Day1-2 เที่ยวชมบริเวณโดยรอบปราสทโอซาก้า และทานอาหารกลางวันที่ร้าน “คาสึโอะ”「KATSUWO」

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-2 เที่ยวชมบริเวณโดยรอบปราสทโอซาก้า และทานอาหารกลางวันที่ร้าน “คาสึโอะ”「KATSUWO

OSAKA-HYOGO-OSAKA-TOKYO

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้บินมาจากกรุงเทพเป็นเวลา 6 ชั่วโมง มาที่สนามบินคันไซ จากนั้นนั่งรถไฟด่วนพิเศษ “ฮารุกะ” และรถไฟใต้ดินสายทานิมาจิ เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้ากับ “ปราสาทโอซาก้า”「OSAKA CASTLE」

ซึ่งปราสาทโอซาก้าเป็นสถานที่ที่มีการค้นหามากที่สุด ในบรรดาสถานที่ขึ้นชื่อต่างๆ อย่าง “วัดทองคินคาคุจิ” หรือ USJ ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูกาลใดนักท่องเที่ยวก็มาท่องเที่ยวที่ปราสาทโอซาก้ากันอย่างไม่ขาดสาย

ครั้งนี้เราจึงจะพาเพื่อนๆ ไปปราสาทโอซาก้า และทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้าน「KATSUWO」ภายในสถานีรถไฟใต้ดินใกล้ปราสาทโอซาก้าที่สถานีเท็นมะบาชิกันค่ะ

เดินจากสถานีเท็นมะบาชิมาประมาณ 5 นาที ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ก็ได้เดินทางมาถึง “สวนปราสาทโอซาก้า”『OSAKA CASTLE PARK』แล้ว

หากต้องการไปยังหอคอยปราสาทโอซาก้าที่เป็นไฮไลท์นั้น จะต้องผ่าน OSAKA CASTLE PARK เยื้องๆ ไปทางขวามือ เดินไปซักพักก็จะเจอสะพานข้ามคูน้ำด้านนอกอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งประตูที่อยู่ด้านซ้ายมือสะพานก็คือ ประตูโอเตะมง「OTEMON GATE」ปราสาทโอซาก้าที่ถูกเพลิงไหม้ หรือการโจมตีทางอากาศอยู่หลายครั้ง จึงทำให้ต้องมีการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมไปถึงหอคอยปราสาทอยู่หลายครั้ง แต่ส่วนประตูโอเตะมงเป็นส่วนที่คงเหลือมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2171 มาจนถึงปัจจุบัน ยาวนานมากกว่า 400 ปีเลยทีเดียว

เดินผ่านประตูโอเตะมงมาเรื่อยๆ เข้ามาสวนปราสาทโอซาก้าประมาณ 5 นาที ก็จะเริ่มเห็น “ศาลเจ้าโฮโคกุ”「HOKOKU SHRINE」ที่เป็นศาลเจ้าที่ “โชกุน” ในตำแหน่งสูงสุดของเหล่านักรบญี่ปุ่น ในตระกูลโทโยโตมิได้สักการะบูชา อยู่ทางขวามือ

เมื่อมองเห็นศาลเจ้าโฮโกกุแล้ว ประตูที่อยู่ตรงข้ามศาลเจ้าก็คือประตูซากุระมง「SAKURA MON」และเมื่อผ่านประตูซากุระมงเข้าไปก็จะเจอกับหอคอยปราสาทโอซาก้าที่แสนยิ่งใหญ่ ซึ่งหอคอยปราสาทโอซาก้านี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.2474 ปัจจุบันเป็นตึกรุ่นที่สาม ภายในหอคอยปราสาทจะมีการจัดแสดงบรรยากาศเมืองโอซาก้าในสมัยโบราณ และที่จุดสูงสุดของหอคอบปราสาทจะเป็นส่วนจุดชมวิวที่สามารถชมวิวทั่วเมืองโอซาก้าได้อีกด้วย

แน่นอนว่า “ปราสาทโอซาก้า” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของทั้งโอซาก้า และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น เพียงแค่ชมตึกหอคอยปราสาทก็มีเสน่ห์มากแล้ว แต่การได้ชมปราสาทคู่กับวิวฤดูกาลต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ ซึ่งที่บริเวณสวนปราสาทโอซาก้าที่แผ่กว้างไปรอบๆ หอคอยปราสาทนี้ จะเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมวิวดอกซากุระ และบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ด้วยการผสมผสานกันระหว่างหอคอยปราสาทกับซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงเหลืองส้ม ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอิลูมิเนชั่นในช่วงฤดูหนาว และงานกิจกรรมต่างๆ ของที่นี่ ให้ได้ชมความสวยงามของหอคอยปราสาทผ่านฤดูกาลต่างๆ ในญี่ปุ่นได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

และที่ด้านขวาของหอคอยปราสาทจะมีฐานทัพของทหาร ในช่วงสงครามแปซิฟิก หรือก่อนสงคราม หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตึกนี้เป็นตึกที่ถูกปล่อยว่างไม่มีผู้ใช้มานานหลายปี แต่ก็เพิ่งได้มีการปรับปรุงใหม่โดยสร้างเป็น「MIRAIZA」ที่มีทั้งร้านคาเฟ่ และจุดลองชุดนินจาอยู่ด้วย สามารถอ่านรีวิว「MIRAIZA」ได้ที่นี่ คลิ๊กเลย !

