ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-3 รีวิวเส้นทางการท่องเที่ยวรอบหมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ พร้อมแวะทานอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่ฮิดะทาคายาม่า ปิดท้ายด้วยการชมวิวหมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะทั้งหมดจากจุดชมวิวที่สูงที่สุด
NAGOYA–HIDAFURUKAWA–HIDATAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-TOYAMA-KUROBE・KYOUKOKU-YUKINOOTANI-TOYAMA-NAGOYA
“หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ” ถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยความเดิมตอนที่แล้วเราได้พาเพื่อนๆ ไปชมด้านในบ้านโบราณทรงสามเหลี่ยมหลังคาฟาง หรือ “กัชโชสึคุริ” ที่ “บ้านคันดะ”「KANDA HOUSE (神田家)」และ “บ้านนางาเสะ”「NAGASE HOUSE (長瀬家)」จากนั้นก็เดินไปชมวิวที่สะพาน「DEAI BRIDGE」กันไปแล้ว
หลังจากที่เราได้ถ่ายรูป ชมวิวจากสะพาน DEAI BRIDGE กันไปแล้ว ต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปโซน「KANMACHI」ที่จะเป็นวิวของชิราคาวาโกะที่ถูกตีพิมพ์ในที่ต่างๆ และขึ้นไปชมวิวจาก “จุดชมวิวเท็นชุคาคุ”「TENSHUKAKU OBSERVATORY」เพื่อชมวิวชิราคาวาโกะทั้งหมดจากมุมสูงกันค่ะ ไปเที่ยวชมเสน่ห์ของชิราคาวาโกะกันเลย
ICHIGO-CHAN ได้เดินชมวิวรอบๆ ชิราคาวาโกะไปเรื่อยๆ และชมวิวที่สะพาน「DEAI BRIDGE」แล้ว
ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ เพราะหมดช่วงของดอกซากุระและช่วงวันหยุดสงกรานต์ไปแล้ว แต่เราก็ยังได้เจอนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่บ้างค่ะ อย่างเช่นพี่ๆ กลุ่มนี้ค่ะ มาเที่ยวกันหลายๆ คนแบบนี้ น่าอิจฉาจังเลย ICHIGO-CHAN ก็ต้องไปยอมแพ้ ไปเที่ยวต่อกันเลย
ซึ่งเมื่อเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งจะมี หมู่บ้าน GASSHOZUKURI MINKAEN อยู่ ภายในบริเวณนี้จะมีบ้านโบราณทรงสามเหลี่ยม กัชโชสึกุริ อยู่ประมาณ 15 หลัง นอกจากบ้านโบราณแล้วภายในนี้ก็มีการจัดแสดงเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมเก่าแก่และวิธีชีวิตของคนในพื้นที่นี้อย่างใกล้ชิด Day2-2 ใกลางหมู่บ้านทิมะ『SHIRAKAWAGO』
อ่านรีวิวได้ที่ ICHIGO-JAPAN ตอนที่ผ่านมา คลิ๊กเลย
หลังจากถ่ายรูปที่สะพาน DEAI BRIDGE แล้วก็มุ่งไปที่โซน「KANMACHI」กันเลย วิธีเดินไปก็ไม่ยาก ก่อนอื่นก็ต้องเดินกลับไปทางเดิมเพื่อเดินออกไปถนนใหญ่ที่เชื่อมต่อจากบัสเทอร์มินอล เมื่อออกมาที่ถนนใหญ่แล้วก็เลี้ยวไปทางขวา และเดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 7-10 นาที ระหว่างทางก็สามารถชมวิวสวยๆ ของภูเขาซาโตยามะ ไปด้วย จนเจอบ้านโบราณกัชโชสึกุริใหญ่ๆ สามหลังเรียงต่อกัน บริเวณนี้ก็คือ โซน「KANMACHI」ค่ะ
KANMACHI ตั้งอยู่ศูนย์กลางของชิราคาวาโกะในบริเวณทางใต้ของ หมู่บ้านโอกิมาจิ ด้วยมุมบ้านทั้ง 3 หลังที่หันหน้าเรียงในแนวเดียวกัน ด้วยความสวยงามของวิวนี้ ทำให้สถานที่นี้เป็นวิวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก อาจเป็นเพราะสถานที่นี้จะอยู่ห่างออกจากสถานที่หลักๆ อื่นๆ อยู่เล็กน้อย ทำให้ถ่ายรูปออกมาได้มุมที่สวยๆ โดยไม่ติดนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เลยค่ะ ซึ่งช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเตรียมนาทำให้วิวโดยรอบสะท้อนพื้นน้ำและถือว่าเป็นช่วงที่สวยที่สุดในหนึ่งปีของสถานที่แห่งนี้เลยค่ะ
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูไหน ก็ถือว่าสถานที่นี้เป็นจุดที่สวยมากๆ ทั้ง 4 ฤดู ไมว่าจะเป็น ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาวค่ะ
ทั้งหิมะในฤดูหนาว ดอกไม้ใบหญ้าที่สวยงามในฤดูร้อน และใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเหลืองในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าจะมาในช่วงไหนก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปไม่มีเบื่อเลยค่ะ
เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายมา ก็จะเจอ “วัดฮนคาคุจิ”「HONKAKUJI」ทันที
ถ่ายรูปที่ KANMACHI ไปเพลินๆ เผลอแปปเดียวก็จะบ่ายสองโมงแล้วค่ะ เราจะเดินกลับไปที่ หมู่บ้านโอกิมาจิ เพื่อไปหาข้าวกลางวันทานกันค่ะ เพียงแค่เดินไปตามถนนใหญ่ตามทางเดิมเรื่อยๆ
หากได้มาท่องเที่ยวในช่วงต้นเดือนไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมก็อยากจะแนะนำร้านอาหารที่ไม่ควรพลาดในการท่องเที่ยวชิราคาวาโกะ โดยเดินกลับมาบริเวณหมู่บ้านโอกิมาจิ จนเจอ ร้านอาหาร “ฮิดะจิ”「HIDAJI」อยู่ซ้ายมือ เดินเลยร้านไปและเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ
เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายมา ก็จะเจอ “วัดฮนคาคุจิ”「HONKAKUJI」ทันที วัดนี้จะมีซากุระที่มีเฉพาะที่นี้เท่านั้นกับพันธุ์ “โอตะซากุระ”「OOTAZAKURA」โดยปกติแล้วถ้าพูดถึงซากุระก็คงจะนึกถึงซากุระที่มีอยู่เพียง 5 กลีบอย่างซากุระพันธุ์โซเออิโยชิโนะ และ “โอตะซากุระ”「OOTAZAKURA」นี้ให้หนึ่งดอกจะมีกลีบมากกว่า 90 กลีบเลยทีเดียว ทำให้รูปร่างเหมือนดอกโบตั๋นเลยล่ะค่ะ โดยปกติแล้วดอกซากุระนี้จะบานเต็มที่ในช่วงก่อนหรือหลังเดือนพฤษภาคม 10 วัน เป็นระยะเวลา 10 วัน
เดินตรงมาจาก KANMACHI เรื่อยๆ เพื่อกลับไปตามทางเดินจนเจอลานกว้างเล็กๆ อยู่ด้านขวามือ รอบๆ ลานกว้างนี้ก็จะมีร้านค้าต่างๆ มากมายทั้งร้านของฝาก ร้านขายอาหารทานเล่น จุดพักผ่อน หรือร้านอาหารต่างๆ มากมาย เป็นจุดที่มีครบทุกอย่างเลยค่ะ
ร้านขายของทานเล่นก็จะมีทั้ง อาหารที่ใช้เนื้อชั้นดีของขึ้นชื่อของที่นี่อย่างเนื้อฮิดะกับเมนู “มันบดทอดกรอบเนื้อฮิดะ”「HIDAGYU KOROKKE」(250 เยน)หรือ “เนื้อฮิดะย่างเสียบไม้”「HIDAGYU KUSHIYAKI」(500 เยน)ส่วนของหวานก็จะมี “ซอฟต์ครีม” SOFT CREAM(350 เยน)ฯลฯ
และหนึ่งในร้านอาหารที่อยู่ภายในลานกว้างแห่งนี้ก็คือร้านอาหารยอดนิยม “ชิราโอกิ”『SHIRAOGI (しらおぎ)』เราจะทานอาหารกลางวันกันที่นี่เลยค่ะ
ที่เป็นทั้งร้านอาหารและส่วนด้านหน้าจะมีจุดขายขนมทานเล่นอย่าง วาราบิโมจิ ซอฟ์ตครีม หรือ มันบดทอดกรอบเนื้อฮิดะ ด้วยค่ะ
เราเข้าไปทานอาหารข้างในร้านกันเลย
ภายในร้านก็จะมีทั้งที่นั่งแบบกลุ่มตั้งแต่ 4 คนขึ้นไปอยู่ประมาณ 5 โต๊ะ สามารถรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้ และส่วนที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ติดหน้าต่างอีกเกือบ 10 ที่นั่งค่ะ ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่คนเยอะอย่างเวลาเที่ยงวันจะต้องรอคิว แต่ก็รอไม่นานค่ะ
เมนูที่ร้านก็จะมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมนูที่ประกอบไปด้วยวัตถุดิบขึ้นชื่อของพื้นที่อย่าง “เนื้อฮิดะ” “โอบะมิโซะ” และ “โซบะ” หรือ เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไปอย่าง คัตสึด้ง หรือ ข้าวแกงกะหรี่
ซึ่งเมนูที่รวมเอาวัตถุดิบขึ้นชื่อของพื้นที่เข้าไว้ด้วยกันอย่าง「HIDAGYU HOOBAMISO YAKI TEISHOKU(飛騨牛朴葉焼き定食)」หรือ ชุดเนื้อฮิดะ โฮบะมิโซะย่าง(2100 เยน)ก็เป็นหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยม
นอกจากเมนูอาหารแล้ว ก็ยังมีเมนูของหวานญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างเช่น วาราบิโมจิ WARABIMOCHI(380 เยน) หรือ เซ็นไซ ZENZAI(700 เยน)ฯลฯ เมนูมีเยอะมากๆ จนเลือกไม่ถูกเลยค่ะ
ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีแต่เมนูภาษาญี่ปุ่น แต่ในเมนูมีรูปประกอบด้วยเพราะฉะนั้นไม่ลำบากในการสั่งอาหารเลยค่ะ
ซึ่งวันนี้ ICHIGO-CHAN ได้สั่งเมนู “เท็มปุระโซบะ”「TEMPURA SOBA」(900 เยน)ที่ประกอบไปด้วยของขึ้นชื่อของชิราคาวาโกะอย่าง「โซบะ」และกุ้งเท็มปุระตัวโต กับ “มันบดทอดกรอบเนื้อฮิดะ「HIDAGYU KOROKKE」(250 เยน)มาค่ะ
ร้านอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารที่ รสชาติเป็นรอง มากกว่า แต่ที่นี่เป็นร้านหนึ่งที่อร่อยและทานอาหารได้แบบเต็มอิ่ม เมนูโซบะที่น้ำซุปหอมหวานบวกกับกุ้งเท็มปุระตัวโตๆ และเมนูมันบดทอดกรอบที่รู้สึกได้ถึงเนื้อฮิดะที่อร่อยมากๆ
ถึงจะเป็นร้านที่อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้แต่ราคาอาหารก็ไม่ต่างกับย่านในเมืองอย่างโตเกียวหรือโอซาก้าเลยค่ะ ได้ทานทั้ง โซบะเท็มปุระ กับ มันบดทอดกรอบเนื้อฮิดะ ทั้งหมดราคา 1200 เยน(≒380THB)เท่านั้น
