Day2-1 เดินทางจาก『YUTANAKA-ONSEN』ถึง『ZENKOUJI TEMPLE』
เมื่อวาน ICHIGO-CHANได้สนุกสนานไปกับสถานท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมสูงในหมู่ชาวต่างชาติอย่าง「Snow Monkey Park」และค่ำคืนของออนเซ็นยูดานากะ
Day1-3 แช่ออนเซนสุดสบาย และจุใจบุฟเฟต์สุดค้มที่โรงแรม『SUIMEIKAN』
วันนี้ขอดื่มด่ำกับวัดเซ็นโคจิปราสาทมัตสึโมโต้ คิโซะฟุกุชิม่าและเสน่ห์ของนากาโนะอย่างเต็มอิ่ม
ก่อนอื่นก็ขอเติมพลังให้เต็มเปี่ยมด้วยอาหารเช้านั่งรถด่วนชมวิวมุ่งไปยังเมืองนากาโนะจากนั้นก็ไปวัดเซ็นโคจิ・・・ก็อยากจะทำอย่างที่พูดมาอยู่แต่ระหว่างทางกลับถูกร้านของฝากที่อยู่ข้างทางดูดตัวไปซะได้
อรุณสวัสดิ์
นอกหน้าต่างที่เมื่อวานมืดซะจนมองไม่เห็นอะไร
ถึงเช้านี้สภาพอากาศจะไม่ได้สดใสแต่ก็เพียงพอแก่การท่องเที่ยว
นากาโนะที่มีทิวทัศน์หิมะอันงดงามจะเป็นวันแบบไหนกันน๊า♪
ก่อนอื่นก็ขอเติมพลังงานสำหรับทั้งวันก่อนด้วยการกินอาหารเช้า
สถานที่ก็คือ ห้องรับรองชั้น 2Fที่เดียวกับอาหารเย็นเมื่อวาน
เวลาอาหารเช้าคือตั้งแต่ 7นาฬิกาจนถึง9นาฬิกาอย่าตื่นสายจนอดกินกันซะล่ะ
สถานที่รับประทานอาหารเช้าอันสดใสมีที่นั่งมากมายทำให้แม้คนจะมาเยอะก็รับรองไหว
อาหารญี่ปุ่นอย่าง ไข่หวานม้วนปลาแซลม่อนย่างเต้าหูและขนมจีบไข่ออนเซ็นและนัตโต รวมถึงคิมปิระโกโบ และแน่นอน
อาหารสไตล์ตะวันตกอย่าง เฟร้นช์โทสต์ มันฝรั่งทอดไข่คนและขนมปังครัวซอง
ตลอดจนถึงสลัดบาร์ คอนเฟล็ก ข้าวสวยและซุปมิโสะหรือกระทั่งข้าวต้ม
เมนูอาหารเช้ามีอยู่เพียบพร้อมเท่าที่นึกได้ชวนละลานตาไปหมด
ICHIGO-CHAN เองก็เติมพลังจนเต็มเปี่ยมแต่เช้าขอกินก่อนล่ะน๊า♪
พอหวนคิดดูอีกทีรู้สึกจะกินตระกูลแป้งเยอะเกินไปนะ555
เอาล่ะเช็คเอ้าท์ จากโรงแรม
ขอบคุณสำหรับ ห้องที่อบอุ่นอาหารอันเอร็ดอร่อยและออนเซ็นที่แสนสบาย
วิธีเดินทางจากออนเซ็นยูดานากะไปนากาโนะ มีทั้งรถบัสและรถไฟในครั้งนี้ขอนั่งรถไฟจากสถานียูดานากะ
สถานียูดานากะซึ่งอยู่ที่เดียวกันกับที่ลงรถบัสเมื่อวานนี้นั้นมีรถไฟออกวิ่ง 1-2ขบวนทุกชั่วโมงตั้งแต่6นาฬิกาจนถึง 22นาฬิกา
ช่วงกลางวันจะมีขบวนรถวิ่งตรงไปยังสถานีนากาโนะ เลยแต่ช่วงเช้าและเย็น ต้องนั่งรถไฟขบวนธรรมดาไปยังสถานีที่ 5 สถานี
ชินจูนากาโนะเพื่อไปเปลี่ยนขบวนรถ
วิธีซื้อตั๋วไปสถานีนากาโนะนั้นแสนง่ายดาย
ก่อนอื่นก็กดปุ่ม Englishที่อยู่ด่านขวาบนของจอ
จากนั้นก็กดปุ่ม「BasicFare & ExpTicket」 ที่เป็นปุ่มที่ 3 ทางซ้ายมือเมื่อนับจากบนลงล่าง
ปลายทางต่างๆจะแสดงขึ้นมาพอกดปุ่ม「Nagano」ทางซ้ายบน ราคาตั๋ว(1260เยน)ก็จะปรากฎขึ้นพอใส่เงินเข้าไปก็เป็นอันว่าซื้อเสร็จเรียบร้อย
จะนั่งรถขบวนที่แวะจอดทุกสถานีไปยังนากาโนะก็ได้อยู่แต่นอกจากจะเสียเวลาแล้ว เพิ่มเงินอีกแค่100เยนก็ได้นั่งรถด่วนแล้วจึงขอแนะนำให้นั่งรถด่วน
รถไฟนากาโนะเด็นเท็ตสึ ที่มีบรรยากาศคลาสสิกและแสนเท่ เคลื่อนขบวน!!
รถไฟวิ่งเดินหน้าผ่านสวนผลไม้ที่มีต้นแอปเปิ้ลและองุ่นเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
ที่สถานีชินจูนากาโนะ ให้เปลี่ยนไปนั่งรถไฟขบวนด่วนที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้า
เอ๋・・・・!?เหมือนจะเคยเห็นรถไฟขบวนนี้ที่ไหนมาก่อนนะ
คล้ายกับรถไฟ「ฮาโกเนะ โกะ」ที่นั่งจากฮาโกเนะ ยุโมโตะ ไปชินจุกุ จัง Day2-3 เที่ยว『GOLDEN STREET』แหล่งสถานบันเทิงย่านชินจูกุ
ความจริงแล้วรถไฟขบวนนี้ในอดีตเคยวิ่งในฐานะ「ฮาโกเนะ โกะ」มาก่อน จากนั้นก็ชุบตัวหลังเกษียณที่สายรถไฟนานกาโนะ เด็นเท็ตสึ
สายรถไฟนานกาโนะ เด็นเท็ตสึ ยังมีรถไฟขบวนอื่นอยู่อีก・・・・
รถไฟขบวนที่เคยเป็นรถไฟนาริตะ เอ็กซ์เพรสก็มาชุบตัวเป็นรถไฟขบวนด่วนพิเศษ「Snow Monkey」โดยส่วนใหญ่จะมีรถไฟที่เคยวิ่งในคันโตซะเป็นส่วนใหญ่เป็นเส้นรถไฟที่คนชื่นชอบรถไฟต้องมาให้ได้สินะ
ที่นั่งรถไฟด่วนพิเศษทุกที่รวมถึงที่นั่งชมวิวด้านหน้าเป็นที่นั่งอิสระหมด
เมื่อที่บริเวณหน้าสุดของขบวนก็จะสามารถชื่นชมกับวิวเช่นนี้ระหว่างมุ่งหน้าไปยังนากาโนะจนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนขับเลย
ที่นั่งปรับระดับอันนุ่มนวล
จ่ายเพิ่มอีกแค่ 100เยนก็ทำให้เดินทางได้อย่างแสนสบายแบบนี้ICHIGO-CHANที่ปกติต้องเบียดเสียดบน BTS ที่มีคนอัดกันแน่นราวกับปลากระป๋องนั้นรู้สึกอิจฉาชาวนากาโนะเป็นอย่างยิ่ง
พอใกล้ถึงตัวเมืองนากาโนะรถไฟก็จะวิ่งลงใต้ดิน
หลังจากวิ่งลงใต้ดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงสถานีนากาโนะพอผ่านช่องเสียบตั๋วแล้วเดินขึ้นบันไดก็จะโผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน
พอเดินขึ้นบันไดก็จะมีตู้ฝากของหยอดเหรียญวางเรียงรายกันอยู่ด้านในประตูทางซ้ายมือ
ไซส์ Sที่ใส่กระเป๋าเดินทางไม่ได้ค่าบริการ 400เยน
ไซส์ Mที่ใส่กระเป๋าเดินทางขนาดเล็กได้ค่าบริการ500เยน
ไซส์ Lที่ใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆค่าบริการ 600เยน
หลังจากฝากของเพื่อให้ตัวเบาขึ้นแล้วก็มุ่งหน้าไปยังสถานท่องเที่ยวอันดับหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่างวัดเซ็นโคจิ
「Zenkoji-Temple」กัน
รถเมล์ที่มุ่งหน้าไปยังวัดเซ็นโคจินั้นขึ้นนั่งได้ที่ป้ายรถเมล์เบอร์ 1ซึ่งอยู่ข้างหน้าตู้ฝากของหยอดเหรียญ โดยจะวิ่งตั้งแต่เวลา 10-15นาฬิกา ที่ความถี่ 10คันต่อชั่วโมงส่วนเวลาอื่นนอกเหนือจากนี้จะวิ่งอยู่ที่ราว 5-6คันต่อชั่วโมง
ออกรถรถบัสที่วิ่งจากป้ายรถเมล์เบอร์ 1นั้นจะวิ่งจอดที่ป้ายวัดเซ็นโคจิทุกคันจึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหลงทาง
ตอนขึ้นรถให้ขึ้นที่ประตูตรงกลางส่วนตอนลงก็ให้หยอดค่ารถ 150เยนใส่ตู้ค่าบริการที่อยู่ข้างคนขับ
ให้ลงรถที่ป้ายที่ 3「เซ็นโคจิ ไดมอน」
สองข้างทางของทางเดินหินที่มีมนต์ขลังมีตัวอาคารที่ทำด้วยอิฐและหินเรียงรายกันหลายหลังทำให้บรรยากาศดีเป็นอย่างยิ่ง
ตัวอาคารที่ทำด้วยอิฐและหินจนดูเหมือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะเก่าแก่เหล่านี้ มีตัวหนังสือเขียนว่า「ฟุจิยะ เรียวกัง」อยู่แต่ความจริงแล้วตัวอาคารนั้นเป็นภัตตาคารและสถานที่จัดงานแต่งงาน『THE MAIN DINING WISTERIA LUNCH』
อาหารมื้อเที่ยงนั้นราคา1500เยน ซึ่งดูเหมาะสมจนชวนให้อยากกินที่นี่เลย
มื้อเที่ยงที่ถ่ายรูปสวยๆได้นี่ก็ฟังดูเข้าท่านะ
เมื่อเดินขึ้นเนินก็จะเห็นตัวโบสถ์ของวัดเซ็นโคจิ แต่ไกลเดินรวดเดียวไปยังตัวโบสถ์กันเลย・・・・พอคิดแบบนี้ได้ปั้บก็เจอร้านรวงมากมายที่ชวนเย้ายวนใจเรียงรายอยู่เต็มทางเดิน
ร้านของฝากที่มีของขึ้นชื่อของนากาโนะอย่าง「โซบะ มันจู」(12ก้อน 650เยน・24ก้อน 1080เยน)ที่ทำมาจากโซบะ หรือ
「สึเกะ คาสะ」(1080เยน-)ซึ่งเป็นงอบที่บรรดาพระและนักพรตสวมใส่กันหมวกฟาง ตั้งเรียงรายกันอยู่・・・
ร้านที่ขายพริกป่นญี่ปุ่นหลากหลายชนิด
(พริกป่นอย่างเดียว 430เยน・พริกป่นยุสึ 640เยน ฯลฯ)
ปกติแล้วพริกป่นญี่ปุ่นจะมีรสที่อ่อนกว่าพริกป่นไทยอยู่แต่ก็ขอแนะนำ「พริกป่นยุสึ」
กลิ่นอันชื่นใจของยุสึและความเผ็ดของพริป่นนั้นคู่กันเป็นอย่างดี
ตามทางมีศัตรูของการไดเอ็ตที่ทำจากแอปเปิ้ลซึ่งเป็นของเลื่องชื่อของนากนาโนะอย่างคัสตาร์ดแอปเปิ้ลพาย(370เยน)หรือไอศครีมแอปเปิ้ล(370เยน)รอคอยอยู่
แต่ศัตรูตัวฉกาจนั้นก็คือ・・・กลิ่นหอมหวลที่มาจการ้านค้าต่างๆ
ที่ถึงแม้จะใจแข็งทำเป็นเมินก็ตาม
แต่ก็พ่ายแพ้ต่อความเย้ายวนในที่สุด
ของเลื่องชื่อของนานกาโนะ「โอฮากิ」
โอฮากิ(ตั้งแต่ 180 เยน- ขึ้นอยู่กับไส้)ที่มีไส้เป็นเป็นของหวานหรือผักดองโนซาวะนะ ห่อด้วยแป้งที่ทำมาจากข้าวสาลีหรือโซบะแล้วนำไปปิ้ง
ตัวแป้งห่อที่นุ่มนวลและไส้หวานที่ร้อนนั้น เหมาะกับการเดินกินในนากาโนะที่หนาวเหน็บยิ่ง
ICHIGO-CHAN ที่พ่ายแพ้ต่อความเย้ายวนในครั้งนี้
ก็มาถึงบริเวณตัววัดเซ็นโคจิ ได้ในที่สุดและก็ตั้งใจจะมาไหว้ภาวนาขอให้มีใจที่เข้มแข็งไม่พ่ายแพ้ต่อสิ่งเย้ายวนต่างๆ
ตอนต่อไปก็คือวัดเซ็นโคจิและจากวัดเซ็นโคจิ(ซึ่งก็เป็นที่นิยมในหมู่ชาวไทยด้วย)