Day4-1 ช้อปปิ้ง “ย่านกินซ่า Ginza Street” และเดินทางจากตัวเมืองโตเกียวสู่สนามบินนาริตะ

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day4-1 ช้อปปิ้ง “ย่านกินซ่า Ginza Street” และเดินทางจากตัวเมืองโตเกียวสู่สนามบินนาริตะ

OSAKA-HYOGO-OSAKA-TOKYO

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เข้าร่วมงาน “เทศกาลสึกิจิ ฮงกันจิ บงโอโดริ Tsukiji Honganji Bon-Odori Festival” และทานซูชิร้านดังที่ “ซูชิซันมัย”「SUSHI-ZANMAI」จากนั้นก็เข้าพักที่โรงแรม「E-Hotel Ginza」ที่ตั้งอยู่ระหว่างย่านกินซ่ากับตลาดปลาสึกิจิแล้ว

Day3-5 ทานซูชิร้านดัง “ซูชิซันมัย”「SUSHI-ZANMAI」ในตลาดปลาสึกิจิ และเข้าพักที่โรงแรม「E-Hotel Ginza」

วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ วันนี้เราจะไปช้อปปิ้งที่ย่านชื่อดังของโตเกียวกับ “ย่านกินซ่า Ginza Street” ที่มีร้านต่างๆ ให้เลือกช้อปมากมายทั้ง「Onitsuka Tiger」「UNIQLO」หรือ「Matsumotokiyoshi」เป็นต้น แล้วค่อยเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เพื่อบินกลับประเทศไทยกันค่ะ

ICHIGO-CHAN หลับสนิทมากๆ เลยเมื่อคืน คงเป็นเพราะความเหนื่อยจากงานบงโอโดริแน่ๆ เลยค่ะ รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบ 9 โมงเช้าแล้ว ท้องฟ้าวันนี้ก็แจ่มใสมากๆ

เราจะมาเริ่มทริปด้วยอาหารเช้ากันเลย อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ นะคะ ซึ่งวันนี้เราจะมาทานอาหารเช้าของโรงแรม「E-Hotel Ginza」ที่สามารถรับประทานได้ฟรี สำหรับแขกที่เข้าพัก ส่วนอาหารเช้าจะอยู่บริเวณชั้น 1F ข้างฟร้อนท์ ที่บริเวณเลานจ์ มีทั้งมัฟฟิน เบเกิล หรือครัวซ็อง เครื่องดื่มก็จะมีน้ำส้ม กาแฟ นอกจากจะสามารถทานได้ที่บริเวณนี้แล้ว ยังสามารถห่อขึ้นไปทานบนห้องพักได้อีกด้วย

หลังจากทานอาหารเช้าจนอิ่มแล้ว ก็ไปเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมกันเลย หลังจากนี้เราจะไปช้อปปิ้งที่ “ย่านกินซ่า” ที่ขึ้นชื่อพอๆ กับย่านชินจุกุ โดยออกจากโรงแรมไปทางขวามือ เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่ ก็เลี้ยวขวา จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ ไปตามทางขามา ไปทางที่มีสะพาน และขึ้นลิฟต์ไปทางเดินสะพานลอย

เมื่อขึ้นลิฟต์มาแล้ว ก็เดินตรงไปตามทางเดินเรื่อยๆ และเลี้ยวที่มุมตรงข้ามเพื่อลงลิฟต์ไป เมื่อลงมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอร้าน「ดองกี้โฮเตะ DON QUIJOTE」ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง มีทั้งขนมของฝาก “คิทแคทชาเขียว” “ถั่วพีสตาชิโอวาซาบิ” จำหน่ายอยู่ในราคาถูก ซึ่งหากเดินจากโรงแรมมาถึงตรงนี้จะใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น มาช้อปได้สบายทุกเวลาเลยค่ะ เราจะเดินไปที่ย่านกินซ่า เพราะฉะนั้นจะต้องเดินเลยดองกี้โฮเตะไปอีก และเลี้ยวขวาที่แยกใหญ่แยกแรก และตรงไปซักพักก็คือ “ย่านกินซ่า Ginza Street”

