เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-2 เที่ยวชม “วัดคุรามะ” และ “ศาลเจ้าคิฟุเนะ” ภายในภูเขาคุรามะของเกียวโต
OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1%28374%29.jpg)
ICHIGO-CHAN ได้เดินทางออกจากโรงแรมเปิดใหม่เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมากับโรงแรม「HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO」จากนั้นก็ได้นั่งรถไฟคินเท็ตสึ・รถไฟเคฮัง และนั่ง “รถไฟเอซัง”「EIZAN RAILWAY(叡山電車)」ที่เชื่อมระหว่างสถานีปลายทางของรถไฟเคฮังที่ สถานีเดมาจิยานางิ กับ ภูเขาคุรามะ และตอนนี้ก็ได้เดินทางมาที่ “คุรามะ” เป็นที่เรียบร้อย
Day3-1 เดินทางจาก HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO ไปยัง “วัดคามาคุระ”
ใช้เวลาในการเดินทางจาก “เดมาจิยานางิ” ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ถึงแม้ว่าคุรามะแห่งนี้จะอยู่ห่างจากในเมืองเพียง 12 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ก็ได้สัมผัสบรรยากาศทุ่งนาของญี่ปุ่น เป็นบริเวณที่สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวได้อย่างเต็มที่
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 12 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ท่องเที่ยวภายใน “วัดคุรามะ”「KURAMA TEMPLE(鞍馬寺)」 และ “ศาลเจ้าคิฟุเนะ”「KIFUNE JINJA(貴船神社)」 กันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%28320%29.jpg)
เมื่อลงรถไฟที่ “สถานีคุรามะ”「KURAMA STATION」แล้วก็เดินตรงไปตามทางด้านหน้าเรื่อยๆ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายที่สามแยก ก็จะเจอประตูนิโอมงของวัดคุรามะอยู่ตรงหน้าเลย ซึ่งประตูนี้ถือเป็นประตูที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และสถานที่คุ้มภัยศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง โดยประตูนิโอมงนี้ส่วนใหญ่ถูกสร้างใหม่ตั้งแต่ปีพ.ศ.2454 แต่มีแค่เพียงประตูทางฝั่งซ้ายมือเท่านั้นที่เป็นของตั้งแต่ปีพ.ศ.1725 เมื่อ 800 ปีก่อน และที่น่าตกใจคือเป็นประตูที่ทำจากไม้ด้วยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%28297%29.jpg)
และที่บริเวณประตูนิโอมงนี้จะมีเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ซึ่งการจะผ่านเข้าไปต้องชำระค่าเข้าวัด(ค่ารักษา)300 เยน เมื่อจ่ายแล้วก็เข้าไปข้างในกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%28295%29.jpg)
ซึ่งทางเดินจากประตูนิโอมง ไปยังอาคารวัดหลักจะเป็นทางบันได ที่ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณเที่ยวละ 30 นาที ซึ่งหากพูดว่า 30 นาที หลายๆ คนอาจจะไม่รู้สึกอยากเดินเลยใช่ไหมคะ แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะว่าระหว่างทางจะมีสถานที่ให้เที่ยวชมอยู่มากมายอย่างเช่น “ศาลเจ้ายูกิ” และเมื่อเดินผ่านประตูนิโอมงมาก็จะเป็นบันไดหินที่ทั้งสองข้างทางมีโคมไฟสีแดงแบบญี่ปุ่นเรียงรายอยู่ตลอดทางสวยงาม เป็นมุมถ่ายรูปที่ดีเลยค่ะ แค่ในช่วงเวลาปกติก็เป็นมุมถ่ายรูปที่สวยแล้ว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%28304%29.jpg)
ยิ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ยิ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวที่บริเวณนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนเป็นบรรยากาศที่สวยงามเช่นกันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%28307%29.jpg)
