ICHIGO CHAN ซึ่งได้ดื่มด่ำแบบเต็มที่ไปกับ “ศาลเจ้าอิเสะ” หนึ่งในศาลเจ้าระดับสูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และ “โอฮาไรมาจิ” “โอกาเงะโยโกะโจ”
ในวันนี้เราจะแวะไปที่ศาลเจ้าฟุตามิโอกิตามะซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งเราจะพลาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวที่อิเสะ จากนั้นก็จะไปที่หินเมโอโตะอิวะ แล้วก็แวะไปที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ” 『TOBA AQUARIUM』ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามีประเภทของสัตว์น้ำมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นเราก็จะมุ่งหน้าไปนาโงย่าเพื่อช้อปปิ้งและทานอาหารก่อนจะเดินทางกลับประเทศ
ทานอาหารที่โรงแรมในตอนเช้า
แม้ว่าอาหารหลัก ๆ จะเป็นแบบง่าย ๆ อย่างเช่นออมเล็ดและเบคอน แต่เราก็มีสารอาหารครบถ้วนตั้งแต่เช้าก่อนออกเดินทาง
เป็นเช้าที่อากาศแจ่มใสและรู้สึกสดชื่น
ICHIGO CHAN จะลากกระเป๋าเดินทางไปยังไงดีล่ะเนี่ย…!?
เพราะว่า 『ISE CITYHOTEL ANNEX』 อยู่ที่ด้านหน้าของสถานีเลย แม้ว่าจะมีของสัมภาระเยอะก็ไม่ได้เป็นปัญหาขนาดนั้น
ขึ้นรถ 『CAN-BUS』 ของการคมนาคมมิเอะซึ่งจะออกจากชานชาลาหมายเลข 10 เหมือนกับตอนที่ไปที่ศาลเจ้าชั้นในของศาลเจ้าอิเสะเมื่อวาน
การเดินทางไปป้ายรถบัส “MEOTOIWA HIGASHI GUCHI เมโอโตะอิวะฮิงาชิงุจิ” ซึ่งอยู่ใกล้กับ “ศาลเจ้าฟุตามิโอกิตามะ” ด้วย 『CAN-BUS』 นั้นสะดวกมาก แต่เพราะว่ามีรถบัสที่ออกจากชานชาลาเดียวกันไปปลายทางอื่นด้วย ฉะนั้นจำไว้ว่าต้องขึ้น 『CAN-BUS』 เท่านั้น
สามารถขึ้นรถด้วย “Ise / Toba Michikusa Pass” ที่ซื้อมาเมื่อวานได้
ICHIGO CHAN ดันเผลอไปนั่งตรง “ที่นั่งเอื้ออาทร”
รถไฟและรถบัสจำนวนมากในประเทศญี่ปุ่นจะจัดเตรียม “ที่นั่งพิเศษ” หรือ “ที่นั่งใช้เฉพาะ” เอาไว้สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการทางร่างกายเอาไว้
เพราะว่าตำแหน่งของที่นั่งจะแตกต่างกันไปแล้วแต่บริษัท ทำให้อาจจะเข้าใจยากสำหรับชาวต่างชาติ แต่ในกรณีของรถบัสนั้น ที่นั่งเหล่านี้มักจะอยู่ที่ด้านหน้าของประตูกลางรถ จะต้องสังเกตให้ดีว่าสีของเก้าอี้ตัวนั้นแตกต่างจากของตัวอื่นหรือเปล่า ไม่ก็มีตัวหนังสือเขียนเอาไว้ที่ผ้าคลุมพนักพิงเหมือนในรูปหรือเปล่า….
สำหรับคนไทย ถ้ามีผู้สูงอายุ เด็ก หรือพระสงฆ์ขึ้นรถมา ไม่ว่าเราจะนั่งอยู่ตรงตำแหน่งไหนก็ตาม เราก็จะลุกให้พวกเขานั่งอยู่แล้ว♪
นั่งโยกไปมาบนรถบัสประมาณ 40 นาที
มาถึงที่ป้ายรถบัสเมโอโตะอิวะฮิงาชิงุจิแล้ว
เดินย้อนกลับไปทางที่เรามานิดเดียวจากป้ายรถบัส ทางขวามือก็จะมีช้อปปิ้งเซนเตอร์อยู่
เข้าไปด้านใน เลี้ยวซ้าย แล้วก็ออกประตู จะมองเห็นเสาโทริอิของ “ศาลเจ้าฟุตามิโอกิตามะ” จากนั้นก็เดินไปทางนั้นกันเลย
ที่เรามองเห็นก็คือหินเมโอโตะอิวะ
หินทั้งสองก้อนได้เชื่อมต่อกันด้วยชิเมะนาวะเป็นสัญลักษณ์ของความปรองดองกันระหว่างสามีภรรยาและความรุ่งเรืองของลูกหลาน
ในช่วงเวลาหนึ่งของฤดูร้อนจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ซึ่งมีชื่อว่า “ไดอามอนด์ฟูจิ” ได้ คือมีพระอาทิตย์ขึ้นจากช่องว่างระหว่างหินทั้งสองก้อนและก็มองเห็นภูเขาไฟฟูจิอยู่ไกลลิบ ๆ
ทิวทัศน์นี้มักจะถูกใช้เป็นรูปภาพของเดือนมกราคมในปฏิทินของประเทศญี่ปุ่น
บริเวณภายในของศาลเจ้าฟุตามิโอกิตามะนั้นได้รับการตกแต่งด้วยกบซึ่งถือเป็นทูตของเทพเจ้า
คำว่า กบ ในภาษาญี่ปุ่นนั้นพ้องเสียงกับคำว่า “ส่งคืน / กลับ”
ทำให้ได้รับการบูชาในฐานะสิ่งที่นำพาความโชคดีมาให้ เช่น “กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย” “ของหรือเงินที่ให้คนยืมไปจะกลับมา”
ICHIGO CHAN ขอพรให้หนังสือท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นที่ให้เพื่อนยืมไปนั้นกลับคืนมาอย่างปลอดภัย
เพราะว่ามี “เซียมซี” ด้วยก็เลยจะลองเสี่ยงทายดู
เซียมซีปกตินั้นมีราคา 100 เยนอะนะ….
เซียมซีที่ใส่เครื่องรางมอบโชคดีนั้นมีราคา 200 เยน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงนี่แล้วก็จะเลือกอันนี้แหละ
จะขอนำเสนอ 13 สิ่งที่คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าจะนำพาความโชคดีมาให้
เต่าเซนิกาเมะ : “อายุยืน” และ “มีเงินเพิ่ม” เหมือนกับเต่า
พัดนำทัพ : “โชคในการเอาชนะ”
กบ : “กลับ” (จากการท่องเที่ยวหรือสถานที่ที่ไปมาอย่างปลอดภัย)
น้ำเต้า 6 ลูก : “สุขภาพดี” / “เลื่อนขึ้น” / “พัฒนาอย่างรวดเร็ว”
ตุ๊กตาดารุมะ : เทพเจ้าแห่งโชคลาภที่จะนำพา “ความอดทน” “ความสุข” “อายุยืน” มาให้
คราด : กวาดรวบรวม “โชคลาภ” และ “เงินทอง”
เหรียญและมะเขือ : “ความสงบสุข” และ “เงินทอง”
แมวกวัก : “ค้าขายรุ่งเรือง” “ความปลอดภัยภายในบ้าน”
ค้อนอันเล็ก : “ขับไล่สิ่งเลวร้ายและรวบรวมเงินทอง”
นกกระจ้อยญี่ปุ่น : “นกแห่งความสุขที่จะทำให้สิ่งเลวร้ายกลายเป็นแค่เรื่องโกหก”
โอตาฟุกุ (หน้ากากตัวตลกหญิง) : “เทพเจ้าแห่งความสุข”
เอบิสึ : เทพเจ้าที่นำพาเสียงหัวเราะ “ค้าขายรุ่งเรือง” “การหาปลาได้จำนวนมาก”
ไดโกกุเท็น : “ตัวแทนของเทพเจ้าแห่งโชคลาภ”
เซียมซีที่ ICHIGO CHAN จับได้ก็คือ “โชคดีสุด ๆ” !! ดีใจมาก! เป็นดวงชะตาที่ดีที่สุดล่ะ จากนั้นก็ซื้อเครื่องรางเป็นคราดด้วย ดูแล้วเหมือนจะโชคดีและมีเงินทองเข้ามาเยอะแยะเลยแฮะ
ขนาดของคราดก็ดูเข้ากับ ICHIGO CHAN เลยแฮะ เหมาะสำหรับใช้พกติดตัวและเดินถือนะ
เซียมซีนั้นนอกจากจะมีดวงชะตาตั้งแต่โชคดีสุด ๆ (大吉) ไปจนถึงโชคร้ายสุด ๆ (大凶) แล้วยังมีเขียนเกี่ยวกับเรื่องของ “การงาน” “ความรัก” “สุขภาพ” เหมือนกับเซียมซีของที่ไทยด้วยนะ ไว้จะอธิบายเรื่องนี้แบบละเอียดในโอกาสหน้าละกัน
หลังจากเสี่ยงเซียมซีเสร็จแล้วก็เข้าไปสักการะศาลเจ้าชั้นใน
ICHIGO CHAN อธิษฐานขอให้มีการท่องเที่ยวที่สนุกต่อไปอีกเรื่อย ๆ
ICHIGO CHAN ที่เข้าไปสักการะเสร็จแล้ว
ไหน ๆ ก็มาแล้ว เลยได้ “เครื่องรางแห่งความสุข” กลับมาด้วย
เครื่องรางที่เราเป็นเจ้าของได้ที่ศาลเจ้า ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ไม่ใช่ของที่ “ซื้อ” แต่เป็นของที่ “ได้รับจากเทพเจ้า” ต่างหาก
(ก็ดูจะเข้าใจได้ยากอยู่นะ….)
เพราะฉะนั้นตอนที่จะได้รับเครื่องราง
ได้ลองพูดว่า “KONO OMAMORI ITADAKEMASUKA??” กันเถอะนะ
กล่าวได้ว่าเรารู้จักกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างดีแล้วล่ะ
ทะเลของไทยนั้นเป็นสีเขียว แต่ว่าทะเลของอิเสะเป็นสีน้ำเงินเข้ม จากรูปอาจจะดูยากหน่อยแต่ว่าน้ำทะเลใสและสวยมาก
เอาล่ะ กลับไปที่ป้ายรถบัสของเส้นทางที่เราได้นั่งรถมา ขึ้น 『CAN-BUS』เหมือนกับตอนที่เรามาและมุ่งหน้าไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะกันเลย