ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-1 ออกเดินทางจากประเทศไทย มาถึงญี่ปุ่นที่นาโกย่า เพื่อเดินทางไปยังเมืองเก่าแก่ “ฮิดะฟุรุคาวะ” ตามรอยภาพยนต์อนิเมะเรื่อง “คิมิโนะนาวะ”「KIMINONAWA」
NAGOYA–HIDAFURUKAWA-HIDATAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-TOYAMA-KUROBE・KYOUKOKU-YUKINOOTANI-TOYAMA-NAGOYA
ทริปในครั้งนี้ของเราคือ ทริปท่องเที่ยว ฮิดะ HIDA ชิราคาวะโกะ SHIRAKAWAGO・คุโรเบะ KUROBE・ALPINE ROUTE และ นาโกย่า NAGOYA
ก่อนอื่นก็ออกจากสุวรรณภูมิเพื่อไปลงที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ซึ่งเราสามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษ 「WIDE VIEW HIDA」จากสนามบิน ที่เป็นรถไฟที่ออกมาในภาพยนต์อนิเมะที่โด่งดังมากๆ ในช่วงก่อนอย่างในเรื่อง「KIMINONAWA」 “คิมิโนะนาวะ” หรือชื่อไทย “หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ” เพื่อนั่งรถไฟชมวิวธรรมชาติตลอดสองข้างทางและ เดินเที่ยวในเมือง “ฮิดะฟูรุคาวะ”「HIDA FURUKAWA」เมืองที่เป็นฉากในภาพยนต์เรื่องนี้
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสู่ “ฮิดะฟูรุคาวะ” กันค่ะ
เริ่มทริปนี้ด้วยสนามบินสุวรรณภูมิ และไปลงที่ สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ใกล้นาโกย่า ที่เป็นเกทเวย์ของทริปท่องเที่ยว「DRAGON ROUTE」ทั้ง ฮิดะทาคายาม่า HIDA TAKAYAMA・คุโรเบะ KUROBE และ ALPINE ROUTE ของเราในครั้งนี้
ซึ่งเที่ยวบินตรงระหว่างสุวรรณภูมิและสนามบินชูบุเซ็นแทรร์นั้น สายการบินไทยที่ร่วมกับสายการบินญี่ปุ่น จะบินทุกวันวันละ 3 เที่ยว
ซึ่งเราสามารถเช็คราคาของสายการบินต่างๆ หรือเปรียบเทียบเวลาและราคาของแต่ละสายการบินได้จากเว็บไซต์「Sky Scanner」เพื่อเช็คราคาตั๋วเครื่องบินตามความต้องการของท่าน อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย จองตั๋วราคาถูก! เที่ยวญี่ปุ่นอย่างสบายใจด้วยตั๋วที่ราคาถูกกว่าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
ซึ่งการเดินทางไปนาโกย่านี้จะไม่มีสายการบิน LCC อย่าง「AIR ASIA」「NOK SCOOT」ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้เดินทางไปโอซาก้าหรือโตเกียว ดังนั้นส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ราคาประมาณ สองหมื่น บาท หากต้องการที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นในราคาที่ถูกกว่าก็แนะนำเป็นสายการบิน AIR CHINA เพื่อเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน, KOREAN AIR เพื่อไปเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลี SINGAPORE AIRLINES เพื่อไปเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ หรือ CATHAY PACIFIC เพื่อไปเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง เหล่านี้จะเป็นสายการบินที่ราคาถูกลงมาหน่อย คืออยู่ที่ประมาณ 1 หมื่น 5 พันเยน ซึ่งสายการบินเหล่านี้ก็เป็นสายการบินชั้นนำ ถึงจะใช้เวลานานกว่าแต่ก็ราคาถูกกว่าเที่ยวบินตรงนะคะ
ซึ่งวันนี้เราได้เลือกเดินทางของสายการบินไทย ราคาอยู่ที่ไปกลับประมาณ 17000 บาท แถมยังบินกลางคืนด้วย มีเวลาเที่ยวเต็มที่เลย
สำหรับผู้โดยสารชั้น ECONOMY โดยปกติแล้วก็จะต้องไปเช็คอินที่ช่อง H/J แต่ถ้าหลังเวลา 3 ทุ่มสายการบินไทยเที่ยวบินสู่ญี่ปุ่นและเกาหลีจะต้องเช็คอินที่ช่อง C ค่ะ ระวังอย่าต่อแถวผิดนะคะ ลองเช็คให้ดีๆ ก่อนนะคะจะได้ไม่ต้องเสียเวลา
หากเช็คอินด้วยตัวเองก่อนที่ตู้ SELF CHECK-IN โดยเลือกที่นั่งและ ปริ้นท์ Boarding Pass เอาไว้ก่อน ก็สามารถไปต่อแถว Bag Drop เคาน์เตอร์ที่แถวสั้นกว่า เพื่อฝากกระเป๋าเท่านั้น
อ่านรายละเอียดการเช็คอิน และการเดินทางออกนอกประเทศ คลิ๊กเลย ! Day1-1 เริ่มต้นการเดินทางทริปโอซาก้า เกียวโตจากสนามบินคันไซ เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ตึก「ABENO HARUKAS」สูง 300 เมตร !
เที่ยวบินของสายการบินไทยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประตู C หรือ E ซึ่งเมื่อผ่านตม. เข้ามาแล้ว ประตูจะอยู่ห่างออกไป 7-15 นาทีเพราะฉะนั้นรีบไปที่เกทไว้ก่อนก็ดีนะคะ เครื่องที่ถูกใช้บินไปนาโกย่าจะเป็นเครื่อง B777 เมื่อเทียบกับเครื่องลำใหญ่ที่มีที่นั่งกว่า 10 แถว แบ่งเป็น 3-4-3 แล้วลำนี้จะมีทางเดินกว้างกว่านิดหน่อย เพราะว่ามีแค่ 9 แถว แบ่งเป็น 3-3-3 นั่งไปได้แบบสบายๆ โดยจะใช้เวลาเดินทางไปนาโกย่า 5 ชั่วโมงค่ะ
เดินทางจากกรุงเทพตอนกลางคืน และมาถึงที่สนามบินชูบุในตอนเช้า ช่วงเช้าก็จะมีสายการบินเอเชียต่างๆ ลงจอดอยู่เรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศภายในสนามบินจะคึกคักเป็นพิเศษ เมื่อเข้าประเทศมาแล้วก็ผ่านตม. รับการเป๋า และผ่านศุลกากร ซึ่งตอนผ่านศุลกากรจะต้องกรอกแบบสอบถามก่อนเพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ตอนผ่านศุลกากรค่ะ โดยจะต้องกรอกข้อมูลให้ครบทั้งที่อยู่โรงแรม เบอร์โทรศัทพ์ กรอกให้ครบนะคะจะได้ไม่มีปัญหา ผ่านไปได้อย่างฉลุยเลยค่ะ
ซึ่งสถานที่แรกของทริปก็คือ “ฮิดะฟูรุคาวะ”「HIDA FURUKAWA」โดยนั่ง รถไฟเมเทสึ MEITETSU เพื่อไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานีนาโกย่า และนั่งรถไฟ JR TAKAYAMA LINE รถด่วนพิเศษ「WIDE VIEW HIDA」ไปฮิดะฟูรุคาวะกันค่ะ
ก่อนอื่นก็ออกจากประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ไปทางซ้ายมือ เดินไปประมาณ 50m จนถึงสามแยก จากนั้นเลี้ยวไปทางขวามือ ลงไปตามทางสโลปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับสถานีรถไฟเมเทสึ MEITETSU ที่จะมุ่งหน้าไปสู่ ตัวเมืองนาโกย่า และกิฟุ GIFU
ที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์จะมีรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ตัวเมืองนาโกย่าอยู่ 3 แบบ คือ 「LIMITED EXPRESS μ SKY」「LIMITED EXPRESS」「SEMI-EXPRESS」โดยแต่ละอย่างจะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว ซึ่งรถไฟ「LIMITED EXPRESS μ SKY」จะใช้เวลาในการเดินทางไปสถานีนาโกน่า 28 นาที หากต้องการนั่ง「LIMITED EXPRESS」「SEMI-EXPRESS」ที่ไม่เสียเงินพิเศษก็สามารถซื้อได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลย ส่วน「LIMITED EXPRESS μ SKY」นั้นจะต้องซื้อจากเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วค่ะ ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN เลือกเดินทางด้วย LIMITED EXPRESS μ SKY ซึ่งตอนที่เราไปคือเดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ.2561 เป็นช่วงที่ยังไม่สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมเงินสดเอาไว้ด้วยนะคะ ราคาตั๋วไปนาโกย่าจะอยู่ที่ 870 เยน ซึ่งในกรณีของ LIMITED EXPRESS μ SKY นั้นจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 360 เยนเป็นค่าตั๋วขึ้นรถและสำหรับเลือกที่นั่งค่ะ
