ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-1 รีวิวสถานที่ที่เป็นฉากจำลองภาพยนตร์ย้อนยุคญี่ปุ่นที่「TOEI KYOTO STUDIO PARK」หรือ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค
OSAKA-KYOTO-OSAKA-AMANOHASHIDATE-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ไป ABENO HARUKAS และ SHINSEKAI ต่อด้วยโดทงโบริแล้ว วันนี้เราจะออกจากโอซาก้าเพื่อไปเกียวโตกันค่ะ
ICHIGO-CHAN เคยไปเกียวโตหลายรอบ ส่วนครั้งนี้เราจะเที่ยวสถานที่ที่ออกห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกียวโตอย่าง “วัดเสาแดง FUSHIMI JINJA” “วัดน้ำใส KIYOMIZUDERA” หรือ “วัดทอง KINKAKUJI” กันซักหน่อย คือเราจะไปกันที่ “โอฮาระ OHARA” และ “TOEI KYOTO STUDIO PARK” เมืองจำลองที่เป็นฉากละครย้อนยุคที่สามารถสวมชุดญี่ปุ่นถ่ายรูปได้ จากนั้นก็ไปสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเกียวโตอย่าง “อาราชิยามะป่าไผ่ ARASHIYAMA”
ส่วนวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเมืองจำลองที่เป็นฉากที่ถูกใช้จริงในละครย้อนยุคแบบญี่ปุ่น กันเป็นที่แรก ไปดูกันเลย
อาหารเช้าของโรงแรมของเราจะเริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 9 โมงครึ่ง ห้องอาหารเช้าจะอยู่ที่ชั้นใต้ดิน 1F ราคาปกติจะอยู่ที่ 1300 เยนแต่ถ้าซื้อก่อนล่วงหน้าราคาจะอยู่ที่ 980 เยน ลดไปตั้ง 320 เยนเลย ก็ทานอาหารเช้าได้แบบเต็มที่
ห้องอาหารเช้ากว้างขวาง มีที่นั่งแบบโต๊ะ 4 คนเรียงเต็มไปหมด ซึ่งโต๊ะนี้สามารถเครื่องย้ายได้สำหรับแขกที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่
มาเริ่มกันที่เครื่องดื่ม มีทั้งกาแฟ ชา น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล ฯลฯ ให้เลือกมากมาย
เมนูอาหารก็มีความหลากหลาย ทั้ง ปลาย่าง ปลาแซลม่อน สลัด หรือกิมจิแบบโฮมเมด นอกจากนี้ก็มีอาหารแนวฝรั่ง กับเมนูไข่คน พาสต้า สลัดมัน หรือไส้กรอก
ข้าว หรือ ซุปมิโซะ ขนมปังก็มี …..
มี “อุด้ง” อาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าด้วย เรียกได้ว่าเมนูหลากหลาย ทานได้เต็มอิ่มตั้งแต่มื้อเช้าเลย
ช่วงนี้ ICHIGO-CHAN กินของมันๆ มาเยอะแล้ว มื้อนี้เลยเลือกเมนูสุขภาพ เลยตักสลัดมาเยอะหน่อย แล้วก็อุด้งอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้ามาอีกนิด
ก็ไม่นิดเนอะ ตักมาเยอะอีกแล้วค่ะมื้อนี้ 55555
โรงแรมโดทงโบริโฮเทลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบครบครัน จนเรียกได้ว่าโรงแรมก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของทริปนี้ไปเลย พนักงานก็ให้บริการอย่างดี แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นสิ่งจำเป็นต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ด้วย
เมื่อกินมื้อเช้าที่โรงแรมอิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลย ที่แรกที่เราจะไปในวันนี้ก็คือ 「TOEI KYOTO STUDIO PARK」หรือ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค โดยนั่งรถไฟใต้ดิน ต่อด้วย รถไฟฮันคิว สายเกียวโต HANKYU KYOTO LINE และ รถไฟอาราชิยามะ เพื่อไปที่หมายกันค่ะ ก่อนอื่นเราก็ต้องไปสถานีนัมบะเพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายมิโดซุจิ MIDOSUJI LINE กัน
ออกจากโรงแรมไปทางขวาเลยค่ะ
เมื่อออกมาจากโรงแรมไปทางขวาแล้วก็เดินไปประมาณ 2 บล๊อคเพื่อออกไปสู่ถนนสายหลักของโอซาก้า เส้นมิโดซุจิ เมื่อออกมาสู่เส้นมิโดซุจิแล้วก็เลี้ยวไปทางขวา และเดินไปอีก 2 บล๊อคเพื่อเข้าประตูรถไฟใต้ดินไปสู่ชั้นใต้ดินกันค่ะ
จากโรงแรมมาถึงตรงนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 นาที
ซื้อตั๋วเพื่อขึ้นรถไฟใต้ดินกันเลย ก่อนอื่นก็จะต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังรถไฟที่อยู่ด้านบนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ เมื่อเช็คราคาตั๋วเรียบร้อยแล้ว(กรณีของรถไฟใต้ดินโทะเอภายในโอซาก้าหรือรถไฟไปสนามบิน)ก็ใส่เงินเข้าไปใส่เครื่องก่อนเลยค่ะ จากนั้นก็กดคำว่า「Ticket」และกดจำนวนเงินที่อยู่ด้านล่างบนหน้าจอ จากสถานีนัมบะไปไปสถานีอุเมดะที่มีชานชาลา สถานีรถไฟฮันคิว HANKYU ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 230 เยน
เราสามารถเช็คราคาตั๋วรถไฟได้ก่อนล่วงหน้าจากสมาร์ทโฟนเพียงแค่ใส่สถานีต้นทาง และสถานีปลายทางเท่านั้น ได้ไม่ยาก อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว
นอกจากนี้ถ้าไปกันเป็นกลุ่มใหญ่เกิน 10 คนก็สามารถซื้อตั๋วแบบตั๋วคูปอง 回数券 KAISUUKEN หรือไคซูเค็นได้ในราคาที่คุ้มกว่า อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ มันคืออะไรไปดูกันเลย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ผ่านช่องตรวจตั๋วเข้าไปข้างในกันเลย เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วไปแล้วจะมีบันไดลงทั้งซ้ายและขวา ให้ลงบันไดจากทาง「ด้านซ้าย」และเมื่อลงบันไดมาแล้วก็จะเข้ามาสู่ชานชาลาของรถไฟใต้ดิน โดยนั่งสายมิโดซุจิไปเพียง 4 สถานีใช้เวลา 8 นาทีเพื่อไปลงที่สถานีอุเมดะที่มีชานชาลารถไฟฮันคิว HANKYU กันค่ะ
เมื่อถึงสถานีอุเมดะแล้วก็เดินไปทางด้านหน้าเพื่อขึ้นบันได และออกจากช่องตรวจตั๋ว เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้วเดินไปทางขวาซักพัก ก็จะเจอลานกว้างเล็กๆ เราจะเห็นบันไดเลื่อนที่จะมุ่งหน้าไปสู่รถไฟฮันคิว สถานีอุเมดะอยู่ทางซ้ายมือ เพราะฉะนั้นขึ้นบันไดเลื่อนไปเลยค่ะ เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้วก็จะมาสู่ลานจุดนัดพบหน้าช่องตรวจตั๋ว ของสถานีฮันคิวอุเมดะ
ไปซื้อตั๋วกันก่อนเลยค่ะ
ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลยค่ะ ราคาตั๋วไปสถานีไซอิน SAIIN STATION เพื่อเปลี่ยนเป็นรถไฟอาราชิยามะ ราคาจะอยู่ที่ 400 เยน เมื่อเช็คราคาตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ใส่เงินเข้าไปที่เครื่องจำหน่ายตั๋วก่อนเลย แม้ว่าเครื่องจำหน่ายตั๋วของรถไฟฮันคิว HANKYU ส่วนใหญ่จะมีแต่ภาษญี่ปุ่นเท่านั้นแต่หลังจากใส่เงินเข้าไปแล้วหน้าจอจะแสดงจำนวนเงินออกมาทันทีเฉพาะฉะนั้น แค่กดจำนวนเงินตามที่ได้เช็คเอาไว้เท่านั้นก็สามารถซื้อตั๋วได้เลย
และที่ด้านข้างหน้าจอจะมีปุ่มที่เป็นรูปคนอยู่ หากเลือกปุ่มนี้เราจะสามารถซื้อบัตรได้จำนวนสูงสุดถึง ผู้ใหญ่ 3 คน พร้อมกับเด็ก 2 คนได้พร้อมกับ
รถไฟฮันคิวก็เหมือนกับรถไฟใต้ดิน ตรงที่เราสามารถซื้อตั๋วในกรณีที่ไปกันเป็นกลุ่มใหญ่เกิน 10 คนก็สามารถซื้อตั๋วแบบตั๋วคูปอง 回数券 KAISUUKEN หรือไคซูเค็นได้ในราคาที่คุ้มกว่า อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ มันคืออะไรไปดูกันเลย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ผ่านเครื่องตรวจตั๋วเพื่อเข้าไปข้างในเลยค่ะ ที่สถานีไซอินที่เราจะไปนี้ สามารถไปได้ทั้งรถไฟแบบธรรมดา(จอดทุกสถานี)และรถไฟจอดบางสถานี(ช้ากว่ารถไฟแบบด่วนแต่เร็วกว่ารถไฟธรรมดา) หรือจะนั่งแบบรถไฟด่วนพิเศษแล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟธรรมดาระหว่างทางก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าเทียบกันแล้ว รถไฟแบบจอดบางสถานี ถึงจะช้ากว่า แต่เราก็สามารถนั่งไปแบบชิวๆ ได้ ใช้เวลาเดินทางต่างกันเพียง 10 นาทีเท่านั้น
ทั้งรถไฟด่วนพิเศษ และ รถไฟแบบจอดบางสถานี แต่ละชนิดจะวิ่งวันละ 6 เที่ยวทุกๆ นาทีที่ 10 ซึ่งครั้งนี้ ICHIGO-CHAN เลือกเป็น รถไฟแบบจอดบางสถานี ค่ะ รถไฟจะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 3
เมื่อถึงสถานีไซอินแล้ว ก็ออกจากช่องตรวจตั๋วจากบริเวณท้ายๆ เลย เมื่อออกจากสถานีเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นบันไดหรือลิฟต์ที่อยู่ด้านซ้ายมือเพื่อขึ้นไปด้านบนเลย
เมื่อออกจากสถานีอินไซแล้ว เดินข้ามแยกไฟแดงไป และข้ามถนนไปทางซ้ายอีกรอบ เมื่อข้ามมาแล้วก็เดินไปทางขวามือค่ะ และตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 นาที เดินไปซักพักก็จะเจอกับทางข้ามรางรถไฟ แต่ไม่ต้องข้ามรางรถไฟนะคะ ซ้ายมือของเราจะคือ รถไฟอาราชิยามะ(RANDEN หรือ รันเด็น)สถานีไซอินค่ะ
รถไฟอาราชิยามะเป็นรถไฟน่ารักๆ ที่วิ่งแค่หนึ่งโบกี้เท่านั้น และวิ่งทุกๆ 10 นาที เราจะต้องนั่งรถไฟอาราชิยามะที่มุ่งหน้าไปสู่อาราชิยามะ ไป 5 สถานี ใช้เวลา 10 นาที เพื่อไปลงที่สถานี อุซุมาซะ โคริวจิ UZUMAZA-KORYUJI ที่ใกล้ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค「TOEI KYOTO STUDIO PARK」มากที่สุด