 “ย่านกินซ่า”「Ginza Street」หนึ่งในถนนสายช้อปปิ้งชื่อดังของโตเกียว เป็นย่านหรูที่มีร้านค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนอยู่มากมาย ทั้ง GUCCI หรือ HERMES ฯลฯ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้าน Antenna Shop มากมายที่เพื่อนๆ สามารถสัมผัสกับสินค้าใหม่ๆ ของแบรนด์ดังของญี่ปุ่นอย่างโซนี่ หรือยามาฮ่า เป็นต้น ซึ่งเสน่ห์ของย่านนี้ก็คือ เป็นย่านที่เรียบหรู และสงบไม่วุ่นวายมากนัก เมื่อเทียบกับย่านชินจุกุที่วุ่นวาย และย่านวัยรุ่นอย่างย่านชิบุย่า โดยร้านต่างๆ ที่อยู่ในแต่ละย่านจะมีความคล้ายคลึงกัน เพียงแต่บรรยากาศของร้านค้าภายในย่านกินซ่าจะมีความไฮโซกว่าค่ะ ซึ่งที่ย่านกินซ่านี้ จะมีการปิดถนนไม่ให้รถผ่านในทุกๆ วันอาทิตย์เวลา เที่ยง ถึง บ่ายสามโมง ที่เรียกว่า「HOKOUSHA TENGOKU」ในช่วงเวลานี้เพื่อนๆ จะได้เดินกลางถนนอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องระวังรถ ได้รูปกลางถนนสวยๆ อีกด้วย

ภายในย่านหรูนี้ก็จะมีร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ มากมาย เช่น Louis Vuitton, Gucci หรือ PRADA ซึ่งนอกจากสินค้าไฮเอนแล้ว ก็ยังมีแบรนด์ทั่วไปอย่าง UNIQLO หรือ ZARA อีกด้วย บางร้านภายนอกอาจจะหรูแต่ไม่ว่าสาขาไหนๆ ก็ราคาเท่ากันทั้งหมดเพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยนะคะ

หรือจะเป็นร้าน AppleStore ของย่านกินซ่า ก็มีราคาถูกกว่าที่ไทยอีกด้วย(ข้อมูลปัจจุบัน เดือนกรกฏาคม พ.ศ.2561)สามารถซื้อ iPhone แบบซิมฟรีได้ในราคาปลอดภาษีอีกด้วย

เมื่อเดินเข้าไปทางขวาในย่าน “ย่านกินซ่า”「Ginza Street」ก็จะเจอร้าน「Onitsuka Tiger」อยู่ จำหน่ายสินค้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นกับรุ่น「NIPPON MADE」ถึงแม้ว่า 「Onitsuka Tiger」จะเริ่มมีเพิ่มมาขึ้นในประเทศไทย แต่ยังไงที่ญี่ปุ่นก็มีสินค้าให้เลือกมากกว่า ราคาก็ถูกกว่า แถมยังได้สินค้าที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย

หลังจากที่เพลิดเพลินกับ “ย่านกินซ่า” ไปเต็มที่แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับไทยแล้วค่ะ ซึ่งเราจะต้องเดินทางกลับประเทศไทยจากสนามบินนาริตะ โดยสามารถเดินทางไปสนามบินนาริตะได้ด้วยการเดินทางดังนี้

  • เดินทางจาก “สถานีโตเกียว” ด้วย Narita Express
  • เดินทางจาก “สถานีนิปโปะริ Nippori Station(日暮里駅)” ด้วย เคเซสกายไลเนอร์ KEISEI Skyliner
  • เดินทางจากสถานี Tokyo Metro Ginza Station ด้วยรถบัส