LIMITED EXPRESS μ SKY นั้นจะต้องผ่านช่องตรวจตั๋วที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ไป และไปทางขวามือ เพื่อไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลาหมายเลข 1 โดยรถไฟ LIMITED EXPRESS μ SKY จะเป็นแบบจองที่นั่งล่วงหน้าทั้งหมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่นั่งเลยค่ะ ภายในจะเป็นที่นั่งแบบ Reclining Seat ที่นั่งนี้นั่งสบายกว่าเครื่องบินที่นั่งแบบ ECONOMY ที่ ICHIGO-CHAN นั่งมาเลย นอกจากนี้ที่นั่งรถไฟด่วนพิเศษของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ รวมถึง μ SKY นั้นจะสามารถหมุนที่นั่งได้ค่ะ คือเราสามารถหันเก้าอี้ให้หันหน้าเข้าหากันเป็น 4 คนได้ค่ะ แต่ละคันก็จะมีวิธีหมุนเก้าอี้ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนรถไฟคันนี้สามารถหมุนได้โดย การจับส่วนที่อยู่ในวงกลมสีเหลืองตามรูป จากนั้นก็ดันหมุนเก้าอี้ได้เลยค่ะ
ซึ่งในบางกรณีที่มีผู้โดยสารนั่งอยู่ด้านหน้าเอนเบาะนั่งทำให้ไม่สามารถหมุนได้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะรบกวนให้คนด้านหน้าช่วยปรับพนักเก้าอี้ให้ได้โดยพูดว่า
「SUIMASEN SUKOSHINO AIDA DAKE ZASEKI NO SEWO MODOSHITE MORATTE IIDESUKA??」
「ซูมิมาเซ็น ซูโคชิโนะไอดะ ดาเคะ ซาเซกิ โนะ เสะโอะ โมโดชิเตะ โมรัตเตะ อี้เดสก้ะ??」
(ขอโทษนะคะรบกวนปรับพนักเก้าอี้สักครู่ได้ไหมคะ??)
μ SKY จะใช้เวลาเดินทางออกมาจากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์มาสถานีรถไฟเมเทสึนาโกย่า 28 นาที เมื่อลงจากรถไฟแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่กลางชานชาลา เมื่อขึ้นมาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ เพื่อผ่านเครื่องตรวจตั๋วออกไป จากนั้นก็เดินไปทางขวา และขึ้นบันไดไปก็จะเจอทางเข้าสถานีรถไฟ JR นาโกย่า ประตู ฮิโระโคจิ HIROKOJI SIDE เข้าไปในสถานีเลย
เมื่อเข้ามาสู่สถานีแล้วก็เดินไปทางขวามือ และเดินไปตรงตามทางยาวเรื่อยๆ ประมาณ 2 นาที จะออกมาสู่ลานกว้าง ให้เดินไปทางซ้ายเพื่อไปที่ลานสถานีนาโกย่า จนออกมาสู่ลานจุดนัดพบสถานีนาโกย่า และด้านซ้ายมือจะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติอยู่ ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วรถไฟไปฮิดะฟูรุคาวะได้เลย แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ชินกับการซื้อตั๋วรถไฟที่ญี่ปุ่นก็อาจจะงงๆ นิดหน่อยค่ะ เพราะฉะนั้นให้เดินไปอีกนิดก็จะเจอเคาน์เตอร์「SHINKANSEN AND JR LINE TICKETS」อยู่ทางขวามือ เข้าไปซื้อตั๋วได้เลยค่ะ โดยพูดกับพนักงานว่า
「HIDA FURUKAWA MADE TOKKYU (จำนวนคน)MAI ONEGAI SHIMASU」
「ฮิดะฟูรุคาวะ มาเดะ ทกคิว(จำนวนคน)มัย โอเนกาอิชิมัส」
