ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-1 เดินเส้นทางรอบปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” เพื่อพิชิตจุดที่สูงที่สุดของภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO
จากความเดินตอนที่แล้ว ICHIGO-CHAN ได้ใช้เวลาเดินทางจากสถานีภูเขาฟูจิที่ 5 เป็นเวลา 10 ชั่วโมง จนสามารถพิชิตยอดภูเขาฟูจิสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ และได้ทันดู “พระอาทิตย์” ขึ้นจากยอดภูเขาฟูจิอีกด้วย
ถึงแม้ว่าเราจะมาถึงยอดภูเขาฟูจิแล้ว แต่จุดที่สูงที่สุด “เค็นกะมิเนะ”「KENGAMINE」จะอยู่ที่ความสูง 3776m ซึ่งอยู่อีกฝั่งของปล่องภูเขาไฟที่เรียกว่า “โอะฮาจิ”「OHACHI」โดยเราจะเดินเส้นทางเดินรอบปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” 1 รอบ 2600m เพื่อพิชิตจุดสูงที่สุด “เค็นกะมิเนะ”「KENGAMINE」กันค่ะ
บนยอดภูเขาไฟฟูจิที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดที่คนญี่ปุ่นต่างใฝ่ฝัน ยังมีสถานที่ต่างๆ ให้ได้เดินท่องเที่ยวอีกมากมาย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศเหล่านั้นกันค่ะ
จากความเดิมตอนที่แล้วที่ ICHIGO-CHAN ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น และเที่ยวชม “ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น โอคุมิยะ”「FUJI SENGEN OKUMIYA SHRINE」แล้ว
ด้านหลังศาลเจ้าก็คือ ปากปล่องภูเขาไฟของฟูจิที่เรียกว่า “โอะฮาจิ”「OHACHI」หรือ “ไดไนอิน”「DAINAIIN」และฝั่งตรงข้ามปากปล่องภูเขาไฟจะเป็นจุดที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นบนความสูง 3776m ที่เรียกว่า “เค็นกะมิเนะ”「KENGAMINE」
ซึ่งจุดที่เราอยู่ตอนนี้ก็คือ เสาโทริอิที่อยู่ในวงกลมสีเหลือง โดยเส้นทางเดินรอบปล่องภูเขาฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” จะเริ่มจากจุดนี้วนตามเข็มนาฬิกา ซึ่งเวลาโดยประมาณในการวนรอบปล่อง 1 รอบก็คือ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสภาพอากาศ ระหว่างทางเราจะได้เจอกับน้ำพุประหลาด “กินเมซุย”「GINMEISUI」ที่ฝุดขึ้นมาบริเวณยอดภูเขา หรือ “ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น โอคุมิยะ”「FUJI SENGEN OKUMIYA SHRINE」อีกทั้งยังมีจุดที่สามารถส่งไปรษณีย์จากยอดภูเขาไฟได้อีกด้วย
โดยก่อนที่เราจะออกเดินทางวนรอบเส้นทางเดินรอบปล่องภูเขาฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” เราจะทานอาหารเช้าที่ได้จากที่พักที่เราพักเมื่อคืนที่ “โทโมเอะคัง สถานีหลักที่ 8”「Original 8th Stn. Tomoekan」เป็นเมนูปลาแซลมอน บนข้าวอบทรงเครื่อง ผักดอง และไข่ม้วน ถึงจะอยู่บนยอดภูเขาไฟฟูจิแต่ก็ได้ทานอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่เช้าเลยค่ะ บนยอดเขาสูงที่มีความกดอากาศต่ำ และมีปริมาณออกซิเจนเบาบางนี้ อาจทำให้บางคนไม่รู้สึกอยากอาหาร แต่เราทานจนหมดเกลี้ยงเลยค่ะ อร่อยมากๆ ซึ่งพนักงานที่ที่พักได้ให้คำแนะนำไว้ว่า ถึงแม้จะไม่รู้สึกอยากอาหารหรือไม่หิว ก็จำเป็นต้องกินข้าวให้หมดเพื่อเติมพลังให้กับร่างกาย เนื่องจากขาลงจะต่างจากขาขึ้นตรงที่ ขาขึ้นจะมีจุดพักอยู่หลายจุด แต่ขาลงจะมีอยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้น ซึ่งผู้ที่ได้รับเจ็บหรือประสบภัยต่างๆ กว่าครึ่งจะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการลงเขา หรือหมดแรงระหว่างทางนั่นเอง
