Day1-6 ช้อปปิ้งย่าน “ชินจุกุ” ที่อัดแน่นไปด้วย “บิ๊กโคล่” “โอนิสึกะไทเกอร์” “มาสึโมโต้คิโยชิ” หรือ “ร้านอุปกรณ์ปีนเขา” ฯลฯ อีกมากมาย พร้อมทานอาหารค่ำร้านปิ้งย่างยากิโทริที่「HOT-YA」

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-6 ช้อปปิ้งย่าน “ชินจุกุ” ที่อัดแน่นไปด้วย “บิ๊กโคล่” “โอนิสึกะไทเกอร์” “มาสึโมโต้คิโยชิ” หรือ “ร้านอุปกรณ์ปีนเขา” ฯลฯ อีกมากมาย พร้อมทานอาหารค่ำร้านปิ้งย่างยากิโทริที่「HOT-YA」

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

ICHIGO-CHAN ได้เริ่มจากการเที่ยว “ศูนย์วัฒนธรรมและให้ข้อมูลการท่องเที่ยวอาซากุสะ”「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」ทานข้าวกลางวันที่ “อากิมิสึ” 「AKIMUTSU」จากนั้นเดินเที่ยวถนน “คัปปะบาชิ”「KAPPABASHI」และเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของอาซากุสะที่ “วัดเซ็นโซ”「SENSOJI」 “ศาลเจ้าอาซากุสะ”「ASAKUSA JINJA」และศาลเจ้าที่มีภูเขาฟูจิจิ๋วกับ “ศาลเจ้าอาซากุสะเซ็นเก็น”「ASAKUSA FUJI SENGEN SHRINE」

หลังจากที่เราได้เที่ยว “อาซากุสะ” ไปเต็มที่แล้วตอนนี้เรากำลังมาฝากของที่「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」แล้วจึงมุ่งหน้าไปที่ย่าน “ชินจุกุ” กันเลย แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม “ชินจุกุ” ที่มีทั้ง “บิ๊กโคล่”「BICQLO」 “โอนิสึกะไทเกอร์”「ONITSUKATIGER」 หรือ “มาสึโมโต้คิโยชิ”「MATSUMOTOKIYOSHI」ให้ได้เลือกช้อปสินค้าต่างๆ มากมาย และที่สำคัญมี “ฟิกเกอร์” หรือ “โมเดล” ต่างๆ เอาใจแฟนๆ อนิเมะอีกด้วย พรุ่งนี้แล้วที่ ICHIGO-CHAN จะได้ปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ เราจะเตรียมความพร้อม ซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ที่นี่ให้ครบ

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปช้อปปิ้งกันให้เต็มอิ่มที่ย่าน “ชินจุกุ” และทานดินเนอร์กันที่ร้านปิ้งย่างเสียบไม้กัน ไปดูกันเลย

จากความเดิมตอนที่แล้วเราได้เดินทางมาจนถึง ที่พักของเราในคืนนี้「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」ซึ่งที่สถานี ASAKUSA MITSUKE STATION ที่อยู่ตรงหน้าสามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปสู่สถานที่ต่างๆ อย่าง อาซากุสะ อุเอโนะ ชุบูย่า หรือ กินซ่าได้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีลีมูซีนบัสออกจากโรงแรม AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU เพื่อมุ่งหน้าไปสู่สนามบินฮาเนดะ หรือสนามบินนาริตะอีกด้วย

เข้ามาสู่ล๊อบบี้กว้างขวางและเคาน์เตอร์เช็คอินแล้ว มีแต่นักท่องเที่ยวเต็มไปหมดเลยค่ะ เราเดินอาซากุสะมาเยอะมากๆ แล้วก็อยากจะพักอยู่ที่โรงแรมซักหน่อย แต่ถ้าเผลองีบไปคงได้นอนยาวแน่ๆ  เลยค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะแค่ฝากของเอาไว้แล้วออกเดินทางต่อไปที่ชินจุกุกันเลย

จาก「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」สามารถนั่งรถไฟโตเกียวเมโทร TOKYO METRO สายมารุโนะอุจิ MARUNOUCHI LINE เดินทางไป “ชินจุกุ” ได้โดยตรงเลย โดยก่อนอื่นจะต้องลงลิฟต์ไปที่ชั้น 1F เมื่อออกจากลิฟต์แล้วก็ออกจากประตูทางออกเพื่อเดินออกไปด้านนอกอาคาร จากนั้นเดินข้ามถนนใหญ่หน้าโรงแรมไปอีกฝั่ง เมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอทางเข้าไปสถานีรถไฟใต้ดินอยู่ด้านขวามือเลย เข้าไปด้านในและลงบันไดเลื่อนที่อยู่ขวามือเพื่อเข้าไปในสถานีเลย เมื่อลงจากบันไดเลื่อนแล้วก็ยูเทิร์นไปทางขวามือก็จะเจอช่องตรวจตั๋วเลย เราสามารถใช้บัตร「Tokyo Subway 24 Hours Ticket」ที่สามารถนั่งรถไฟโตเกียวเมโทร และรถไฟใต้ดิน TOEI ได้ไม่อั้น 24 ชั่วโมง ที่ซื้อจากสนามบินนาริตะได้เลย

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่มีบัตร「Tokyo Subway 24 Hours Ticket」หรือ IC CARD  เช่น Suica และICOCA ก็จะต้องทำการซื้อตั๋วก่อนผ่านเข้าช่องตรวจตั๋ว

โดยก่อนอื่นจะต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งตั๋วไปสถานี “สถานีชินจุกุ” อยู่ที่ 170 เยน จากนั้นกด「Language」ที่บนขวาหน้าจอ เพื่อเลือกภาษาเป็น “ภาษาไทย” และกดปุ่มตามขั้นตอน และเลือกราคาตั๋ว 170 เยนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัติโนมัติของโตเกียวเมโทรส่วนใหญ่จะรองรับภาษา “ไทย” ด้วยเพราะฉะนั้นคลายกังวลเรื่องการซื้อตั๋วได้เลยค่ะ

เมื่อผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วมาแล้วก็ไปทางซ้ายมือ เพื่อขึ้นรถไฟที่ชานชาลาสายมารุโนะอุจิ รถไฟสายมารุโนะอุจิจะวิ่งทุกๆ 3-5 นาที รถไฟทุกขบวนที่มาจอดจะมุ่งหน้าไปสู่「ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME」ทั้งหมด เพราะฉะนั้นขึ้นขบวนไหนก็ได้เลยค่ะ จาก อากาซากะมิสึเกะ นั่งไปสถานีชินจุกุซันโจเมะ จะต้องนั่งไป 4 สถานีใช้เวลา 7 นาที แปปเดียวเท่านั้น ก็ถึงย่านแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ชินจุกุเลย

โดยที่สายมารุโนะอุจินั้นจะมีสถานีที่มีคำว่า “ชินจุกุ” อยู่ถึง 4 สถานีคือ「ชินจุกุเกียวเอ็น SHINJUKU-GYOEM」「ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME」「ชินจุกุ SHINJUKU」「นิชิชินจุNISHI-SHINJUKU」ส่วนสถานีที่เป็นย่านช้อปปิ้งที่สะดวกที่สุดก็คือสถานี「ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME」ซึ่งหากนั่งเลยไปถึงสถานี “ชินจุกุ” เลยก็ต้องต้องเดินย้อนกลับมาพอสมควรเลย เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูสถานีให้ดีนะคะ

เมื่อลงรถไฟที่สถานี ชินจุกุซันโจเมะ SHINJUKU-SANCHOME แล้วก็เดินไปตามทางเดินเพื่อขึ้นบันไดมาสู่ชั้นบน และผ่านช่องตรวจตั๋วออกไปก็จะเจอทางเข้า “บิ๊กโคล่”「BICQLO」อยู่ทางซ้ายมือทันที

นักท่องเที่ยวที่ได้มาท่องเที่ยวโตเกียวส่วนใหญ่จะมุ่งหน้ามาช้อปปิ้งกันที่ย่าน “ชินจุกุ” เพราะว่าที่นี่มี “บิ๊กโคล่”「BICQLO」ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่าง ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น「BIC CAMERA」และ UNIQLO สาขาใหญ่นั่นเอง ซึ่งตั้งแต่ชั้น 1F ลงไปใต้ดินชั้น 3F และชั้น 4F ขึ้นไปจะเป็นส่วนที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มือถือ กล้อง หรือโน๊ตบุ๊ค ฯลฯ อย่างครบครันในส่วน BIC CAMERA และตั้งแต่ชั้น 1F ถึง 3F จะเป็นส่วนของ UNIQLO แค่เดินในนี้ทั้งหมดก็น่าจะใช้เวลาเกือบครึ่งวันเลย

และถนนใหญ่ด้านหน้า “บิ๊กโคล่” ก็คือ “ถนนชินจุกุ”「SHINJUKU DORI」ที่มีร้านค้าต่างๆ เรียงกันอย่างแน่นหนา เมื่อออกจากบิ๊กโคล่เยื้องไปทางขวาก็จะเจอห้างสรรพสินค้า「อิเซตัน」สาขาหลักที่จำหน่ายทั้งเครื่องสำอาง หรือสินค้าแบรนด์เนมมากมาย ทั้ง「COMME DES GARCONS」「BAOBAO ISSEY MIYAKE」ฯลฯ เป็นต้น และด้านข้างอิเซตันก็คือ「MUJI」สาขาใหญ่

และตรงข้ามบิ๊กโคล่อีกฝั่งถนนก็คือ ร้าน “มาสึโมโต้คิโยชิ”「MATSUMOTOKIYOSHI」ที่จำหน่ายทั้ง ยา อาหารเสริม หรือ เครื่องสำอาง ในราคาถูก และนอกจากนั้น…

ก็มี “โอนิสึกะไทเกอร์”「ONITSUKA TIGER」ที่เมื่อก่อนอยู่ในสถานที่ที่หายากเล็กน้อยในชินจุกุ แต่ตอนนี้ได้เปิดสาขาใหม่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในบริเวณ “ถนนชินจุกุ”「SHINJUKU DORI」โดยหันหน้าออกจาก “มาสึโมโต้คิโยชิ”「MATSUMOTOKIYOSHI」เดินไปทางขวามือประมาณ 30 วินีเท่านั้น ซึ่งร้านจะมีอยู่ 3 ชั้น ชั้นที่ 1 จะเป็นส่วนรองเท้าทั่วไป ชั้นที่ 2 เป็นส่วน「NIPPON MADE」และชั้นที่ 3 จะเป็นส่วนเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับต่างๆ มากมาย

และถัดจาก “มาสึโมโต้คิโยชิ”「MATSUMOTOKIYOSHI」 “โอนิสึกะไทเกอร์”「ONITSUKA TIGER」ก็จะเป็นร้านขายอุปกรณ์ปีนเขาโดยเฉพาะกับร้าน「KOJITUSANSO OUTLET」สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ปีนเขาได้ในราคาไม่แพงอีกด้วย

ซึ่งอุปกรณ์ที่เป็นหัวใจหลักของการปีนเขาจะมีอยู่ 3 อย่างก็คือ

「กระเป๋าเป้ปีนเขา」「รองเท้าปีนเขา」และ「อุปกรณ์กันฝน」เราสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ได้ทั้งหมดที่ KOJITUSANSO OUTLET เลย

เมื่อเทียบกับภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่มีความสูง 2565m แล้วประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูเขาสูงกว่า 3000m อยู่มากมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนญี่ปุ่นจะยึดการปีนเขาเป็นกีฬา และมีคนไม่น้อยที่ชื่นชอบการปีนเขาตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ดังนั้นอุปกรณ์สำหรับปีนเขาต่างๆ จะมีจำหน่ายอยู่ตามร้านค้าต่างๆ แบบครบครัน การปีนเขาที่สูงกว่า 3000m นั้นจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมที่ดี เนื่องจากสภาพอากาศด้านบนจะมีความไม่แน่นอน และเพื่อป้องกัน โรคจากขึ้นที่สูง(Altitude Sickness) ซึ่งการจะเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ที่ไทยจึงเป็นเรื่องยาก และค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงอยากแนะนำให้มาซื้ออุปกรณ์การปีนเขา หรือเช่ายืม ที่ญี่ปุ่นเลย หากต้องการปีนเขาที่ญี่ปุ่นค่ะ

ซึ่งนอกจากอุกรณ์กลุ่มต่างๆ ที่ได้แนะนำไปข้างต้นคือ「กระเป๋าเป้ปีนเขา」「รองเท้าปีนเขา」และ「อุปกรณ์กันฝน」แล้ว ก็ยังมีสิ่งที่จำเป็นอื่นๆ อีกนั่นก็คือ

