ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-3 ตื่นตาตื่นใจ! ย้อนเวลาเข้าไปในยุคสมัยเมจิ โลกอดีตของญี่ปุ่น ที่ “เมจิมูริ MEIJI MURA”
INUYAMA-NAGOYA-MINOKAMO-NAGOYA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ไปเที่ยวชม “ปราสาทอินุยามะ” ใกล้แม่น้ำคิโซะ และเที่ยวชมเมืองบริเวณรอบๆ ปราสาทเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปญี่ปุ่นในอดีตแล้ว
ซึ่งสถานที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือธีมปาร์คที่ยกเอาตึกเก่าๆ ทางประวัติศาสตร์มารวมกันไว้อย่างน่าสนใจ เพื่อจำลองบรรยากาศเมืองเก่าของญี่ปุ่น แน่นอนว่าเพื่อนๆ จะสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถสวมชุดโบราณของญี่ปุ่นเที่ยวชมรอบๆ สถานที่แห่งนี้ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีรถรางหรือ SL แบบที่เคยวิ่งในสมัยก่อน ให้ได้นั่งอีกด้วย เรียกได้ว่ามีกิจกรรมให้ได้ตื่นตามากมาย และสถานที่แห่งนี้ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “เมจิมูระ” หรือหมู่บ้านเมจิกันค่ะ ไปชมกันเลย
ซึ่งการเดินทางจากสถานีอินุยามะ ใกล้ปราสาทอินุยามะ และเมืองรอบปราสาท ไปยังหมู่บ้านเมจินั้น สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถบัส ที่วิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว ซึ่งบัสจะออกตัวจากสถานีอินุยามะ ประตูทิศตะวันออก EAST EXIT( 東口) ป้ายบัสหมายเลข 2 รถบัสจะวิ่งทุกๆ 30 นาที คือนาทีที่ 28 และ 58 ของแต่ละชั่วโมง ซึ่งวิธีการนั่งรถบัสประจำทางของญี่ปุ่น ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่และแต่ละบริษัท โดยรถบัสที่เราจะใช้บริการในวันนี้จะต้องขึ้นรถบัสจากประตูกลาง และลงรถบัสจากประตูด้านหน้า เมื่อขึ้นรถบัสมาแล้วก็จะต้องดึงตั๋วรถที่ออกมาจากเครื่องออกตั๋วที่อยู่ด้านซ้ายมือของประตูทางเข้า ใบที่ออกมาจากวงกลมสีเหลืองในภาพ แล้วก็เข้าไปนั่งได้เลย
วิธีลงจากรถบัสนั้น ก่อนลงจากรถบัส จะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากจอมอนิเตอร์ที่อยู่ด้านหน้ารถบัสข้างคนขับ โดยสามารถเช็คราคาได้จากช่องตัวเลขที่ตรงกับตั๋วรถบัสที่หยิบมาตอนขึ้นรถ จากนั้นก็เตรียมเงินค่าโดยสารให้เรียบร้อย และจ่ายเงินได้ที่ช่องจ่ายเงินที่อยู่ข้างคนคนขับ ขณะลงจากรถ ซึ่งจะต้องใส่เงินไปตามจำนวนเท่านั้น หากไม่มีเหรียญก็สามารถแลกได้ที่เครื่องแลกเหรีญที่อยู่ข้างกันได้เลย
การเดินทางจาก “สถานีอินุยามะ” ไป “หมู่บ้านเมจิ” จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสาร 420 เยน
เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ก็จะมาถึงหน้า “หมู่บ้านเมจิ” เลย『MEIJIMURA』
บริเวณหน้าทางเข้าจะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติอยู่ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่นี่เลย ถ้าเพื่อนๆ มีตั๋วแบบเช็ต เข้าชมปราสาทอินุยามะ พร้อมหมู่บ้านเมจิ「INUYAMA ROMAN-TICKET(犬山浪漫券)」(1900 เยน)ก็สามารถผ่านเข้าไปได้เลย
ถึงแม้ว่าราคาบัตรเข้าชมหมู่บ้านเมจิจะอยู่ที่ 1700 เยน แต่ที่นี่ก็มีชุดบัตร「ตั๋วยานพาหนะพร้อมบัตรเข้าชม (乗り物一日券付き入村券) 」(2700 เยน)ที่สามารถใช้นั่งรถจักรไอน้ำ รถราง หรือ รถบัส ได้ไม่อั้น โดยที่ราคาปกติของตั๋วนั่งยานพาหนะไม่อั้นแบบหนึ่งวันอยู่ที่ 1200 เยน เพราะฉะนั้นถ้าซื้อเป็นเซ็ตจะถูกว่าถึง 200 เยนเลย ซึ่งบัตรเข้าชม พร้อมตั๋วเดินทางไม่อั้นแบบหนึ่งวัน สามารถชำระได้ด้วยเงินสด และรองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหลักๆ ทั้ง VISA・Mater・JCB ค่ะ
ซึ่งการจะเดินภายในสวนที่กว้างใหญ่ขนาดนี้แบบไม่มีจุดมุ่งหมายคงเป็นเรื่องที่ลำบากมากค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาเข้ามาแล้ว อย่าลืมหยิบแผนที่ที่แจกอยู่บริเวณทางเข้ามาด้วยนะคะ『MAP OF MEIJIMURA』
ซึ่งภายในสวนแห่งนี้จะแบ่งออกเป็น 5 โซน คือ Area 1(1丁目)ถึง Area 5(5丁目)ซึ่งเราสามารถเดินข้ามระหว่างพื้นที่ หรือสามารถใช้บริการขนส่งต่างๆ อย่าง รถบัส รถราง หรือรถจักรไอน้ำได้อีกด้วย
ซึ่งบริเวณทางเข้าหมู่บ้านเมจิจะอยู่ใกล้ Area1 และ Area2 เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเห็นจุดถ่ายรูปพร้อมวันที่อยู่ด้วย ถ่ายเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันซักหน่อยค่ะ
หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ เพื่อไปที่ทางเดินอิฐ「Renga-dori Road(レンガ通り)」ใน Area 2 กันเลย
เมื่อเข้ามาในส่วน Renga-dori Road แล้วจะมี「HAIKARA Clothing Museum」
อยู่ใน「Aizu Branch of Yasuda Bank (安田銀行会津支店) 」ที่อยู่ขวามือ ซึ่งที่จุดนี้เพื่อนๆ สามารถเปลี่ยนเป็นชุดญี่ปุ่นโบราณ “ยุคเมจิ” ในช่วงปีพ.ศ.2411 ถึง พ.ศ.2455 เมื่อ 150 ปีที่ผ่านมาเพื่อเที่ยวชมและถ่ายรูประหว่างท่องเที่ยวอยู่ในสวนแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยแบบชุดจะมีให้เลือกทั้งชายและหญิงอย่างละ 2 แบบคือ
ผู้หญิง: “เดรสออริจินัลオリジナルドレス” และ “ชุดนักเรียนนักศึกษาหญิงオリジナルドレス”
ผู้ชาย: “Frock Coatフロックコート” และ “ชุดนักเรียน書生服”
ใช้เวลาแต่งชุดเพียง 5 นาทีเท่านั้น ก็สามารถถ่ายรูปทั้งด้านนอกและในอาคารได้กับ「คอร์สถ่ายรูปที่ระลึก(記念撮影コース)」ราคา 800 เยน หรือจะเป็นคอร์สสวมชุดเดินเล่นภายในหมู่บ้านเมจิภายในวันที่มาเที่ยวชม「คอร์สเดินเที่ยวชม(散策コース)」ราคา 3000 เยน
ซึ่งครั้งนี้ ICHIGO-CHAN ได้ร่วมเดินทางกลับ Mong-Chan เพื่อนของ ICHIGO-CHAN ด้วย เราเลยให้ Mong-Chan ใส่ชุดนักเรียนผู้หญิงญี่ปุ่นสมัยเมจิ ใส่แล้วเข้ามากๆ
หลังจากที่เราได้เลือกชุดที่ถูกใจที่「HAIKARA Clothing Museum」แล้วก็ไปเดินเที่ยวภายในสวนกันต่อเลย ก่อนอื่นเราจะนั่ง “รถราง” เพื่อออกจาก High-Collar Hall ที่อยู่ในโซน Area 2(2丁目) เพื่อออกเดินทางไป「สถานีนาโกย่า Nagoya Station」กันเลย นอกจากตั๋ว「ตั๋วยานพาหนะแบบ 1 วัน(乗り物一日券)」(1200 เยน)ที่สามารถใช้นั่งรถราง รถบัส และรถจักรไอน้ำ ภายในสวนได้ไม่อั้นแบบหนึ่งวัน ที่ซื้อได้ที่ทางเข้าสวนแล้ว ยังสามารถซื้อตั๋ว「ตั๋วขึ้นรถแบบ 1 วัน(一日乗車券)」(700 เยน)ที่ใช้นั่งรถจักรไอน้ำ และ รถราง ได้ไม่อั้นแบบหนึ่งวันได้ที่เจ้าหน้าที่อีกด้วย ซึ่งรถรางของที่นี่เป็นรถรางที่เคยถูกใช้จริงในเกียวโตเมื่อ 80 ปีที่แล้วด้วย เหมือนได้ย้อนเวลาไปอดีตเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นรถรางที่เก่าแต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ดูดีและน่าถ่ายรูปมากๆ เลยค่ะ
นั่งรถรางไปเพียง 5 นาทีเท่านั้น ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง「สถานีนาโกย่า Nagoya Station」ในโซน Area 4(4丁目)แล้วค่ะ ทั้งๆ ที่รถรางนี้เป็นรถรางที่ถูกใช้ในเกียวโต แต่พอมาลงที่สถานีนาโกย่าแล้ว ก็รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยนะคะ
ซึ่งสถานีนาโกย่านี้จะมีเส้นทางรถจักรไอน้ำเพื่อเดินทางไปยัง “สถานีโตเกียว” ในโซน Area5(5丁目)ด้วย ดังนั้นเราจะนั่งไปลงสถานีโตเกียวกันค่ะ
รถจักรไอน้ำเล็กๆ น่ารัก หมายเลข 12 นี้ จะพาเราไปสถานีโตเกียวโดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น เดินทางจากนาโกย่าไปโตเกียวเพียง 5 นาทีเท่านั้นเหมือนหายตัวได้เลย 555 ซึ่งรถจักรไอน้ำคันนี้ก็เป็นรถจักรที่เคยถูกใช้จริงให้สมัยก่อน ตั้งแต่ช่วงปีพ.ศ.2417 ถึง พ.ศ.2500 ในเส้นทางระหว่าง โตเกียว・ชินบาชิ-โยโกฮาม่า หรือ บริเวณรอบๆ จังหวัดไอจิ
พอ ICHIGO-CHAN ได้เห็นรถจักรไอน้ำนี้แล้ว ก็นึกถึงตอนเด็กๆ ที่เคยนั่งรถไฟที่ไทยเลยค่ะ เหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กเลยค่ะ ที่นี่นอกจากเราจะได้เห็นตึกและยานพาหนะเก่าๆ ในสมัยก่อนแล้ว ยังได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้โดยตรงอีกด้วย นี่ก็คงเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
และไฮไลท์ของ「สถานีโตเกียว Tokyo Station」ในโซนที่ Area5(5丁目)ก็คือตึกเดิมของโรงแรม『Imperial Hotel(旧帝国ホテル本館)』
ที่ตั้งอยู่หน้าสวนฮิบิยะ ในเมืองหลวงของญี่ปุ่นที่โตเกียว
ซึ่งปัจจุบันโรงแรมนี้กลายเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่มี 17 ชั้น มีห้องพักมากกว่า 700 ห้อง
โดยที่แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐ สง่างามและละเอียดอ่อน ถูกใช้จริงจนถึงปีพ.ศ.2511 และได้ถูกนำมาที่หมู่บ้านเมจิแห่งนี้
ซึ่ง Frank Lloyd Wright ที่เป็นสถาปนิคชื่อดังจากอเมริกา ได้ออกแบบสถานที่แห่งนี้เอาไว้ ดังนั้นตึกนี้ถึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า「The Wright Imperial(ライト館)」โดยคนดังจากทั่วโลกมาพักมากมาย อย่าง “ออดรีย์ เฮปเบิร์น” หรือ “ไอน์สไตน์” เป็นต้น
“หมู่บ้านเมจิ” แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่จัด “งานเวิลด์ คอสเพลย์ ซัมมิต 『World Cosplay Summit』 ที่ ICHIGO-CHAN จะไปเข้ารวมเช่นกันค่ะ
ซึ่งงาน「MEIJIMURA COSPLAY 2018」ที่จะจัดขึ้นที่หมู่บ้านเมจิในปีนี้ ก็คือวันที่ 1 สิงหาคม ก็คงไม่ทันกับตอนที่ ICHIGO-CHAN อยู่ที่ญี่ปุ่นพอดี เพราะเราจะอยู่ญี่ปุ่นแค่ 4 วันเท่านั้น น่าเสียดายมากๆ ถ้าได้อยู่เราก็คงจะได้ถ่ายรูปกับเหล่านักคอสเพลย์ท่ามกลางบรรยากาศแบบเรโทรในสวนแห่งนี้เลย
ซึ่งที่ร้านคาเฟ่ชั้น 2F ใน「Imperial Hotel」จะมีเมนูต่างๆ ที่ถูกเสิร์ฟจริงในโรงแรมแห่งนี้ เช่น Cake Set(950 เยน)การที่เราจะได้ดื่มชาขนมในบรรยากาศโรงแรมที่คนดังต่างๆ เคยใช้บริการอย่าง “ออดรีย์ เฮปเบิร์น” หรือ “ไอน์สไตน์” เป็นอะไรที่ดีมากๆ
และภายในอาคารแห่งนี้จะมีร้านขายของฝากที่จำหน่ายสินค้าเดียวกับสินค้าที่จำหน่ายอยู่ที่ Imperial Hotel ในปัจจุบันที่โตเกียวอีกด้วย ทั้ง Chocolate Stick(1080 เยน)Chocolate plate(1080 เยน)หรือ คุ๊กกี้ออริจินัล(1080 เยน)และ Original Chocolate Stick & Plate(1620 เยน)ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่สามารถซื้อได้เฉพาะที่โรงแรม Imperial Hotel เท่านั้นอีกด้วย
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินกับคาเฟ่ภายใน Imperial Hotel และเลือกซื้อของฝากเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งบรรยากาศภายในสถานที่แห่งนี้เป็นอะไรที่สง่างาม และละเอียดอ่อนมากๆ พออยู่ในนี้แล้วเหมือนได้เป็นแขกที่พิเศษมากๆ เลยค่ะ แต่เสน่ห์ของ “หมู่บ้านเมจิ” ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่ต่างๆ ภายใน “หมู่บ้านเมจิ” กันอีก ฝากติดตามด้วยนะคะ
【ตารางการเดินทาง Day1-3 MEIJIMURA】