(ขอซื้อตั๋วไปฮิดะฟุรุคาวะ(จำนวนคน)ใบหน่อยค่ะ/ครับ)(ราคาตั๋วแบบที่นั่ง NON-RESERVED SEAT 5510 เยน)และสามารถจ่ายเพิ่มเพื่อเลือกที่นั่งเป็น RESERVED SEAT ได้(ช่วงเวลาปกติ 520 เยน)หากต้องการซื้อแบบจองที่นั่งก็ให้พูดคำว่า「SHITEI SEKIDE」อ่านว่า “ชิเทเซกิ” ไปในท้ายประโยคได้เลยค่ะ ตั๋วสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทั่วไปอย่างเช่น VISA Master หรือ JCB ฯลฯ
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋ว Central-North Entrance ที่อยู่ด้านข้างเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเลย จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ จนสุดทางสามแยกและเลี้ยวขวา และขึ้นบันไดก็จะเป็นชานชาลาหมายเลข 11 ของรถไฟด่วนพิเศษ EXPRESS「WIDE VIEW HIDA」ที่มุ่งหน้าไปยังที่หมายแรกของเราในวันนี้ที่ “ฮิดะฟูรุคาวะ”
ซึ่งชานชาลาข้างๆ หมายเลข 10 จะเป็นชานชาลาของรถไฟด่วนพิเศษที่มุ่งหน้าไปสู่ จังหวัดนางาโนะ ที่รถไฟจะคล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้นอย่าขึ้นผิดนะคะ ของเราต้องขึ้นชานชาลาหมายเลข 11 เท่านั้นค่ะ
ด้านหน้าขบวนหน้าตาก็จะเป็นแบบนี้เลยค่ะ ด้านหน้าเป็นกระจกที่สามารถชมวิวได้ เป็นรถไฟแถบสีส้มรถไฟด่วนพิเศษ LIMITED EXPRESS「WIDE VIEW HIDA」จะใช้เวลาเดินทางจากนาโกย่าไปทาคายาม่าประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที ถึง 3 ชั่วโมง และจะมุ่งหน้าไปสู่ KUROBE GORGE R หรือ ทาคายาม่าที่เป็นเกทเวย์ของ ALPEN ROUTE ประมาณ 4 ชั่วโมง(ชึ้นอยู่กับชนิดของรถไฟ)
ถึงแม้ว่าด้านในจะมีตู้กดน้ำอัตโนมัติอยู่ แต่ภายในรถไฟจะไม่จำหน่ายอาหาร เพราะฉะนั้นซื้อ「EKIBEN」อ่านว่า “เอกิเบ็น” ข้าวกล่องสถานีจากร้านค้าภายในชานชาลาและเครื่องดื่มจากร้านสะดวกซื้อเอาไว้ทานอาหารภายในรถไฟก็เป็นอีกหนึ่งความเพลิดเพลินของทริปนะคะ
ซึ่งตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ โดยทั่วไปของญี่ปุ่นจะ “ข้าวกล่องสถานี”「EKIBEN」อ่านว่า “เอกิเบ็น” ที่ขึ้นชื่อของแต่ละพื้นที่จำหน่ายอยู่ ซึ่งข้าวกล่องขึ้นชื่อของนาโกย่าที่เรากำลังจะขึ้นรถไฟ WIDE VIEW HIDA ก็คือ “ฮิสึมาบุชิ เบ็นโตะ”「HITSUMABUSHI BENTO」(1600 เยน)หรือ ข้าวกล่องจากเนื้อมาสึซากะ “มาสึซากะกิวยากินิคุเบ็นโตะ”「MATSUZAKAGYU YAKINIKU BENTO」(1300 เยน)แต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้นเลย
หลังจากที่เราซื้ออาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นรถไฟ『WIDE VIEW HIDA』กันเลย ที่นั่งจะเป็นสีส้มสดใส และลักษณะเด่นของรถไฟนี้ก็คือหน้าต่างบานใหญ่สมชื่อ「WILD VIEW」เลยค่ะ
WIDE VIEW HIDA LIMITED EXPRESS นี้จะมีทั้งส่วนที่เป็น แบบไม่จองเลขที่นั่งล่วงหน้า NON-RESERVED SEAT และส่วน จองเลขที่นั่งล่วงหน้าRESERVED SEAT เพราะฉะนั้นต้องดูป้ายโบกี้ว่าเป็นโบกี้ที่นั่งแบบไหนค่ะ
