Day2-6 โค้งสุดท้ายพิชิตยอดภูเขาฟูจิ ! เดินทางจากสถานีหลักที่ 8 ไปจนถึงยอดเขาเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day2-6 โค้งสุดท้ายพิชิตยอดภูเขาฟูจิ ! เดินทางจากสถานีหลักที่ 8 ไปจนถึงยอดเขาเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

ออกเดินทางจาก “สถานีที่ 5” มาเป็นเวลา 7 ชั่วโมงครึ่ง ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ก็อยู่ที่ สถานีหลักที่ 8 อีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะไปถึงยอดภูเขาฟูจิแล้ว

หลังจากที่ได้เข้าพักที่ “โทโมเอะคัง”「TOMOEKAN」ที่สถานีหลักที่ 8 พักผ่อน ชาร์ตทั้งร่างกาย และแบตมือถือให้เต็มแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปพิชิตยอดภูเขาฟูจิกันแล้วค่ะ มีความเชื่อกันมาว่าการได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูเขาฟูจิที่เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นนั้นเป็นลางบอกเหตุที่ดี ทำให้ผู้คนนิยมเดินทางปีนขึ้นกันในตอนค่ำเพื่อให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นกันเป็นจำนวนมาก

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจากสถานีหลักที่ 8 เพื่อพิชิตยอดภูเขาฟูจิ เชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขากันค่ะ

ICHIGO-CHAN งีบไปประมาณ 3 ชั่วโมง ที่พักที่ต้องนอนร่วมกับคนอื่นๆ ตอนแรกก็กังวลอยู่ค่ะว่าจะนอนได้ไหม แต่อาจเพราะด้วยความเหนื่อย เลยหลับสนิทเลยค่ะ ถึงจะได้นอนแปปเดียวแต่ ICHIGO-CHAN ก็ได้ชาร์ตพลังแล้ว เราจะออกเดินทางเพื่อพิชิตยอดเขากันเลย

เมื่อออกมาด้านนอก “โทโมเอะคัง” ก็จะเห็นนักเดินทางเต็มไปหมดเลยค่ะ ภูเขาไฟฟูจิที่จะเปิดให้ปีนเขาได้เพียง 2 เดือนในรอบปี เมื่อเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะมีผู้คนเดินทางปีนขึ้นภูเขาฟูจิกันเป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะช่วงเส้นทางสถานีที่ 7 ไปจนถึงยอดเขาจะมีนักปีนเขาจำนวนมากแออัดอยู่บริเวณเส้นทางปีนเขาแคบๆ จนการจราจรติดขัดเลยค่ะ โดยปกติแล้วจะใช้เวลาในการเดินทางจาก “โทโมเอะคัง” ไปจนถึงยอดเขาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าการสัญจรแออัดแบบนี้ก็จะใช้เวลามากขึ้นไปเกือบเท่าตัวเลยค่ะ

ระหว่างทางจากสถานีหลักที่ 8 ไปจนถึงยอดเขาจะมีห้องน้ำอยู่ 1 ที่เท่านั้น ก่อนออกเดินทางควรจะทำธุระเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย รับข้าวกล่องสำหรับอาหารเช้าและออกเดินทางเลย ที่โทโมเอะคังจะมีบริการรับฝากของชั่วคราวสำหรับผู้เข้าพักเท่านั้น เพราะฉะนั้นสามารถฝากสัมภาระที่ไม่จำเป็นเอาไว้ที่นี่ได้เลย ถ้าเป็นปกติแล้วแค่ของหนักไม่กี่กรัมก็คงไม่คิดอะไรมาก แต่ถ้าต้องปีนไต่ขึ้นเขาขนาดนี้ ถ้าเอาอะไรออกได้ก็ควรเอาออกให้หมดเลยค่ะ เป็นบริการที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปถึงยอดเขาเลยนะคะ

เดินไปตามเส้นทางแสงไฟฉายติดศรีษะของนักเดินทางแต่ละคน ไปตามทางแคบๆ เรื่อยๆ เมื่อหันกลับไปมองด้านหลังก็จะเห็นแสงไฟจากทะเลสาบยามานากะและเมืองคาวากุจิโกะ และที่เห็นอยู่ใกล้ๆ เป็นทางยาวก็คือ แสงไฟจากไฟฉายติดศรีษะของคนที่กำลังปีนขึ้นมาบนยอดภูเขาฟูจิ

