Day2-2 ชมวิวภูเขาไฟฟูจิบนชิงช้าสวรรค์「DREAM SKY」ไปพร้อมๆกับชมวิวทะเลสีครามของอ่าวซุรุงะที่เมืองชิซุโอกะ
เดินทางจากนาโกย่ามาด้วยชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถเดินทางด้วยความเร็วที่สามารถไปชิซุโอกะได้ในพริบตา จน ICHIGO-CHAN ได้เดินทางมาที่เมืองท่า ชิมิสึเพื่อชมความสวยงามของทะเลและภูเขาไฟฟูจิ
ทานข้าวหน้าปลาดิบที่สดใหม่แบบจุใจ และนั่งชิงช้าสวรรค์「DREAM SKY」ที่เป็นแลน์มาร์กแห่งใหม่ของชิซุโอกะ เพื่อชมวิวทะเลและภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามไปพร้อมๆกัน
ชิงช้าสวรรค์「Dream Sky」แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองท่าชิมิสึ『S-Pulse Dream Plaza』ใช้เวลา 1 รอบ 13 นาที มีความสูง 52m ที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็สามารถชมวิวรอบๆชิมิสึ เมืองที่ไม่มีตึกสูงแบบนี้ได้แบบทั่วถึงเลย มองเห็นทั้ง「NIHONDAIRA」และ「MIHO NO MATSUBARA」ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวภูเขาไฟฟูจิและสถานที่ที่มีวิวสวยๆ และยิ่งถ้าอากาศดีก็จะเห็นคาบสมุทรอิซุด้วย ICHIGO-CHAN ว่าจะลองไปนั่งดูนะ
ขึ้นบันไดเลื่อนจาก「SHIMIZU SUSHI YOKOCHOU」ที่เราทานอาหารกลางวันจากชั้น 1F มา 1 ชั้น เมื่อขึ้นมาแล้วให้เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเชื่อมเพื่อไปชิงช้าสวรรค์「Dream Sky」 เดินผ่านทางเชื่อมไปเรื่อยๆ ก็จะเจอที่ขายบัตร ผู้ใหญ่ 500 เยน ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 300 เยน
ข้างในเป็นสีชมพูหวานแหวว ส่วนเก้าอี้เป็นสีแดง นั่งได้ 4 คน ถ้าเป็นผู้ใหญ่นั่งฝั่งละ 2 คนก็คงต้องนั่งใกล้ชิดกันหน่อย
วันที่ ICHIGO-CHAN ไป ข้างๆชิงช้าสวรรค์มีการแสดงตีกลองอยู่ที่ลานกว้างริมทะเลด้วย เสียงกลองที่ตีจากกลองขนาดใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันก้องกังวานมาถึงข้างในชิงช้าเลย เป็น BGM ที่เข้ากับบรรยากาศวิวภูเขาไฟฟูจิ กับอ่าวซุรุงะ ตอนนี้มาก ๆ
1 รอบ 13 นาที ใช้เวลาประมาณ 6 นาที 30 วินาทีเพื่อไปถึงยอด และเมื่อถึงจุดที่สูงที่สุดเราจะเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่ถูกหิมะปกคลุม และวิวอ่าวซุรุงะสีครามสวยมากๆ
ด้านหลังเรือลาดตระเวนที่อยู่ด้านขวามือคือ「MIHO NO MATSUBARA」
MIHO NO MATSUBARA เป็นชายฝั่งยาว 7km และมีต้นส้นอยู่ริมหาดกว่า 3 หมื่นต้น เราสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิและวิวของคาบสมุทรอิซุได้อย่างสวยงามจากที่นั่น
ซึ่งสถานที่นี้เป็นฉากที่ผูกพันกับคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถึงขนาดว่า MIHO NO MATSUBARA นี้เป็นวิวที่ถูกวาดลงบนหนึ่งในชุดภาพวาด UKIYOE หรือ อุกิโยเอะ ที่ชื่อว่า「TOKAIDO 53 TSUGI」ชื่อดังตั้งแต่เมื่อ 180 ปีที่แล้วด้วย
ด้วยเวลาที่มีจำกัดในครั้งนี้ เราจึงไม่ได้แวะไปที่ MIHO NO MATSUBARA แต่ก็สามารถชมวิวที่สวยงามเหมือนภาพวาด ภาพวิวภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุงะ และคลื่นที่ซัดเข้ามาเรื่อยๆ เป็นวิวที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เราสามารถเดินทางไป MIHO NO MATSUBARA จากสถานีชิมิซุได้ด้วย รถบัสใช้เวลา 30 นาที และเดินอีกประมาณ 15-20 นาที
และที่อ่าวข้างๆชิงช้าสวรรค์นี้ก็มีเรือสำราญเที่ยวชมรอบอ่าวซุรุงะด้วย（วิ่ง 4 เที่ยวต่อวัน・1000 เยน） ถ้ามีเวลาก็อยากแนะนำให้ไปชมวิวสวยๆ ของภูเขาไฟฟูจิจากเรือสำราญดูนะ ไหนก็มาแล้ว ชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากมุมต่าง ๆ ไปคุ้มไปเลยได้ยิ่งดีค่ะ
