Day2-3 กินข้าวกล่องบนรถไฟแสนอร่อย มาถึง『ปราสาท MATSUMOTO』
ICHIGO-CHAN ได้ไปกราบไหว้「วัด ZENKOJI」ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดของจังหวัดนางาโนะมาค่ะ
Day2-2 ไปวัดเซ็นโคจิ『ZENKOUJI』เดินทางไปต่อปราสาทมัตสึโมโตะ
หลังจากไปช้อปปิ้งและหาของทานบริเวณทางเข้าวัดแล้ว ก็ไปลอง「โอไคดันเมงุริ (การเดินบันได)」มาค่ะ ทันทีที่ซื้อเครื่องรางด้านความรักและการงานแล้ว โชคชะตาก็นำพาให้ ICHIGO-CHAN ได้มาพบเจอกับ「ARUKUMA」คุณหมีสุดหล่อที่มีงานอดิเรกแบบเดียวกันค่ะ
ในครั้งนี้เราจะนั่งรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไปยัง「ปราสาท MATSUMOTO」ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยกันค่ะ
ICHIGO-CHAN ได้ไปดื่มด่ำกับความงดงามของ SNOW MONKEY PARK และวัด ZENKOJI มาค่ะ
เราจะออกจากสถานีนางาโนะที่เราลงมาเมื่อวานและมุ่งหน้าไปยังสถานี MATSUMOTO กันค่ะ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแค่ 1 วัน แต่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าผ่านไปหลายวันเลยนะคะ
อัตราส่วนของคนขึ้นรถไฟที่จะไป MATSUMOTO มีประมาณครึ่งหนึ่งค่ะ งั้นก็ขอจอง 4 ที่นั่งเลย….
ได้เวลาข้าวกล่องแล้วค่า♪
「ข้าวกล่อง SHINSHU TERAMACHI」(1100 เยน) ที่ซื้อมาจากสถานีนางาโนะเมื่อตะกี๊ค่ะ
เป็นข้าวกล่องที่ใช้วัตถุดิบของจังหวัดนางาโนะเกือบทั้งหมดค่ะ โดยในข้าวกล่องมีตั้งแต่ซุชิที่ใส่เกาลัดและพืชในป่า, ซาซาซุชิ, ซุชิม้วนใหญ่ใส่หมูทอด, เนื้อวัวกับเห็ดชิเมจิต้มซอสเดมิกราซอส ไปจนถึงของหวานเป็นแอปเปิลแช่อิ่มและแอปปริคอตทอดเลยนะคะ
รถไฟจะวิ่งผ่านแอ่งภูเขานางาโนะที่เป็นหิมะค่ะ
จากนี้ไปจนถึง MATSUMOTO ขอแนะนำให้เลือกที่นั่งริมหน้าต่างซ้ายมือนะคะ
สำหรับคนไทยแบบหนูแล้ว นี่ก็เป็นทิวทัศน์อันงดงามและหายากสุด ๆ แล้วค่ะ แต่ว่า….
สถานี「OBASUTE」ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีนางาโนะไปอีก 7 สถานี เป็นที่รู้จักในฐานะ 1 ใน 3 สุดยอดทิวทัศน์หน้าต่างรถไฟของญี่ปุ่นเลยค่ะ เป็นจุดถ่ายรูปซึ่งเรียกกันว่า「ZENKOJIDAIRA」ที่สามารถชมทิวทัศน์ของแอ่งภูเขาในบริเวณจังหวัดนางาโนะได้ค่ะ
แน่นอนว่าทิวทัศน์ของหิมะมันก็สวยงามนะคะ แต่ว่า….
ในฤดูร้อนก็มีทิวทัศน์ของนาแบบขั้นบันไดที่สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ….
