Day2-2 ไปวัดเซ็นโคจิ『ZENKOUJI』เดินทางไปต่อปราสาทมัตสึโมโตะ

Day2-2 ไปวัดเซ็นโคจิ『ZENKOUJI』เดินทางไปต่อปราสาทมัตสึโมโตะ

ICHIGO-CHAN ที่เดินทางมายังศูนย์กลางของนะงะโนะพร้อมกับเพลิดเพลินไปกับวิวหิมะโดยรถชมวิวจากยุดะนากะออนเซ็น ก่อนไปไหว้พระที่วัดเซ็นโคจิก็โดนร้านค้าตามทางดึงดูดเข้าหาอยู่ตลอดจนในที่สุดก็มาถึงทางเข้าวัดเซ็นโคจิแล้วค่ะ

Day2-1 เดินทางจาก『YUTANAKA-ONSEN』ถึง『ZENKOUJI TEMPLE』

ในครั้งนี้เราจะมาเดินเที่ยวที่「วัดเซ็นโคจิ」ที่ถูกกล่าวไว้ว่า “แค่ได้ไหว้สักครั้งหนึ่งในชีวิตก็จะได้ไปเกิดใหม่บนสวรรค์”

ICHIGO-CHAN ที่เพลิดเพลินจนเต็มอิ่มไปกับการเดินทางอาหารและช็อปปิ้งตลอดเส้นทางมายังวัดเซ็นโคจิ

ใช้เวลาไปมากกว่าที่คิดจนในที่สุดก็มาถึง「Sanmon(ประตูวัด)」ที่ทางเข้า『ZENKOUJI-TEMPLE』ซึ่งเป็นที่เชิดหน้าชูตาในการท่องเที่ยวของนะงะโนะ

วัดเซ็นโคจิถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1300 กว่าปีที่แล้ว เป็นที่รู้จักกันในฐานะวัดเก่าแก่ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่นะงะโนะเท่านั้น แต่มีนักแสวงบุญจากที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเดินทางมาเยี่ยมเยือนที่นี่

เมื่อผ่าน Sanmon เข้ามาก็จะพบกระถางธูปขนาดใหญ่

กลิ่นของธูปที่ปกคลุมในบริเวณนั้นให้ความรู้สึกสมกับเป็นวัด ว่ากันว่าถ้าโดนควันจากกระถางธูปนี้จะไม่เจ็บป่วย หรือโดนส่วนใดที่ไม่ดีก็จะทำให้หายป่วยค่ะ

ICHIGO-CHAN มีนิสัยชอบเผลอใช้เงินมากเกินไปก็เลยนำกระเป๋าสตาค์ไปถูกับควันธูปมา 555

ข้าง ๆ กระถางธูปมีธูปจำหน่ายที่ราคา 100 เยน

ท่านที่อยากจะขอพรมากกว่านี้ก็ซื้อธูปมาจุดใส่กระถางธูปได้นะคะ

ต่อจากกระถางธูปก็เป็นอุโบสถหลัก เราเข้าไปข้างในกันดีกว่าค่ะ

เมื่อเข้าไปในอุโบสถ สิ่งแรกที่เห็นก็คือรูปสลักไม้ที่ใบหน้าสึกหรอทำให้รู้สึกน่ากลัวนิด ๆ

รูปสลักไม้นี้คือ「พระปิณโฑลภารทวาชเถระ」ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ที่นี่เมื่อ 300 กว่าปีก่อน

เช่นเดียวกันกับกระถางธูปเมื่อสักครู่นี้ ว่ากันว่าถ้าลูบตรงจุดที่ไม่ดีในร่างกายของตนเองจะทำให้หายจากการเจ็บป่วย นอกจากนี้ถ้าลูบหัวจะทำให้หัวดี….ดูเหมือนว่าเพราะถูกผู้แสวงบุญลูบบ่อยครั้งก็เลยทำให้ค่อย ๆ สึกหรอไป

เอาล่ะค่ะ จากตรงนี้ไปจะเป็นด้านในของวัดที่เรียกว่า「Naijin」ซึ่งห้ามถ่ายรูปค่ะ『NAIJIN』『HONDOU』

รายละเอียดกรุณาดูจากเว็บไซต์ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น) นะคะ

การจะเข้าไปใน Naijin จะต้องจ่ายค่าบัตรเข้าชม 500 เยน สามารถซื้อได้จากตู้ขายบัตรที่อยู่ข้าง ๆ ทางเข้าค่ะ

นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายบัตรเข้าชมที่สามารถเข้าได้ทั้ง Naijin และ Sanmon (500 เยน) รวมถึง Kyozo(ห้องเก็บพระคัมภีร์) (300 เยน) เป็นเซ็ตในราคา 1000 เยนด้วย วิธีซื้อก็แสนง่ายดาย เพียงใส่เงินเข้าไปแล้วก็กดปุ่มเลือกเฉพาะ Naijin (MainHall) หรือบัตรควบรวม (Combined)

จุดที่น่าชมคือ「Okaidan Meguri」(สถานที่สำหรับรับศีล)

