Day1-5 ทานดินเนอร์ร้านซูชิ และนั่งเรือ「TOMBORI RIVER CRUISE」พร้อมเข้าพัก「UNIVERSAL HOTEL REBORN」

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-5 ทานดินเนอร์ร้านซูชิ และนั่งเรือ「TOMBORI RIVER CRUISEพร้อมเข้าพัก「UNIVERSAL HOTEL REBORN」

OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินท่องเที่ยวภายในย่านดังในโอซาก้าที่ “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” เพื่อช้อป ทานอาหาร และถ่ายรูปไปเต็มที่แล้ว

Day1-4 สักการะศาลเจ้าหัวสิงโตขนาดใหญ่ที่ “ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ” และเดินเที่ยวย่านดังในโอซาก้า “โดทงโบริ・ชินไซบาชิ”

จากนั้นเราก็ได้เดินออกจากบริเวณโดทงโบริไปประมาณ 3 นาที เพื่อไปตรอกซอยโฮเซ็นจิโยโกะโจ และสักการะขอพรที่ รูปปั้น “มิสึคาเกะฟุโด” (รูปปั้นสรงน้ำ) ชื่อดังไปแล้ว ต่อไปเราจะไปทานอาหารค่ำกันที่「ICHIBA SUSHI(市場すし)」เพื่อทานซูชิสดใหม่กันให้เต็มอิ่ม

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 5 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารค่ำที่「ICHIBA SUSHI(市場すし)」พร้อมนั่ง「TOMBORI RIVER CRUISE」ชมบรรยากาศบริเวณรอบๆ โดทงโบริจากบนแม่น้ำกันค่ะ

 “วัดโฮเซ็นจิ” สถานที่ที่มีทั้งตรอกซอยเล็กๆ โคมไฟญี่ปุ่นมากมาย พร้อม “รูปปั้นฟุโดไดเมียวโอ” ที่ปกคลุมไปด้วยมอสทั้งองค์ ซึ่งบรรยากาศภายในวัดเงียบสงบ ไม่เหมือนอยู่ในเมืองที่พลุกพล่านแบบนี้เลยค่ะ

และแล้วก็ได้เวลาของอาหารค่ำกันแล้ว โดยวันนี้เราจะไปทานซูชิที่ร้าน「ICHIBA SUSHI(市場すし)」กันค่ะ

เดินออกจากวัดโฮเซ็นจิ ไปยังร้าน ICHIBA SUSHI จะใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น ก่อนอื่นก็เดินออกจากประตูทางเข้าวัดโฮเซ็นจิไปและตรงไปเรื่อยๆ เพื่อเข้าสู่ย่านร้านค้า EBISU BASHI-SUJI จากนั้นเมื่อถึงย่านร้านค้าแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ และข้ามถนนใหญ่(ถนนเซ็นนิจิมาเอะโดริ)ไป เมื่อเดินไปในย่านร้านค้าเรื่อยๆ ก็จะเจอแมคโดนัลอยู่ทางขวามือ เลี้ยวซ้ายที่แยกที่อยู่เลยไป จากนั้นก็เดินไปอีกไม่กี่ตึกก็จะเจอร้าน「ICHIBA SUSHI」อยู่ตรงข้ามเบอร์เกอร์คิงเลยค่ะ

เดินจากวัดโฮเซ็นจิไปทางทิศใต้โดยมีถนนเซ็นนิจิมาเอะกั้น เพียง 3 นาที ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงร้าน「ICHIBA SUSHI」สาขาชูโอเป็นที่เรียบร้อย โดยร้านจะตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งการเดินทาง “สถานีรถไฟฟ้านันไคนัมบะ” ที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษ「Limited Express rapi:t」ที่เชื่อมระหว่างภายในเมืองและสนามบินคันไซ, รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีนัมบะ หรือ บริเวณโดทงโบริ・สะพานเอบิซุบาชิ ที่สามารถเดินเท้าจากแต่ละที่มาได้ภายใน 3 นาที

เพื่อนๆ สามารถทานซูชิสดใหม่คำโต ได้ในราคาสบายกระเป๋า เพลิดเพลินกับซูชิแท้ได้อย่างเต็มที่ได้ที่ร้านซูชิ『ICHIBA SUSHI』แห่งนี้