และสำหรับเพื่อนๆ ที่คิดว่าไม่สามารถเดินขึ้นเขาเป็นเวลา 30 นาทีได้ ก็นั่งเคเบิ้ลคาร์จาก “ฟุเมียวเด็น (FUMYOUDEN:普明殿)” ที่อยู่บนประตูนิโอมง เพื่อเดินทางไปยัง “ทะโฮโต (TAHOUTOU 多宝塔)” ที่อยู่ใกล้ “คนโด” หรืออาคารวัดโดยใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 นาทีเท่านั้น
ค่าเดินทาง 200 เยน สามารถซื้อตั๋วได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วที่ “ฟุเมียวเด็น (FUMYOUDEN:普明殿)” ได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%28303%29.jpg)
และเมื่อเดินผ่านทางเดินหินไปซักพักก็จะเจอ “ศาลเจ้ายูกิ”「YUKI JINJA(由岐神社)」เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาคุรามะ ซึ่งเดิมทีศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่พระราชวังหลวงเกียวโต(ที่ประทับของจักรพรรดิ) แต่ก็ได้ถูกย้ายมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายของบ้านเมือง เมื่อ 1000 กว่าปีก่อน และจุดที่เป็นเสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือ ต้นสนซุงิ ขนาดใหญ่ ความสูง 53 เมตร ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี และคนเกียวโตนั้นมีความเชื่อว่าหากได้ขอพรที่ต้นไม้ “โอซุงิซัง” นี้ พรนั้นก็จะสมหวังอีกด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%28308%29.jpg)
เดินไปตามทางเดินวัดไปเรื่อยๆ ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ประมาณ 30 นาที ตอนนี้ก็ได้เดินทางมาที่อาคาร “คนโด” เป็นที่เรียบร้อย และที่บริเวณด้านหน้าอาคารนี้จะมีลาย「ROKUBOUSEI(六芒星)」ทรงหกเหลี่ยมอยู่ที่พื้น และมีความเชื่อว่าหากได้ยืนอยู่ตรงกลางจุดนั้นก็จะได้รับ “พลัง” ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในวัด ซึ่งในช่วงวันหยุดอาจต้องยืนรอต่อแถวเพื่อยืนที่จุดนี้กันเลยค่ะ
ในส่วนภายในอาคาร “คนโด” (จะเป็นส่วนที่ห้ามถ่ายภาพ) นอกจากจะสามารถอธิษฐานขอพรแล้ว ยังมีทั้งเซียมซี เครื่องรางชนิดต่างๆ หรือแผ่นยันต์ให้ได้เลือกซื้ออีกด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%28308%29.jpg)
และจุดที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งจุดในวัดคุรามะก็คือ “อะอุนโนะโทระ”「A UN NO TORA(阿吽の虎)」ซึ่งศาลเจ้าหรือวัดทั่วไปส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปปั้น “โคมะอินุ”「KOMAINU(狛犬)」(สุนัข) แต่ที่วัดคุรามะแห่งนี้จะเป็น “เสือ” โดยเสือที่วัดคุรามะนี้ก็คือสัตว์รับใช้ของ「ท้าวเวสวัณ」หนึ่งในพระประทานที่อยู่ในวัดคุรามะ และถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะที่ภูเขาคุรามะแห่งนี้
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%28311%29.jpg)
หลังจากที่เพลิดเพลินกับ “วัดคุรามะ” แล้ว หลังจากนี้เราจะเดินทางไปยังอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของภูเขาคุรามะที่ “ศาลเจ้าคิฟุเนะ”「KIFUNE JINJA(貴船神社)」กันค่ะ
โดยการเดินทางจากวัดคุรามะไปยังศาลเจ้าคุฟุเนะจะต้องเดินป่าเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร ที่อาจต้องใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง แต่จะเป็นการเดินเขาที่ค่อนข้างจริงจังเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจะต้องเตรียมความพร้อมให้ดีก่อนนะคะ
โดยปกติแล้วเพื่อนๆ จะต้องเดินกลับไปที่สถานีคุรามะก่อน จากนั้นก็นั่งรถไฟเอซังไปที่ สถานี Kibuneguchi Station ต่อด้วยรถบัส หรือสามารถเดินเท้าไปได้เช่นกัน ค่าเดินทางจากสถานีคุระมะ ไปยังสถานีคุบุเนะกูจิ จะอยู่ที่ 210 เยน เมื่อใส่เงินเข้าไปในเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติแล้ว ก็กดปุ่ม 210 เลย เท่านี้ก็เรียบร้อย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%28317%29.jpg)
