Day3-1 เดินทางจาก HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO ไปยัง “วัดคามาคุระ”

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-1 เดินทางจาก HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO ไปยัง “วัดคามาคุระ”

OSAKA-KYOTOKURAMA-UJI-OSAKA

ICHIGO-CHAN ได้เดินทางจากโอซาก้า มายังเกียวโตด้วยพาสสุดคุ้ม「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」และท่องเที่ยวเกียวโตโดยเริ่มจากการท่องเที่ยว “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ”「FUSHIMI INARI TAISHA(伏見稲荷大社)」จากนั้นเดินทางไปยัง “ย่านกิออน”「GION(祇園)」 “วัดคินคาคุจิ”「KINKAKU-JI(金閣寺)」และ “อาราชิยามะ”「ARASHIYAMA(嵐山)」

Day2-5 ทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ICHIFUJI และเข้าพักที่ HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO

หลังจากที่ได้เข้าพักที่โรมแรมเปิดใหม่「HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO」แล้ว เราจะออกเดินทางไป “เขาคุรามะ”「Mt.Kurama」โดยเราจะใช้「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในการเดินทางออกจาก “เดมาจิยานางิ” (Demachiyanagi) ไปเป็นเวลา 30 นาที เพื่อวิ่งท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา และวิถีชีวิตการเกษตรของชาวบ้าน ในบรรยากาศฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในเกียวโตเลยทีเดียว เพื่อนๆ จะได้สัมผัสบรรยากาศความสวยงามที่ไม่สามารถสัมผัสได้ที่ในตัวเมืองเกียวโต หรือโอซาก้า เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 11 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ เดินทางออกจากโรงแรม KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS ไปยัง “คุรามะ” กันค่ะ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN พักผ่อนอย่างเต็มที่จากการได้แช่ออนเซ็นผ่อนคลาย และนอนเตียงนุ่มๆ ไปทั้งคืน ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่ 3 ของทริปนี้แล้ว และสิ่งที่เราตั้งตารอในทุกๆ เช้านั่นก็คือ อาหารเช้า โดย『อาหารเข้าของโรงแรม HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO』นี้จะเป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่มีทั้งอาหารญี่ปุ่น และอาหารฝรั่ง

ห้องอาหารเช้าจะอยู่ที่ชั้น 1F การตกแต่งดูดี มีความเป็นญี่ปุ่นแบบโมเดิล ที่มีกลิ่นอาหารหอมโชยมาแต่ไกลเลยค่ะ

อาหารเช้าก็มีทั้งไข่คน ไส้กรอก แฮมชิ้นหนา ยากิโซบะ หรือ ไก่ทอดต่างๆ….

เท่านั้นไม่พอยังมีไข่หวาน จิกุเซ็นนิ และเมนูแนะนำของโรงแรม HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO กับอาหารขึ้นชื่อของเกียวโต「CHAGAYU(茶粥)」และผักดองร้านดังของเกียวโต「UCHIDA TSUKAMONO(打田漬物)」

ไม่ว่าจะเป็น “ฉะกายุ” ที่ใช้ ชาเม หรือ ชาอุจิ จากอุจิในเกียวโตต้มในหม้อดิน หรือ ของดองจากร้านของดองร้านดังในตลาดนิชิกิกับร้านอุจิดะสึเกะโมโนะ ก็สามารถเลือกทานได้อย่างเต็มที่

ตักทานได้เรื่อยๆ ไม่อั้นเลยค่ะ

เท่านั้นไม่พอยังมี สลัดบาร์ หรือขนมปังนานาชนิดแสนอร่อยๆ อยู่อีกมากมาย กับอาหารเช้าของ「HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO」ทานให้เต็มอิ่มไปเลยค่ะ♪

เมื่อทานอาหารเช้าแล้ว เราจะไปเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมกันเลย สำหรับเพื่อนๆ ที่จัดการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเช็คเอ้าท์ได้โดยยื่นคีย์การ์ดให้พนักงานเท่านั้น บอกลาสตาฟน่ารักๆ เหล่านี้แล้วออกเดินทางกันเลย