ซึ่งวันนี้เราจะเลือกเดินทางด้วยข้อที่หนึ่ง คือ Narita Express ค่ะ ก่อนอื่นก็จะต้องมุ่งหน้าไปที่สถานี JR ชินบาชิ เพื่อนั่งรถไฟสายยามาโนเตะ Yamanote Line ไปลงที่สถานีโตเกียว และนั่งรถไฟ Narita Express ไปสนามบิน โดยเดินกลับไปที่สี่แยกไฟแดงตามทางเดิม จากนั้นก็เลี้ยวขวา และตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางยกระดับของเส้นรถไฟชินคันเซ็นอยู่ ให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอสถานีชินบาชิเลย

เมื่อถึงสถานีชินบาชิแล้ว ก็ซื้อตั๋วรถไฟไปสนามบินนาริตะก่อนเลย สามารถซื้อตั๋วได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลย แต่หากต้องการซื้อเป็นกลุ่มใหญ่แนะนำว่าให้ซื้อที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยตรงเลยจะดีกว่าค่ะ โดยเดินไปทางประตูทางออก Shiodome Guchi(汐留口) สถานีชินบาชิ แต่เราจะยังไม่เข้าไปค่ะ ให้เดินไปทางขวา ก็จะเจอ「MIDORI NO MADOGUCHI(みどりの窓口)」อยู่ซ้ายมือ สามารถซื้อตั๋วได้จากเคาน์เตอร์นี้เลย โดยพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า

「NARITA KUKOU MADE NARITA EXPRESS NO TICKET ONEGAISHIMASU」

「นาริตะ คูโค มาเดะ NARITA EXPRESS โนะ ทิกเก็ท โอเนกาอิชิมาสุ」

(ขอซื้อตั๋ว NARITA EXPRESS ไปสนามบินนาริตะค่ะ)เท่านี้ก็เรียบร้อย เคาน์เตอร์นี้สามารถชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ

หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกจาก MIDORI NO MADOGUCHI(みどりの窓口) ไปทางขวามือ เพื่อเข้าไปด้านในสถานีจากประตู Shiodome Guchi(汐留口) และผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไป เมื่อผ่านเข้ามาแล้วก็เดินไปทางขวามือ จนออกมาสู่ลานจุดนัดพบภายในสถานี ก็เดินไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทาง ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชานชาลาหมายเลข 5/6 เลย (ปัจจุบัน เดือนสิงหาคม พ.ศ.2561 สถานีกำลังทำการปรับปรุง อาจมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง)

เมื่อขึ้นมาที่ชานชาลาแล้ว ก็ขึ้นรถไฟสายยามาโนเตะ Yamanote Line สีเขียว ไป 2 สถานี ใช้เวลาประมาณ 3 เพื่อไปเปลี่ยนเป็นรถไฟ Narita Express ที่สถานีโตเกียวกันเลย

เมื่อถึงสถานีโตเกียวแล้ว เราจะลงบันไดที่อยู่ภายในชานชาลา เพื่อเดินไปบริเวณทางเดินที่อยู่ศูนย์กลางกันค่ะ

ที่บริเวณทางเดินกลาง จะเป็นย่านร้านค้าเล็กๆ ที่มีร้านที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย ทั้งร้านขนม ของฝาก คาเฟ่ หรือร้านจำหน่าย “ข้าวกล่องสถานี หรือ เอกิเบ็น” 「EKIBEN」อีกด้วย ซึ่งหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมมากก็คือร้าน “เอกิเบ็นยะ มาสึริ” 『EKIBENYA MATSURI』

เป็นร้านที่รวบรวมข้าวกล่องสถานีจากทั่วประเทศเอาไว้มากมาย โดยจะทำการขนส่งมากับขบวนรถไฟในตอนเช้าและนำมาวางขายที่ร้านในช่วงเช้า ซึ่งข้าวกล่องเบ็นโตะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ「CHICKEN BENTO」(900 เยน)เป็นข้าวกล่องเรียบง่ายที่มีข้าวผัดไก่และไก่ทอดอยู่ในหนึ่งเมนู และที่สำคัญคือเป็นเมนูที่จักรพรรดิญี่ปุ่นทรงประสงค์รับประทานในทุกๆ การเสร็จมายังบริเวณนี้อีกด้วย

