Day4-2 กินชาบูหมูเซดอาหารกลางวันสุดคุ้ม ขับรถ『MARI CAR』ทั่วในเมืองโอซาก้า
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN เดินเที่ยวไฮไลท์จุดถ่ายรูปสวยๆของนาคะโนะชิมะ และคิตะฮามะแล้ว
Day4-1 เดินเล่นเมืองหลวงแห่งน้ำ「NAKANOSHIMA / KITAHAMA」โอซาก้า
ก็ถึงเวลาพักกลางวัน
อาหารกลางวันนี้ มีเมนูที่คนไทยชื่อชอบมากคือชาบูหมู เท่าที่ ICHIGO-CHAN หาข้อมูลมา มีร้านชาบูอร่อย
และสามารถเข้าไปนั่งกินคนเดียวได้ด้วย ร้านอยู่ที่คิตะฮามะ ชาบูหมูที่นี่มีชื่อเสียงมาก ต้องลองไปชิมให้ได้
ก่อนอื่นต้องไปตั้งต้นที่『HOTEL KEIHAN YODOYABASHI』 ที่เช็คเอ้าท์ออกมาเมื่อเช้านี้
พอออกจากโรงแรมแล้วให้เดินไปทางซ้าย ถึงสี่แยกที่ 2 ให้เลี้ยวซ้าย และเดินตรงไปอีกเล็กน้อย (ประมาณ 2 นาที)
จะเห็นร้าน「YOSHITOMI」อยู่ทางขวามือ มาถึงเร็วก่อนเวลารับประทานอาหารกลางวัน แต่คนก็เยอะมาก
ร้านอยู่ชั้น 2
บันไดทางขึ้นจะมีทัพพีที่ใช้ตักข้าวแขวนประดับอยู่ ในนั้นมีเมนูอาหารเขียนไว้
(ถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นได้) ขณะรอคิว ท่านสามารถเลือกดูเมนูอาหารไปพลางๆก่อน
สไตน์การตกแต่งภายในร้าน เป็นคอนเซ็ปต์ของร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว
ทำให้นึกไปถึงบรรยากาศของตลาด 100 ปีที่เมืองไทย
ก่อนอื่นต้องไปซื้อคูปองอาหารที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติก่อน
อาหารส่วนใหญ่เป็นนาเบะ พวกซุปหรือ อาหารต้มตุ๋น
มีเมนูอาหารพิเศษต่างๆหลากหลาย เช่น 「นิคุนาเบะ (สุกี้ยากี้เนื้อ)」อาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า
(1000 เยน) 「มิซุทะกิ (ชาบูหมู)」 (850 เยน) 「โทริสุกิยากิ」 (850 เยน) และเมนูที่อาจจะหาทานได้ยากที่
เมืองไทย เช่น「ฮะริฮะรินาเบะ (ซุปปลาวาฬ)」สมกับอยู่โอซาก้า
ที่ขายตั๋วอัตโนมัติมีแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่ว่ามีรูปภาพประกอบด้วย อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
สำหรับ ICHIGO-CHAN ก็เป็นคนไทย อยากจะลองกิน「มิซุทะกิ (ชาบูหมู)」
ในร้านมี Wifi ฟรี สามารถใช้บริการได้ แต่มีคำแนะนำเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
ที่ญี่ปุ่นตามร้านอาหาร หรือร้านกาแฟส่วนใหญ่จะมี Wifi ไว้บริการ แต่หลายที่อาจจะไม่มีป้ายบอกไว้
ถ้าไม่แน่ใจลองถามกับพนักงานในร้าน เป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า
「KONOMISEDEWA WIFI GA TSUKAEMASUKA?」
(ที่ร้านนี้ใช้บริการ Wifi ได้ไหมคะ/ครับ?)
ภายในร้านตกแต่งด้วยหน้ากาก「อุลตร้าแมน」และ「คาแมนไรเดอร์」ที่คนไทยเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี
อาจจะเป็นความชื่นชอบส่วนตัวของเจ้าของ
ICHIGO-CHAN ก็รีบแชะรูปถ่ายคู่กับอุลต้าแมน 1 ใบ ทันที
ได้เวลาพนักงานก็เอาชาบูหมูของญี่ปุ่นมาเสิร์ฟ
ข้าวใส่มาในชามใหญ่มาก ถ้าไม่พอก็สามารถเติมได้อีก
ขอลองชิมก่อนนะคะ !!!
หน้าตาก็คล้ายๆกับชาบูของไทย แต่ชาบูชาบูของญี่ปุ่น จะกินคู่กับซอสโพนสึ (ponzu sauce)
ก่อนอื่น ให้ใส่ต้นหอมซอย และไชเท้าสดลงในซอส คนให้เขากัน
เวลากิน ให้จิ้มเล็กน้อยไม่ต้องถึงกับวางแช่ไว้ในซอส ซอสอร่อย ไม่เลี่ยน ดีกับสุขภาพด้วย
ถ้าเป็นชาบูที่เมืองไทย อาจจะตัดสินกันที่น้ำจิ้มว่าน้ำจิ้มอร่อยหรือไม่อร่อย ส่วนชาบูชาบูที่ญี่ปุ่น นอกจากน้ำจิ้มแล้ว
รสชาติของเนื้อก็เป็นส่วนสำคัญมาก
ช่วงที่ ICHIGO-CHAN ไปที่ร้าน เป็นเวลาที่คนแน่นมาก เจ้าของร้านดูหน้าตาขึงขัง
แต่จริงๆแล้วเป็นคนน่ารัก สนุกสนาน ICHIGO-CHAN เข้าไปถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกด้วย
ชาบูหมูอร่อยมากๆ ขอบคุณมากค่ะ
กินชาบูหมูเข้าไปเต็มอิ่ม อร่อยมาก ดูเหมือนน้ำหนักก็จะขึ้นตามมาด้วย ต่อไปเป็นโปรแกรมสนุกๆอีกหนึ่ง
รายการ นั่นก็คือนั่งรถ 「มาริโอ้คาร์ท」
เวลาขับต้องใส่เสื้อผ้าชุดคอสเพลย์ มาริโอ้ด้วย น่าสนุกมาก ขอแนะนำสำหรับชาวต่างชาติ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม
ตั้งแต่อุเมดะ , นัมบะ โดโทงโบะริ ย่านกลางเมืองโอซาก้า ไปจนถึงนาคะโนะชิมะ หรือปราสาทโอซาก้า
เนื่องจากอยู่ในย่านกลางเมือง ผู้คนข้างทางจะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พลาดไม่ได้กับกิจกรรมสนุกๆเช่นนี้
จุดเริ่มของต้นนั่งรถมาริโอ้คาร์ทก็คือที่สถานีฮันชินโนะดะ
พอออกจากร้าน ให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือ เดินตรงไปอีกประมาณ 5 นาที จะออกสู่ถนนใหญ่ชื่อ 「MIDOUSUJI」
จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปจะเห็นประตูทางเข้ารถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ทางด้านขวา
จากสถานี 「YODOYABASHI」นั่งรถไฟใต้ดินสายมิโดซุจิ มุ่งหน้าไปทาง “อุเมดะ ชินโอซาก้า”
ให้ลงที่สถานีถัดไปชื่อสถานีอุเมดะ ขึ้นบันไดเลื่อนไปด้านบน จะเห็นประตูทางออก
ให้เดินตรงไปเรื่อยๆ สถานี HANSHIN อยู่ทางขวามือ ซื้อตั๋วรถได้ที่นั่น
นั่งรถไฟไปเพียง 2 สถานี ก็จะถึงสถานีฮันชินโนะดะ
ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ ให้กดเลือก English ถ้าหยอดเงิน 140 เยนขึ้นไป หน้าจอจะปรากฏขึ้น ให้เลือกสกรีนที่
140 เยน และรอรับตั๋ว
จากสถานีอุเมดะ ถึงสถานีโนะดะ เพียง 4 สถานีเท่านั้น (ใช้เวลา 4 นาที)
ที่สถานีโนะดะ มีรถไฟผ่านหลายสาย เช่น 「Limited express」「Express」「Sub Express」「Local train」
สาย「Direct express」ไม่ผ่านที่สถานีนี้
ถึงสถานีฮันชินโนะดะแล้ว ข้ามสี่แยกใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าสถานี
เดินตรงไป ประมาณ 10 นาที จะเห็นตึกใหญ่ ติดป้ายบริษัท TOSHIBA ให้เลี้ยวไปทางขวา
ถึงร้าน 『MARICAR OSAKA』
ตัวอาคารอาจจะดูเหมือนโกดัง แต่คงสังเกตเห็นได้ง่าย เพราะด้านหน้ามีรถคาร์ทจอดเรียงรายอยู่
ICHIGO-CHAN เข้าไปนั่งในรถคาร์ทและถ่ายรูปทันที 1 ใบ
ถึงแล้วก็เข้าไปติดต่อด้านใน
มาริโอคาร์ทจะมีจัดเดือนละ 3 ครั้งเท่านั้น สามารถจองได้จองทาง Web『BOOKING MARICAR』
ไม่มีภาษาไทยแนะนำ แต่มีภาษาอังกฤษให้เลือกเป็นข้อๆ เข้าใจง่าย
ค่าบริการราคา 9000 เยน แต่ถ้าถ่ายรูปตอนนั่งมาริโอ้คาร์ทและนำไปลงใน SNS เช่น Facebook หรือมีเดียต่างๆ
จะได้รับส่วนลด จ่ายเพียง 7000 เยน เท่านั้น
เอกสารที่สำคัญต้องพกใบขับขี่รถยนต์สากลมาด้วย
ถึงแม้จะเป็นแค่รถคาร์ทขับเล่น แต่ก็ต้องมีใบขับขี่เหมือนกับรถยนต์ทั่วไป ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้แทนไม่ได้
ต้องเตรียมเอกสารไปให้พร้อม
หลังจากนั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดคอร์สเพลย์มาริโอ้ เพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง ♪
สำหรับ ICHIGO-CHAN เสื้อผ้าขนาดไม่พอดีตัวเท่าไร เศร้าเลย!
หลังจากที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว จะมีอบรมมารยาทและระเบียบในการขับรถที่ญี่ปุ่น
พูดถึงการอบรม อาจจะนึกถึงอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่จริงๆแล้วเป็นการสาธิตแบบสนุกสนาน
ปราสาทโอซาก้าและหอชมวิว (Tsutenkaku) ขนาดใหญ่พอๆกับมาริโอ้ ไม่รู้กินซุปเปอร์เห็ดเข้าไปหรือเปล่า 555
พนักงานอบรมทุกคนดูตั้งอกตั้งใจ
ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเอง
ช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลาย สนุกสนานยิ่งขึ้น
ได้เวลาออกเดินทางแล้ว
สมาชิกร่วมทัวร์ครั้งนี้ นอกจาก ICHIGO-CHAN ซึ่งเป็นคนไทยแล้ว ก็ยังมีนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ที่มาจากไต้หวัน
และอินโดนีเซีย รวมทั้งหมด 9 คน
ทุกคนดูเป็นกันเอง สนุกสนาน ต้องขอบคุณพนักงานฝึกอบรมที่น่ารักทุกๆท่าน
รถมาริโอคาร์ทเริ่มเข้าสู่ย่านศูนย์กลางของโอซาก้าแล้ว
ออกเดินทางจากโนะดะฮันชิน ไปอุเมดะ ⇒ นาคะโนะชิมะ(ปราสาทโอซาก้า)⇒ นัมบะ
ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง
ICHIGO-CHAN สนุกมาก ได้ถ่ายรูปร่วมกับคุณพ่ออารมณ์ดี และลูกสาวชาวไต้หวันที่น่ารักมาก พร้อมกับ
พนักงานที่น่ารักทุกๆคน
ขณะขับรถมาริโอ้คาร์ท ดูจะเป็นจุดเด่น คนข้างทางให้ความสนใจพวกเราเป็นอย่างมาก
มีหนุ่มสาวโบกไม้โบกมือทักทายด้วย ราวกับเป็นดาราก็ว่าได้
โปรแกรมสุดท้าย ถ่ายรูปหมู่กับทุกคนที่โดโทงโบะริ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโอซาก้า
จริงๆแล้ว ต่างคนต่างมา นั่งรถคันละ 2 คน แต่ทุกคนดูเหมือนเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมานาน
ICHIGO-CHAN ก็ได้เพื่อน Facebook เพิ่มอีก 5 คน ถ้ามีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกันคงจะดี
ถึงเวลาที่จะต้องแยกย้ายและเดินทางกลับแล้ว สนุกมากๆ สำหรับประสบการณ์ในครั้งนี้ โปรแกรมสุดท้ายจริงๆ
พลาดไม่ได้กับการช้อปปิ้งที่『RINKU OUTLET MALL』ใกล้ๆกับสนามคิบคันไซ