รถไฟอาราชิยามะจะออกจากสถานีอาราชิยามะ ARASHIYAMA สถานีชิโจโอมิยะ SHIJO-OMIYA และสถานีคิตาโนะ ฮากุไบโจ KITANO-HAKUBAICHO ซึ่งนอกจากสถานีที่ได้กล่าวไปจะเป็นสถานีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการสถานีค่ะ วิธีขึ้นรถไฟก็เหมือนกับรถบัสเลยค่ะ คือขึ้นจากประตูด้านหลัง และลงจากประตูด้านหน้า เวลาลงรถไฟก็จ่ายเงินที่กล่องใส่เงินที่อยู่ทางออกรถไฟ(220 เยน)ซึ่งที่สถานีอาราชิยามะ ARASHIYAMA สถานีชิโจโอมิยะ SHIJO-OMIYA และสถานีคิตาโนะ ฮากุไบโจ KITANO-HAKUBAICHO จะมีตั๋วแบบ「Randen One-day Pass」(500 เยน)และ 「Randen and Toei Kyoto Studio Park Set Pass」ตั๋วรถไฟ 2 ใบพร้อมบัตรเข้าชม Toei Kyoto Studio Park(2300 เยน)จำหน่ายอยู่ในแต่ละสถานีที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น เพราะฉะนั้นถ้าต้องการจะซื้อตั๋วสุดคุ้มเหล่าก็จะต้องไปซื้อที่สถานีใดสถานีหนึ่งใน 3 สถานีที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นค่ะ
เมื่อลงที่สถานี อุซุมาซะ โคริวจิ UZUMAZA-KORYUJI แล้ว ก็ออกจากสถานีไปข้ามทางม้าลายที่สี่แยกไปทางขวามือ เมื่อข้ามมาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ เดินเรียบไปทางรั้ววัดโคริว KORYUJI ไปเรื่อยๆ ซักพักก็จะเจอกับแยก(มีร้านสะดวกซื้อ FAMILYMART เป็นสัญลักษณ์)ให้เลี้ยวไปทางซ้ายและเดินไปประมาณ 3 นาที เราจะเจอตึก「TOEI KYOTO STUDIO PARK」หรือ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค ขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ
『TOEI KYOTO STUDIO PARK』หรือ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค บัตรค่าเข้าชมราคา 2200 เยน(อายุ 13-18 ปี ราคา 1300 เยน・3 ปี-12 ปี ราคา 1100 เยน)
จุดจำหน่ายบัตรเข้าชมจะอยู่ข้างทางเข้าเลย ไปซื้อตั๋วกัน สามารถชำระเงินได้ด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิต VISA、MASTER หรือ JCB และสามารถใช้ UNIONPAY ได้เช่นกัน ภายในจะมีเครื่องเล่นต่างๆ ที่ต้องเสียงครั้งละ 500 เยน แต่เราสามารถซื้อบัตรแบบชุดละ 4 ใบได้ในราคา 1600 เยน(ตกใบละ 400 เยน)ถ้าใครมีแผนว่าจะเล่นเครื่องเล่นด้วยก็สามารถซื้อบัตรแบบชุดไปได้เลยนะคะ ลองเช็คข้อมูลล่วงหน้าได้ทางเว็ปไซต์เลย
「TOEI KYOTO STUDIO PARK」หรือ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค นี้เป็นสถานที่
ส่วนหนึ่งในบริษัทผลิตภาพยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น โดยใช้ส่วนหนึ่งของพื้นที่ถ่ายทำ โทเออิ เกียวโตเพื่อเปิดเป็นสถานที่ที่มีคอนเซปท์「ชมสถานที่ถ่ายทำ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งเครื่องเล่น และอีเว้นท์หรือฉากในภาพยนตร์」(โดยเฉพาะภาพยนตร์ย้อนยุค)