เป็นร้านยอดนิยมที่ได้รับความนิยม คนเยอะทั้งช่วงอาหารกลางวันและอาหารค่ำเลยทีเดียว

ภายในร้านจะมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์หน้าส่วนครัว และที่นั่งแบบโต๊ะแบบ 6 คนอยู่ 2 โต๊ะ นอกจากนี้ยังมีที่นั่งชั้นใต้ดินแบบนั่งพื้นอยู่รวมทั้งหมด 70 ที่นั่ง เรียกได้ว่าสามารถรองรับลูกค้าได้ตั้งแต่คนเดียว ไปจนถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่เลยค่ะ ถึงแม้ว่าช่วงคนเยอะจะไม่ต้องต่อแถวรอนาน ส่วนใหญ่แล้วที่นั่งเคาน์เตอร์จะเต็มอยู่ตลอด แต่ถ้าที่นั่งเคาน์เตอร์ว่างแนะนำให้นั่งที่นี่เลยค่ะ เพราะว่าเพื่อนๆ จะได้ชมการปั้นซูชิระหว่างรอและทานอาหารนั่นเอง

เมนูภายในร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบชุด「TOKUJO NIGIRI(SUPER DELUXE)」(8 คำ 1750 เยน)・「JO NIGIRI(DELUXE)」(7 คำ 1350 เยน)・「NAMI NIGIRI(REGULAR)」(7 คำ 890 เยน)และแบบเมนูเดี่ยวๆ เป็นคำอย่างเช่น แซลมอน(300 เยน)หอยเชลล์(370 เยน)หรือ โอโทโร่(980 เยน)สามารถเลือกสั่งหน้าต่างๆ ได้ตามความชอบเลย

ภายในเมนูอาหารจะมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่พร้อมรูปภาพประกอบ เพราะฉะนั้นสามารถชี้สั่งอาหารได้ไม่ยากเลยค่ะ

ส่วน ICHIGO-CHAN สั่งเป็น「JO NIGIRI(DELUXE)」(7 คำ 1350 เยน)ที่มีซูชิหน้าต่างๆ ชิ้นใหญ่และคำโต วาซาบิที่เสริฟ์มาพร้อมกันก็เป็นวาซาบิแท้ที่ขึ้นจมูกถูกในคอวาซาบิอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังสั่งซุปหอยอาซาริ「AKADASHI(ASARI)」(390 เยน)ที่มาพร้อมกับหอยแบบอัดแน่นเต็มถ้วย แนะนำให้ทานหลังทานซูชิเลยค่ะ เพราะว่าปริมาณเยอะมากๆ เดี๋ยวจะอิ่มซะก่อน

และเชฟคนนี้ก็เป็นเชฟมือโปรที่เป็นเชฟซูชิมายาวนานกว่า 40 ปีเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อก่อนที่ร้านจะมีแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาทานที่ร้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เลย

หลังจากทานซูชิไปเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาคิดเงินเลย ซึ่งที่นี่จะรองรับการชำระเงินทั้งเงินสด และบัตรเครดิตหลักๆ อย่าง VISA, Master หรือ JCB เป็นต้น ทานได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลเงินในกระเป๋าเลยค่ะ

หลังจากทานอาหารค่ำที่ร้านซูชิแล้ว ก็ได้เวลาไปขึ้นเรือชมโดทงโบริยามค่ำคืนกันแล้ว ซึ่งที่แม่น้ำโดทงโบรินี้จะมีบริการเรือท่องเที่ยว「TOMBORI RIVER CRUISE」ที่เปิดให้บริการเรือท่องเที่ยวระยะสั้นชมบรรยากาศโดทงโบริรวมไปถึงผ่าน “ป้ายกูลิโกะ” อีกด้วย

โดยเพื่อนๆ สามารถเดินจากร้านซูชิ ICHIBA SUSHI ไปจุดขึ้นเรือได้ใช้เวลา 5 นาที ก่อนอื่นก็ออกจากร้านไปทางซ้ายมือ เพื่อเดินไปตามย่านร้านค้า EBISU BASHI-SUJI และเลี้ยวขวาที่สี่แยกแรก จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ เมื่อข้ามสะพานเอบิซุบาชิที่มี “ป้ายกูลิโกะ” ไปแล้วก็ลงบันไดที่อยู่ทางขวามือไปที่「RIVER WALK」จากนั้นก็เดินไปทางซ้ายมือเพื่อไปขึ้นเรือกันเลย

『TOMBORI RIVER CRUISE』ที่เพื่อนๆ สามารถนั่งเรือชมบรรยากาศภายในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโอซาก้าที่โดทงโบริ

วันธรรมดา เปิดให้บริการ 13:00-21:00 น.