  1. ไฟฉายติดศรีษะ
  2. ผ้าขนหนูแบบแห้งเร็ว
  3. เครื่องแต่งกายกันหนาว

ภูเขาไฟฟูจิจะเปิดให้ปีนเขาได้ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมไปจนถึงวันที่ 10 เดือนกันยายน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อุณภูมิเกิน 30 องศา ซึ่งเมื่อขึ้นมาที่ทางขึ้นภูเขาที่สถานีภูเขาฟูจิที่ 5 ก็จะอยู่ที่ 20-25 องศา ยิ่งขึ้นไปถึงยอดก็จะอยู่ที่ 5-10 องศาเลยทีเดียว ทั้งลมที่พัดแรงและอุณภูมิที่ร่างกายจะรู้สึกเย็นกว่าอุณภูมิจริงกว่า 5-10 องศา การใส่เสื้อผ้าไปไม่เพียงพอ หรือใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ เลยค่ะ สภาพอากาศด้านบนจะแปรปรวนมากเป็นพิเศษ ตอนนี้อาจจะอากาศดี แต่อีก 1 ชั่วโมงฝนอาจตกหนัก จึงต้องมีการเตรียมผ้าขนหนูเอาไว้เช็ดร่างกายที่เปียกฝนหรือไฟฉายติดหัวไว้เมื่อท้องฟ้ามืดค่ำ นอกจากนี้เป็นต้องเตรียม หมวก แว่นกันแดด แบตสำรอง น้ำดื่ม 2 ลิตร หรือ เครื่องดื่ม Sports Drink ต่างๆ เอาไว้ด้วย(น้ำดื่มสามารถซื้อได้บนเขาแต่เมื่อยิ่งสูงราคาก็จะสูงขึ้นเป็น 3 ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว)

หันหน้าออกจาก “มาสึโมโต้คิโยชิ”「MATSUMOTOKIYOSHI」 “โอนิสึกะไทเกอร์”「ONITSUKA TIGER」และ「KOJITUSANSO OUTLET」ไปทางซ้ายมือ เดินไปทางสถานีชินจุกุก็จะเจอร้านรองเท้า「ABC MART」ที่มีทั้ง Nike หรือ Adidas ฯลฯ และตรงกันข้ามจะมี BIC CAMERA สาขาใหญ่อยู่อีกทีหนึ่งด้วยค่ะ เมื่อเทียบกับ “บิ๊กโคล่” ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแล้ว แถวเคาน์เตอร์คิดเงินหรือเคาน์เตอร์ TAX FREE จะสั้นกว่าและคนจะน้อยกว่ามากๆ ถ้าไม่อยากต่อแถวนานๆ หรืออยู่ในที่คนเยอะๆ ก็ลองมาเดินที่นี่ดูนะคะ

สำหรับเพื่อนๆ คนไทยที่ชื่นชอบอนิเมะ โมเดลพลาสติก หรือฟิกเกอร์ ต่างๆ ก็อยากแนะนำ「YODOBASHI CAMERA GAME TOYSヨドバシカメラ ゲームおもちゃ館」เลยโดยเดินเข้าไปทางซอยข้างๆ บิ๊กคาเมร่าและเดินเข้าไปลึกๆ จนสุดทางก็จะเจอเลย

ทั้ง 5 ชั้น(B1F-4F)จะจำหน่ายเฉพาะ เกม ของเล่น เท่านั้น ทั้ง กันพลา (GUNPLA) ฟิกเกอร์ชนิดต่างๆ โมเดลรถไฟ รางรถไฟพลาสติก โมเดลพลาสติกยี่ห่อต่างๆ เช่น ทามิยะ ฯลฯ และเกม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกาชาปองมากมายนับไม่ถ้วนเลยค่ะ

การได้ไปร้านเฉพาะทางอย่างย่านอากิฮาบาระ หรือนิปปนบาชิที่โอซาก้าก็น่าตื่นตานะคะ แต่ที่นี่ได้รวบรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันแล้ว เพราะฉะนั้นเดินดูที่เดียวแต่ได้รู้หลายๆ อย่างพร้อมกันเลยนะคะ

หลังจากช้อปปิ้งไปเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลาดินเนอร์ที่เรารอคอยกันแล้วค่ะ ที่ชินจุกุนี้จะมีทั้งร้านยากิโทริ เนื้อย่าง ซูชิ หรือร้านเหล้าต่างๆ มากมาย เช่น ร้านเนื้อย่างยอดนิยม「ROKKASEN」ร้านราเม็ง「อิจิรัน ICHIRAN」เป็นต้น ซึ่งวันที่ ICHIGO-CHAN ไปนี้เป็นคืนวันเสาร์ที่อากาศดี ทำให้ร้านต่างๆ คนเยอะและเต็มทุกร้านเลย ในเวลาแบบนี้เราแนะนำให้นั่งรถไฟไปทานที่อื่นเลยค่ะ นั่งไปนิดเดียวเท่านั้น ย่านนิยมแต่ละที่พอถึงคืนวันหยุดสุดสัปดาห์คนก็จะเยอะมากๆ แออัดสุดๆ แต่แค่เพียงนั่งรถไฟห่างออกมานิดเดียวเท่านั้น คนก็จะโล่งกว่ามากๆ เลยค่ะ ที่ร้านอาหารคนก็ไม่เยอะด้วยค่ะ วันนี้เราจึงเลือกมาทานร้านบริเวณ「อากาซากะ」ใกล้ที่พักของเราเลย

เดิมกลับไปตามทางเดิมและผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วที่อยู่หน้าบิ๊กโคล่ชั้นใต้ดิน เพื่อเข้าไปที่ชานชาลารถไฟโตเกียวเมโทรสายมารุโนะอุจิ MARUNOUCHI LINE เลยค่ะ เมื่อผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปแล้วก็ลงบันไดเพื่อลงไปที่ชานชาลา ให้ขึ้นรถไฟจากชานชาลาหมายเลข 2 ที่อยู่ซ้ายมือ นั่งไป 4 สถานีและลงที่สถานี「อากาซากะ มิสึเกะ」

ลงรถไฟที่สถานี “อากาซากะ มิสึเกะ” และขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ในชานชาลา เมื่อขึ้นมาแล้วก็เดินตรงออกจากช่องตรวจตั๋วเลย เมื่อออกมาแล้ว(เหมือนครั้งที่แล้วที่ได้มาฝากของ)ก็ยูเทิรน์ไปทางซ้ายมือทันที และขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ตรงหน้าเพื่อขึ้นไปสู่ชั้นบนดิน เมื่อขึ้นมาสู่ชั้นบนดินแล้วก็เดินไปทางขวามือออกจากอาคารสถานี และไปทางซ้ายมือ

เมื่อออกจากอาคารสถานีมาแล้วก็จะเจอย่านร้านอาหารเรียงกันอยู่หลายร้าน ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน ซูชิ เนื้อย่าง ฯลฯ อีกมากมาย แต่อย่าลืมนะคะว่าพรุ่งนี้เราจะไปปีนภูเขาฟูจิกันแล้ว ต้องกินอะไรระวังๆ หน่อยไม่ให้ท้องเสีย หรือไม่สบาย เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงเลือกทานที่ร้าน “ยากิโทริ” แปลว่าไก่ย่าง แต่ที่ร้านจะมีของปิ้งย่างเสียบไม้นานาชนิด ไปกันเลย

ออกจากสถานีและเดินไปทางซ้ายมือ ไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวไปทางขวามือ ก็จะเจอสี่แยกอีกให้ไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอร้านยากิโทริ「HOT-YA」อยู่ทางซ้ายมือเลย ถึงแม้ว่าย่าน “อากาซากะ”นี้จะเป็นย่านที่มีร้านอาหารหรูมากมายเมื่อเทียบกับที่อื่น แต่ร้าน HOT-YA เป็นร้านทั่วไปที่แม้แต่ชาวต่างชาติก็เข้าไปทานได้อย่างสบายใจ ไม่ยากเลยค่ะ ราคาก็ไม่แพงอีกด้วย เข้าไปกันเลย

ภายในร้านจะมีที่นั่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่นั่งเคาน์เตอร์ หรือแบบโต๊ะ 4 คน 6 คน นอกจากนี้ยังมีโซนกึ่งห้องส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มนั่งได้ประมาณ 8 คน นอกจากนี้ในส่วนของโซนที่นั่งโต๊ะแบบ 4 คน 6 คนสามารถเคลื่อนย้ายได้ เพราะฉะนั้นลูกค้าจะมาเป็นกลุ่มใหญ่แค่ไหนก็สามารถรองรับได้สบายเลยค่ะ

เมนูที่ร้านจะมีให้เลือกหลากหลายซึ่งอยู่ในช่วงราคาไม้ละ 155 เยน – 185 เยน น่าเสียดายที่ที่ร้านนี้จะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นยังไงลองสั่งเป็นภาษาญี่ปุ่นดูตามข้อมูลด้านล่างนี้นะคะ