พอทานอาหารจนอิ่มแล้ว ต่อไปเราจะเดินทางไปชมวิวหมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะจากมุมสูงกันที่ “จุดชมวิวเท็นชุคาคุ”「TENSHUKAKU OBSERVATORY」(SHIROYAMA OBSERVATORY)ค่ะ
ถ้าเดินขึ้นไปจากตีนดอย ก็จะเป็นทางขึ้นเขาชัน ใช้เวลากว่า 15-20 นาที สำหรับใครที่ไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถบัสขึ้นไปที่จุดชมวิวได้ค่ะ เที่ยวละ 200 เยน บัสจะวิ่งตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง บ่ายสามโมง วิ่งชั่วโมงละ 3 รอบคือ นาทีที่ 0・20・40
ออกจากร้าน “ชิราโอกิ”「SHIRAOGI (しらおぎ)」มาที่ถนนใหญ่และไปทางขวามือก็จะเจอกับจุดขึ้นรถบัสไป “จุดชมวิวเท็นชุคาคุ”「TENSHUKAKU OBSERVATORY」เลย
บัสที่จะพาเราขึ้นไปสู่จุดชมวิวจะเป็นบัสขนาดเล็ก ใช้เวลา 8 นาที โดยตอนลงจากรถบัสจะต้องจ่ายค่ารถที่ช่องที่อยู่ในวงกลมสีเหลืองตามจำนวน 200 เยน เมื่อลงจากบัสแล้วก็เดินไปตามทางเพื่อไปที่จุดชมวิวเลยค่ะ
นี่คือภาพวิวหมู่บ้านโบราณจากจุดชมวิวที่สูงที่สุดค่ะ จากจุดชมวิวนี้เราจะสามารถเห็นวิวหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยบ้านโบราณและผืนนา ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขาเขียวชอุ่ม และภูเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขา เป็นวิวที่สวยมากๆ เลยค่ะ ถ่ายรูปได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อเลยจริงๆ ค่ะ
เราสามารถเพลิดเพลินกับความแตกต่างของฤดูกาลของญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กับวิวสวยๆ ของชิราคาวาโกะได้ ไม่ว่าจะเป็นวิวสีเขียวชอุ่มของดอกไม้ใบหญ้าในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาวเลยค่ะ
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ชมวิวสวยๆ ของหมู่บ้านโบราณแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางไปสถานที่ต่อไปกับโทยามะ TOYAMA เพื่อไปเที่ยวชมกำแพงหิมะที่ ALPINE ROUTE
จากตรงนี้เราก็ต้องลงเขากันก่อน ขาลงเราจะเลือกเดินลงนะคะ แค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ระหว่างทางลงจะได้ชมวิวรอบๆ เดินลงเขาท่ามกลางธรรมชาติดูบ้าง วิวตอนขาลงก็สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ
ลงเขาเพื่อชมวิวภูเขาซาโตยามะไปเรื่อยๆ เราก็มาถึงบริเวณหมู่บ้านชิราคาวาโกะกันแล้ว ลงมาเร็วกว่าที่ ICHIGO-CHAN คิดไว้ซะอีก ก่อนออกจากชิราคาวาโกะเราจะขอแวะทานขนมญี่ปุนกันซักหน่อยนะคะ แล้วครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารเย็นที่ โทยามะ TOYAMA เมืองที่เป็นทางผ่านไปสู่การท่องเที่ยวไฮไลท์ในทริปนี้ คือ การนั่งรถไฟชมวิว「KUROBE GORGE RAILWAY」ที่หุบเขาคุโคเบะ และไปชมทางเดินหิมะ「YUKI NO OOTANI」 ค่ะ ฝากติดตามตอนหน้าด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day2-3 SHIRAKAWAGO VILLAGE/TENSHUKAKU OBSERBATION DECK】