ที่ร้านสามารถชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิตค่ะ

เมื่อซื้อ “เอกิเบ็น” เรียบร้อยแล้ว ก็ไปที่ชานชาลาใต้ดินสายโยะโกะซุกะ Yokosuka Line เพื่อไปขึ้นรถไฟ Narita Express กันเลย โดยเมื่อลงจากชานชาลาหมายเลข 4 รถไฟสายยามาโนเตะ แล้วก็ลงบันไดเลื่อนที่อยู่บริเวณด้านหน้าชานชาลา เมื่อลงมาแล้วก็เดินไปทางขวามือ จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางสามแยก ก็เลี้ยวไปทางขวามือ ก็จะเจอบันไดเลื่อนไปชานชาลาใต้ดินอยู่ซ้ายมือทันที จากบริเวณนี้เราก็สามารถเดินไปตามป้ายสีแดงรูปเครื่องบินไปเรื่อยๆ ได้เลย

เมื่อลงบันไดลื่อนมาแล้วก็จะเจอป้ายบอกทางสีแดงที่เขียนว่า「Narita Express」เพื่อไปที่ชานชาลาของรถไฟ Narita Express กันเลย เดินไปตามทางเยื้องไปทางขวา และลงบันไดเลื่อนยาวๆ ไป จากนั้นก็ยูเทิร์นไปทางซ้ายมือ และลงบันไดที่อยู่ตรงหน้า ก็จะเข้าสู่ชานชาลาหมายเลข 4 ของรถไฟ Narita Express เลย

เราจะใช้เวลาเดินทางจากสถานีโตเกียวไปสนามบินนาริตะประมาณ 53 นาที Narita Express จะเป็นที่นั่งแบบจองล่วงหน้า Reserved Seat ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเวลาเลือกที่นั่งแนะนำว่าให้เลือกที่นั่งแถว D หรือ C นะคะ เพื่อนๆ จะได้ชมวิว “โตเกียวสกายทรี” ที่เป็นแลนด์มาร์กของโตเกียวอยู่ทางด้านซ้ายมือ หลัออกจากสถานีโตเกียวมาประมาณ 5 นาที

ระหว่างทางเราก็สามารถทาน “เอกิเบ็น” ข้าวกล่องสถานีไปพร้อมๆ กับชมวิวด้านนอกหน้าต่างไปด้วย ข้าวกล่องก็เป็น “ข้าวกล่องโทไคโดชินคันเซ็น”「TOKAIDO SHINKANSEN BENTO(東海道新幹線弁当)」(1000 เยน)และ “ขนมจีบคิโยเค็น”「KIYOKEN NO SHUUMAI(崎陽軒のシウマイ)」(620 เยน /15 ชิ้น)ที่เราซื้อมาจากร้าน「MATSURI」ในสถานีโตเกียว ประกอบไปด้วยอาหารขึ้นชื่อของโตเกียวอย่างข้าวหุงกับหอย「FUKAGAWA MESHI(深川めし)」หรือ「ปลาหมึกแดง “ทาโกะ”」ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า และ “อาหารทะเลทอด และ มิโซะคัตสึ”「KAISEN FRIED・MISO KATSU」อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า ฯลฯ อีกมากมาย

ทานข้าวกล่อง “เอกิเบ็น” ไปเพลินๆ ระหว่างนั่งรถไฟ แปปเดียวเท่านั้นก็มาถึงสถานีสนามบินนาริตะเลยค่ะ ซึ่งสนามบินนาริตะจะมีตึกอยู่ 3 เทอร์มินอล แต่ละเทอร์มินอลก็จะมีสายการบินที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงไปกรุงเทพจะอยู่ที่

เทอร์มินอลที่ 1:สายการบินไทย・ANA

เทอร์มินอลที่ 2:JAL・แอร์เอเชีย・สกู้ด(นกสกู้ด)

ซึ่งเทอร์มินอลที่ 1 จะเป็นสถานีปลายทางของสนามบินนาริตะ หากใครต้องการลงที่เทอร์มินอลที่ 2 ก็ลงสถานีก่อนถึงสถานีปลายทางเลยค่ะ ส่วนวันนี้เราใช้สายการบินไทยเพราะฉะนั้นลงที่สถานีเทอร์มินอลที่ 1 เลย เมื่อลงจากรถไฟแล้วก็ผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วและตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นขึ้นลิฟต์ที่อยู่เลยบันไดเลื่อนเล็กๆ ไปที่ชั้น 4F และเดินไปที่ช่อง F เพื่อไปที่เคาน์เตอร์เช็คอิน

เที่ยวบินช่วงเย็น TG677 ของสายการบินไทยจะเป็นเครื่องบินลำใหญ่ A380 ดังนั้นแถวก็จะยาวเป็นพิเศษ ในกรณีที่เพื่อนๆ ใช้บริการที่นั่งชั้น Economy ก็จะต้องทำการเช็คอินด้วยตัวเองที่เครื่องเช็คอินอัตโนมัติ และติดป้ายฝากสัมภาระให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นค่อยต่อแถวเพื่อฝากสัมภาระค่ะ เมื่อเช็คอินและฝากสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็ผ่านเข้าตม.เพื่อไปที่เกทกันเลย เที่ยวบินช่วงห้าโมงเย็น TG677 เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนวุ่นวายมากที่สุดของสนามบินนาริตะ เพราะว่าช่วงเวลานี้จะมีทั้งเที่ยวบินไปยัง อเมริกา โซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกาหลี หรือจีน พร้อมกันหลายเที่ยวบิน หลังจากช่วงเวลาบ่ายสามโมงจะเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ให้รีบผ่านเข้าตม. และเช็คสัมภาระก่อนเวลาไว้เยอะๆ จะดีกว่านะคะ

และเมื่อผ่านจุดตรวจเช็คสัมภาระและตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว ก็จะเข้าสู่ส่วนช้อปปิ้งที่มีทั้งร้านขายของฝาก และร้านค้าปลอดภาษี ร้านค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอน หรือ UNIQLO ก็มีเช่นกันค่ะ และที่ร้านขายของฝากของที่นี่ เพื่อนๆ สามารถซื้อ ขนม “ชิโรอิโคอิบิโตะ Shiroikoibito” “Marusei Butter Sandwich” หรือ “Jaga Pokkuru”ที่เป็นของฝากจากฮอกไดโดได้ที่นี่โดยเฉพาะเลย

เป็นยังไงกันบ้างคะกับทริปของเราในครั้งนี้ภายในธีม “การท่องเที่ยวเทศกาลฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น” โดยเราได้พาเพื่อนๆ ไปร่วมงานเทศกาลของแถบคันไซที่โอซก้ากับงาน「OSAKA・Tenjin – Matsuri Festival」และที่เมืองหลวงของญี่ปุ่นในโตเกียวกับงาน「TOKYO・Tsukiji Honganji Bon-Odori Festival」กันไปแล้ว ซึ่งนอกจากงานเทศกาลต่างๆ แล้ว เรายังได้ไปชมการแข่งขันเบสบอลมืออาชีพที่ดุเดือดมากใน Hanshin-Koshien Stadium ของทีม HANSHIN Tigers ฯลฯ อีกมากมาย

เป็นการท่องเที่ยวที่ได้ทั้งความสนุก และได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งผ่านงานเทศกาลต่างๆ ที่เราได้เข้าร่วม ส่งท้ายฤดูร้อนของญี่ปุ่น และญี่ปุ่นก็กำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่มีงานเทศกาลต่างๆ มากมายเช่นกัน เพื่อนๆ อยากลองมาเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อมๆ กับเที่ยวงานเทศกาลต่างๆ ดูไหมค่ะ ทริปหน้าของเราจะเป็นยังไง อย่าลืมติดตามนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day4-1 GINZA STREET/NARITA AIRPORT】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK