อีกประมาณ 3 เดือนก็จะเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์เดือนเมษายน และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ได้เวลาวางแผนการท่องเที่ยวกันแล้ว ซึ่งช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ก็จะเป็นช่วงหลังช่วงพีคของดอกซากุระบานบริเวณโตเกียว โอซาก้า หรือ นาโกย่า ที่เป็นเมืองใหญ่ๆ และน่าเสียดายเป็นอย่างมากที่จะเป็นช่วงที่หาดูซารุกะแบบบานเต็มที่ได้ยากภายในเมืองใหญ่เหล่านี้ แต่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะแค่เพียงเดินทางออกไปอีกเล็กน้อยก็สามารถชมดอกซากุระแบบบานเต็มที่ได้
ในครั้งนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ชมดอกซากุระ ในแถบคันไซจำนวน 3 แห่ง เพื่อท่องเที่ยวเมืองโอซาก้าที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายอย่าง USJ หรืออาหารอร่อยๆ และ เกียวโตเมืองเก่าที่สวยงาม ไปพร้อมๆ ดอกซากุระกันเลย
1.เกียวโต・โอฮาระ (KYOTO・OHARA)
มาเริ่มกันที่ “โอฮาระ” ในเกียวโต สามารถเดินทางจากในตัวเมืองเกียวโตได้อย่างง่ายดายด้วยรถบัสเพียง 30-40 นาที ซึ่งที่ “โอฮาระ” นี้จะมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดเก่าแก่อย่างเช่น “วัดซันเซ็น” ที่มีสวนสวยงาม หรือ วัด “เค็นเรมนอิน” ของวัดจักโคอิน เป็นต้น
“โอฮาระ” ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สูงเล็กน้อยนี้ จะมีอุณภูมิต่ำกว่าในตัวเมืองเกียวโต เพราะฉะนั้นคุณจะได้ชมซากุระบานในช่วงวันหยุดสงกรานต์พอดี โดยเฉพาะซากุระที่วัดดัง “วัดซันเซ็น”『SANZEN-IN TEMPLE(三千院)』
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นช่วงที่ซารุกะ “ชิดาเระ ซากุระ” ประตูวัดซันเซ็น เป็นฤดูใบไม้ผลิที่มาช้าในโอฮาระ โดยบริเวณรอบๆ “ชิดาเระ ซากุระ” นี้จะมี “ดอกชากุนาเกะ” บานสวยงาม ท่ามกลางเสียง “นกอุกุยซุ”(นกกระจ้อยนักร้อง) แสนไพเราะ นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีดอกซากุระชนิดอื่นๆ อีกมากมายทั้งยามะซากุระ(山桜)・ชิดาเระซากุระ(枝垂桜)・ยาเอะซากุระ(八重桜) มากมายถึง 300 ต้นเลยทีเดียว
และอีกหนึ่งวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ชมดอกซากุระของโอฮาระ กับ “วัดจักโคอิน”『JAKKOIN TEMPLE(寂光院)』
เป็นวัดอามาเดระเก่าแก่ที่สร้างขึ้นยาวนานกว่า 1400 ปีที่ผ่านมาในปีพ.ศ.1137 ซึ่งคุณสามารถชมซากุระที่ “วัดจักโคอิน” ได้ในช่วงท้ายวันหยุดสงกรานต์พอดี ถึงแม้ว่าซากุระที่ “วัดจักโคอิน” แห่งนี้จะมีเพียงต้นเดียวเท่านั้น ต่างจาก วัดซันเซ็นที่มีซากุระมากถึง 300 ต้น แต่ต้นซากุระเพียงต้นเดียวนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของการชมซากุระที่มีองค์ประกอบลงตัวกับอาคารวัดเป็นอย่างยิ่ง เป็นวิวที่สวยงามเฉพาะของประเทศญี่ปุ่นเลยจริงๆ ค่ะ
โดย “โอฮาระ” นี้ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์กลางเมืองเกียวโตอยู่หลายสิบกิโลเมตร
มีวิธีการเดินทางจากใจกลางเมืองเกียวโตดังนี้
1.เดินทางจากสถานีเกียวโต・ชิโจคาวาระมาจิ・ ซันโจ・ เดมาจิยานางิ ได้ด้วยรถบัสหมายเลข 17 วิ่งชั่วโมงละ 3 เที่ยว ใช้เวลาในการเดินทาง 30 นาที(เดมาจิยานางิ)- 60 นาที(สถานีเกียวโต)
2.เดินทางจากสถานีโคคุไซไคคัน(Kokusaikaikan Station) รถไฟใต้ดินสายคาราซุมะ นาทีที่ 40 ด้วยรถบัสหมายเลข 19 ใช้เวลาในการเดินทาง 30 นาที ส่วนในกรณีเดินทางจากโอซาก้า สามารถเดินทางจาก “สถานีโยโดยาบาชิ” ในโอซาก้า ด้วยรถไฟด่วนพิเศษของรถไฟเคฮัง ใช้เวลาในการเดินทาง 55 นาที เพื่อมาลงที่สถานีปลายทาง “สถานีเดมาจิยานางิ” จากนั้นนั่งรถบัส(17系統)ต่อไปจะสะดวกที่สุด
2. นารา・ โยชิโนะยามะ (NARA・YOSHINOYAMA)
สถานที่ที่สามารถเดินทางจากโอซาก้าได้ด้วยรถไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
โดยที่ 『โยชิโนะยามะ』ในนารานี้ เป็นสถานที่ที่มีต้นซากุระอยู่ทั้งภูเขา เป็นสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
ด้วยความที่มีซากุระจะบานทั้งภูเขา เริ่มจาก 「SHIMO SENBON」ที่เป็นสถานที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลน้อยที่สุด 「NAKA SENBON」「KAMI SENBON」และ「OKU SENBON」ไปจะบานประมาณ 1 เดือนตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเลย
ถ้าเป็นเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ก็สามารถชมซากุระสวยๆ ในช่วงสงกรานต์ได้ตั้งแต่บริเวณ SHIMOSENBON ไปจนถึง NAKASENBON เลยทีเดียว
สำหรับคนไทยแล้วเสน่ห์ของโยชิโนะยามะคือ แน่นอนว่าเป็นวิวสวยๆ สำหรับถ่ายรูป แต่ที่สำคัญเลยก็คือ การได้เดินกินอาหารไปพร้อมๆ กับการชมซากุระนั่นเอง
มีทั้งดังโงะหรือไส้กรอกอยู่ตามข้างทาง หรือจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เรียงกัน ทำให้สามารถเพลินเพลินกับรสชาติอาหารญี่ปุ่นไปพร้อมๆกับซากุระได้เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะมีบัสทัวร์จากโอซาก้าหรือเกียวโตอยู่ด้วยแต่ที่อยากแนะนำมากๆเลยก็คือ “การนั่งรถไฟ” โดยเฉพาะ “รถไฟแบบด่วนพิเศษ” ในช่วงที่คนหนาแน่นแบบนี้ ถนนรอบๆ จะติดแออัดเหมือนกรุงเทพเลยทีเดียว ระยะทางเพียงแค่ 1 กิโลเใตรก็อาจใช้เวลาในการเดินทางเป็นชั่วโมง แต่ทว่ารถไฟจะเป็นการเดินทางตามตารางเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็แออัดในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เช่นกันค่ะ
ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะแนะนำให้จองรถไฟด่วนพิเศษนั่งไป ภูเขาโยชิโนะ แบบสบายๆ เอาไว้ก่อนเลยดีกว่า
โดยเดินทางจาก「ABENOBASHI STATION」(อยู่ติดกับสถานี JR TENNOJI)ที่อยู่ข้างๆ โอซาก้า 「ABENO HARUKAS」ด้วยรถไฟคินเท็ตสึไป
ในช่วงเวลานี้ตั๋วรถไฟแบบด่วนพิเศษอาจเต็มอย่างรวดเร็ว ดังนั้นแนะนำให้จองผ่านเว็บไซต์ล่วงหน้า ไว้เลย อีกทั้งยังสามารถซื้อตั๋วในขณะที่อยู่ที่ประเทศไทยได้อีกด้วย
『จองตั๋วรถไฟ KINTETSU』
ยังไงใครที่จะมาแถบคันไซอย่างโอซาก้าหรือเกียวโตในช่วงสงกรานต์ก็ลองมาเที่ยวกันดูได้เลย
3. โรงกษาปณ์โอซาก้า (OSAKA JAPAN MINT)
และสถานที่สุดท้ายก็คือ 『โรงกษาปณ์โอซาก้า』
ในช่วงกลางเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่หนึ่งในสามโรงกษาปณ์ของญี่ปุ่นที่ “โรงกษาปณ์โอซาก้า” จะเปิดให้คนทั่วไปสามารถเดินเล่นท่ามกลางอุโมงค์ยาเอะซากุระสวยงาม เป็นประเพณีประจำของโอซาก้า ได้รับความนิยมทั้งจากคนในพื้นที่ และทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก โดยเปิดให้ชมไปในปีที่ผ่านมาในปีพ.ศ.2561 ในช่วงวันที่ 11-17 เดือนเมษายน ถึงแม้ว่าในปีนี้ ปีพ.ศ.2562 มีแผนว่าจะเปิดให้เข้าชมในช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่ปีที่ผ่านมาสามารถชมได้ในช่วงวันหยุดสงกรานต์พอดีเป็นเวลา 1 อาทิตย์
ซึ่งซากุระที่ โรงกษาปณ์โอซาก้า จะเป็นซากุระที่เรียกว่า “ยาเอะซากุระ” ถึงแม้ว่าจะเป็นซากุระที่แตกต่างจากชนิดที่พบเห็นทั่วไปแบบ 5 กลีบอย่าง “โซเมอิซากุระ” แต่ “ยาเอะซากุระ” นี้จะมีอยู่ 8 ชั้นและบานเกาะกลุ่มกันสวยงามมากเลยทีเดียว
เมื่อถึงเวลาค่ำก็จะเป็นช่วงการฉายไฟประดับดอกซากุระที่ โรงกษาปณ์โอซาก้าอีกด้วย
นอกจากนี้ที่บริเวณโดยรอบจะมีร้านค้าแผงลอยต่างๆ มากมายทั้งร้านทาโกยากิ ปลาหมึกย่าง ฯลฯ ที่สามารถทานอาหารไปพร้อมๆ กับชมบรรยากาศดอกซากุระบานสวยงามได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
การเดินทางไปยัง “โรงกษาปณ์โอซาก้า” ริมฝั่งแม่น้ำ「O River」ที่ตั้งอยู่ใกล้ปราสาทโอซาก้า ซึ่งตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเดินทางจาก “สถานีรถไฟเท็มมะบาชิ” สายรถไฟใต้ดินทานิมาจิ(Subway Tanimachi Line)・สายหลักรถไฟเคฮัง หรือ “สถานีโอซาก้าเท็มมังงุ(Ōsakatemmangū Station)” สาย JR โทไซ โดยใช้เวลาเดินจากแต่ละสถานีได้ประมาณ 5 นาที นอกจากนี้หากเดินทางจากประตูหน้าบานของโอซาก้าอย่าง “สถานีโอซาก้า” นี้สามารถเดินทางจาก “สถานีฮิงาชิอุเมดะ” รถไฟใต้ดินสายทานิมาจิ ไป 2 สถานี 5 นาที และเดินจากสถานีเท็มมะบาชิไปจะสะดวกที่สุด
ในครั้งนี้เราได้พาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ที่เหมาะกับการชมดอกซากุระในชุดวันหยุดยาวของวันหยุดสงกรานต์ในคันไซจำนวน 3 แห่ง
1. เกียวโต “โอฮาระ”
2. นารา “โยชิโนะยามะ”
3. โอซาก้า “โรงกษาปณ์โอซาก้า”
โดยโอฮาระ・โยชิโนะยามะ นั้นแต่ละสถานที่สามารถเดินทางจากโอซาก้ามาได้ภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง ดังนั้นคุณสามารถท่องเที่ยวภายในโอซาก้าเป็นหลัก และท่องเที่ยวชมซากุระทั้งสามแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย ยังไงลองมาชมความสวยงามของญี่ปุ่นในช่วงนี้กันได้เลย
ในครั้งต่อไปเราจะพาทุกท่านไปในแถบคันโตกันบ้าง แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า♪