Day2-1 ออกจากโรงแรม UNIVERSAL HOTEL REBORN เข้าสู่เมืองเกียวโต เดินทางไปยัง “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ”

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day2-1 ออกจากโรงแรม UNIVERSAL HOTEL REBORN เข้าสู่เมืองเกียวโต เดินทางไปยัง “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ”

OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA

เมื่อวานทั้งวัน ICHIGO-CHAN ได้ท่องเที่ยวโอซาก้าไปแบบเต็มที่มากๆ เริ่มตั้งแต่ไปเช่าชุดกิโมโนที่ร้านเช่าชุดกิโมโน「WASOBI」จากนั้นเดินเที่ยว “สวนปราสาทโอซาก้า” และทานอาหารกลางวัน ต่อด้วยเข้าสักการะ “ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ” ปิดท้ายด้วยย่านดังของโอซาก้าที่ “โดทงโบริ・ชินไซบาชิ” เพื่อเที่ยว ชิม ช้อป และทานดินเนอร์เป็นซูชิแสนอร่อย

จากนั้นก็ได้เดินทางจากย่านโดทงโบริ เป็นเวลาประมาณ 15 นาทีไปยังที่พักโรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」พักผ่อนให้เต็มที่แล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปยัง “เกียวโต” กันเลย

Day1-5 ทานดินเนอร์ร้านซูชิ และนั่งเรือ「TOMBORI RIVER CRUISE」พร้อมเข้าพัก「UNIVERSAL HOTEL REBORN」

โดยที่ “เกียวโต” เราจะท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” “กิออน” “วัดทองคินคาคุจิ” และ “อาราชิยามะ” กันให้เต็มที่ นอกจากนี้เราจะเดินทางท่องเที่ยว “เขาคุรามะ・ศาลเจ้าคิฟุเนะ” ที่มีหิมะปกคุลมหนาแน่น และ “อุจิ・วัดเบียวโด” กัน โดยสถานที่แรกของวันก็คือ “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” ค่ะ

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 6 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ เดินทางจากโรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」ไปยัง “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” และเที่ยวชมภายในศาลเจ้ากันค่ะ

ไปเต็มพลังด้วยอาหารเช้าของโรงแรมกันเลย ซึ่งอาหารเช้าของโรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」แห่งนี้ก็เป็นแบบบุฟเฟต์ ที่อยู่ภายในส่วนล็อบบี้ มีทั้งที่นั่งแบบโต๊ะ 2 และ 4 คน อาหารเรียงรายอยู่เต็มไปหมดหอมโชยมาแต่ไกลเลยค่ะ

อาหารเช้าสไตล์บุฟเฟต์นี้ก็มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง ไปจนถึงอาหารเฉพาะของโอซาก้าอยู่มากมาย ทั้งเมนูแฮชบราวน์ หรือไส้กรอก…….

ไข่เจียว ปลาย่าง และไก่ย่าง เท่านั้นไม่พอยังมี ทาโกยากิ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อโอซาก้าอยู่อีกด้วย ICHIGO-CHAN เลือกไม่ได้ก็เลยตักมาหมดเลยค่ะ ซึ่งเราจะได้ทานอาหารเช้าแบบจัดเต็มอย่างนี้บ่อยๆ ในช่วงระหว่างการท่องเที่ยวเลย 555

และนี่ก็คืออาหารเช้าที่เราตักมา เป็นยังไงบ้างคะ น่าทานมากๆ เลย ดูฟักทองสิคะยังเป็นรูปใบไม้เลย น่ารักมากๆ

อาหารสไตล์บุฟเฟต์แบบนี้อย่าเผลอตักไปเยอะเกินจนทานไม่หมดนะคะ

เมื่อทานอาหารเช้าแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปสถานที่แรกของวันนี้ที่ “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” FUSHIMI INARI TAISHA(伏見稲荷大社)」กันเลย

ซึ่งการเดินทางจาก「UNIVERSAL HOTEL REBORN」ไป “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” จะมีอยู่ 2 วิธีก็คือ

1.นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ (Midosuji Line) ไปยัง “สถานีโยโดยาบาชิ” จากนั้นนั่งรถไฟฟ้าเคฮังจากสถานีโยโดยาบาชิ ไปยัง “สถานีฟุชิมิ อินาริ”