นอกจากนี้ในตอนกลางคืนยังมีจุดถ่ายรูปซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ในยามค่ำคืนได้ด้วยนะคะ
ที่ใกล้กับสถานีรถไฟก็มีสวนสาธารณะที่ชื่อว่า「สวน OBASUTE」ซึ่งคึกคักไปด้วยคู่รักและครอบครัวที่แวะมาจำนวนมากค่ะ
รถไฟ CRUISE TRAIN ที่ JR เป็นผู้ให้บริการก็แวะจอดที่สถานีแห่งนี้และให้ผู้โดยสารใช้เวลาเพลิดเพลินที่ café ชมวิวซึ่งสร้างขึ้นที่ชานชาลาค่ะ
โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นรถไฟขบวนไหนก็จะแวะจอดที่สถานีแห่งนี้ 3 นาทีถึง 5 นาทีค่ะ เพราะงั้นเราก็ลงไปที่ชานชาลาและหาจุดถ่ายรูปสวย ๆ กันได้เลยค่ะ (ระวังเรื่องตกรถไฟด้วยนะคะ)
หลังจากทานข้าวกล่องแสนอร่อยและชื่นชมทิวทัศน์ริมหน้าต่างไปแล้ว เพียงแค่แวบเดียวเราก็มาถึงที่สถานี MATSUMOTO แล้วค่ะ
หลังจากออกช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินไปทางขวานะคะ เราจะมองเห็นบันไดเลื่อนสำหรับลงไปที่ชั้น 1 ค่ะ ตรงด้านหน้าของบันไดเลื่อนจะมีตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญอยู่ด้านขวานะคะ
ไซส์ S ที่ใส่กระเป๋าเดินทางไม่ได้ 400 เยน
ไซส์ M ที่ใส่กระเป๋าเดินทางขนาดเล็กได้ 500 เยน
ไซส์ L ที่ใส่ได้แม้กระทั่งกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 600 เยน
ก็จะเป็นราคาตามนี้นะคะ
หลังจากตัวเบาหวิวเพราะฝากกระเป๋าแล้ว เราก็ไปลงบันไดเลื่อนกันเลยค่ะ
ปราสาท MATSUMOTO อยู่ห่างไป 1.4 กิโลเมตรค่ะ
พอออกจากประตูหน้าของสถานี แค่เลี้ยวซ้ายตรงถนนใหญ่เส้นแรกเท่านั้นค่ะ ง่ายนิดเดียว ถ้าอากาศแจ่มใสก็เดินได้สบายเลยนะคะ แต่ว่า…
ตอนที่ ICHIGO-CHAN ลงรถที่สถานี MATSUMOTO โชคไม่ดีที่มีหิมะตกอยู่นิด ๆ ค่ะ
เลยเลือกที่จะไปด้วยรถบัสแทนนะคะ
รถบัสจากสถานี MATSUMOTO ที่จะมุ่งหน้าไปยังปราสาท MATSUMOTO จะออกรถจากป้ายรถบัสหมายเลข ① ซึ่งออกจากสถานีมาก็เจอเลยค่ะ
ถ้าไปขึ้นรถบัสขนาดเล็กหมายเลข 200 (วันธรรมดามีชั่วโมงละ 2 คัน วันเสาร์อาทิตย์มีชั่วโมงละ 3 คัน) หรือไม่ก็รถบัสหมายเลข 32 (มีชั่วโมงละ 1-2 คัน) ก็จะไปถึงด้านหน้าของปราสาท MATSUMOTO ได้ค่ะ (ค่าโดยสาร 200 เยน)
ไม่นานเท่าไร รถบัสขนาดเล็กก็วิ่งเข้ามาแล้วค่ะ
นั่งรถ 10 นาทีค่ะ เราจะลงรถที่ป้ายรถบัสหน้าปราสาท MATSUMOTO และสำนักงานเขตค่ะ
ที่ตรงหน้าของเรามี「ประตู TAIKOMON」ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายประตูของปราสาท MATSUMOTO งั้นก็เข้าไปข้างในผ่านทางประตูนี้เลยค่ะ
ประตู TAIKOMON อันน่าเกรงขาม
ในสมัยก่อนจะมีแท่นสำหรับใช้ตีกลองญี่ปุ่นและระฆังตั้งเอาไว้ ได้ยินว่ามีหน้าที่ส่งสัญญาณบอกเวลาให้กับภายในและใต้ตัวปราสาทค่ะ