ด้านหน้าสถานีคุรามะ ที่ให้บรรยากาศแบบเรโทรนี้ จะมีสัญลักษณ์ของคุรามะกับรูปปั้นหน้ากากแดงจมูกยาว “เท็งงุ”「TENGU(天狗)」อยู่อีกด้วย และเราจะนั่งรถไฟจากสถานีคุรามะ ไปสถานีคิบุเนะกุจิ เพียง 1 สถานี ใช้เวลา 3 นาทีเท่านั้น โดยในวันธรรมดารถไฟจะวิ่งชั่วโมงละ 3 เที่ยว ส่วนวันเสาร์อาทิตย์จะวิ่งชั่วโมงละ 4 เที่ยว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องตารางเวลาเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28318%29.jpg)
ระยะทางจากสถานีคิบุเนะกุจิ ไปยังศาลเจ้าคิฟุเนะ จะห่างกัน 2 กิโลเมตร ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะทางที่สามารถเดินได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากออมแรง หรือประหยัดเวลา ก็สามารถนั่งรถบัสไปได้เลย
โดยรอบวิ่งรถบัสก็จะวิ่งพอๆ กับรถไฟเอซัง คือ วันธรรมดาวิ่งชั่วโมงละ 3 เที่ยว ส่วนวันเสาร์อาทิตย์จะวิ่งวันละ 4 เที่ยว
เดินออกจากสถานีไปทางซ้ายมือก็จะป้ายรถบัสเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%28309%29.jpg)
ค่าเดินทางจากสถานีคิบุเนะกุจิ ไปยังป้ายบัส “คิฟุเนะ”「KIFUNE(貴船)」ใกล้ศาลเจ้าคิฟุเนะมากที่สุด จะอยู่ที่ 160 เยน โดยรถบัสนี้จะคิดเป็นค่าเดินทางต่อครั้ง ครั้งละ 160 เยนเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องหยิบตั๋วรถบัสขณะขึ้นรถเลยค่ะ โดยขึ้นรถบัสจากประตูหลัง และลงรถบัสจากประตูหน้า สามารถชำระเงิน 160 เยนใส่กล่องชำระเงินข้างคนขับได้ขณะลงรถบัสเลย
ซึ่งเครื่องชำระเงินนี้จะไม่มีระบบทอนเงิน เพราะฉะนั้นหากใครไม่มีเหรียญครบตามจำนวนก็สามารถแลกได้ที่เครื่องแลกเงินที่ติดอยู่กับเครื่องชำระเงินได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28313%29.jpg)
ป้ายบัสคิฟุเนะ จะอยู่ห่างจากศาลเจ้าคิฟุเนะเพียงเดินเท้า 5 นาทีเท่านั้น โดยจะต้องเดินไปตามทางเดินเรียบแม่น้ำ และมีร้านค้าต่างๆ เรียงรายอยู่มากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านจำหน่ายของฝาก แปปเดียวเท่านั้นก็มาถึงหน้าทางขึ้นศาลเจ้าอยู่ทางด้านซ้ายมือ ที่มีโทริอิขนาดใหญ่เรียกว่า “นิโนะโทริอิ”「NINOTORII(二の鳥居)」ให้ผ่านโทริอินี้ไปและเดินขึ้นไปทางบันไดหินเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%28303%29.jpg)
เมื่อลอดผ่าน “นิโนะโทริอิ”「NINOTORII(二の鳥居)」ไปแล้วทางเดินระหว่างทางจะเป็น “ทางเดินบันไดหิน” ซึ่งเป็นมุมที่เปรียบเสมือนตัวแทนของ『ศาลเจ้าคิฟุเนะ』 ที่ให้บรรยากาศความเป็นเกียวโต สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามโปสเตอร์ หรือนิตยสารต่างๆ
และทั้งสองข้างทางบันไดหินนี้จะมีโคมไฟสีแดงที่ชื่อว่า “คะสึกะโดโร”「KASUGADOUROU(春日灯篭)」ประดับอยู่ตลอดทาง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศาลเจ้าแห่งนี้ที่ไม่สามารถสัมผัสได้ที่อื่น
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%28304%29.jpg)
ถึงแม้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูที่สวยงามเป็นพิเศษเลยก็คือ “ใบไม้เปลี่ยนสี” ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และช่วง “หิมะ” ในฤดูหนาวนั่นเอง
โดยในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ไปจนถึงเวลาประมาณ 20:00 น. จะเป็นช่วงเปิดดวงไฟในโคมไฟงดงามเกินคำบรรยายเลยทีเดียว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%28310%29.jpg)