2.นั่งรถไฟ JR สาย Osaka Loop Line ไปยัง “สถานีโอซาก้า” จากนั้นนั่งรถไฟ JR Kyoto Line จากสถานีโอซาก้า ไปยัง “สถานีเกียวโต” จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย Nara Line ไปยัง “สถานีอินาริ”

ถึงแม้ว่าจะมีการเดินทางอยู่ 2 วิธี แต่เราจะเลือกเดินทางด้วยวิธีที่ 1 ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ (Midosuji Line) และ รถไฟฟ้าเคฮัง เพราะว่า ICHIGO-CHAN จะใช้พาส「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ที่สามารถใช้นั่งรถไฟฟ้าเคฮังภายในโอซาก้าและเกียวโตได้ทุกสายแบบไม่อั้น ในการท่องเที่ยวสุดคุ้มในครั้งนี้กันค่ะ

ออกเดินทางกันเลย !!!!!

ก่อนอื่นก็จะต้องเดินออกจากโรงแรมไปประมาณ 3 นาที เพื่อนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ (Midosuji Line) จาก “สถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ”「DOBUTSUEN-MAE STATION」มุ่งหน้าไปยัง “สถานีโยโดยาบาชิ” ที่เป็นสถานที่เปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้าเคฮังกันค่ะ โดยออกจากโรงแรมไปถนนใหญ่ไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ ข้ามผ่านรางรถไฟไป ก็จะเจอตึกที่มีทางเข้าสู่รถไฟฟ้าใต้ดิน “สถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ”「DOBUTSUEN-MAE STATION」เลย ลงบันไดไปชั้นใต้ดิน ก็จะเจอเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติอยู่ทางซ้ายมือ

แต่ก่อนจะขึ้นรถไฟใต้ดิน เราจะต้องไปซื้อตั๋วรถไฟไปยัง “สถานีโยโดยาบาชิ” กันก่อนเลย ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาค่าเดินทางจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งค่าเดินทางไปยัง “สถานีโยโดยาบาชิ”「YODOYABASHI STATION」จะอยู่ที่ 230 เยน เมื่อเช็คราคาแล้ว ก็สัมผัส「English」บนหน้าจอ ตามด้วยปุ่ม「Ticket」จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไปในเครื่อง และกดปุ่มค่าเดินทาง「230」เท่านี้ก็เรียบร้อย

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการซื้อตั๋วครั้งละหลายใบ ก็สามารถเลือกปุ่มรูปคนที่อยู่ด้านซ้ายมือของหน้าจอได้ สามารถซื้อได้ครั้งละมากที่สุด ผู้ใหญ่ 2 ใบ+เด็ก 2 ใบ

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปเลย ซึ่งการเดินทางไปสถานีโยโดยาบาชิ นั้นจะต้องลงบันไดที่อยู่ซ้ายมือเพื่อนั่งรถไฟจากชานชาลาหมายเลข 2 กับสายมิโดสึจิ (Midosuji Line)

โดยนั่งจาก “สถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ” ไปยัง “สถานีโยโดยาบาชิ” ไปจำนวน 5 สถานี ใช้เวลาในการเดินทาง 10 นาที

เมื่อถึงสถานีโยโดยาบาชิแล้ว ก็เดินไปทางด้านหน้าชานชาลา เพื่อขึ้นบันได หรือบันไดเลื่อนไปหนึ่งชั้นเพื่อไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วเลย เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วออกมาแล้วก็เดินไปทางขวามือ เพื่อเดินไปทางจุดขึ้นรถไฟฟ้าเคฮังเลย

เมื่อเดินไปซักพักก็จะเจอช่องตรวจตั๋วอยู่ตรงหน้า และมีทางแยกไปทางซ้ายและขวา ให้เดินไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอสำนักงานสถานีที่เป็นจุดจำหน่ายตั๋วอยู่ทางซ้ายมือ เราจะไปที่นี่ก่อนเลย

ซึ่งที่นี่ก็คือจุดจำหน่าย และแลกรับ พาส「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟฟ้าเคฮังนั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ ที่ได้จองตั๋วเอาไว้ที่ตัวแทนจำหน่ายทางประเทศไทยก็สามารถแลกรับพาสได้ที่นี้ ส่วนเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าก็สามารถซื้อได้โดยตรงที่นี่เลย

ในขั้นตอนการซื้อหรือแลกรับตั๋ว จะต้องแสดงหนังสือเดินทางด้วยค่ะ ซึ่งหากเป็นผู้ที่ถือพาสปอร์ตต่างประเทศไม่ว่ากรณีใดๆ ก็สามารถซื้อพาสนี้ได้เลย

และเราจะขออธิบายรายละเอียด「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ของบริษัทรถไฟฟ้าเคฮังกันอีกซักรอบ

โดย “รถไฟฟ้าเคฮัง” นี้จะเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่าง “สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station” ที่อยู่ศูนย์กลางโอซาก้าแหล่งรวมสถานที่ทางราชการอย่างที่ทำการอำเภอโอซาก้า ไปยัง “สถานีเทนมะบาชิ Temmabashi Station” ใกล้ปราสาทโอซาก้า เข้าสู่ศูนย์กลางเกียวโตที่ “สถานีกิออน ชิโจ Gion-Shijō Station” และ “สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station” ที่เป็นทางเข้าสู่คุรามะ・คิฟุเนะ

ซึ่งพาส『KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS』นี้ก็คือพาสที่เพื่อนๆ สามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวเส้นทางสายหลักของรถไฟเคฮัง และเส้นทางรถไฟสายอุจิ ที่เชื่อมระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวในอุจิ พร้อมนั่งรถไฟเคฮังในเกียวโต และโอซาก้าได้ไม่อั้น

「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ แบบ 1 day(800 เยน)และ 2 days(1200 เยน)ที่รองรับการท่องเที่ยวโอซาก้า และสามารถเดินทางไปยังเกียวโตแบบไปกลับได้ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน

ซึ่งค่าเดินทางจาก  “สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station” หรือ “สถานีเทนมะบาชิ Temmabashi Station” ในตัวเมืองโอซาก้า ไปยัง “สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station” ในเกียวโต ขาเดียวจะอยู่ที่ 470 เยน เฉพาะฉะนั้นเพียงเดินทางไปกลับวันเดียวก็สามารถใช้ตั๋วแบบวันเดียวได้แบบคุ้มค่า

ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกียวโต(ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ・วัดคิโยะมิซุ・กิออน・ศาลเจ้าชิโมกาโมะ)แบบวันเดียว โดยออกจาก โอซาก้า(โยโดยาบาชิ)

สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station⇒สถานีฟุชิมิ อินาริ Fushimi-Inari Station:400 เยน(เยี่ยมชมศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ)

สถานีฟุชิมิ อินาริ Fushimi-Inari Station⇒สถานี คิโยมิสึ โกโจ Kiyomizu-Gojō Station:210 เยน(ท่องเที่ยว วัดคิโยะมิซุ・วัดโคไดจิ・ซันเนซากะ・กิออน)

สถานีกิออน ชิโจ Gion-Shijō Station⇒สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station:210 เยน(เยี่ยมชมศาลเจ้าชิโมกาโมะ)

สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station⇒สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station:470 เยน

รวมเป็น :1290 เยน

ซึ่งพาสแบบ 1 day จะอยู่ที่ 800 เยน เพราะฉะนั้นถือว่าคุ้มค่าไป 490 เยนเลย

เมื่อซื้อ「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」แล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วที่อยู่หน้าสำนักงานไปเลย จากนั้นก็ลงบันไดด้านไหนด้านหนึ่งไปที่ชานชาลา ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ มากที่สุดก็คือ “สถานีฟุชิมิ อินาริ” โดยจะต้องนั่งรถไฟด่วนพิเศษไปยังสถานีทัมบาบาชิ (Tambabashi Staion) ที่อยู่ระหว่างทางก่อน จากนั้นก็นั่งรถไฟธรรมดาจากสถานีทัมบาบาชิไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที

ซึ่งบริษัทรถไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีอยู่มากมายหลายบริษัท อย่างเช่น บริษัทรถไฟฟ้า JR ซึ่งบริษัทรถไฟที่ถือได้ว่าสามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือมีที่นั่ง และการตกแต่งภายในหรูหราก็คือ “รถไฟฟ้าด่วนพิเศษของรถไฟฟ้าเคฮัง”

