Day2-2 เที่ยวชม “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” ต่อด้วยย่าน “กิออน” พร้อมทานอาหารกลางวันอาหารชุดแบบเกียวโต

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day2-2 เที่ยวชม “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” ต่อด้วยย่าน “กิออน” พร้อมทานอาหารกลางวันอาหารชุดแบบเกียวโต

OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้นั่งรถไฟเคฮัง จากโอซาก้า เป็นเวลา 50 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” FUSHIMI INARI TAISHA(伏見稲荷大社)」ศาลเจ้ายอดนิยมที่มีเสาแดงเรียงรายอยู่มากมายภายในศาลเจ้า ในส่วน “เซ็นบงโทริอิ” ถ่ายรูปอย่างเต็มที่ จากนั้นกราบไหว้ศาลเจ้าแห่งการค้าขายในตอนที่ผ่านมา

Day2-1 ออกจากโรงแรม UNIVERSAL HOTEL REBORN เข้าสู่เมืองเกียวโตเดินทางไปยัง “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ”

โดยเราจะเดินจากอาคารหลักศาลเจ้าผ่านเส้นทางเสาโทริอิ “เซ็นบงโทริอิ” ไปสู่「OKUSHA HOHAISHO(奥社奉拝所)」กันค่ะ

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 6 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ท่องเที่ยวภายใน “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” จากนั้นเดินทางไปเที่ยวชมความเป็นเมืองเกียวโตในย่าน “กิออน” ที่ถนนฮานะมิโคจิ「HANAMIKOJI(花見小路)」กันค่ะ

เมื่อลอดผ่านเส้นทางสายเสาโทริอิ “เซ็นบงโดริ” มาแล้ว ก็จะไปสู่ศาลเจ้า “โอคุฉะ”「OKUSHA(奥社)」ซึ่งบริเวณด้านในขวามือของศาลเจ้าโอคุฉะนี้จะมี「OMOKARU STONE(おもかる石

)」(แปลว่า หินหนักเบา) ให้ได้กราบไหว้สักการะ และได้รับความนิยมจากผู้มากราบไหว้สักการะอยู่ไม่น้อย

ก่อนอื่นกราบไหว้อธิษฐานขอพรหน้าโคมไฟหินก่อน โดยสามารถขอพรจากโคมไฟหินอันใดก็ได้ จากนั้นเมื่อขอพรแล้วก็ยกส่วนที่อยู่บนยอดโคมหินที่เรียกว่า「คูริน(空輪)」ขึ้น เมื่อยกแล้วรู้สึกว่าหินเบากว่าปกติแสดงว่าพรนั้นจะ “สมหวัง” หากรู้สึกหนักก็แสดงว่าพรนั้น “ไม่สมหวัง”

ICHIGO-CHAN รู้สึกหนักจัง……….

แล้วที่บริเวณ “ศาลเจ้าโอคุฉะ” นี้จะมีทั้งอาคารสักการะ และศูนย์จำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ อีกทั้งยังเป็นจุดที่สามารถติดต่อบูชาเสาโทริอิที่เรียงอยู่บริเวณเส้นทาง “เซ็นบงโทริอิ” ได้อีกด้วย ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไปตามขนาด อย่างเช่นขนาด 5 ขนาดเล็กที่สุดจะอยู่ที่ 175,000 เยน ส่วนขนาด 10 ใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่ 1,302,000 เยน ซึ่งเสาที่ใช้บูชานี้สามารถเขียนชื่อและที่อยู่ลงบนเสาได้อีกด้วย

เมื่อกราบไหว้สักการะที่ศาลเจ้าโอคุฉะแล้ว เราจะลอดกลับไปทางเส้นทางโทริอิ “เซ็นบงโทริอิ” กันเลย ซึ่งเส้นทางขากลับจะเป็นคนละเส้นทางกับตอนขามา ซึ่งขากลับก็เป็นทางลอดผ่านเสาโทริอิมากมายแต่คนจะน้อยกว่ามากๆ เลยค่ะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ สามารถหาจังหวะถ่ายรูปสวยๆ ได้ที่ทางขากลับเลยค่ะ เพราะฉะนั้นตอนขาไปสามารถชมวิวเส้นทางโทริอิให้เต็มที่ จากนั้นก็กราบไหว้สักการะที่ศาลเจ้าโอคุฉะ และเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับโทริอิให้เต็มที่ได้ที่ทางขากลับเลยค่ะ

ทางขากลับจะมีป้ายบอกทางให้เห็นอย่างชัดเจนเพราะฉะนั้นเดินไปตามทางเลยค่ะ

เดินออกจากศาลเจ้าโอคุฉะมาประมาณ 10 นาที ตอนนี้เราได้เดินมาที่ทางเดินหลังศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริแล้วค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นบริเวณร้านแผงลอยจำหน่ายอาหารต่างๆ อยู่มากมาย ทั้งทาโกยากิ ขนมปลาไทยากิ เกี๊ยวซ่า ไก่ทอด หรือข้าวโพดย่าง ซึ่งแต่ละอย่างหอมน่าทานมากๆ แวะทานได้หลายร้านเพลินมากๆ เลยค่ะ

และนอกจากร้านจำหน่ายอาหารแล้ว บริเวณนี้ยังมีร้านจำหน่ายของฝาก ร้านชา และร้านอาหารอยู่อีกด้วย ที่ร้านจำหน่ายของฝากก็มีของฝากน่ารักๆ ของศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริอยู่มากมาย อย่างเช่นเสาโทริอิจิ๋วที่น่ารักมากๆ

เมื่อได้เดินเล่นบริเวณด้านหลังศาลเจ้า ทานอาหาร และช้อปปิ้งของฝากไปเต็มที่แล้ว หลังจากนี้เราจะมุ่งหน้าไปที่หนึ่งในย่านโบราณของเกียวโตที่มีเอกลักษณ์ในเกียวโตที่ถนน “ฮานะมิโคจิ”「HANAMIKOJI(花見小路)」กันค่ะ

โดยเพื่อนๆ สามารถเดินทางไปถนน “ฮานะมิโคจิ”「HANAMIKOJI(花見小路)」ได้โดยนั่งรถไฟเคฮังที่อยู่สุดเส้นทางเดินหลังศาลเจ้า จากสถานีฟุชิมิ อินาริไปได้โดยใช้เวลาในการเดินทาง 9 นาที เพื่อเดินทางไปยัง “สถานีกิออนชิโจ” กันค่ะ

เมื่อเดินออกมาจากทางเดินหลังศาลเจ้าแล้ว เดินตรงผ่านสี่แยกไป ก็จะเจอ “สถานีฟุชิมิ อินาริ”「FUSHIMI-INARI STATION」เลย ซึ่งทั้งก่อนถึงรางรถไฟ และเลยรางรถไฟจะมีอาคารสถานีและช่องตรวจตั๋วอยู่ที่แต่ละฝั่งเลย ซึ่งการเดินทางไป “สถานีกิออนชิโจ” หรือ “สถานีกิออนซันโจ” ที่อยู่ศูนย์กลางเกียวโตนั้น จะต้องขึ้นรถไฟจากอาคารสถานีที่อยู่เลยรางรถไฟไปค่ะ

โดยผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วด้วยพาส「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」แล้ว ก็ขึ้นรถไฟแบบธรรมดา นั่งไป 5 สถานี เพื่อไปลงที่ “สถานีกิออนชิโจ” เลย ซึ่งรถไฟแบบธรรมดานี้จะวิ่งทุก 10 นาที ใช้เวลาในการเดินทางไป “สถานีกิออนชิโจ” 9 นาที

เมื่อถึงสถานีกิออนชิโจแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลาไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วเลย

เมื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วแล้ว ก็เดินไปทางขวามือ เดินไปจนสุด จากนั้นก็ขึ้นบันไดที่อยู่ด้านขวาร้าน STARBUCKS เพื่อไปที่ถนนชิโจ หนึ่งในเส้นทางหลักของเกียวโต เมื่อขึ้นบันไดมาแล้ว ถนนที่อยู่ทางขวามือก็คือถนน “ฮานะมิโคจิ”「HANAMIKOJI(花見小路)」ที่ให้บรรยากาศเหมือนได้ย้อนไปในเมืองญี่ปุ่นโบราณเลย

บรรยากาศแบบเกียวโตในย่าน “กิออน” ซึ่งเป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านของเกียวโต ซึ่งเส้นทางหลักของย่านนี้ก็คือ “ฮานะมิโคจิ”「HANAMIKOJI(花見小路)」นั่นเอง โดยทั้งสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนแบบโบราณเหมือนได้ย้อนเวลามาในเมืองโบราณเมื่อหลายร้อยปีก่อน มีร้านน้ำชา และร้านอาหารเรียงรายอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ซึ่งเพื่อนๆ จะได้พบเห็นบรรยากาศนักท่องเที่ยวที่ใส่ชุดกิโมโนมาเดินเที่ยว ไปพร้อมๆ บรรยากาศวิธีชีวิตของคนในพื้นที่ ในถนน “ฮานะมิโคจิ” ที่มีเสน่ห์นี้

โดยร้านจำหน่ายของฝากที่เรียงรายอยู่บริเวณนี้ก็จะมีทั้ง ข้ามดังโงะมิทาราชิ「MITARASHI DONGO(みたらし団子)」หรือ เค้กชีฟองมัทฉะ ฯลฯ อีกมากมาย

และเมื่อเดินเข้าซอยเล็กๆ ต่างๆ ในถนน “ฮานะมิโคจิ” ก็จะเป็นบริเวณที่เงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งที่ข้างทางก็จะเต็มไปด้วยร้าน「料亭 : เรียวเท」เป็นร้านอาหารระดับหรูของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ ที่บริเวณหน้าร้านจะมีโคมไฟประดับอยู่ หากเพื่อนๆ ได้เดินทางไปยังบริเวณนี้ในช่วงวันธรรมดาก็จะได้เห็นเกอิชา หรือไมโกะ เดินไปมาเพื่อเข้าร้านต่างๆ อีกด้วย

หลังจากที่ได้เดินเล่นเที่ยวชมบรรยากาศเมืองเกียวโตที่ถนน “ฮานะมิโคจิ”「HANAMIKOJI(花見小路)」แล้วตอนนี้ก็เกือบบ่ายสองโมงแล้วค่ะ เราจะไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน「 KOMERYOUTEI HACHIDAIME GIHEI (米料亭 八代目儀兵衛)」กันเลยเป็นร้านอาหารที่ดูแลจัดการโดยร้านข้าวสารเก่าแก่ของญี่ปุ่น เป็นร้านยอดนิยมที่ผสมผสานระหว่างข้าวญี่ปุ่นและเรียวเทไว้อย่างลงตัว

โดยเดินออกจากถนน “ฮานะมิโคจิ” ไปและเลี้ยวขวาที่ถนนจิโจ ไปจนสุดทางสามแยก “ศาลเจ้ายาซากะ”「YASAKA JINJA」และเลี้ยวไปทางซ้ายมือ ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือทันที

ที่ชั้น 1F จะเป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ ส่วนที่ชั้น 2F จะเป็นที่นั่งแบบโต๊ะ และแบบเคาน์เตอร์ ในส่วนที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ที่ชั้น 2F จะเป็นที่นั่งติดหน้าต่าง ที่หันหน้าออกไปยังศาลเจ้ายาซากะ ชมวิวได้ระหว่างทานอาหารเลยค่ะ

