กระเช้าลอยฟ้าโคมากาทาเกะ KOMAGATAKE ROPEWAY (駒ケ岳ロープウェイ)」ที่อยู่ในภูมิภาคชูบุ ที่ได้ชมทั้งใบไม้เปลี่ยนสี และหิมะบนยอดเขาได้ก่อนใคร ถึงแม้ว่าเส้นทางนี้จะไม่ใช่เส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ก็เป็นเส้นทางที่ทำให้ได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว ยังไงลองนำทริปขอบเราไปเป็นแบบในการวางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งต่อไปของเพื่อนๆ ดูนะคะ แล้วพบกันใหม่ในทริปต่อไปค่ะ ♪
【ตารางการเดินทาง Day4-3 Flight of Dreams/Chubu Centrair International Airport】
PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด -โปรแกรมมัทสึโมโตะ มาโกเมะ โคมากาเนะ”