โดยในบรรดา 8 โบกี้ จะมีโบกี้ที่ 5 เป็นโบกี้แบบ 2 ชั้น ที่สามารถนั่งได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมเลยค่ะ สามารถชมวิวจากมุมสูงต่างจากวิวที่นั่งด้านล่างทั่วไปได้ระหว่างการเดินทางเลย นอกจากนี้ที่นั่งแบบ Cross Seat ยังสามารถหมุนพนักเก้าอี้ให้หันหน้าเข้าหากันได้อีกด้วย สามารถหันหน้าพูดคุยกันได้ระหว่างทริปเลย

การเดินทางจากสถานีโยโดยาบาชิไปยังสถานีเปลี่ยนสายที่สถานีทัมบาบาชินั้น จะใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษเป็นเวลา 40 นาที

เมื่อลงจากรถไฟที่สถานีทัมบาบาชิแล้ว ก็เปลี่ยนไปนั่งรถไฟธรรมดา หรือ รถไฟ Semi-Express(準急) ที่มาจอดชานชาลาตรงข้ามได้เลย ถึงแม้ว่าจะมีเวลาเปลี่ยนรถไฟเพียง 1 นาทีเท่านั้น แต่แค่เดินขึ้นรถไฟที่มาจอดชานชาลาตรงข้ามเท่านั้น เพราะฉะนั้นยังไงก็ทันแน่นอนค่ะ โดยเราจะนั่งจากสถานีทัมบาบาชิ ไปยังสถานีฟุชิมิ อินาริ จำนวน 4 สถานี ใช้เวลา 7 นาที แปปเดียวเท่านั้น

เมื่อถึงสถานีฟุชิมิ อินาริแล้ว ก็เดินผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เดินไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสี่แยกที่มีเสาโทริอิอยู่ข้างหน้า ให้เดินไปทางขวามือค่ะ

 “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ”『FUSHIMI INARI TAISHA(伏見稲荷大社)』ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี

มีนักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ซึ่งเทพเจ้าที่สิงสถิตอยู่ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ「INARINOKAMI:稲荷神(เทพเจ้าอินาริ)」ถึงแม้ว่าศาลเจ้าที่เป็นสถานที่สิงสถิตของเทพเจ้าอินาริ จะมีอยู่ประมาณ 3  หมื่นศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่น แต่ “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดเลยก็ว่าได้ และหากพูดถึงศาลเจ้าอินาริ ก็จะต้องนึกถึง “สุนัขจิ้งจอก”

ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นมีความเชื่อมาแต่โบราณว่า “สุนัขจิ้งจอก” ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้าในศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ โดยอิงจากในสมัยก่อนที่สุนัขจิ้งจอกจะคอยช่วยกินสัตว์หรือแมลงที่มาทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านนั่นเอง

โดย “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” แห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ทางด้าน “การค้าขายรุ่งเรือง” หรือ “การเดินทางปลอดภัย” เป็นต้น

เดินตามทางเดินศาลเจ้าขนาดใหญ่ ลอดผ่านโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ไป 2 อันแล้ว ก็จะเจอที่ชำระล้างร่างกายอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนอื่นเราจะไปล้างมือกันก่อน แล้วค่อยไปที่อาคารหลักศาลเจ้ากันค่ะ

โดยมีวิธีการล้างมือชำระล้างร่างกายดังนี้

1.ถือกระบวยด้วยมือขวา และตักน้ำให้เต็ม จากนั้นน้ำมาล้างมือซ้าย

2.เปลี่ยนมือที่ถือกระบวยเป็นข้างซ้าย และล้างมือขวา

3.เปลี่ยนมาถือกระบวยมือขวาอีกรอบ เทน้ำใส่มือซ้ายพอประมาณ และทำการบ้วนปาก

4.ล้างมือซ้ายอีกรอบ

5.ตั้งกระบวยขึ้น โดยหันหน้ากระบวยเข้าตัว เพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างที่จับกระบวย วางกระบวยไว้ที่เดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย

และที่บริเวณหน้าอาคารหลักศาลเจ้าจะมีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกที่เป็นบริวารของเทพเจ้าอยู่ เมื่อเดินผ่านประตูซันมงที่มีสุนัขจิ้งจอกไปแล้วก็ไปกราบไหว้อาคารศาลเจ้าหลักกันก่อนเลย