จะอยู่ใต้พื้นหลังลงจากบันได เราจะต้องเดินใช้มือคลำไปตามทางเดินอันมืดสนิท เมื่อสัมผัสกับ「Gorakunojomae」ที่มีรูปร่างเหมือนลูกบิดประตู จะได้รับสัญญาว่าจะได้ “เกิดใหม่” บนสวรรค์

โดยเราจะต้องเดินใช้มือคลำไปตามทางยาวกว่า 45m ที่มืดสนิทไม่มีแสงใด ๆ เล็ดลอดเข้ามาแม้แต่น้อย

ICHIGO-CHAN รู้สึกกลัวนิดหน่อยแต่ก็เหมือนได้สัมผัสประสบการณ์การผจญภัยไปด้วยหน่อยนึง และ ICHIGO-CHAN ก็ได้สัมผัสกับ「Gorakunojomae」อย่างปลอดภัย

จะถูกรับประกันว่าได้ไปเกิดใหม่บนสวรรค์หรือเปล่านะ!?

เมื่ออกจากอุโบสถหลัก ต่อไปก็ไปชมวิวทั่วบริเวณของวัดเซ็นโคจิจาก Sanmon กันดีกว่าค่ะ

เมื่อแสดงบัตร「Combined Ticket」ที่ซื้อมาจากอุโบสถหลักเมื่อสักครู่ เราก็เข้าไปด้านใน ถ้าไม่ได้ซื้อบัตรมาก่อนก็สามารถซื้อได้ด้วยวิธีเดียวกันกับเมื่อสักครู่ค่ะ

ด้านในของที่นี่ก็ห้ามถ่ายรูปเช่นกัน ต้องขึ้นบันไดที่ค่อนข้างชันเพื่อมุ่งหน้าไปยังเฉลียงของ Sanmon

หลังจากที่แทบจะเรียกว่าคลานขึ้นบันไดอันแสนชันมาแล้ว ก็ออกไปยังเฉลียงด้านนอกกันดีกว่าค่ะ

เราสามารถถ่ายรูปด้านนอกจากเฉลียงได้นะคะ

เป็นจุดถ้ายรูปที่สามารถชมบรรยากาศของเขตวัดเซ็นโคจิที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เส้นทางมายังวัดและอุโบสถหลักจากด้านบนลงไปได้ วัดที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ในเมืองหิมะเป็นเรื่องแปลกแม้แต่ในญี่ปุ่นเอง จึงสามารถถ่ายรูปไปอวดเพื่อน ๆ ได้ด้วยค่ะ

เมื่อมุ่งหน้าไปในเขตวัดจะมีบ้านชั้นเดียวอยู่ด้านขวามือ ที่「Juyohinsho」เราสามารถหาซื้อป้าย เครื่องรางหรือลูกศรขับไล่สิ่งชั่วร้าย Hamaya ฯลฯ ได้ทุกชนิด

วัดเซ็นโคจิเป็นวัดที่มีรูปแบบของของประดับเพื่อความเป็นสิริมงคลมากมายหลากหลายเมื่อเทียบกับวัดทั้งหมดในญี่ปุ่น

ตุ๊กตาดารุมะที่คนไทยที่มาญี่ปุ่นมักจะมาซื้อหาก็มีรวบรวมไว้หลากหลายขนาด (1,100 เยน – 50,000 เยนขึ้นอยู่กับขนาด)

ตุ๊กตาดารุมะเวลาซื้อจะไม่ถูกเขียนอะไรไว้ที่ดวงตา ดังนั้นแรกสุดเราจะต้องอธิษฐานพร้อมกับเขียนดวงตาให้ข้างหนึ่ง (ปกติจะเป็นตาซ้าย) ถ้าคำอธิษฐานเป็นจริงก็วาดตาอีกข้างให้ ในการวาดดวงตาก็ควรเลือกหาวันดี ๆ มีมงคลในการวาดด้วยนะคะ

เครื่องรางน่ารัก ๆ หลากสีถูกวางจำหน่ายอยู่มากมาย

น่าเสียดายที่มีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเหมือนวัดมากมายในญี่ปุ่น

ในเวลาแบบนั้นเรามาลองถามคนขายเครื่องรางกันดีกว่าค่ะ

「 (เรื่องที่อยากขอพร)  NO OMAMORI WA DOREDESUKA?」((เรื่องที่อยากขอพร) โนะโอะมาโมริวะโดเระเดสุคะ? : เครื่องรางสำหรับ (เรื่องที่อยากขอพร)  คืออันไหน?)

พรหลัก ๆ ที่นิยมขอ

การเรียน=GAKUGYOU (กักคุเกียว)

สุขภาพ=KENKOU (เค็งโค)

ความปลอดภัยในครอบครัว=KANAIANZEN (คะไนอันเซ็น)

ความรัก=REN AI JYOUJYU (เร็นไอโจจู)

การคมนาคม=KOUTSUU (โคซือ)

การงาน=SHUSSE KAIUN (ชุชเซ ไคอุน)

ของ ICHIGO-CHAN ก็ต้องเรื่องความรัก….รึเปล่านะ?

คุณสุดหล่อที่พบกันที่ที่พักที่แวะเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างทาง รู้สึกว่ามีบรรยากาศตรงไหนสักที่ที่คล้าย ๆ กับ ICHIGO-CHAN

ชื่อของเขาคือ「ARUKUMA-KUNG」

เห็นแบบนี้แต่เขาคือหมีค่ะ ชื่นชอบการเดินทางจึงมักจะแบกเป้ไว้ที่หลังอยู่เสมอ น่าจะเข้ากับ ICHIGO-CHAN ได้แน่ ๆ

เครื่องรางความรักที่เพิ่งซื้อมาเมื่อกี้แสดงอิทธิฤทธิ์แล้วหรือเปล่านะ 555

ได้เวลาไปยังที่หมายต่อไป「ปราสาทมะสึโมะโตะ」แล้วล่ะค่ะ

การเดินทางไปยังปราสาทมะสึโมะโตะ เราจะต้องกลับไปที่สถานีนะงะโนะก่อนครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงขึ้นรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไปสถานีมะสึโมะโตะ

แรกสุดก็กลับไปตามทางที่มาจนถึงป้ายรถเมล์ ข้ามถนนไปยังป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามกับตอนที่ลงเพื่อขึ้นรถ

รถบัสที่ผ่านป้ายนี้ในช่วง 10-15 นาฬิกาจะมีชั่วโมงละ 10 คัน ในช่วงเวลาอื่นจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 5-7 คัน ทุกคันจะมุ่งหน้าไปยังสถานีนะงะโนะ ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะคะ ประมาณ 15 นาที 150 เยนเราก็มาถึงสถานีนะงะโนะ

เมื่อลงจากรถบัสก็จะเห็นทางเข้าอาคารสถานีนะงะโนะอยู่ข้างหน้า

เมื่อเข้าประตูก็เดินตรงไป ข้ามช่องตรวจตั๋วไปจะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอยู่ด้านซ้ายมือ เรามาซื้อตั๋วไปมะสึโมะโตะกันค่ะ

เราจะซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

แรกสุดต้องตรวจสอบจากแผนที่เส้นทางรถไฟที่อยู่ด้านบนว่าการเดินทางไปยัง「มะสึโมะโตะ」ซึ่งเป็นสถานีเป้าหมายจะมีค่าโดยสารเท่าไหร่ (1150 เยน)

ต่อไปก็แตะที่ English ซึ่งอยู่ด้านขวาบนของหน้าจอ ข้อมูลจะเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ ต่อมาก็แตะที่ปุ่ม 1140 สุดท้ายหลังใส่เงินเข้าไปแล้วการซื้อตั๋วก็จะเสร็จสมบูรณ์

หลังซื้อตั๋วแล้วก็เดินหน้าไปข้างในจากช่องตรวจตั๋วที่อยู่ด้านข้างเครื่องจำหน่ายตั๋ว

เมื่อสักครู่เพิ่งจะทาน「โอะยะกิ」ไปแต่ ICHIGO-CHAN ก็หิวอีกแล้ว

จากนะงะโนะไปถึงมะสึโมะโตะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที เป็นเวลาที่น่าจะพอดีในการทานข้าวกล่องเบนโตะ….

「คิตะไคโรนิจูเบนโตะ(ข้าวกล่องสองชั้นิตะไคโร)」อันหรูหราที่แต่งแต้มสีสันด้วยแซลมอนดองมิโสะ สุกิยากิหมูกับไข่เส้นคินชิทามะโกะ (1450 เยน) หรือโอชิซูชิแซลมอน,「ยะไซเบนโตะ」ที่ใส่ชินชูพอร์คคัทสึ ฯลฯ ข้าวกล่องที่อัดแน่นด้วยรสชาติของชินชูเยอะแยะเต็มไปหมด

ICHIGO-CHAN ซื้ออะไรมานั้น…. ไว้จะบอกในครั้งหน้านะคะ♪

รถไฟที่มุ่งหน้าสู่มะสึโมะโตะจะออกจากเส้นหมายเลข 5 ซึ่งต้องลงบันไดที่อยู่ทางด้านขวาหลังเข้ามาในช่องตรวจตั๋วแล้ว

รถไฟขนาดสั้น 3 โบกี้ที่มีสายคาดสีฟ้าและเขียวอ่อนมาแล้ว

การท่องเที่ยวด้วยรถไฟ 1 ชั่วโมง 20 นาทีไปยังมะสึโมะโตะ ICHIGO-CHAN ที่มักจะขึ้นรถไฟสายด่วนพิเศษ

การขึ้นรถไฟสายท้องถิ่นเพื่อเดินทางแบบช้า ๆ สบาย ๆ แบบนี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่น่าสนุกดีค่ะ

ครั้งหน้าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟไปยังมะสึโมะโตะ และเดินเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทย「ปราสาทมะสึโมะโตะ」ค่ะ

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