เมื่อทานอาหารเช้าเติมพลังงานเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางเดินรอบปล่องภูเขาฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” กันแล้ว ก่อนอื่นเราจะหันหน้าออกจากศาลเจ้า และเดินไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ เดินขึ้นไปตามทางลาดชันก็จะเจอกับยอดเขาแรกที่เรียกว่า “เซชิกะคุโบะ”「SEISHIGAKUBO (成就ヶ岳)」จากตรงนี้จะเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ชัดที่สุด
ซึ่งแต่ละยอดเขาที่อยู่บนยอดภูเขาฟูจิจะมีโทริอิเล็กๆ ตามภาพตั้งอยู่(โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับศาลเจ้า)เห็นแบบนี้ก็รู้สึกได้เลยนะคะว่าคนญี่ปุ่นนับถือภูเขาฟูจิมากแค่ไหน
เมื่อมองดูจากไกลๆ แล้วจะดูเหมือนว่ายอดภูเขาฟูจิจะเป็นทางเรียบๆ แบนราบ แต่ความจริงแล้วระหว่างยอดเนินจะเป็นทางขึ้นลงพอสมควร บนยอดเขาที่ไม่มีอะไรกั้นแบบนี้จะมีลมพัดแรงอยู่ตลอด ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่อากาศไม่ดีลมก็จะยิ่งพัดแรงเหมือนเฮอริเคน แค่ยืนให้ตรงยังยากเลยค่ะ ซึ่งเส้นทางเดินรอบปล่องภูเขาฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” จะเป็นทางเดินที่ไม่มีที่จับ เพราะฉะนั้นเส้นทางนี้จะอันตรายมากๆ ในช่วงฝนฟ้าคะนอง ต้องวางแผนเพื่อดูสภาพอากาศและสภาพร่างกายให้ดีก่อนตัดสินใจออกเดินทางนะคะ
เมื่อมองลงไปด้านล่างก็จะเห็นทะเลเมฆที่เหมือนปุยพรมสีขาวผืนใหญ่ๆ ซึ่งวันที่ได้เห็นทะเลเมฆแบบนี้ เราจะสามารถเพลิดเพลินไปกับ “หนึ่งสิ่ง” ที่เราจะแนะนำในการเดินเส้นทางรอบปล่องภูเขาไฟในครึ่งหลังกันนะคะ
เริ่มเดินเส้นทางเดินรอบปล่องไฟมาประมาณ 30 นาที ตอนนี้เราก็มาถึงที่น้ำพุ “กินเมซุย”「GINMEISUI」กันแล้วค่ะ เป็นน้ำพุที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีที่ยอดภูเขาฟูจิ ที่ไม่มีน้ำไหลผ่านแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดมากๆ ค่ะ ซึ่งในสมัยก่อนน้ำนี้เคยให้ผู้ปีนเขาทั่วไปสามารถใช้ได้ แต่ปัจจุบันมีจำนวนคนที่มาปีนเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ส่วนนี้ถูกปิดไม่ให้ดื่มหรือใช้โดยภาระการ แต่จะมีจำหน่ายอยู่ที่ร้านขายของบนยอดเขาค่ะ(500 เยน)
และเมื่อเดินเลย “กินเมซุย”「GINMEISUI」มาก็จะเจอกับลานกว้างเล็กๆ ซึ่งที่นี่เป็นจุดยอดของหนึ่งใน 4 เส้นทางปีนเขาฟูจิกับเส้นทาง “ฟูจิโนะมิยะ”「FUJINOMIYA」บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น โอคุมิยะ”「FUJI SENGEN OKUMIYA SHRINE」และ「ไปรษณีย์ญี่ปุ่นยอดเขาภูเขาฟูจิ」ที่สามารถส่งจดหมายไปยังทั่วโลกได้อีกด้วย