และสถานที่แรกของวันนี้ก็คือ “วัดคุรามะ”「KURAMA TEMPLE(鞍馬寺)」โดยการเดินทางจากโรงแรม HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO ไปยัง “วัดคุรามะ” นั้นจะต้องเดินทางจากสถานีรถไฟคินเท็ตสึ สถานีเกียวโต ไปยัง สถานีทัมบาบาชิ(Tambabashi Station) จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถไฟด่วนพิเศษเคฮัง ที่สถานีทัมบาบาชิ ไปยังสถานีปลายทางที่ สถานีเดมาจิยานางิ และนั่งรถไฟเอซัง (Eizan Railway) ต่อที่สถานีเดมาจิยานางิ เพื่อเดินทางไปยังสถานีปลายทางที่สถานีคุรามะกันค่ะ เมื่อถึงตรงนี้แล้วก็เดินไปอีกเพียง 3 นาทีเท่านั้น

ก่อนอื่นจะต้องออกจากโรงแรมเพื่อไปสถานีรถไฟคินเท็ตสึ สถานีเกียวโตกันโดยออกจากโรงแรมไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ เดินไปจนสุดทางสามแยกก็จะเจอสถานีเกียวโต ฝั่งประตู Hachijo East เลย ให้เดินเรียบอาคารสถานีไปทางซ้ายมือ เดินไปซักพักก็จะเจอบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปทางเดินที่เชื่อมระหว่างเหนือใต้ ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไป จากนั้นก็เดินไปทางขวามือ

เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนและเดินไปทางขวามือแล้ว เดินไปซักพักก็จะเจอช่องตรวจตั๋วของเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงชินคันเซ็นอยู่ทางขวามือ และทางฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเดินไปสถานีเกียวโตของรถไฟคินเท็ตสึเลยค่ะ

โดยสถานีเกียวโตของรถไฟคินเท็ตสึนี้ จะเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่ ที่มีรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่นารา นาโกย่า อิเสะ・ชิมะ ซึ่งในครั้งนี้เราจะนั่งรถไฟคินเท็ตสึไปจนถึง「ทัมบาบาชิ(丹波橋)」เพื่อไปเปลี่ยนเป็นรถไฟเคฮังกันค่ะ

โดยเส้นทางระหว่างสถานีเกียวโตของรถไฟคินเท็ตสึ ไปยังสถานีทัมบาบาชินั้นจะไม่อยู่ในขอบเขตของพาส「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องซื้อตั๋วแยก(210 เยน)

ก่อนอื่นก็จะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ เพื่อเดินทางไปยัง “ทัมบาบาชิ(Tambabashi)” เมื่อเช็คแล้ว ก็สัมผัส Language ที่อยู่บนขวาหน้าจอ และเลือก English จากนั้นก็สัมผัสคำว่า Ticket ตามด้วยปุ่มจำนวนเงิน「210」และใส่เงินเข้าไปในเครื่องจำหน่ายตั๋วเท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไป จากนั้นก็เดินเยื้องไปทางขวามือ เพื่อขึ้นรถไฟด่วน หรือรถไฟแบบธรรมดา จากชานชาลาหมายเลข 3・4 โดยรถไฟที่วิ่งจากสถานีเกียวโตของรถไฟคินเท็ตสึไปยัง สถานีทัมบาบาชิ จะวิ่งชั่วโมงละ 8 เที่ยว หากเป็นรถไฟแบบด่วนจะใช้เวลาในการเดินทาง 8-9 นาที ส่วนรถไฟแบบธรรมดา จะใช้เวลาในการเดินทาง 13-15 นาที

เมื่อถึงสถานีทัมบาบาชิแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นรถไฟด่วนพิเศษเคฮัง โดยขึ้นบันไดหรือบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วกันเลย