เช่าจักรยาน「BIKE SHARING」เที่ยวญี่ปุ่นในที่ ๆ คุณไม่เคยไป พร้อมแนะนำช่องทางการเช่าจักรยาน ( ต่อ )

หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการเข้าไปเยี่ยมชมภายในปราสาทก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่ก่อนทางเข้าปราสาททางด้านขวามือ ค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 600 เยน(ข้อมูลปัจจุบัน เดือนกรกฏาคม พ.ศ.2561) แน่นอนว่าเพื่อนๆ สามารถซื้อบัตรได้ทั้งที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วและ เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลยค่ะ แต่ถ้าใครต้องการชำระด้วยบัตรเครดิตจะต้องซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วนะคะ

ส่วนสำหรับใครที่ไม่เข้าไปชมภายในหอคอยปราสาท ก็เดินไปทางซ้ายมือเพื่อเดินไปที่บันไดเลยค่ะ

ซึ่งบันไดข้างปราสาทนี้เป็นจุดชมวิวที่อยู่คู่เมืองโอซาก้ามายาวนานกว่า 400 ปี ตั้งแต่ปราสาทโอซาก้าถูกสร้างขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยปัจจุบันวิวรอบๆ โอซาก้าจะเต็มไปด้วยตึกสูงมากมาย แล้ววิวเมื่อก่อนจะเป็นยังไงน้า ?

เมื่อลงบันไดมาแล้วก็จะมีสะพานที่พาดผ่านคูน้ำด้านใน และด้านหน้าสะพานเราจะได้เห็นทั้งวิวตึกสถานีโทรทัศน์ ตึกพานาโซนิค และตึก OBP(OSAKA BUSINESS PARK)ที่มีบริษัทมากมายอยู่ภายในตึก เราจะได้เห็นบรรยากาศปราสาทที่เก่าแก่ไปพร้อมๆ กับวิวอาคารตึกสูงที่ให้บรรยากาศแตกต่างกันเลยทีเดียว เมื่อข้ามสะพานมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอจุดขึ้นเรือ “โกซะบุเนะ”『GOZABUNE』ที่จะแล่นไปในคูน้ำด้านในชมบริเวณปราสาทอย่างใกล้ชิด

เรือ GOZABUNE ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับการร่องเรือภายในคูน้ำด้านในของปราสาทโอซาก้า สัมผัสวิวจากการนั่งเรือที่เป็นมุมมองที่ต่างออกไปจากตอนที่ชมปราสาทจากบนพื้นดิน อีกทั้งยังได้เห็นความยิ่งใหญ่ของปราสาทได้แบบใกล้ชิดอีกด้วย ซึ่งบริการร่องเรือนี้จะมีทุกวันถึงเวลารอบสุดท้ายอยู่ที่ 16:50 ทุกๆ 10 นาที ซึ่งช่วงบ่ายๆ สายๆ จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเป็นวันเสาร์หรือวันหยุดคนยิ่งเยอะเลยค่ะ ค่าบริการจะอยู่ที่ 1500 เยน สามารถชำระด้วยบัตรเครดิตได้ค่ะ

ใช้เวลาในการร่องเรือ 20 นาที ซึ่งเรือ “โกซะบุเนะ GOZABUNE” นี้เป็นการสร้างจากแบบเรือที่「โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ」เจ้าของปราสาทนี้ ในตระกูลโทโยโตมิได้ใช้อยู่ในสมัยก่อนกับเรือ “โฮโอมารุ”「HOUOUMARU」เป็นเรือสีทองอร่ามสวยงาม น่าถ่ายรูปมากๆ เลยค่ะ

เรือ “โกซะบุเนะ” GOZABUNE  สีทองอร่าม นี้จะค่อยๆ พาเราร่องไปในคูน้ำด้านในของปราสาทโอซาก้าค่ะ ซึ่งภายในเรือจะมีหมวกที่เขียนว่า “โอซาก้า” ให้นักท่องเที่ยวได้ใส่ในการถ่ายรูปให้ได้บรรยากาศมากขึ้น เรือก็จะค่อยๆ แล่นไปเรื่อยๆ เป็นเวลา 20 นาที

ซึ่งเราจะได้ชมปราสาทโอซาก้าจากบนเรือในมุมที่แตกต่างออกไปจากวิวที่ชมจากบนพื้นดินเลยค่ะ จะมีบางช่วงที่เรือจะแล่นไปใกล้กำแพงหินมากๆ และหากสังเกตุดีๆ ก็จะพบว่าจะมีตราประจำตระกูลอยู่บริเวณกำแพงด้วยค่ะ ซึ่งการสร้างกำแพงหินนี้สมัยก่อนนั้น「โชกุน」ที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในนักรบทั้งหลาย ที่เป็นเจ้าของปราสาท “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ” ได้มีการสั่งให้「ไดเมียว(ยศของขุนนางญี่ปุ่นสมัยโบราณ)」ที่ปกครองอยู่ในแคว้นต่างๆ สร้างปราสาทแห่งนี้ ซึ่งตราประจำตระกูลที่สลักอยู่บนหินตามจุดต่างๆ ก็คือสัญลักษณ์ของแคว้นต่างๆ ที่สร้างบริเวณนั้นๆ นั่นเอง ถึงเวลาจะผ่านไปนานกว่า 400 ปีแต่สัญลักษณ์พวกนี้ยังคงหลงเหลืออยู่เลยนะคะ

และส่วนหนึ่งของกำแพงหินจะมีหินที่เป็นรูปหน้าคนด้วยค่ะ มองออกกันไหมเอ่ย? เป็นความเชื่อทาง “ฮวงจุ้ย” ของคนจีน โดยการน้ำหินรูปหน้าคนมาไว้ที่ฝั่งทิศที่ไม่ดี(KIMON)เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายจากด้านนอกนั่นเอง

การร่องเรือรอบคูน้ำด้านในปราสาทโอซาก้าเป็นเวลา 20 นาทีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราได้รู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับปราสาทโอซาก้าไปเยอะเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆ นะคะ

หลังจากที่ได้เพลิดเพลินไปกับการร่องเรือ GOZABUNE แล้ว เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปการท่องเที่ยว “งานเทศกาลฤดูร้อน”「NATSUMATSURI」เพราะฉะนั้นเราจะไปที่ “ศาลเจ้าโอซาก้าเท็นมังงุ OSAKA TEMMANGU SHRINE” เพื่อไปชมหนึ่งในงานเทศกาลช่วงฤดูร้อนกับงานเกิลส์มิโคชิ「GIRL’S MIKOSHI」กันค่ะ แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปศาลเจ้าโอซาก้าเท็นมังงุ นั้นเราจะขอแวะทานอาหารกันก่อนนะคะ ซึ่งวันนี้เราจะไปทานอาหารกันที่สถานีเท็นมะบาชิ ที่อยู่ใกล้ศาลเจ้าโอซาก้าเท็นมังงุ กับย่านร้านค้า「PANANTE」ที่ร้าน “คาสึโอะ”「KATSUWO」กันค่ะ

โดยเมื่อลงจากเรือ GOZABUNE แล้วเดินไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ เพื่อออกจากปราสาทโอซาก้าที่ประตูเคียวบาชิกูจิ「Kyobashi-guchi Entrance」ซึ่งระหว่างทางเดินไปที่ประตูเคียวบาชิกูจิ จะเป็นทางคดเคี้ยวที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงหิน สาเหตุที่ทางเป็นแบบนี้ก็เป็นเทคนิคของคนสมัยก่อนเพื่อช่วยป้องกันการรุกรานจากศัตรูนั่นเองค่ะ ถึงเวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 400 ปี แต่เราก็ยังสามารถสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นได้อยู่เลยนะคะ เมื่อออกจากประตูเคียวบาชิกูจิมาแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ เดินไปตามทางเรียบคูน้ำไปเรื่อยๆ เลยค่ะ และเมื่อเดินมาจนถึงสี่แยกแรกก็ให้เลี้ยวไปทางขวามือ และข้ามทางม้าลายไปอีกฝั่งของถนนเลยค่ะ

เมื่อข้ามถนนมาแล้ว ก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ผ่านทางออกสถานีรถไฟใต้ดินสถานีเท็นมะบาชิ สายทานิมาจิที่เราจะผ่านมาตอนขามา เพื่อเข้าสู่ถนนใหญ่ที่ชื่อว่า “ทานิมาจิสึจิ”「TANIMACHI SUJI」จากนั้นข้ามถนนทานิมาจิสึจิไปอีกฝั่งและเดินไปทางขวามือ จากนั้นก็เดินลงเนินจนเจอ สถานีรถไฟเคฮัง KEIHANสถานีเท็นมะบาชิ

เมื่อถึงสถานีเท็นมะบาชิแล้ว ก็เดินเข้าไปในสถานีกันเลย เมื่อเจอทางเดินแรกก็เลี้ยวไปทางซ้ายมือ

ภายในสถานีเท็นมะบาชิจะมีย่านร้านอาหารที่ชื่อว่า「PANANTE」ภายในย่านนี้จะมีร้านอาหารหลากหลายชนิด ทั้งราเม็ง อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น ยากิโทริ อุดง หรือแมคโดนัล เป็นต้น

ภายในนี้ก็จะมีร้านต่างๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมายทั้ง ร้านยากิโทริ ไปย่างเสียบไม้ร้าน「TORISEI」หรือ ร้านอาหารทะเล “อุมิคิจิ”「UMIKICHI」นอกจากนี้ยังมีร้านที่มีเมนูเนื้อชั้นดีญี่ปุ่นอย่างเนื้อมาสึซากะกับร้าน「NIPPON BER」อีกด้วย

และร้านอาหารทะเลยอดฮิตอีกร้านที่พลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน “คาสึโอะ”『KATSUWO』

ภายในร้านจะมีที่นั่งอยู่หลากหลายแบบทั้ง แบบโต๊ะที่สามารถนั่งได้ตั้งแต่ 4 คนหรือ 6 คน ที่นั่งแบบบล๊อคแบบ 10 คน อีกทั้งยังมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ และส่วนตรงกลางที่นั่งเคาน์เตอร์จะเป็นโซนครัว ที่สามารถชมขั้นตอนการทำอาหารได้อีกด้วย

เมนูอาหารกลางวันของที่ร้านจะมีอยู่ 6 เมนูดังนี้

ชุดข้าวไก่ทอด「TORI NO KARAAGE TEISHOKU(鶏のから揚げ定食)」(790 เยน)

ชุดหมูทอดทงคัตสึราดซอสโชยุหวาน「AMA SHOUYUDARE TONKATSU TEISHOKU(甘しょうゆだれトンカツ定食)」(890 เยน)

ชุดข้าวเต้าหู้มาโบมะเขือและปลาคาสึโอะ「KATSUWO MABO NASU DOUFU TEISHOKU(なす豆腐定食)」(890 เยน)

ชุดอาหารประจำอาทิตย์「SHUU GAWARI LUNCH週替わりランチ」(890 เยน)

และเมนูเด่นของร้านจากปลาคาสึโอะ กับ ข้าวหน้าปลาคาสึโอะลนไฟคลุกวาซาบิ「WARAYAKI KATSUWO NO WASABI FUUMI DON(藁焼き鰹のわさび風味丼)」(990 เยน)

ชุดปลาคาสึโอะทอด「KATSUWO FRIED TEISHOKU(カツをフライ定食)」(1090 เยน)

ถึงแม้ว่าเมนูจะมีเพียงภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นแต่เมนูจะมีรูปภาพประกอบอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นชี้สั่งได้แบบง่ายดายไม่ต้องกังวลเลยค่ะ

ภายใน 6 เมนูก็จะมีอาหารที่ถูกปากคนไทยอยู่มากมายทั้ง หมูทอดทงคัตสึ หรือ ไก่ทอดคาราเกะ แต่มื้อนี้ ICHIGO-CHAN ได้เลือกเป็นเมนูข้าวหน้าปลาคาสึโอะลนไฟคลุกวาซาบิ「WARAYAKI KATSUWO NO WASABI FUUMI DON(藁焼き鰹のわさび風味丼)」(990 เยน)

เป็นเมนูที่ผสมผสานระหว่าง「ปลาคาสึโอะ」และรสชาติของ「วาซาบิ」ได้อย่างลงตัว  โดยการอังไฟปลาคาสึโอะด้วยฟาง และวาซาบิแบบอัดแน่น ราดบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ทั้งความหอมมันของปลาคาสึโอะกับรสชาติของวาซาบิเป็นอะไรที่เข้ากันมากๆ

บรรยากาศภายในร้านก็ดี พนักงานก็น่ารักมากๆ หลังจากนี้เราจะเดินทางไปชมหนึ่งในเทศกาล “เท็นจินมาสึริ”「TENJIN-MATSURI FESTIVAL」ที่เป็นเทศกาลฤดูร้อนเฉพาะของโอซาก้า กับเทศกาล “GIRL’S MIKOSHI” ที่ ศาลเจ้าโอซาก้าเท็มมังงุ「OSAKA TEMMANGU SHRINE」กันค่ะ

และในครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศ “งานเกิลส์มิโคชิ GIRL’S MIKOSHI” ของงานเทศกาลเท็นจินมาสึริ กันนะคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

【ตารางการเดินทาง Day1-2 OSAKA CASTLE/TENJIN-MATSURI 】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