ก่อนอื่นเราจะไปเคารพ “ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น โอคุมิยะ”「FUJI SENGEN OKUMIYA SHRINE」ซึ่งศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 116 ปีที่แล้วในปีพ.ศ.2445 และเมื่อหลายปีก่อนได้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้ศาลเจ้าได้รับความเสียหายจึงมีการปรับปรุงใหม่ในปีพ.ศ.2555 และใช้เวลาในการสร้างถึง 5 ปี ซึ่งช่วงแรกจะแนการสร้างโดยเหล่าผู้ชายที่มีพละกำลังแข็งแรงแบกอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างเดินขึ้นมาจากตีนดอย คล้ายกับการสร้างพีรามิดเลยนะคะ และที่น่าตกใจคือ ในแต่ละปีจะมีคู่รักหลายคู่มาจัดงานแต่งงานที่นี่ด้วย โดยภายในอาคารจะเป็นส่วนห้ามถ่ายรูป ซึ่งที่อาคารหลักที่สร้างจากไม้นี้จะมีจุดจำหน่ายเครื่องรางของขลังด้วย
และที่ตั้งอยู่ข้างศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น โอคุมิยะ ก็คือ「ที่ทำการไปรษณีย์ญี่ปุ่นยอดภูเขาฟูจิ FUJISAN-CHO POST OFFICE」ซึ่งเราสามารถออกใบประกาศนียบัตรการปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ(500 เยน)ได้ที่นี่ นอกจากนี้ยังสามารถส่งจดหมายไปยังที่ต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งจดหมายหรือโปสการ์ดที่ได้ส่งจากที่นี่จะมีตราปั๊มพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จที่น่าภูมิใจมากๆ เลยค่ะ นอกจากส่งข่าวสารทาง LINE หรือ Messenger แล้วก็ลองส่งเป็นจดหมายหรือโปสการ์ดไปด้วยนะคะ
เมื่อส่งจดหมายที่ไปรษณีย์บนยอดเขาเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราก็จะเริ่มเดินทางเข้าสู่ไฮไลท์ของเส้นทางเดินรอบปากปล่องภูเขาไฟที่จุด “เค็นกะมิเนะ”「KENGAMINE」กันเลย ซึ่งเส้นทางจากตรงนี้ไป “เค็นกะมิเนะ” จะเป็นเส้นทางเดินเขาชันที่เรียกว่า “อุมะโนะเสะ”「UMA NO SE」แปลว่า “หลังม้า” เป็นจุดที่ชัน และเป็นทางเดินทรายที่ลื่นมาก เป็นเส้นทางที่เดินทางลำบากพอสมควรเลยค่ะ
เดินผ่านไปตามเส้นทาง “อุมะโนะเสะ”「UMA NO SE」ที่ต้องระวังก้าวเดินเป็นพิเศษไป เราจะสามารถชมวิวปากปล่องภูเขาไฟ “ไดไนอิน”「DAINAIIN」ด้านขวามือ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 600-700m และมีความลึก 230m ซึ่งทางเดินระหว่าง “อุมะโนะเสะ”「UMA NO SE」และ “ไดไนอิน” จะไม่มีราวจับอะไรเลย เพราะฉะนั้นอย่าเผลอชะโงกหน้ามองเยอะไปจนเผลอลื่นตกลงไปนะคะ
เราเริ่มเดินทางรอบปล่องภูเขาไฟตั้งแต่ประมาณเวลาตี 5 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “เค็นกะมิเนะ” กันแล้วค่ะ เป็นจุดที่อยู่สูงสุดของภูเขาฟูจิที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น จากจุดนี้จะอยู่ห่างจากสถานีที่ 5 ที่อยู่บนความสูง 2305m ขึ้นมาอีกประมาณ 1471m
เป็นที่ที่สูงที่สุดที่ ICHIGO-CHAN เคยมาในชีวิต เราผ่านจุดที่โหดๆ มาจนถึงจุดนี้ได้ ก็อยากจะซึมซับความรู้สึกนี้ให้ได้มากที่สุด แต่แถวที่รอถ่ายรูปอยู่ด้านหลังก็ยาวมาก เพราะฉะนั้นไม่สามารถอยู่จุดนี้ได้นานๆ เลยค่ะ 555
และสิ่งที่เราสามารถชมได้เฉพาะวันที่มีผืนทะเลเมฆสวยงามปกคลุมอยู่ นั่นก็คือ “เงาฟูจิ” ก็คือเงาที่เกิดจากแสงตอนเช้าหลังพระอาทิตย์ขึ้นและแสงตอนเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เป็นเงาภูเขาไฟฟูจิที่กระทบเมฆสีขาวโพลน เป็นภาพที่หาดูได้ยากโดยต้องอยู่ในจุดที่ใกล้ยอดภูเขาฟูจิมากที่สุด องศาพระอาทิตย์ที่พอดีทั้งตอนขึ้นและตกดินเพียงไม่กี่ชั่วโมง และที่สำคัญคือจะต้องมีทะเลเมฆอยู่ทั้งฝืน ต้องมีทั้งทั้งสามองค์ประกอบถึงจะชมปรากฏการณ์นี้ได้นั่นเอง แสดงว่า ICHIGO-CHAN โชคดีมากๆ เลยนะคะที่ได้เห็นวิวนี้ตั้งแต่การปีนขึ้นภูเขาฟูจิครั้งแรกเลย
เดินวนรอบปล่องภูเขาไฟฟูจิเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เราได้วนรอบปากปล่องภูเขาฟูจิครบหนึ่งรอบ จนกลับมาถึงยอดเส้นทางโยชิดะกูจิ เป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ก็เป็นเวลา 7 โมงเช้า หลังจากที่เหล่านักปีนเขาได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สถานีที่ 8 แล้วบริเวณนี้ในช่วงเวลานี้ก็จะยังคงมีผู้คนอยู่บริเวณนี้อย่างคึกคัก
ซึ่งบริเวณที่มีผู้คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากนี้ จะมีที่พักอยู่ทั้งหมด 4 ที่ แต่ละที่ก็จะมีทั้งของฝาก โปสการ์ด อาหาร หรือเครื่องดื่มจำหน่ายอยู่ โดยของที่ระลึกที่จำหน่ายอยู่ที่จุดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นของที่มีจำหน่ายเฉพาะที่นี่เท่านั้น เท่ากับว่าคนที่สามารถพิชิตยอดภูเขาฟูจิได้เท่านั้นที่สามารถซื้อของเหล่านี้ได้ แต่ก็อย่าเผลอซื้อเยอะไปนะคะ เฉพาะว่าเราจะต้องเดินลงเขาอยู่
ได้เวลาลงเขากันแล้วค่ะ เมื่อเทียบกับขาขึ้นที่มีที่พักอยู่หลายจุดแล้ว ขาลงจะมีจุดพักเพียงจุดเดียว และสามารถทำธุระเข้าห้องน้ำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นทำธุระเข้าห้องน้ำจากตรงนี้ให้เรียบร้อยไปเลยจะดีที่สุดนะคะ ค่าบริการห้องน้ำ 1 ครั้ง 300 เยน
และเวลาลงเขานอกจากจะไม่มีห้องน้ำแล้ว จุดจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มก็ไม่มีเช่นกันค่ะ เพราะฉะนั้นก่อนออกเดินทางเราจะซื้อเครื่องดื่มที่ ร้าน “ชิตะเอโดะยะ”「SHITA EDOYA」ที่อยู่ระหว่างทางสถานีหลักที่ 8 ซักหน่อย เพราะว่าหลังจากร้านนี้ก็จะไม่มีเครื่องดื่มของกินขายไปจนถึงสถานีที่ 5 เลย ซื้ออาหารและเครื่องดื่มได้ตามความจำเป็นจากยอดเขาเอาไว้เลยค่ะ มีตู้กดน้ำอัตโนมัติบนนี้ด้วย น้ำเปล่า 500ml ขวดละ 500 เยน เครื่องดื่มกระป๋อง 400 เยน
เมื่อเดินผ่านกระท่อมต่างๆ ไปก็จะเจอทางลงเขาอยู่ด้านซ้ายมือเลย(มีโทริอิเล็กๆ เป็นสัญลักษณ์)เราใช้เวลาเดินขึ้นภูเขาฟูจิมากว่า 10 ชั่วโมง ก็เสียดายจนไม่อยากลงเลย แต่ขาลงก็ใช้เวลากว่า 4 ถึง 6 ชั่วโมงเลยสำหรับมือใหม่ เดินชมวิวทะเลเมฆลงเขาไปเรื่อยๆ ก็เหมือนจะสบายนะคะ แต่ก็ลำบากเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางลงภูเขาฟูจิ ไปจนถึงสถานีภูเขาฟูจิที่ 5 และเดินทางไปที่คาวากุจิโกะกันค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะ
【ตารางการเดินทาง Day3-1 GORAIKOU CEMEMONY AND OHACHI-MEGURI】