ROUND THE C･H･I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day4-1 “เออร์เบิน โฮเต็ล เกียวโต นิโจ พรีเมียม”「URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM」ที่พักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายใจลางเมืองเกียวโต พร้อมเดินทางไปสู่โอซาก้า
FUKUI-SHIGA-KYOTO-OSAKA
ICHIGO-CHAN หลับสนิทมากเลย คงเพราะได้แช่อ่างอาบน้ำ และได้นอนเตียงยี่ห้อดัง「SIMMONS」
ถ้าเป็นปกติเราก็จะใช้รถยนตร์ หรือมอเตอร์ไซค์ในการเดินทางส่วนใหญ่ที่ประเทศไทย แต่ต้องมาเดินหลายกิโลที่ญี่ปุ่น ก็จะปวดขามากๆ ในแต่ละวัน แต่ครั้งนี้คงเพราะเราได้แช่ทั้งออนเซ็น ได้ผ่อนคลายร่างกายด้วยการแช่อ่างอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ของที่พัก หรือได้แช่ออนเซ็นเท้าด้วย ครั้งนี้เราเลยไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยหรือปวดเท้าเลย จนถึงวันสุดท้ายของทริป
และวันนี้เราจะเริ่มทริปด้วยอาหารเช้าของโรงแรมกัน เราไปที่ชั้น 1F ที่ห้องอาหาร「Café Lavender」กันเลย
ตอนมาทานอาหารเช้าอย่าลืมนำใบคูปองอาหารที่ได้ตอนเช็คอินมาด้วยนะคะ ซึ่งห้องอาหารเช้านี้แม้แต่คนที่ไม่ได้จองที่พักพร้อมอาหารเช้าก็สามารถซื้อคูปองที่ห้องอาหารได้เลย ราคา 1500 เยนค่ะ อาหารเช้าของที่นี่จะมีทั้งอาหารญี่ปุ่น และอาหารฝรั่ง รวมแล้วมีมากถึง 65 ชนิด ห้องอาหารเป็นระบบบุฟเฟต์เพราะฉะนั้นจ่าย 1500 เยนก็สามารถตักกี่รอบก็ได้เลย
ห้องอาหารกว้างขวาง ดูดี และเรียบหรู มีทั้งที่นั่งตั้งแต่สำหรับ 2 คน 6 คน หรือที่นั่งเป็นกลุ่มใหญ่แบบ 10 คน รองรับลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ
ภายในเมนูอาหารกว่า 65 ชนิดนี้ มีแต่อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ การตกแต่งจัดอาหารก็น่าทานไปซะทุกอย่างเลยค่ะ
มีทั้ง ปลาย่าง ผัดเต้าตู้ญี่ปุ่น ผักฟูกิต้ม ที่เป็นเครื่องเคียงขึ้นชื่อของเกียวโตเรียกว่า「OBANZAI」อ่านว่า “โอบันซัย” นอกจากนี้ยังมี “ชิราชิซูชิ” สีสดใสน่าทานอีกด้วย ซึ่ง「OBANZAI」ก็คือเครื่องเคียงที่อยู่ในเมนูอาหารของครอบครัวทั่วไปตั้งแต่สมัยเกียวโตโบราณ โดยทั่วไปก็จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ปรุงรสชาติด้วย เห็ด ปลาโอ หรือ สาหร่ายคอมบุ ได้ทานอาหารเกียวโตเพื่อสุขภาพตั้งแต่เช้าแบบนี้ เป็นเช้าวันใหม่ที่ดีจริงๆ เลยค่ะ
นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้วก็มีทั้ง พาสต้า เฟรนช์ฟรายส์ หรือไข่คน ฯลฯ ที่เป็นอาหารฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็เป็นอาหารที่เชฟทำการปรุงรสกันสดใหม่ทุกเช้า ยิ่งไข่คนยิ่งนุ่ม ฟู ละลายในปากเลยค่ะ
นอกจากอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง แล้ว ก็มีขนมจีบ หรือทาโกยากิที่กรอบนอกนุ่มในด้วย
และที่ขาดไม่ได้ในเมนูอาหารเช้าของ “เออร์เบิน โฮเต็ล เกียวโต นิโจ พรีเมียม”「URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM」เลยก็คือ สลัดบาร์สุดอลังการ นอกจากผักนานาชนิดแล้ว ก็มีน้ำสลัดหลากชนิดที่เป็นสูตรจากร้านคาเฟ่เก่าแก่ชื่อดังของเกียวโตร้าน「MAEDA COFFEE」ที่ ICHIGO-CHAN เคยไปมาก่อนหน้านี้
Day1-2 เพลิดเพลินกับร้านกาแฟขึ้นชื่อของเกียวโต 『MAEDA-COFFEE』พร้อมชิมกาแฟและชมสาธิตการคั่วเมล็ดกาแฟ
อาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง ขนมจีบ ทาโกยากิ และสลัดบาร์สุดอลังการ ก็ถือว่าเต็มอิ่มมากสำหรับมื้อเช้าแล้ว แต่นอกจากอาหารแล้วที่นี่ยังมีของว่างอย่าง “พุดดิ้งกาแฟ” “โอฮิกิ (ถั่วแดงไส้ข้าวเหนียว)” “วาราบิโมจิ” หรือ “มิซึโยกัง (ขนมถั่วแดงอัดแท่ง)” เป็นต้น อาหารเยอะขนาดนี้ถ้าได้พักหลายคืนน้ำหนักจะต้องเพิ่มขึ้นแน่ๆ เลย 555
ความหลากหลายของที่นี่ไม่ได้มีเพียงอาหารเท่านั้นค่ะ เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายไม่แพ้กัน ทั้ง น้ำผลไม้ นม น้ำมะเขือเทศ หรือกาแฟจากร้านกาแฟเก่าแก่ของเกียวโตอย่าง World Coffee เป็นต้น
เมนูอาหารเยอะมากๆ จนเราไม่สามารถให้เพื่อนๆ ดูได้ทุกเมนูจริงๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นไปทานกันเลย ตักมาเยอะเลยค่ะ ทั้งขนมจีบ ทาโกยากิ พาสต้า สลัด เต้าหู้ ถ้าเมนูอาหารไม่เยอะจริงตักมาขนาดนี้ไม่ได้เลยนะคะเนี่ย ทานแล้วนะคะ♪
ในส่วนด้านข้างห้องอาหารเช้า「Café Lavender」จะเป็นโซน Community Room ซึ่งอยู่หน้าลิฟต์ โดยเราสามารถนั่งเล่น นั่งพัก ดื่มกาแฟ และช้อปปิ้งของฝากที่วางเรียงอยู่รอบๆ ได้ในโซนนี้
ในบรรดาสินค้าที่จัดแสดงอยู่ เราอยากแนะนำ “ชุดยูกาตะ”「YUKATA」（4860 เยน）ราคาไ
ม่แพงมาก แถมยังมีลาย และสีให้เลือกมากมาย
นอกจากชุดยูกาตะแล้ว มีพัดแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า “เซ็นซุ”「SENSU」, ผ้าผืนลวดลายญี่ปุ่น, กระเป๋าลายญี่ปุ่นไมโกะ หรือ กาชาปอง 1 ครั้ง 500 เยน กาชาปองจะมีทั้งหมด 6 ชนิด เช่น「อุปกรณ์แต่งหน้าจิ๋ว」แบบเกียวโต, 「พวงกุญแจรองเท้าเกตะญี่ปุ่น」, ของเล่นรถไฟญี่ปุ่น「PLARAIL」หรือ「STAR WARS」ฯลฯ เป็นต้น
ที่มุมหนึ่งของโซน「COMMUNITY SPACE」จะมีมุมอ่านหนังสือ ที่มีทั้งหนังสือท่องเที่ยวเกียวโต หรือสถานที่อื่นๆ บริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ได้วางแผนการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับจิบชา ซึ่งที่“เออร์เบิน โฮเต็ล เกียวโต นิโจ พรีเมียม”「URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM」นี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเกียวโตอยู่หลายที่ อย่างเช่น….
“ปราสาทนิโจ”『MOTO RIKYU NIJO CASTLE』（ปราสาทนิโจ）โดยเดินจากโรงแรมไปประมาณ 15 นาที
เป็นปราสาทที่มีอายุกว่า 400 ปี เป็นที่พักต่างอากาศของโชกุนจากเอโดะ (โตเกียว) เดินทางมายังเกียวโตแห่งนี้ ถึงแม้ว่าปราสาทแห่งนี้ไม่มีหอคอยปราสาทสูงเด่นเหมือนปราสาทอื่น จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่ปราสาทนิโจก็มีส่วน “พระราชสำนักป้อมปราการส่วนด้านนอก NINOMARUGOTEN” หรือ ส่วนที่ผสมผสานกันระหว่างญี่ปุ่นและยุโรป ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของสถานที่ต่างๆ ได้
โดยการเดินทางไปปราสาทนิโจนั้น เดินออกจากโรงแรมไปทางขวามือ เดินไปเรื่อยๆ และเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดงแรก จากนั้นก็ตรงไปอีกซักพักก็จะออกมาสู่ถนนใหญ่「HORIKAWA DORI」ให้เดินไปทางซ้าย ก็จะเจอทางเข้าปราสาทเลยค่ะ ค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 600 เยน
อีกหนึ่งสถานที่แนะนำก็คือ “นิโจจินยะ”『NIJO JINYA』
ซึ่งเป็นที่พักของพระราชาเมื่อเดินทางมายังเมืองเกียวโต มีการคิดค้นกลไกเพื่อรักษาความปลอดภัยมากมายอย่างเช่น บันไดลับ มีจุดกลไกหลอกเพื่อให้ซามุไรได้ต่อสู้กับศัตรู ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในบ้านนินจา เป็นสาเหตุให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาตินั่นเอง