วันหยุด เปิดให้บริการ 11:00-21:00 น.

โดยเรือจะแล่นทุกๆ 30 นาที สามารถซื้อตั๋วขึ้นเรือได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วหน้าร้านดองกี้โฮเตะสาขาโดทงโบริได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 900 เยน รองรับทั้งเงินสด และบัตรเครดิต สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มี「Osaka Amazing Pass」ก็สามารถใช้นั่งได้ฟรี แต่ถึงแม้ว่าจะมีพาสก็ต้องใช้ตั๋วในการขึ้นเรือ เฉพาะฉะนั้นไปที่จุดจำหน่ายตั๋วเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ออกตั๋วขึ้นเรือให้ได้เลย

เมื่อซื้อตั๋วแล้ว ซักพักเรือสีเหลืองก็มาจอดเทียบท่า เมื่อแขกชุดก่อนลงจากเรือแล้ว ก็ได้เวลาขึ้นเรือกันเลย ถึงแม้ว่าภายในโอซาก้าจะมีเรือท่องเที่ยวภายในเมืองอยู่หลายแบบนอกจาก「TOMBORI RIVER CRUISE」แล้วก็ยังมี「AQUA-LINER」ฯลฯ แต่เรือท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ「TOMBORI RIVER CRUISE」เนื่องจากเรือนี้จะแล่นท่ามกลางย่านโดทงโบริที่เป็นสถานที่อันดับหนึ่งในการท่องเที่ยวโอซาก้า เพื่อชมบรรยากาศท่ามกลางแสงสีเสียงให้บรรยากาศ “ความเป็นโอซาก้า” ที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดเลยก็ว่าได้

เมื่อทุกคนขึ้นเรือกันแล้วก็ได้เวลาออกตัวกันเลย บรรยากาศภายในเรือ「TOMBORI RIVER CRUISE」ก็คึกคักไปด้วยเสียงจากไกด์ที่ร่าเริงคนนี้ ซึ่งจะอธิบายจุดต่างๆ ระหว่างการนั่งเรือเป็นภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ

ซึ่งไฮไลท์ของการนั่งเรือนี้ก็คือ “ป้ายกูลิโกะ” ที่เพื่อนๆ จะได้ชมป้ายกูลิโกะจากมุมมองที่ต่างจากตอนชมจากสะพานเอบิซุบาชิเลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่คนจะยืนถ่ายรูปเต็มสะพาน เพราะฉะนั้นหากอยู่บนเรือก็สามารถถ่ายรูปคู่กับป้ายกูลิโกะได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ

「TOMBORI RIVER CRUISE」จะใช้เวลาในการเดินเรือ 20 นาที แล่นไปกลับระหว่าง “นิปปอนบาชิ” และ “อุคินิวะบาชิ” ซึ่งจะลอดผ่านสะพานต่างๆ ระหว่างช่วงเส้นทางนี้จำนวนทั้งหมด 9 สะพาน พร้อมชมบรรยากาศร้านค้า และตึกสูงยามค่ำคืนได้ตลอดการเดินทาง

หลังจากที่เราได้นั่งเรือเพลิดเพลินกับบรรยากาศโดทงโบริย่านดังของโอซาก้าไปเต็มที่แล้ว ตอนนี้ก็เป็นเวลา 21:00 น. เพราะฉะนั้นเราจะเดินทางไปที่พักในคืนนี้ที่โรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」กันเลย โดยสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้โรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」มากที่สุดก็คือ รถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ (Midosuji Line)  “สถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ”「DOBUTSUEN-MAE STATION」