โดยมาที่บริเวณหน้าศาลเจ้าหลัก(ที่มีระฆังและกล่องทำบุญอยู่หน้าอาคาร) โค้งคำนับเล็กน้อย 1 ครั้ง และโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)จากนั้นสั่นสายระฆังที่ห้อยลงมา และทำการ

โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง

ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง

โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ

ซึ่งหลักการกราบไหว้แบบ โค้งคำนับ 2 ปรบมือ 2 โค้งคำนับ 1 นั้นจะเป็นการสักการะที่ศาลเจ้าเท่านั้น ในกรณีการสักการะที่วัดจะไม่มีการปรบมือ สามารถสักการะโดย พนมมือธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น

ซึ่งพื้นที่ของศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ จะมีขอบเขตกว้างขวางตั้งแต่ด้านหลังอาคารหลักศาลเจ้าไปจนถึงยอดเขาเลยค่ะ หากเพื่อนๆ ต้องการเดินไปถึงส่วนบนสุดที่「ICHINOMINE(一ノ峰)」ก็จะต้องเตรียมใจกันซักเล็กน้อย เพราะว่าจะใช้เวลาเดินทางนาน 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเดินทางไปกลับเฉพาะ ระหว่างอาคารศาลเจ้าหลัก ผ่านทางเดินเสาโทริอิ SENBONTORII(千本鳥居) ไปจนถึง「OKUSHA HOHAISHO(奥社奉拝所)」เท่านั้น อย่างน้อยถ้าได้มาถึงจุดนี้ ก็ถือว่าได้มาถึงศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริแล้วค่ะ

เมื่อสักการะที่อาคารศาลเจ้าหลักเรียบร้อยแล้ว ก็ไปด้านหลังอาคารหลักเพื่อเดินขึ้นเขากันเลย และเราก็จะเห็นเส้นทางเสาโทริอินับไม่ถ้วนอยู่ตรงหน้าเลย เป็นสถานที่ไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้สำหรับนักท่องเที่ยวกับ「SENBONTORII(千本鳥居)」อ่านว่า “เซ็นบงโทริอิ” แปลว่า “โทริอิพันต้น” โดยบริเวณนี้เป็นจุดตั้งเสาของผู้ที่บูชาถวายเสาโทริอิขนาดต่างๆ ให้กับศาลเจ้าเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับพรที่สมหวังไป และมีการถวายเสาโทริอิอยู่เรื่อยๆ มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีเสาโทริอิอยู่มากกว่า 1 หมื่นต้นเลยทีเดียว และเมื่อเสาโทริอิสีแดงมาอยู่รวมกันมากๆ ก็ทำให้กลายเป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เป็นบรรยากาศเสาโทริอิสีแดงเรียงกันอยู่มากมายท่ามกลางธรรมชาติในป่าเขา บริเวณทางเข้าก็คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากถ่ายรูปแบบเต็มที่แนะนำให้เดินลึกเข้าไปด้านในอีกหน่อยค่ะ

และเมื่อเดินผ่านทางเดินเสาโทริอิไปเรื่อยๆ ก็จะเจอศาลเจ้า「OKUSHA HOHAISHO(奥社奉拝所)」ที่ใช้เวลาในการเดินจากอาคารศาลเจ้าหลักด้านหน้าประมาณ 10 นาที ซึ่งที่นี่จะมีแผ่นไม้เขียนขอพร “แผ่นไม้เอมะ” รูปสุนัขจิ้งจอกอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นศาลเจ้าเล็กๆ แต่ก็มีจุดที่น่าสนใจต่างๆ มากมายอย่างเช่น「OMOKARU STONE(おもかる石)」(แปลว่า หินหนักเบา) เป็นต้น

ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เที่ยวชม「OKUSHA HOHAISHO(奥社奉拝所)」ในศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ และเดินทางไปเที่ยวชมความเป็นเมืองเกียวโตที่ย่าน “กิออน” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day2-1 UNIVERSAL HOTEL REBORN(OSAKA)/FUSHIMI INARI TAISHA(KYOTO)】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS”

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