และเมื่อเดินขึ้นมาตามบันไดหินที่มีโคมไฟ “คะสึกะโดโร” ประดับอยู่สองข้างทางมาแล้ว ก็จะเจออาคารหลักศาลเจ้าเลย และที่บริเวณด้านซ้ายมือจะมีที่ชำระล้างร่างกายอยู่ ก่อนอื่นเราจะไปล้างมือกันก่อน แล้วค่อยไปที่อาคารหลักศาลเจ้ากันค่ะ
โดยมีวิธีการล้างมือชำระล้างร่างกายดังนี้
1.ถือกระบวยด้วยมือขวา และตักน้ำให้เต็ม จากนั้นน้ำมาล้างมือซ้าย
2.เปลี่ยนมือที่ถือกระบวยเป็นข้างซ้าย และล้างมือขวา
3.เปลี่ยนมาถือกระบวยมือขวาอีกรอบ เทน้ำใส่มือซ้ายพอประมาณ และทำการบ้วนปาก
4.ล้างมือซ้ายอีกรอบ
5.ตั้งกระบวยขึ้น โดยหันหน้ากระบวยเข้าตัว เพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างที่จับกระบวย วางกระบวยไว้ที่เดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%28304%29.jpg)
จากนั้นก็ไปกราบไหว้อาคารหลักศาลเจ้ากันเลย อาคารหลักศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 150 กว่าปีก่อน ทำจากไม้สนฮิโนคิที่มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นกลิ่นหอมๆ ของไม้สนเลย
โดยเมื่อมาที่บริเวณหน้าศาลเจ้าหลัก(ที่มีระฆังและกล่องทำบุญอยู่หน้าอาคาร) โค้งคำนับเล็กน้อย 1 ครั้ง และโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)จากนั้นสั่นสายระฆังที่ห้อยลงมา และทำการ
โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง
ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง
โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%28301%29.jpg)
และที่บริเวณด้านข้างอาคารหลักศาลเจ้าจะมีมุมเซียมซีที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของศาลเจ้าคิฟุเนะแห่งนี้กับ “มิซึอุระมิคุจิ”「MIZUURAMIKUJI(水占みくじ)」(200 เยน)
โดยใส่เงินเข้าไป 200 เยน จากนั้นก็หยิบเซียมซี “มิซึอุระมิคุจิ”「MIZUURAMIKUJI(水占みくじ)」มาหนึ่งอัน และนำเซียมซีนี้ไปลอยน้ำที่บ่อน้ำธรรมชาติ “จินซุย”「JINSUI(神水)」(เทพเจ้าแห่งน้ำ) เพื่อให้ตัวหนังสือปรากฏขึ้นมาบนเซียมซี
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%28268%29.jpg)
เมื่อลอยเซียมซี “มิซึอุระมิคุจิ”「MIZUURAMIKUJI(水占みくじ)」บนผิวน้ำไปซักพักตัวหนังสือที่ถูกเขียนอยู๋บนเซียมซีก็จะปรากฏขึ้นมา จากที่เป็นเพียงกระดาษที่มีช่องว่างเท่านั้น เป็นเซียมซีที่มหัศจรรย์มากๆ และข้อความที่ปรากฏขึ้นมาในส่วนวงกลมก็คือ การบอกโชคที่ได้ ส่วน ICHIGO-CHAN ได้คำว่า「中吉」ที่แปลว่า “โชคดีปานกลาง” ค่ะ ซึ่งที่นี้จะมีระดับการบอกโชคอยู่ 5 ระดับคือ「大吉:โชคดีมาก・吉:โชคดี・中吉:โชคดีปานกลาง・小吉:โชคน้อย・凶:โชคไม่ดี」ซึ่ง 「中吉:โชคดีปานกลาง」ที่ได้จะอยู่ตรงกลางพอดีเลยค่ะ และมีความเชื่อว่าหากจับเซียมซีได้นอกจาก “大吉:โชคดีมาก” ก็สามารถผูกเซียมซีนี้ไว้ที่บริเวณมุมหนึ่งของศาลเจ้าเอาไว้ก็จะช่วยให้มีโชคเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
หลังจากที่ได้เที่ยวชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ “วัดคุรามะ” และ “ศาลเจ้าคิฟุเนะ” ที่มีทั้งเซียมซีลอยน้ำเซียมซี “มิซึอุระมิคุจิ”「MIZUURAMIKUJI(水占みくじ)」และทางเดินโคมไฟสีแดงสวยงามแล้ว ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปที่「BYODOIN-HOUOUDO(平等院鳳凰堂)」ใน อุจิ ของเกียวโต เป็นสถานที่โด่งดังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเคยได้เสด็จมาที่แห่งนี้
ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยัง “อุจิ” เพื่อท่องเที่ยว「BYODOIN-HOUOUDO(平等院鳳凰堂)」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day3-2 KURAMA TEMPLE/KIBUNE SHRINE】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%28219%29.jpg)