โดยข้าวสวยของร้านนี้จะเป็นการหุงข้าวจากหม้อดินทรงไม่ไผ่「Bamboo」ใช้เวลาในการหุง 30 นาที และเพื่อนๆ สามารถชมบรรยากาศการหุงข้าวได้ที่หน้าร้าน ซึ่งเมนูภายในร้านก็เป็นอาหารที่เข้ากับข้าวสวยร้อนๆ เป็นที่สุดอย่างเช่น เมนูปลาบุริย่างเทริยากิกับ「KANBURI NO TERIYAKI GOZEN」(1620 เยน), เมนูเท็มปุระ「TEMPURA GOZEN」(1720 เยน)หรือ เมนูปลาดิบ「OTSUKURI(SASHIMI)GOZEN」(1720 เยน)เป็นต้น และในเมนูอาหารจะมีภาษาอังกฤษ พร้อมรูปภาพประกอบอยู่เพราะฉะนั้นสามารถสั่งอาหารได้ไม่ยากเลยค่ะ

มื้อนี้ ICHIGO-CHAN สั่งเป็นเมนูปลาย่างเทริยากิกับ「KANBURI NO TERIYAKI GOZEN」(1620 เยน)ที่ประกอบไปด้วย「KANBURI」หรือ ปลาบุริประจำฤดูหนาวของญี่ปุ่น และผักที่ปลูกภายในเกียวโตอย่าง มะเขือม่วง หรือพริกชี้ฟ้า นอกจากนี้ยังมีชุดอาหารแบบโกเซนที่เป็นอาหารจำพวกของดอง ทั้งรสชาติอาหารที่อร่อย และการตกแต่งที่สวยงาม สามารถเพลิดเพลินกับมื้อนี้ได้อย่างเต็มที่ ถ่ายรูปรัวๆ ก่อนทานอาหารให้เต็มอิ่มไปเลยค่ะ

อาหารชุดแบบ “โกเซน(御膳)” ที่เป็นการผสมผสานวัตถุดิบต่างๆ เข้าด้วยกันนี้  หลักๆ แล้วจะอยู่ที่ “ข้าว” หลังจากทานอาหารต่างๆ กับข้าวสวยแบบทั่วไปแล้ว ก็สามารถทาน「OKOGE(おこげ)」 (ข้าวปิ้ง)ที่กรอบ หอมหวาน ได้อีกด้วย และที่พิเศษสุดๆ เลยก็คือสามารถเติมข้าวสวยได้ไม่อั้น ทานได้เต็มอิ่มเท่าที่ต้องการเลยค่ะ

และภายในร้านยังจำหน่ายข้าวสารญี่ปุ่นอร่อยๆ อยู่อีกด้วย ซึ่งการห่อผลิตภัณฑ์ก็เป็นแบบญี่ปุ่น ที่มีทั้งถุงคินจะกุแบบญี่ปุ่น หรือแบบห่อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น ที่เหมาะซื้อไปเป็นของฝากให้คนสำคัญของเพื่อนๆ ที่ประเทศไทยมากๆ

ICHIGO-CHAN เราได้ออกเดินทางจากโอซาก้ามาตั้งแต่เช้า และได้เดินทางมาท่องเที่ยว “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” และชมบรรยากาศย่าน “กิออน” ไปเต็มที่ ซึ่งเราจะยังคงท่องเที่ยวภายในเมืองเกียวโตกันต่อ โดยสถานที่ต่อจากนี้ก็คือวัดทอง “คินคาคุ”「KINKAKU-JI(金閣寺)」ค่ะ

ในตอนต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปวัดทอง “วัดคินคาคุ” และเที่ยวชม “อาราชิยามะ” สถานที่จัดงาน「HANATOURO(花灯路)」ในเดือนธันวาคมกันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day2-2 FUSHIMI INARI SHRINE/GION AREA】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS”

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