เมื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ และเดินไปตามทางเชื่อมไปยังสถานีทัมบาบาชิของรถไฟเคฮังกันเลย เมื่อข้ามผ่านทางเชื่อมไปแล้วก็จะเจอสถานีทัมบาบาชิของรถไฟเคฮังเลย

เราจะใช้「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในการผ่านช่องตรวจตั๋วไป จากนั้นก็ลงบันไดที่อยู่เยื้องไปทางด้านซ้ายมือเพื่อมุ่งหน้าไปที่ชานชาลารถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่「SANJO(三条)・DEMACHIYANAGI(出町柳)」เมื่อถึงชานชาลาแล้ว ก็ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษเคฮังที่วิ่งทุกๆ 10 นาทีเพื่อเดินทางไปสถานีปลายทางที่สถานีเดมาจิยานางิ(Demachiyanagi Station)กันเลย ภายในรถไฟจะเป็นที่นั่งแบบ Cross Seat ใช้เวลาในการเดินทาง 14 นาทีเท่านั้น

เมื่อเดินทางมาถึงสถานีปลายทางที่สถานีเดมาจิยานางิแล้ว ก็เปลี่ยนเป็น “รถไฟเอซัง”「EIZAN RAILWAY(叡山電車)」เพื่อเดินทางไปยัง “คุรามะ” กันเลย โดยเราจะขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลาเพื่อขึ้นไปที่ชั้นตรวจตั๋วกันเลย จากนั้นก็ผ่านออกช่องตรวจตั๋วไปด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」และเดินไปทางซ้ายมือเลย เดินตรงไปเรื่อยๆ ขึ้นบันไดเลื่อนไป ก็จะเจอสถานีเดมาจิยานางิของ “รถไฟเอซัง”「EIZAN RAILWAY(叡山電車)」อยู่ทางซ้ายมือเลย

โดยเส้นทางระหว่าง “สถานีเดมาจิยานางิ” ไปยัง “สถานีคุรามะ” ที่วัดคุรามะ จะไม่รวมอยู่ในขอบเขตของ「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」เพราะฉะนั้นเราจะต้องซื้อตั๋วแยก ก่อนอื่นก็ไปซื้อตั๋วรถไฟจากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัตที่อยู่ข้างๆ ช่องตรวจตั๋วกันเลย วิธีซื้อก็คล้ายๆ กับรถไฟคินเท็ตสึ โดยก่อนอื่นก็จะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ เพื่อเดินทางไปยัง “สถานีคุรามะ(Kurama Station)” (420 เยน) เมื่อเช็คแล้ว ก็ใส่เงินเข้าไปในเครื่องจำหน่ายตั๋ว และกดปุ่มค่าเดินทาง(420) เท่านี้ก็เรียบร้อย เมื่อซื้อตั๋วรถไฟแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติเพื่อเข้าไปที่ชานชาลากันเลย

“รถไฟเอซัง”『EIZAN RAILWAY』ที่เชื่อมระหว่าง “สถานีเดมาจิยานางิ” กับ “สถานีคุรามะ” และ “สถานียาเสะ-ฮิเออิซังกูจิ(Yase-Hieizanguchi Station)” ทางเข้าภูเขาอิเออิซัง

รถไฟท่องเที่ยว “คิราระ”「KIRARA(きらら)」ที่เชื่อมระหว่าง “เดมาจิยานางิ” และ “คุรามะ” กับหน้าต่างชมวิวขนาดใหญ่ และรถไฟท่องเที่ยว “ฮิเออิ”「HIEI(ひえい)」ที่เชื่อมระหว่าง “เดมาจิยานางิ” กับ “ยาเสะ-ฮิเออิซังกูจิ(Yase-Hieizanguchi)” เป็นรถไฟหน้าต่างทรงกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่ารถไฟท่องเที่ยวไหนก็สามารถใช้บริการได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วพิเศษ และไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าอีกด้วย

“คิราระ”「KIRARA(きらら)」วิ่งวันละ 9-18 เที่ยว

“ฮิเออิ”「HIEI(ひえい)」วิ่งวันละ 12-20 เที่ยว (ทั้งสองชนิดอาจมีความเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฤดูกาลและวันเวลา)

โดยเพื่อนๆ สามารถ『เช็คตารางเวลารถไฟ』ได้ทางเว็ปไซต์อีกด้วย

ในครั้งนี้เราได้ใช้บริการ “คิราระ”「KIRARA(きらら)」เดินทางจาก “เดมาจิยานางิ” ไปยัง “คุรามะ” กันค่ะ เป็นรถไฟที่มีหน้าต่างบานใหญ่ สามารถชมวิวธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าช่วงเวลาไหนๆ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวโดยรอบระหว่างทางได้

สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวธรรมชาติในฤดูกาลต่างๆ ได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง หรือ ฤดูหนาว โดยเฉพาะ 『ช่วง “ใบไม้เปลี่ยนสี” ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง』 และช่วง “หิมะ” ในฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยวจะหนาแน่นเป็นพิเศษ

เมื่อเดินทางออกจากสถานีเดมาจิยานางิ ไปประมาณ 20-25 นาที ในช่วงระหว่าง “สถานีอิจิฮาระ Ichihara Station-สถานีนิโนเสะ Ninose Station” จะเป็นช่วงของ “อุโมงค์โมมิจิ”「MAPLE TREE TUNNEL」ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนพฤศจิกายนก็จะได้ชมอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มสวยงามจากหน้าต่างรถไฟได้อย่างเต็มที่

รถไฟระหว่าง “เดมาจิยานางิ” และ “คุรามะ” วันธรรมดาจะวิ่งชั่วโมงละ 3 เที่ยว ส่วนวันเสาร์หรือวันหยุดจะวิ่งชั่วโมงละ 4 เที่ยว และใช้เวลาในการเดินทาง 31-35 นาที ระหว่างทางจะได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามเรียบเส้นทางรถไฟขึ้นไปตามภูเขาคุรามะ เดินทางไปแปปเดียวเท่านั้นก็ถึงสถานีคุรามะเลยค่ะ

ซึ่งสถานีคุรามะจะเป็นสถานีที่มีบรรยากาศแบบเรโทร ด้านหน้าสถานีจะมีสัญลักษณ์ของคุรามะกับรูปปั้นหน้ากากแดงจมูกยาว “เท็งงุ”「TENGU(天狗)」อยู่อีกด้วย

เพื่อนๆ สามารเดินเท้าจาก สถานีคุรามะ ไปยัง “วัดคุรามะ”「KURAMA TEMPLE」ได้โดยใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น โดยเดินออกจากสถานีตรงไปเรื่อยๆ ไปจนสุดทางสามแยกแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ ซักพักก็จะเจอทางเข้าวัดคุรามะเลย

ระหว่างทางเดินจากสถานีคุรามะ ไปยังวัดคุรามะ ก็จะมีร้านจำหน่ายของฝากที่มีสินค้ามากมายทั้งของฝาก「KURAMA TENGU」ที่เป็นสัญลักษณ์ของคุรามะ ฯลฯ อีกมากมาย

เมื่อเดินผ่านทางเดินวัดที่มีร้านจำหน่ายของฝากเรียงรายอยู่ข้างทางไปแล้ว ก็จะเจอประตูซันมง(นิโอมง)ของ “วัดคุรามะ”「KURAMA TEMPLE」อยู่ตรงหน้าเลย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ “ภูเขาคุรามะ” โดยประตูซันมงที่อยู่ตรงหน้าเรานี้ถือเป็นประตูที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และสถานที่คุ้มภัยศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เที่ยวชมภายใน “วัดคุรามะ”「KURAMA TEMPLE」และเดินทางไปอีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ของภูเขาคุรามะที่ “ศาลเจ้าคิฟุเนะ”「KIFUNE JINJA(貴船神社)」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day3-1 HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO/KURAMA TEMPLE】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS”

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