พอเข้าประตูมาและเดินไปตามทาง ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นเลี้ยวขวาและเดินไปอีกนิดก็จะมองเห็นประตูทางเข้าอยู่ทางขวามือนะคะ… แต่ถ้าเราเดินต่อไปอีกนิดก็จะเจอกับจุดถ่ายรูปค่ะ
สามารถถ่ายภาพกับหอคอยกลางปราสาทจากคูน้ำด้านนอกได้นะคะ
『ปราสาท MATSUMOTO』ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากคนไทยและชาวต่างชาติเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
ถูกสร้างมาไม่ต่ำกว่า 500 ปีแล้วค่ะ「หอคอยกลางปราสาท」ซึ่งเป็นสัญลักษณ์นั้นเป็นของดั้งเดิมที่ถูกสร้างขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 400 ปีก่อนค่ะ นอกจากจะเป็นปราสาทที่ยังคงหลงเหลือหอคอยกลางปราสาทขนาดใหญ่ในบรรดาปราสาทดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่แค่ไม่กี่แห่ง เช่น ปราสาท HIMEJI หรือปราสาท HIKONE เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากคนไทยที่แวะมาจากทะเลสาบ KAWAGUCHIKO และโตเกียวเพื่อเดินทางไปที่ TAKAYAMA และเส้นทาง ALPINE อันยอดนิยมด้วยค่ะ เพราะว่ามีคนไทยแวะมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก…
เลยมีแผ่นพับที่เป็นภาษาไทยจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้วยค่ะ
ในวันที่ ICHIGO-CHAN แวะมาก็ได้เดินสวนกับกลุ่มคนไทยหลายกลุ่มเลยค่ะ
ถึงจุดเข้าปราสาทแล้วค่ะ
สำหรับค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 610 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 300 เยนนะคะ
พอเข้ามาก็เจอร้านขายของทางขวามือค่ะ
ค่อย ๆ ถูกดูดเข้าไปที่ร้านอีกแล้วค่า
นอกจากสินค้าหลัก ๆ ที่มีอยู่พร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นขนมมันจู (12 ลูก 650 เยน), แผ่นโปสการ์ด (ฉบับละ 100 เยน 6 ฉบับ 370 เยน), ถ้วยชาที่ทำจากต้นไม้ซึ่งเก็บมาจากภูเขาในจังหวัดนางาโนะ (370 เยน) และผ้าเช็ดมือ (700-900 เยน) ยังมีสินค้าของ KITTY-CHAN และ DORAEMON ที่หาซื้อได้เฉพาะแค่ที่นี่เท่านั้นด้วยนะคะ (เหมาะมากสำหรับคนที่มีเด็กมาด้วย) แล้วก็…
ยังมีไปจนถึง หมวกซามูไร (11,500 เยน) และชุดดาบซามูไรญี่ปุ่น (32,500 เยน) เลยค่ะ….
สมเป็นร้านขายของที่ระลึกซึ่งอยู่ในตัวปราสาทจริง ๆ นะคะเนี่ย
ถ้าจะนำดาบซามูไรญี่ปุ่นกลับไปที่ไทยก็อาจจะโดนขอหยุดตรวจที่ด่านศุลกากรนะคะ เวลาจะซื้อก็ระวังกันหน่อยนะคะ
แล้วที่รู้สึกประทับใจเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ การไปถ่ายรูปคู่กับพนักงานของร้านที่หน้าตาน่ารักเหมือนกับสมาชิกวง AKB เลยค่ะ♪
ขนาด ICHIGO-CHAN ซื้อแค่ชาเขียวขวดเดียวก็ยังอุตส่าห์มาต้อนรับอย่างอบอุ่นเลย
พอออกมาจากร้านแล้ว เราก็จะมองเห็นรูปร่างหน้าตาของหอคอยกลางปราสาท MATSUMOTO อยู่ตรงหน้าเลยค่ะ
และในครั้งหน้า เราจะขอนำเสนอภายในตัวปราสาท MATSUMOTO นะคะ