ชมความยิ่งใหญ่ตระการตาของวิวที่สวยงามไปประมาณ 13 นาที ได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากความสูง 52m และยิ่งไม่มีตึก หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ มาบังด้วยก็ยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ MIHO NO MATSUBARA และอ่าวซุรุงะจากชิงช้าสวรรค์ไปแล้ว เราจะไปเดินเล่นรอบร้านขายของฝากขนาดใหญ่「SURUGA MIYAGE YOKOCHOU」ที่อยู่ชั้น 1F「S-Pulse Dream Plaza」กันระหว่างรอบัสฟรีไปสถานีชิมิซุ ที่จะวิ่งทุก 30 นาที ที่นี่มีทั้ง「SAKURAEBI DANGO」ดังโงะกุ้งฝอย หรือ「HOTATEMAYOBOU」หอยเชลล์มายองเนสเสียบไม้ และลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น KAMABOKO จำหน่ายอยู่ด้วย
รถบัสฟรีไปสถานีชิมิซุ ยกเว้นรอบบ่ายโมง วันธรรมดาบัสจะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว（นาทีที่ 00 และ 30）・วันเสาร์วิ่งชั่วโมงละ 4 เที่ยว（นาทีที่ 00 / 15 / 30 และ 45）ใช้เวลาประมาณ 10 นาที และจะไปจอดที่สถานีรสบัส ที่ประตูตะวันออกสถานีชิมิซุ
วิธีไปก็ย้อนไปตามทางขามา ลงจากรถบัสแล้ว ขึ้นบันไดเพื่อเดินไปตามทางกำแพงกระจกเรื่อยๆ เพื่อไปด้านใน JR สถานีชิมิซุ จากกำแพงกระจกเราก็สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้เหมือนกับตอนขามาเลย
และสถานที่ต่อไปที่เราจะไปคือ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของชิซุโอกะ「NIHONDAIRA」 สามารถขึ้นไปบนเนินด้วยกระเช้าลอยฟ้าไปประมาณ 300m เพื่อชมวิวภูเขาไฟฟูจิ หรือ สามารถไปสักการะ ศาลเจ้า KUNOZAN TOSHOGU ที่โชกุนเคยบวงสรวงในยุคสมัยเอโดะ ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติเลยก็ว่าได้
วิธีเดินทางไป NIHONDAIRA นั้นจะต้องกลับไปที่สถานีชิซุโอกะเพื่อนั่งรสบัสไป ก่อนอื่นก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟไปสถานีชิซุโอกะก่อน เช็คราคาตั๋วจากแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัตก่อน ราคาตั๋วไปสถานีชิซุโอกะ คือ 240 เยน กด 240 เยนบนหน้าจอ จากนั้นก็ใส่เงิน เท่านี้ก็เรียบร้อย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ผ่านช่องตรวจตั๋วเข้าไปข้างใน และลงบันไดไปที่ชานชาลา รถไฟไปชิซุโอกะจะวิ่งออกจากชานชาลาที่ 2
รถไฟจากชิมิซุไปชิซุโอกะ จะวิ่งชั่วโมงละ 5-6 เที่ยว ไม่ต้องรอรถไฟนานเลย ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไปสถานีชิซุโอกะ 10 นาที
เมื่อถึงสถานีชิซุโอกะแล้ว ก็ลงบันไดจากชานชาลา และลงบันไดเลื่อนเพื่อออกจากช่องตรวจตั๋ว เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วให้ออกไปข้างนอกจากประตูเหนือ NORTH EXIT ที่อยู่ด้านขวามือ
จะต้องขึ้นรถบัสไป NIHONDAIRA จากป้ายรถบัสเบอร์ 11 ที่ออกจากประตูเหนือสถานีชิซุโอกะมาอยู่ทางขวามือทันที วันธรรมดาวิ่งวันละ 6 เที่ยว วันเสาร์ 9 เที่ยว ส่วนวันอาทิตย์และวันหยุดราชการจะวิ่งวันละ 8 เที่ยว ถ้าพลาดรอบพวกนี้ไปก็จะไม่มีรถบัสที่มุ่งตรงไปแล้ว และจะต้องต่อรถไปเท่านั้น วันธรรมดารอบสุดท้ายจะอยู่ที่เวลา 14:51 ถือว่าหมดเร็วมาก เพราะฉะนั้นต้องดูเวลาให้ดี
และรถบัสใหม่เอี่ยมที่จะมุ่งหน้าไป NIHONDAIRA ก็มาจอดที่ชานชาลาเบอร์ 11 ใช้เวลาในการเดินทางไป NIHONDAIRA ประมาณ 40 นาที ในครั้งหน้าเราจะไปกันที่ NIHONDAIRA LOPE WAY และ ศาลเจ้า KUNOZAN TOSHOGU ที่โชกุนได้เซ่นไหว้ในสมัยก่อน
【ตารางเดินทางวันนี้】