เมื่อมองวิวภูเขาฟูจิจากด้านล่างในตอนกลางคืนก็จะเห็นวิวประมาณนี้เลยค่ะ แสงไฟจากไฟฉายติดศรีษะที่แต่ละอันไม่ได้สว่างมากนัก แต่เมื่อมาอยู่รวมกันนับพันดวงแล้วก็จะเห็นเด่นชัดสวยงามเป็นทางยาวเลยค่ะ ถ้าใครได้พักโรงแรมหรือที่พักใกล้ๆ ภูเขาฟูจิในช่วงเดือนกรกฏาคมไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคมก็ลองชมวิวภูเขาฟูจิตอนกลางคืนประมาณ ตี 1 ถึง ตี 3 ดูนะคะ เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าเลยค่ะ

ออกจากสถานีหลักที่ 8 ไปประมาณ 30 นาทีก็จะผ่าน “โกไรโคคัง” ของ 8 go and 5 shaku(3450m)ซึ่ง “โกไรโคคัง” จะเป็นกระท่อมที่พักสุดท้ายของเส้นทางเดินไปสู่ยอดเขา ถ้ามาถึงจุดนี้แล้วยอดเขาก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วค่ะ ถ้าการจราจรไม่ติดขัดก็จะใช้เวลาเดินขึ้นไปเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

เมื่อผ่าน 8 go and 5 shakuมาแล้วเส้นทางขึ้นเขาก็จะชันขึ้นทันทีเลยค่ะ เป็นเส้นทางประมาณ 600m ระยะทางนี้ถ้าเป็นทางราบก็จะใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที แต่เราจะต้องปีนไต่ขึ้นไปตามทางชัน เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ซึ่งเมื่อมองไปด้านบนในช่วงเส้นทางระหว่าง 8 go and 5 shaku ไปจนถึงยอดเขาก็จะเห็นเสาโทริอิอยู่ 2 อัน แต่ตอนที่ ICHIGO-CHAN ไปเป็นเวลากลางคืนเพราะฉะนั้นเราไม่เห็นอะไรเลยค่ะ โดยโทริอิแรก(ในวงกลมสีเหลือง)ก็คือสถานีที่ 9 ส่วนโทริอิที่อยู่ถัดไป(ในวงกลมสีส้ม)ก็คือยอดเขาค่ะ และแล้วเราก็มาถึงจุดที่สามารถมองเห็นยอดเขาแล้ว ถ้ามาถึงตรงนี้แล้วก็ถือว่าอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ใช้พลังที่เหลือทั้งหมดพิชิตยอดภูเขาฟูจิกันเลย

ICHIGO-CHAN ตั้งใจปีนขึ้นเกินไปจนไม่ได้มองขึ้นไปบนฟ้าเลยค่ะ ซึ่งถ้าได้นั่งบริเวณโทริอิที่สถานีที่ 9 แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็จะได้เห็นวิวหมู่ดาวที่อยู่บนท้องฟ้านับหลายร้อยดวงสวยงามมากๆ เป็นวิวที่น่าตื่นตาจนสามารถลืมความเหนื่อยและความหนาวไปได้เลยค่ะ อารมณ์เหมือนได้เป็นนักบินอวกาศเลยค่ะ

เมื่อเข็มนาฬิกาชี้มาที่เลข 3 ฟ้าก็จะเริ่มสว่างขึ้นมานิดนึงแล้วค่ะ เป็นแสงสลัวที่มีทั้งสีขาว สีฟ้า และสีส้มรวมกัน พร้อมๆ กับแสงไฟฉายติดศรีษะ ถัดไปก็คือวิวของชิราคาวาโกะ และฟูจิโยชิดะ

เมื่อผ่านสถานีที่ 9 มาแล้วก็จะเขาสู่เส้นทางหินชัน เป็นทางหินชันที่ชันกว่าสถานีที่ 7 แต่จะมีคนเดินทางอยู่ตลอดทางเพราะฉะนั้น ค่อยๆ เดินตามกันไปก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ถึงแม้ว่าคนด้านหลังจะประชิดเข้ามาใกล้ก็ไม่ต้องกังวลนะคะเดินตามความเร็วของตัวเองเลยค่ะ

เดินจากสถานีที่ 9 มาประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็มาถึงโทริอิที่เป็นทางเข้ายอดเขาของ “ศาลเจ้าโอคุมิยะ”「OKUMIYA」แล้ว ถ้ามาถึงจุดนี้แล้วยังไงเราก็จะไปถึงยอดเขาแน่นอนค่ะ เมื่อคำนวนเวลาดูแล้ว เราใช้เวลาเดินทางจากสถานีที่ 5 มาประมาณ 10 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าถ้าเทียบเวลาเฉลี่ยทั่วไปแล้วเราจะใช้เวลาเยอะกว่ามาก แต่ก็สามารถปีนขึ้นมาสู่ยอดได้สำเร็จปลอดภัยค่ะ

เวลาพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเดือนกรกฏาคมจะอยู่ที่ประมาณตี 4:30 เมื่อใกล้ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นก็จะมีกลุ่มคนจำนวนมากออกมารวมตัวกันอยู่ แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เมื่อถึงยอดเขาแล้วไปทางซ้ายมือ ผ่านทางเดินเรียบที่พักไปก็จะมีที่ให้นั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ

ภูเขาฟูจินี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาปีนขึ้นเขาจำนวนมากถึง 4000 คนต่อวัน ซึ่งจะมีผู้ที่สามารถพิชิตยอดเขาอยู่ 2500 คน และจำนวนกว่าครึ่งจะไหว้พระอาทิตย์ขึ้น

นักท่องเที่ยวแต่ละคนดูดีใจที่ได้ปีนขึ้นมาสู่ยอดเขาสำเร็จ อีกทั้งยังได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นในบรรยากาศแบบนี้ด้วย

และเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันนี้ก็คือ เวลาตี 4:35 ค่ะ วันนี้มีเมฆลอยต่ำ ทำให้ไม่สามารถชมพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจากเส้นขอบฟ้าได้ แต่ได้ชมพระอาทิตย์ที่กำลังลอยขึ้นอยู่ในเมฆ เหมือนเพชรที่กำลังส่องประกายอยู่บนท้องฟ้า เป็นวิวที่คนญี่ปุ่นเองก็อยากมาซักครั้งในชีวิต อยู่ตรงหน้าเราในตอนนี้ เราจะได้ยินเสียง “บันไซ ! บันไซ !” (คำพูดดีใจของญี่ปุ่น เหมือน “ไชโย”)มาจากที่ต่างๆ เลยค่ะ ICHIGO-CHAN เองก็เผลอ “บันไซ !” กับเขาไปด้วยเลยค่ะ

เมื่อผ่านช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว บรรยากาศโดยรอบก็เหมือนได้อยู่ในอวกาศเลยค่ะ ทั้งแสงอาทิตย์ที่กระทบกับทะเลเมฆ แล้วทะเลสาบยามานากะที่ส่องประกายเด่นขึ้นมา เป็นวิวที่สวยมากๆ เลยค่ะ

ดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวที่อยู่ตรงหน้าจนเต็มอิ่มแล้ว ก็จะเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบๆ ยอดภูเขาฟูจิกันต่อเลยค่ะ ก่อนอื่นเราจะมุ่งไปที่โทริอิ ของ “ศาลเจ้าโอคุมิยะ” บนยอดเขาที่เราผ่านมาเมื่อซักครู่

ภายในบริเวณนี้จะมีทั้ง เครื่องรางของคลัง เหมือนศาลเจ้าที่อยู่ในเมืองเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมี เซียมซี และแผ่นไม้ขอพร “เอมะ” ให้ได้เขียนขอพรกันอีกด้วย ซึ่งเครื่องรางส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องรางที่สามารถหาซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น เหมาะสำหรับการซื้อไปฝากครอบครัว และเพื่อนๆ หรือจะซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกในการได้พิชิตยอดเขาก็น่าสนใจดีนะคะ

ภายในบริเวณนี้จะมี「จุดประทับตราไม้เท้า(頂上つえ印所)」หากใครได้ถือไม้เท้าขึ้นมาด้วยก็สามารถประทับตราได้ที่นี่เลย(500 เยน)ตามที่ต่างๆ เช่น ที่พัก หรือสถานที่ที่อยู่บนยอดเขาทุกที่จะมีสแตมป์ไม้เท้าที่เป็นลายเฉพาะของแต่ละที่อยู่ไม่ซ้ำกัน สามารถประทับตราไปเรื่อยๆ เพื่อสะสมสแตมป์เหมือน Stamp Rally ได้เลย หรือจะสะสมไปเป็นของฝากก็ได้ แต่อาจจะลำบากตอนขนกลับที่ต้องถือขึ้นเครื่องหรือฝากสัมภาระตอนขึ้นเครื่องเล็กน้อย

ที่ภูเขาฟูจิ มีนักปีนเขาแต่งคอสเพลย์เป็นนินจามาด้วย ICHIGO-CHAN ก็ไม่พลาดต้องขอถ่ายรูปคู่ด้วยซักหน่อย และที่น่าตกใจคือนินจาผู้นี้จะปีนเขาในช่วงที่เปิดให้ปีนเขาตั้งแต่เดือนกรกฏาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม ในทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยชุดนินจา ICHIGO-CHAN ใช้เวลาปีนเขาไปทั้งหมดเกือบ 10 ชั่วโมงแต่นินจาคนนี้เริ่มปีนตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน โดยใช้เวลามาถึงยอดเขาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น สมกับเป็นนินจาจริงๆ เลยค่ะ

และในครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ชมบรรยากาศรอบๆ ยอดเขากับ เส้นทางเดินรอบปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day2-6 HON-MACHIGOUME TOMOE KAN】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