โดยหลักๆ แล้วก็จะมี

1. もも(MOMO)อ่านว่า “โมโมะ”:ส่วนตั้งแต่สะโพกไก่ลงมา

2.ねぎま(NEGIMA)อ่านว่า “เนกิมะ”:เนื้อไก่ส่วนสะโพก หรือเนื้ออกไก่ เสียบไม้คู่กับต้นหอมญี่ปุ่น

3.ぼんじり(BONJIRI) อ่านว่า “บอนจิริ”:ก้นไก่

4.かわ(KAWA) “คาวะ”:หนังคอไก่

5.つくね(TSUKUNE) “สึกุเนะ”:เนื้อไก่ หมู  และผักชนิดต่างๆ เช่น ต้นหอม หรือใบโอบะ บดรวมกันเป็นก้อนเหมือนลูกชิ้น จุ่มกับซอสหวานหรือไข่แดง

แต่ละอย่างสามารถเลือกได้ว่า จะทานกับ “เกลือ” หรือ “ซอสหวานเค็ม” ค่ะ

วันนี้ ICHIGO-CHAN จะสั่งเบาๆ ไปก่อน คือ สะโพก(1 ไม้ 185 เยน)ไก่ต้นหอมใหญ่(1 ไม้ 185 เยน)ก้อนไก่(1 ไม้ 155 เยน)อย่างละ 2 ไม้ และเลม่อนซาว่า หรือ เหล้าผสมเลม่อนโซดา(432 เยน)เท่านี้ดีไหมน้า……

กลิ่นในร้านหอมมากๆ จนต้องสั่งเพิ่มเลยค่ะ ก็คือ หนังไก่(155 เยน)เนื้อวัวคาลบี้(185 เยน)เท่านั้นไม่พอยังมี “โอยาโกะดง”(700 เยน)ด้วย พรุ่งนี้จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิแล้ว กินเยอะขนาดนี้จะไหวไหมนะ 5555

ทานไปจนตอนนี้แน่นท้องมากๆ เลยค่ะ ราคารวมทั้งหมดแล้วอยู่ที่ 3480 เยน ≒1000 บาท ได้ทานจนอิ่มท้องขนาดนี้แถมยังได้ทานอาหารญี่ปุ่นด้วยถือว่าไม่แพงเลยค่ะ ได้เพลิดเพลินกับยากิโทริญี่ปุ่นไปแบบเต็มอิ่มมากๆ

เมื่อทานดินเนอร์จนอิ่มแล้ว ก็อยากจะเดินเที่ยวต่ออีกซักหน่อยนะคะ แต่คงไม่ได้แล้วค่ะ เราจะต้องกลับไปพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อเตรียมร่างกายไปปีนภูเขาฟูจิในวันพนรุ่งนี้ อีกอย่างตอนขามาออกจากไทยเที่ยวบินกลางคืนด้วย ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วประมาณ 22 ชั่วโมง ต้องขอตัวรีบไปนอนพักที่โรงแรมก่อนเลยนะคะ ซึ่งที่ “อากาซากะ” ยามค่ำคืนนี้ก็มีสถานบันเทิงต่างๆ อยู่มากมายทั้ง ไนท์คลับ ร้านคาราโอเกะ หรือร้านนวดสไตล์ญี่ปุ่น อีกมากมาย ถ้าใครสนใจมีโอกาสก็ลองไปกันดูนะคะ

เดินกลับไปตามทางเดิมก็จะเจอ「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」อยู่ตรงหน้าเลยค่ะ บริเวณรอบๆ โรงแรมก็จะมีทั้ง สถานทูต สถานีโทรทัศน์ บริษัทยักษ์ใหญ่ หรือ ที่ทำการต่างๆ ของรัฐบาลอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่สะดวกต่อการนั่งรถไฟใต้ดินไปยังแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในย่านต่างๆ อีกด้วย เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมมากๆ อีกที่หนึ่งเลยค่ะ

ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ชมโรงแรม「AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYU」และสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณโรงแรมที่ “ศาลเจ้าฮิเอะ ซันโนะ”「HIE SANNOU JINJA」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

【ตารางการเดินทาง Day1-6 SHIOPPING SHINJUKU STREET/AKASAKA EXCEL HOTEL TOKYO】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