เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
NAGOYA- TAKAYAMA- SHIRAKAWAGO- TOYAMA- ALPENROUTE- MATSUMOTO- TSUMAGOJUKU- NAGOYA
Day1-2 เที่ยวชม “ปราสาทนาโกย่า” พร้อมทาน “กุ้งทอดยักษ์” อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า
พาสสุดคุ้มที่ใช้ในการท่องเที่ยวในทริปนี้ก็คือ พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass』
หากเดินทางจากประเทศไทย บินตรงมายัง “นาโกย่า” สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยัง “เกโระออนเซ็น Gero Onsen” ที่อยู่ท่ามกลางหมู่เขา “ฮิดะทาคายาม่า” “โทยามะ” หรือ เส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง เมืองพักแรมที่เรียกว่า “คิโซะจิ KISOJI” อย่าง “เส้นทางอัลไพน์” “มัตสึโมโตะ” “นาราอิจุกุ” หรือ “ซึมาโกะจุกุ” ได้เท่านั้นไม่พอยังสามารถ นั่งยานพาหนะของเส้นทางอัลไพน์ได้ไม่อั้นอีกด้วย(อย่างเช่น กระเช้าลอยฟ้า เป็นต้น)
ยกตัวอย่างการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟ「LIMITED EXPRESS WIDE VIEW HIDA」จาก นาโกย่า ไป โทยามะ ราคาปกติจะอยู่ที่ 7650 เยน(ช่วงเวลาปกติ・Reserved Seat)และนั่งรถไฟจากโทยามะ ไปจนถึงเส้นทางอัลไพน์ และผ่านเข้าสู่เมือง Shinano Omachi(信濃大町) ฝั่งจังหวัดนางาโนะ ปกติอยู่ที่ 10,850 เยน รวมราคาแล้วเป็น 18,500 เยน แค่คิดเพียงเท่านี้ก็แทบจะคืนทุนได้เลยทีเดียว
ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส เพื่อเที่ยวชมเสน่ห์ของนาโกย่ากันค่ะ
หลังจากที่ได้เดินทางจากกรุงเทพมาเป็นเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ICHIGO-CHAN ก็ได้เดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ (เซ็นแทร์) และเราได้มุ่งหน้ามาสู่สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ “ปราสาทนาโกย่า”『NAGOYAJO (名古屋城)』ป็นที่เรียบร้อย
Day1-1 เริ่มทริป! ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ(นาโกย่า) สู่จุดมุ่งหมายแรกที่ “ปราสาทนาโกย่า”
“ปราสาทนาโกย่า” เป็นปราสาทที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 420 ปี ซึ่งปราสาทนาโกย่าแห่งนี้ถือเป็นปราสาทของ “ตระกูลโทกูงาวะ” เป็น “โชกุน” ผู้ปกครองสูงสุดในบรรดาซามุไรของญี่ปุ่น ใน “ยุคเอโดะ” ที่ยาวนานมากกว่า 250 ปี
บริเวณมุมหลังคาทั้งสองมุมจะประดับด้วย「KIN NO SHACHIHOKO(金のしゃちほこ)」รูปปั้นปลาสีทอง ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของนาโกย่า อยู่คู่ชาวนาโกย่า และคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “ปราสาทนาโกย่า” และทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากันค่ะ ไปดูกันเลย
เมื่อซื้อบัตรเข้าชม(500 เยน)เรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านทางเข้า เข้าไปในบริเวณเขตปราสาทเลย เมื่อผ่านเข้ามาแล้วก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ ตรงข้ามผ่านคูน้ำไปก็จะเห็นสะพานข้ามคูน้ำอยู่ทางขวามือ ให้ข้ามสะพานนี้ไป จากนั้นเมื่อลอดผ่านประตูเข้าไปก็จะเห็นหอคอยปราสาทนาโกย่าขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าเลย
ปัจจุบันตัวอาคารปราสาทหอคอยนาโกย่ากำลังทำการปรับปรุงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2561 โดยจะใช้เวลาในการปรับปรุง 4 ปี น่าเสียดายที่เราไม่สามารถชมภายในหอคอยปราสาทได้ในช่วงที่ทำการปรับปรุง แต่ก็ยังสามารถชมหอคอยปราสาทได้จากด้านนอกค่ะ
ซึ่งหากพูดถึงปราสาทนาโกย่า ก็คงจะต้องนึกถึงรูปปั้นปลาสีทอง「KIN NO SHACHIHOKO(金のしゃちほこ)」โดยประดับอยู่ที่บริเวณหลังคาจำนวนสองตัว ทั้งตัวผู้ และตัวเมีย ทำจากทองแท้ ที่หนักกว่า 88kg เลยทีเดียว ถึงแม้ว่ารูปปั้นนี้ จะถูกขโมย หรือ ถูกไฟไหม้ในช่วงสงครามไปบ้าง จนรูปปั้นที่ประดับอยู่ในปัจจุบันเป็นรุ่นที่สอง แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของนาโกย่าที่อยู่คู่เมืองนี้มาอย่างยาวนาน
และที่บริเวณลานหน้าหอคอยปราสาทนาโกย่าจะมีนักรบซามุไรญี่ปุ่น ที่ถูกเรียกว่า「Nagoya Omotenashi Bushotai(名古屋おもてなし武将隊)」อยู่บริเวณนี้ คอยให้ข้อมูล หรือสามารถถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก สำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้「Nagoya Omotenashi Bushotai(名古屋おもてなし武将隊)」จะมีการแสดงต่างๆ อย่างเช่น การเต้น(ฟันดาบ), การแสดงละคร, การตอบคำถาม หรือ การเต้นชุดเกราะ ในช่วงสุดสัปดาห์อีกด้วย ซึ่งนักรบเท่ๆ เหล่านี้ได้รับความนิยมจนมีเหล่าแฟนๆ มากมาย อีกทั้งยังได้ออกทีวี งานโฆษณา หรืองานถ่ายแบบต่างๆ มากมาย เราก็ได้ถ่ายรูปกับซามุไรด้วย ดีใจมากๆ เลยค่ะ
นอกจากนี้ บริเวณข้างหอคอยปราสาทจะมี อาคารปราสาทหลัก Honmaru Palace(本丸御殿) ที่ทำการปรับปรุงให้คงสภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว โดยปรับปรุงตั้งแต่ปีพ.ศ.2552 ใช้เวลายาวนานกว่า 9 ปี และเพิ่งเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หากพูดถึงปราสาทหลายๆ คนก็อาจคิดว่าปราสาทที่พักอาศัยจริงๆ จะต้องเป็นหอคอยปราสาทที่สูงเด่นสง่างาม แต่ความจริงแล้วปราสาทหลักที่เจ้าของปราสาทอาศัย และทำงานอยู่จริงก็คืออาคารปราสาทหลัก Honmaru Palace(本丸御殿) แห่งนี้นั่นเอง
เมื่อเข้ามาในอาคารหลักปราสาทแล้ว ก็จะต้องเปลี่ยนรองเท้า และฝากรองเท้าไว้ที่ล๊อคเกอร์ ภายในอาคารหลักปราสาทแห่งนี้จะไม่มีห้องน้ำอยู่ด้านใน เพราะฉะนั้นควรจะทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนเข้าชมด้านในอาคารค่ะ
เมื่อเข้ามาในอาคารปราสาทหลัก Honmaru Palace(本丸御殿) ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่แล้ว บรรยากาศด้านในจะได้กลิ่นไม้สนของญี่ปุ่น และที่สะดุดตามากที่สุดก็คือ ฉากกั้น และ ประตูฟูสุมะ(ประตูเลื่อนกรอบไม้กรุด้วยกระดาษอย่างหนา) ที่ปิดด้วยทองมากมาย อลังการสวยงาม เมื่อได้เห็นของใช้ต่างๆ ที่หรูหราแบบนี้แล้วสัมผัสได้ถึงความรุ่งเรืองของ “โทกุงาวะ” ที่เป็นเจ้าของปราสาทแห่งนี้เลยนะคะ ภายในอาคารปราสาทหลัก Honmaru Palace(本丸御殿) สามารถถ่ายรูปได้ตามปกติ เพียงแต่ห้ามใช้แฟลชเท่านั้น เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ สามารถเช่าชุดกิโมโน หรือยูกาตะสวยๆ แต่งมาเที่ยวภายในปราสาทแห่งนี้เพื่อถ่ายรูปให้ได้บรรรยากาศมากขึ้นก็ได้เลยนะคะ
และเมื่อเข้ามาด้านในเรื่อยๆ ก็จะเข้ามาสู่ห้องที่หรูหราขึ้นไปอีก ซึ่งห้องนี้เป็นห้อง「EKKEN謁見(สถานที่พบกับผู้ที่ตำแหน่งสูงกว่า)」ส่วนห้องที่อยู่ด้านในสุดก็คือ「JODAN-NO MA(ห้องของผู้ปกครองสูงสุด)」เป็นห้องที่ถูกสร้างขึ้นให้มีระดับสูงกว่าชั้นปกติไปหนึ่งขั้น แค่มองแวบเดียวก็รู้ได้เลยว่าห้องนี้เป็น “ห้องของผู้ที่มีอำนาจสูงที่สุด” เลยนะคะ แค่เสาเพียงต้นเดียวก็ราคา 3 ล้านเยน เป็นห้องที่เต็มไปด้วยไม้สนชั้นดี ซึ่งแน่นอนว่าห้องนี้ก็สามารถถ่ายรูปได้ตามปกติ และถ้าลองสังเกตุป้ายทองที่ติดอยู่ตามคานดูดีๆ จะพบว่าจะมีการใช้ตราสัญลักษณ์ที่สามารถได้เฉพาะ “โชกุน”(อำนาจสูงสุดในหมู่ซามุไร) ที่เป็นสัญลักษณ์「AOI NO GOMON(葵の御紋)」(ในวงกลมสีเหลือง)อยู่ด้วย
หลังจากที่ได้เพลิดเพลินไปกับอาคารหลักปราสาทที่หรูหราอลังการไปเต็มที่แล้ว ก็ไปช้อปปิ้งครั้งแรกของทริปกันเลย ออกมาจากอาคารหลักปราสาทไปก็จะเจอร้านขายของฝากทันที มีทั้งของฝาก หรือของกิน ต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อมากมาย
เมื่อเข้ามาในร้าน เราก็จะเห็นสินค้าเฉพาะของนาโกย่า ทั้งขนมนานาชนิดเรียงกันอยู่มากมาย ทั้งเซ็มเบ้ปลาสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของนาโกย่า「KINSHACHI MONOGATARI(金鯱物語)」(1080 เยน)หรือ เซมเบ้ปีกไก่ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า「TEBASAKI SENBEI(手羽先せんべえ)」(1080 เยน)เป็นต้น จะซื้อเป็นของฝาก หรือซื้อขนมเอาไว้ทานเล่นระหว่างการเดินทางก็ไม่เลวเลยนะคะ
นอกจากขนมแล้ว ก็ยังมีสินค้าเฉพาะที่หาซื้อได้เฉพาะที่ปราสาทแห่งนี้อยู่มากมายทั้ง สินค้า “คิตตี้ x ปราสาทนาโกย่า”(ปากกา 200 เยน-)หรือ ชุดตั้งโต๊ะปลาสีทอง「SHAKOHOKO(シャチホコ)」ที่เป็นสัญลักษณ์ของนาโกย่า(400 เยน・แบบคู่ 850 เยน)และเหล้าต่างๆ ในพื้นที่(540 เยน-)เป็นต้น
ที่บริเวณหน้าอาคารหลักปราสาทจะมี กลุ่มนินจา「Hattori Hanzo and the Ninjas (服部半蔵忍者隊)」ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณนี้ โดยจะมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มซามุไร「Nagoya Omotenashi Bushotai(名古屋おもてなし武将隊)」ที่สามารถถ่ายรูปร่วมกัน แนะนำข้อมูลการท่องเที่ยว หรือการแสดงต่างๆ ในวันเสาร์ อาทิตย์ กลุ่มนี้ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยช่นกัน
เพื่อนๆ สามารถเช็คตารางเวลาของกลุ่มซามุไร『Nagoya Omotenashi Bushotai(名古屋おもてなし武将隊)』และกลุ่มนินจา「Hattori Hanzo and the Ninjas (服部半蔵忍者隊)」ต่างๆ ได้ทางเว็บไซต์ด้านล่างนี้เลย
หลังจากที่ได้ถ่ายรูปกับกลุ่มซามุไร「Nagoya Omotenashi Bushotai(名古屋おもてなし武将隊)」และกลุ่มนินจา「Hattori Hanzo and the Ninjas (服部半蔵忍者隊)」เรียบร้อยแล้ว ก่อนเดินทางไป “ฮิดะทาคายาม่า” เราจะขอไปทานอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า “กุ้งทอด” เป็นอาหารกลางวันที่ร้าน「EBIDOTE(海老どて)」ภายในย่านร้านค้าใต้ดินสถานีนาโกย่า「ESCA」กันก่อน
โดยเราจะนั่งรถบัสหมายเลข 2「基幹2番」ที่เรานั่งมาเมื่อซักครู่เพื่อเดินทางจากปราสาทนาโกย่า ไปสถานีนาโกย่ากันค่ะ ก่อนอื่นก็จะต้องเดินไปตามทางฝั่งตรงข้ามทางเข้า และตรงไปเรื่อยๆ เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่แล้ว ก็เดินไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกใหญ่ เมื่อถึงแยกใหญ่แล้วก็ข้ามทางม้าลายไปทางซ้ายมือ และข้ามไปทางขวา และข้ามทางม้าลายไปครึ่งทาง ก็จะเจอป้ายรอรถบัสอยู่กลางถนนเลยค่ะ
รถบัสสาย 2 ที่เขียนกำกับว่า「基幹2番」จะวิ่งทุกๆ 5 นาที เพื่อเดินทางไปยังสถานีนาโกย่า
ซึ่งวิธีขึ้นรถบัสในประเทศญี่ปุ่นก็จะมีความแต่งต่างกันออกไปตามบริษัทต่างๆ โดยรถบัสที่เราจะใช้บริการในครั้งนี้ จะต้องขึ้นรถบัสจากประตูกลาง และลงรถบัสจากประตูด้านหน้าค่ะ ราคา 210 เยน สามารถชำระเงินโดยใส่เงินสดตามจำนวนได้ที่กล่องชำระเงินข้างคนขับขณะลงรถบัส หรือชำระด้วยบัตร IC Card อย่าง TOICA, Suica หรือ ICOCA เป็นต้น
เมื่อลงที่สถานีปลายทาง ที่สถานีนาโกย่า แล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นทางซ้ายมือก็จะเห็น「KIN NO HIROBA(金の広場)」 ให้เดินไปทางขวามือ และเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะมาสู่ประตูเข้าออก「Taiko-dori Side(太閤通口)」ให้เดินตรงไปเรื่อยๆ และลงบันไดเลื่อนเพื่อลงไปที่ย่านร้านค้าใต้ดิน「ESCA」กันเลย