ก็คือ เป็นสถานที่จำลองญี่ปุ่นสมัยก่อนเพื่อใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ หรือ สตูดิโอรายการ ที่มีนักรบซามุไร หรือ นินจา เป็นตัวละคร ในละครแบบย้อนยุค ที่ปัจจุบันก็ยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำและสามารถชมระหว่างการถ่ายทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังเปิดให้คนทั่วไปสามารถใส่ชุดยูกาตะ หรือ กิโมโน ถ่ายรูปคู่กับฉากต่างๆ ภายในนั้นได้เช่นกัน
เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็จะเห็น『TOEI ANIME GALLERY』เป็นอย่างแรก
ที่ TOEI นี้นอกจากจะมีฉากถ่ายทำภาพยนตร์แล้ว ยังมีการผลิตวัตถุดิบของอนิเมะหรือคาแรคเตอร์ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ผลงานของโทเออิ ก็จะมีตั้งแต่แบบเก่าอย่าง มาสค์ไรเดอร์ หรือ อุลต้าแมนที่รับช่วงต่อมากจากบริษัทผลิตภาพยนตร์ TSUBURAYA PRODUCTION ส่วนผลงานใหม่ๆ ก็คือ 「พริตตี้เคียว」เป็นต้น
มีการจัดแสดงที่มีทั้งอุปกรณ์จริงของพริตตี้เคียว ฟิกเกอร์มาสค์ไรเดอร์หรือโปสเตอร์และเซลอนิเมชั่น
เมื่อผ่าน「TOEI ANIME GALLERY」ไปก็จะออกมาสู่ด้านนอกอาคาร ที่สามารถเดินชมบรรยากาศโดยรอบเมืองญี่ปุ่นสมัยก่อน ไปพร้อมๆกับถ่ายรูปคู่กับพนักงานแต่งตัวเป็นตัวละครต่างๆ
ICHIGO-CHAN ได้ถ่ายรูปคู่กับซามุไรและผู้หญิงญี่ปุ่นสมัยก่อนด้วย♪
ภายใน「TOEI KYOTO STUDIO PARK」หรือ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค ทั้งหมดนั้นมีการใช้วัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพทำให้ฉากจำลองที่ถูกทำขึ้นมาดูดีและสมจริงมากๆ
ซึ่งฉากส่วนใหญ่ของที่นี่สามารถเข้าไปถ่ายรูปด้านในได้ด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้อยู่ในฉากหนังเลย ถ่ายรูปลงโซเชียลซะหน่อยไลค์ต้องเยอะแน่ๆ เพราะฉะนั้นไหนๆ ก็มาแล้วแนะนำว่าให้ใส่ชุดกิโมโนหรือยูกาตะมาถ่ายเลยค่ะ
ภายในนี้ก็จะมี『Costume Photo Shop』ให้ได้ยืมทั้งชุดยูกาตะ กิโมโน ชุดนินจาหรือชุดผู้หญิงญี่ปุ่นสมัยก่อน ที่มีให้เลือกมากถึง 40 แบบเลยทีเดียว
สามารถเลือกแพลนต่างๆ ได้ตั้งแต่ Level 30 (เฉพาะถ่ายรูป ตั้งแต่ 1900 เยน-ขึ้นอยู่กับชุด)ไปจนถึง Level 100 ที่มีการแต่งหน้าจากช่างแต่งหน้ามือโปร ถ่ายรูป และสามารถเดินไปรอบๆ ได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เลือกแพลนที่เข้ากับเราได้เลย
ถ้าเลือก Level 100 ก็จะสามารถแต่งเป็นไมโกะได้แบบจัดเต็มเหมือนในภาพเลย อีกทั้งยังได้ถ่ายรูปโดยช่างภาพมืออาชีพ และเดินรอบๆ บริเวณนี้ สามารถถ่ายรูปคู่กับฉากต่างๆ ได้แบบเต็มอิ่ม 1 ชั่วโมงเลย
ค่าใช้จ่ายที่แต่งเป็นไมโกะแบบนี้จะอยู่ที่ 12,000 เยน
ภายในนี้เราสามารถสัมผัสบรรยากาศการถ่ายทำภาพยนตร์แบบย้อนยุคของญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด โดยเราสามารถชมการแสดงต่างๆ ของนักแสดงได้โดยตรง อีกทั้งยังสามารถถ่ายรูปได้ด้วย(ในกรณีส่วนใหญ่)
ภายในนี้จะมีเครื่องเล่นอยู่บ้าง(500 เยน)ซึ่งเราจะขอยกตัวอย่างเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชางต่างชาติมา 2 อย่างคือ 「KARAKURI NINJA YASHIKI」สถานที่ที่จำลองฐานลับของเหล่านินจา แต่ละห้องก็จะมีกลอุบายต่างๆ ให้ได้แก้เพื่อไปยังห้องต่อไปเรื่อยๆ
เราจะขอเฉลยคำตอบบางส่วน คือ บางที่อาจจะมีกำแพงที่ดูธรรมดาแต่มีประตูซ่อนอยู่ อาจจะดูเหมือนว่าเป็นเกมเล็กๆเพื่อหลอกเด็กเท่านั้น แต่ทั้งผู้ใหญ่เองก็สามารถเพลิดเพลินได้ด้วย
และที่ที่จะแนะนำต่อไปก็คือ 『UZUMASA TRICKART MUSEUM』
น่าเสียดายที่เราไม่สามารถพาเพื่อนๆ ชมด้านในได้ แต่ภายในจะมี TRICK ART มากมาย ทั้งต่อสู้กับนินจา กลายเป็นยักษ์ TRICK ART ที่เป็นภาพลวงตาต่างๆ มากมาย อีกทั้งยังสามารถถ่ายรูปอัพลงโซเชียลได้ตามต้องการเลยค่ะ
「KARAKURI NINJA YASHIKI」และ「UZUMASA TRICKART MUSEUM」นี้จะต้องเสียค่าเข้าด้วย สามารถซื้อบัตรแบบชุดได้ที่ทางเข้าเลย(4 ใบ 1600 เยน)
ถ้ามากัน 4 คนพอดีก็สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ 1 อย่างที่ถูกลงไป 100 เยนต่อใบเลย ถ้าใครมีเครื่องเล่นที่สนใจอยู่ก็อย่าลืมซื้อตั๋วกันด้วยนะคะ
หลังจากได้ถ่ายรูป ได้เล่นเครื่องเล่นต่างๆ แล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารกลางวันกันแล้วค่ะ โดยเราจะมุ่งไปที่สถานที่ยอดนิยมของเกียวโตที่อาราชิยามะกันเลย
ที่ใกล้ๆ ทางออกมีร้านขายของฝาก ที่จำหน่ายสินค้าต่างๆ มากมายหลายรูปแบบ ทั้งขนมขึ้นชื่อของเกียวโตอย่าง「ยาสึฮาชิ」(1080円)และ「มัทฉะคุกกี้」(1080เยน)หรือจะเป็น 「ดาบซามุไรพเนจร」(42,800 เยน)นอกจากนี้ก็มี「แคนดี้ดาวกระจาย」(380円)ที่เป็นสินค้าเฉพาะของที่นี่จำหน่ายอยู่ด้วย
นอกจากนี้ก็มีตู้กาชาปองด้วย มีกาชาปองของคุมะมงที่ไม่เกี่ยวกันเลยด้วย
「TOEI KYOTO STUDIO PARK」หรือ โทเออิ เกียวโต สตูดิโอ พาร์ค นี้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับฉากที่ถูกในจริงในรายการทีวีหรือภาพยนตร์ ที่จำลองมาจากเมืองสมัยก่อนของญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะไปมุมไหนๆ ก็น่าถ่ายรูปไปหมดทุกที่
ถึงแม้ว่าตอนนี้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวไต้หวัน หรือคนเกาหลี และนักท่องเที่ยวคนไทยยังไม่เยอะ แต่อยากจะแนะนำที่นี่เลยค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายรูปน่าจะชอบที่นี่กัน
ที่นี่สามารถเดินทางไปอาราชิยามะ หรือป่าไผ่ ได้แบบสะดวกมากๆด้วย ยังไงลองไปกันดูนะคะ
ครั้งต่อไปเราจะมาพาเพื่อนๆ เดินทางจาก「TOEI KYOTO STUDIO PARK」ด้วยรถไฟไป 10 นาทีเพื่อท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเกียวโตกับ “อาราชิยามะ” หรือ “ป่าไผ่” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day2-1 DOUTONBORI HOTEL/TOEI UZUMASA EIGAMURA】