ส่วนรถ「WIDE VIEW HIDA NO.5」ที่ ICHIGO CHAN นั่งวันนี้ แบบไม่จองเลขที่นั่งล่วงหน้า NON-RESERVED SEAT จะอยู่ที่โบกี้ที่ 5 ค่ะ
เป็นที่นั่งแบบปรับหมุนได้แบบเดียวกับ μ SKY เลยค่ะ ทั้งสองข้างทางก็จะมีวิวธรรมชาติ บรรยากาศบ้านเมืองของญี่ปุ่นให้ได้ชมตลอดทาง ถ้าอากาศดีก็จะได้เห็นดอกไม้ต่างๆ ที่กำลังบานอยู่ในช่วงนี้ด้วยค่ะ
รถไฟเริ่มออกตัวแล้ว
รถไฟของญี่ปุ่นนี้ถึงจะเป็นรถไฟระยะทางยาว หรือใช้เวลานาน จะถึงที่หมายแบบตรงเวลามากๆเลยค่ะ ถ้าช้าไปแค่ 1 นาที เจ้าหน้าที่ก็จะออกมาประกาศขอโทษที่ถึงล่าช้าด้วยค่ะ แค่ 1 นาทีเท่านั้นก็ไม่เว้นเลยค่ะ
และเมื่อเราออกมาจากนาโกย่าซักพัก ก็จะเป็นวิวอาคารบ้านเรือนต่อเนื่องยาว ซึ่งสถานีต่อไปก็คือสถานีกิฟุ GIFU ซึ่งรถไฟขบวนนี้จะไปเชื่อมกับรถไฟที่มาจากโอซาก้า「WIDE VIEW HIDA NO.25」ที่สถานีกิฟุเพื่อมุ่งหน้าไปยังฮิดะฟุรุคาวะค่ะ
แนะนำว่าถ้านั่งรถไฟด่วนพิเศษ WIDE VIEW HIDA ให้นั่งทางฝั่งขวาค่ะ เพราะว่าถ้าออกจากสถานีกิฟุ ต่อจากสถานีนาโกย่า มาซักพักเราก็จะเห็นวิวธรรมชาติ ทั้งทุ่งหน้า แม่น้ำลำธาร ภูเขา ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูต่างๆ ก็จะได้เห็นธรรมชาติในแต่ละฤดูด้วย ทั้งซากุระในฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่สีเขียวในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาวค่ะ
ชมวิวรอบๆ ไปเรื่อยๆ และแล้วเราก็มาถึงที่หมายแล้วค่ะ ออกจากนาโกย่ามา 3 ชั่วโมง ตอนนี้เราก็มาถึงที่สถานีฮิดะฟูรุคาวะกันแล้ว ที่นี่เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนาน เป็นเมืองเก่าที่มีเอกลักษณ์ และที่สำคัญเป็นเมืองที่เป็นฉากในภาพยนต์อนิเมะที่โด่งดังมากๆ ในช่วงก่อนอย่างในเรื่อง「KIMINONAWA」 “คิมิโนะนาวะ” หรือชื่อไทย “หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ” เหล่าแฟนๆ ต่างเดินทางมาเพื่อมาสัมผัสบรรยากาศให้เหมือนเป็นหนึ่งในตัวละครกันอย่างคับคลั่ง
ออกจากสถานีไปทางขวา และก็ขึ้นทางข้ามสะพานยกสูงที่อยู่ข้างสถานี ขึ้นบันไดที่อยู่ขวามือไปเลย และลองไปส่องหน้าต่างที่อยู่ระหว่างทางเชื่อมสะพานดู ก็จะได้วิวแบบนี้เลยค่ะ พอจะจำได้ไหมคะ ?
ถ้าใครเคยดู “คิมิโนะนาวะ”「KIMINONAWA」ก็คงจะจำกันได้ว่า วิวนี้เป็นฉากหนึ่งในหนังที่ถูกนำไปเป็นฉากขึ้นโปสเตอร์โปรโมทด้วย นอกจากฉากนี้แล้ว ภายในเมืองยังมีหลายๆ ที่ที่เป็นฉากในภาพยนต์อนิเมะเรื่อง “หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ/คิมิโนะนาวะ”「KIMINONAWA」อยู่อีกมากมาย
และเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมสถานีต่างๆ ภายในเมืองเก่า “ฮิดะฟุรุคาวะ” นี้พร้อมตามรอยภาพยนต์อนิเมะเรื่อง “คิมิโนะนาวะ”「KIMINONAWA」กันค่ะ
รอติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day1-1 BANGKOK SUVANABHUMI AIRPORT/CHUBU INTERNATIONAL AIRPORT/NAGOYA STATION/HIDA-FURUKAWA STATION】