เมื่อลงบันไดเลื่อน และเข้าสู่ ESCA แล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ ไปจนสุดทางสามแยก ให้เดินไปทางขวา ก็จะเจอร้านกุ้งทอดที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับร้าน “เอบิโดเตะ”「EBIDOTE」อยู่เยื้องไปทางขวามือ
ซึ่งที่นาโกย่าเองจะมี “อาหารนาโกย่า” อยู่มากมายหลากหลายชนิด ทั้ง “มิโซะคัตสึ” “อุดงมิโซะ” โดยอาหารส่วนใหญ่จะมีรสชาติที่ชัดเจนของมิโซะ(เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่าอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ “กุ้งทอด” โดยเฉพาะกุ้งทอดตัวโตที่ร้าน『EBIDOTE(海老どて)』
เราเข้าไปในร้านกันเลย
ภายในร้านจะตกแต่งด้วยกุ้งทอดตัวโหญ่ห้อยอยู่บนเพดานร้าน มีทั้งที่นั่งแบบ 2 คน 4 คน โดยรวมแล้วสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 40 ที่นั่ง ซึ่งโต๊ะต่างๆ ที่อยู่ภายในร้านสามารถเคลื่อนย้ายได้ เพราะฉะนั้นสารถรองรับลูกค้าที่เป็นกลุ่มใหญ่ได้สบายเลยค่ะ
ซึ่งเมนูที่ร้าน「EBIDOTE」หลักๆ แล้วก็จะเป็นเมนูกุ้งทอด มีให้เลือกหลากหลายทั้ง「Fried prawn comparison set(海老ふりゃ-食べ比べランチ)」(1706 เยน)หรือ「Ebi・Kani・Kaki Sanshoku Zeitaku teishoku(海老・蟹・牡蠣3色贅沢定食)」(1980 เยน)ในเมนูธรรมดา แค่ธรรมดาก็อลังการแล้ว ยังมีเมนูพิเศษกับ เมนูที่สามารถเพลิดเพลินกับกุ้งตัวใหญ่ได้แบบจัดเต็มกับ (ความสูง 35㎝)「Extra-large fried prawn (特大大エビふりゃ-)」(5870 เยน)ที่นอกจากจะอร่อยแล้ว แต่ละเมนูก็เป็นเมนูอลังการที่น่าถ่ายรูปอีกด้วย หากลูกค้าสั่งเครื่องดื่มตามจำนวนคนแล้ว ก็สามารถสั่งอาหารมาแบ่งทานด้วยกันได้เลยค่ะ
มื้อนี้ ICHIGO-CHAN สั่งเป็น「EBI TONKATSU SAUCE DON(海老とんかつソ-ス丼)」(1814 เยน)เป็นเมนูพร้อมกุ้งทอด 2 ตัว และหมูทอดอีก 2 แผ่นราดด้วยซอสมิโซะหวานเค็ม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สั่งขนาดใหญ่ที่สุด แต่กุ้งทอดก็ใหญ่พอๆ กับหน้า ICHIGO-CHAN เลย อีกทั้งยังได้ทานหมูทอดราดซอสมิโซะหวานเค็ม รสชาติเข้มข้น อร่อยถูกปากอีกด้วย เป็นมื้อกลางวันมื้อแรกของทริปที่อร่อยมากๆ โชคดีสุดๆ
พนักงานที่ร้านก็ให้การต้อนรับ ICHIGO-CHAN เป็นอย่างดี ได้เวลาออกจากร้านแล้ว หลังจากทานอาหารกลางวันแสนอร่อยจนอิ่มแล้ว ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปที่ “ฮิดะทาคายาม่า” ที่เราจะไปพักกันในคืนนี้เลย แต่ว่าก่อนไป เราจะขอไปซื้อเพื่อนคู่ใจของเราในทริปนี้กับ พาสสุดคุ้ม「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ที่สถานีนาโกย่ากันก่อนเลย
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ นั่ง「LIMITED EXPRESS WIDE VIEW HIDA」เพื่อเดินทางจาก “สถานีนาโกย่า” เข้าสู่ “ฮิดะทาคายาม่า” และทานดินเนอร์กันค่ะ
ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day1-2 NAGOYA CASTLE/EBIDOTE】