ก่อนอื่นเราจะเดินไปยังรถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ (Midosuji Line) “สถานีนัมบะ” กันก่อนเลย โดยเดินออกจากจุดขึ้นเรือไปทาง “ป้ายกูลิโกะ” จากนั้นก็เดินตรงไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องขึ้นบันไดไปบนสะพานเอบิซุบาชิ และให้ขึ้นบันไดที่สะพานถัดไปจากนั้นเดินไปทางซ้ายมือ เดินไปเรื่อยๆ จนเจอทางเข้า “สถานีนัมบะ” ลงบันไดไปชั้นใต้ดินและเดินไปทางซ้ายมือเลย

เมื่อเดินไปซักพักก็จะเจอช่องตรวจตั๋วอยู่ทางขวามือ สามารถใช้「Enjoy eco card ticket 1 day」ผ่านเข้าไปด้านในได้เลย จากนั้นก็เดินไปทางซ้ายมือ และลงบันไดไปที่ชานชาลารถไฟฟ้าใต้ดินสายมิโดสึจิ (Midosuji Line) ที่มุ่งหน้าไปสู่ “เท็นโนจิ・นาคาโมซึ” นั่งจากสถานีนัมบะ ไปสถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ 2 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 4 นาที

เมื่อถึงสถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะแล้วก็เดินออกจากช่องตรวจตั๋วที่อยู่ทางด้านหลัง และออกจากประตูทางออกหมายเลข 6 ที่อยู่ทางซ้ายมือเพื่อไปชั้นบนดินกันเลย

เมื่อขึ้นมาสู่ชั้นบนดินแล้ว ก็เดินออกไปทางขวาถนนใหญ่ และเดินจาก “สถานีโดบุทสึเอ็น-มาเอะ” ไปประมาณ 3 นาที ซึ่งเราออกจากย่านโดทงโบริมาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ก็เดินทางกลับมาที่โรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」ที่พักของเราในคืนนี้ ที่ได้ฝากกระเป๋าเอาไว้เมื่อเช้าเลย

เมื่อถึงโรงแรมแล้วก็ไปรับกระเป๋าที่ฝากเอาไว้ เพื่อไปเช็คอินกันเลย วิธีการเช็คอินก็ไม่ยาก เพียงยื่นพาสปอร์ตให้พนักงาน จากนั้นก็กรอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลลงในใบลงทะเบียนเข้าพัก ซึ่งโรงแรมนี้จะเป็นระบบชำระเงินก่อนการเข้าพัก เพราะฉะนั้นทำการชำระเงินให้เรียบร้อย เมื่อได้รับคีย์การ์ดแล้วก็ไปที่ห้องพักกันเลย ที่ฟร้อนท์มีธงประเทศไทย (และไต้หวัน เกาหลี เวียดนาม) เสียบเอาไว้อยู่ด้วย ได้ยินมาว่านักท่องเที่ยวชาวไทยมาพักที่นี่อยู่เยอะเหมือนกันค่ะ

คืนนี้ ICHIGO-CHAN เลือกพักเป็นห้องทวินรูม ห้องพักขนาดกระทัดรัด สีขาวทั้งห้อง และบริเณหัวเตียงจะมีหน้าต่างอยู่ ทำให้ห้องดูสว่างไสว สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าจากหน้าต่างได้อีกด้วย

ภายในห้องพักก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่มากมาย ทั้งทีวีขนาด 40 นิ้ว หรือแท็บเล็ต ที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือชมคลิปต่างๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

ภายในห้องน้ำจะเป็นแบบห้องรวมกับส่วนอาบน้ำ มีทั้งแชมพู ครีมนวด สบู่ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย

ตอนนนี้เราได้ออกเดินทางจากกรุงเทพมาเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆ ตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งในวันแรกของทริปเราได้เดินทางท่องเที่ยวจาก “ปราสาทโอซาก้า” ต่อด้วย “ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ” และท่องเที่ยวย่านดัง “โดทงโบริ・ชินไซบาชิ” เป็นหนึ่งวันที่เต็มที่มากๆ และในวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันที่เราเริ่มใช้พาสสุดคุ้ม「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในการท่องเที่ยวกันแล้ว โดยสถานที่แรกของวันพรุ่งนี้ก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่ “ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ”「FUSHIMI INARI TAISHA(伏見稲荷大社)」

สำหรับวันนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

【ตารางการเดินทาง Day1-5 ICHIBA SUSHI/TOMBORI RIVER CRUISE/UNIVERSAL HOTEL REBORN】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS”

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