“นิโจจินยะ”『NIJO JINYA』ที่สามารถเดินจากโรงแรมประมาณ 10 นาทีนี้จะเปิดให้ทัวร์ชมด้านในวันละ 4 รอบ โดยทัวร์จะเริ่มเวลา 10.00・11.00・14.00・15.00 น.（ราคา 1000 เยน）ซึ่งการเช่าชมจะต้องจองล่วงหน้าเอาไว้ก่อน ติดตามรายละเอียดได้ทางเว็ปไซต์
ตอนนี้ก็ได้เวลาเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม “เออร์เบิน โฮเต็ล เกียวโต นิโจ พรีเมียม”「URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM」แล้วค่ะ สามารถเช็คเอาท์ที่ฟร้อนท์หรือเครื่องเช็คเอาท์ที่อยู่ตรงข้ามฟร้อนท์ได้เลยค่ะ โดยกดไปที่「English」บนหน้าจอ จากนั้นกด「Check Out」และใส่คีย์การ์ดเข้าไป เท่านี้ก็เรียบร้อย ง่ายมากๆ ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีเลยค่ะ
เราจะเดินทางกลับในเที่ยวบิน 17:35 เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางไปสนามบิน เราจะแวะเดินเที่ยว ทานข้าว และช้อปปิ้งที่โอซาก้ากันซักหน่อย จาก “เออร์เบิน โฮเต็ล เกียวโต นิโจ พรีเมียม”「URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM」ไปโอซาก้านั้น เราสามารถเดินทางจากสถานีเกียวโต ด้วยสาย JR SAGANO โดยนั่งรถไฟด่วน(ใหม่) จากสถานีเกียวโตจะสะดวกที่สุด
ออกจากโรงแรมไปทางขวามือ เดินตรงผ่านสี่แยกแรกไป จากนั้นก็จะเห็นแยกที่มีสถานีนิโจอยู่ขวามือเลย
เมื่อถึงสถานีแล้วก็ไปซื้อตั๋วกันก่อนเลย ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วก่อน ตั๋วรถไฟไปสถานีโอซาก้าจะอยู่ที่ 840 เยน จากนั้นก็กด English บนหน้าจอ และกด Purchase Tickets ตามด้วย 840 เยน ใส่เงินเข้าไปในเครื่องเท่านี้ก็เรียบร้อย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านช่องตรวจตั๋วเข้าไปแล้วก็จะเจอบันไดเลื่อนอยู่ตรงหน้า เมื่อขึ้นไปแล้วก็จะเป็นชานชาลาของสายซางาโนะ SAGANO รถไฟจะวิ่งชั่วโมงละ 5 เที่ยว ซึ่งรถไฟที่ออกจากชานชาลา 2 ทุกขบวนจะมีสถานีปลายทางเป็นสถานีเกียวโตเพราะฉะนั้นขึ้นขบวนไหนก็ได้เลยค่ะ แต่มีข้อควรระวังว่า รถไฟที่ออกทุกๆ นาทีที่ 2 จะเป็นรถไฟแบบด่วนพิเศษที่ต้องจ่ายเพิ่มนะคะ
จากสถานีนิโจ ไปสถานีเกียวโต ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น โดยลงรถไฟที่สถานีเกียวโตแล้วก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ เมื่อเดินตรงไปเรื่อยๆ เราจะเจอบันไดเลื่อนอยู่ขวามือ ขึ้นไปชั้นบนและเดินไปทางขวามือเลย เดินไปจนถึงชานชาลาหมายเลข 4・5 แล้วก็ลงบันไดเลื่อนไปเลย
เราจะต้องขึ้นรถไฟไปโอซาก้าที่ชานชาลาหมายเลข 4・5 จากเกียวโตไปโอซาก้าจะใช้เวลาในการเดินทางไม่ถึง 30 นาที โดยขึ้นรถไฟแบบด่วน(ใหม่) ที่ชานชาลาหมายเลข 5 ที่จะวิ่งชั่วโมงละ 4 เที่ยว เมื่อนั่งรถไฟแบบด่วน(ใหม่) ออกจากสถานีเกียวโตไปซักพักก็จะผ่าน สถานีทาคาสึกิ และสถานีชินโอซาก้า เพียง 2 สถานีก็ถึงสถานีโอซาก้าเลย
เรายังเหลือเวลาอีก 6 ชั่วโมงครึ่งก่อนกลับไทย และมีเวลาอีก 3 ชั่วโมงก่อนไปสนามบิน ถึงจะเหลือเวลาอีกไม่มาก แต่ก็จะกิน เที่ยว ช้อป ที่โอซาก้าให้เต็มที่ไปเลย ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪
【ตารางการเดินทาง Day4-1 URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM/KYOTO STATION/OSAKA STATION】
Sponsored by URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM