“ฟูจิซัง” หรือ “ภูเขาไฟฟูจิ” ที่เป็นหนึ่งสัญลักษณ์หนึ่งที่ถือเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนกับภูเขาไฟทรงสามเหลี่ยมที่จะมีหิมะปกคลุมอยู่บนยอด โดยในหนึ่งปีจะมีหิมะปกคลุมอยู่ประมาณ 275 วัน ทำให้มองเห็นเป็นภูเขาสองสี ฐานสีฟ้าหรือน้ำเงิน และยอดเขาที่มีสีขาวเป็นเอกลักษณ์ ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของภูขาฟูจิกันอย่างล้นหลาม
ซึ่ง “ภูเขาฟูจิ” ที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นนี้ ยังเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมความเป็นที่สุดของญี่ปุ่นเอาไว้อยู่มากมาย เราไปดูพร้อมๆ กันเลย
ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น “ภูเขาฟูจิ” มีความสูงถึง 3,776 เมตร ตั้งอยู่บริเวณ จังหวัดชิซุโอกะ และ จังหวัดยามานาชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของ โตเกียว โดยสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในการท่องเที่ยวชมวิวภูเขาไฟฟูจินั้นมีอยู่มากมายดังนี้
สถานที่ชมวิวภูเขาฟูจิ
“ศาลเจ้าอาราคุระเซ็นเก็น” ที่สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามไปพร้อมๆ กับเจดีย์ห้าชั้นแบบญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังสามารถสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละฤดู โดยเฉพาะซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือ ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง แต่ก็เรียกได้ว่าสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
“ทะเลสาบคาวากูจิโกะ” ทะเลสาบที่อยู่ใกล้กับภูเขาฟูจิ ซึ่งบริเวณรอบๆ ทะเลสาบคาวากูจิโกะนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวชมความสวยงามของวิวภูเขาฟูจิ พร้อมๆ กับวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะที่สวยงามได้ในหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมให้เพลิดเพลินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การร่องเรือชมวิว ปั่นจักรยานชมวิวจากมุมต่างๆ รอบๆ ทะเลสาบ หรือนั่งกระเช้าลอยฟ้า เป็นต้น
โดยบริเวณรอบๆ นี้ยังมีโรงแรมที่พักต่างๆ มากมายที่สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากูจิโกะได้ระหว่างการเข้าพัก ในบางที่อาจสามารถชมวิวภูเขาฟูจิได้จากหน้าต่างห้องพักกันเลยทีเดียว และนอกจากวิวที่สวยงามแล้วยังสามารถเพลิดเพลินกับการแช่บ่อน้ำพุร้อนออนเซ็น หรืออาหารประจำท้องถิ่น อาหารประจำฤดูกาลที่แสนอร่อยได้อีกด้วย
“นิฮนไดระ” ถือเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของชิซุโอกะ สามารถเพลิดเพลินกับวิวภูเขาไฟฟูจิด้วยการขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปสูง 300 เมตรเพื่อชมวิวภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมๆ กับอ่าวซุรุงะ ซึ่งนอกจากวิวภูเขาฟูจิ และอ่าวซุรุงะแล้ว ยังสามารถชมวิวไร่ชาในจังหวัดชิซุโอกะที่เป็นที่หนึ่งในเรื่องของชาได้อีกด้วย (สำหรับไร่ชาสามารถชมไปพร้อมๆ กันได้ในบางจุดเท่านั้น)
“หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก” (ภาษาญี่ปุ่น : 忍野八海 / Oshino Hakkai) ในจังหวัดยามานาชิ บริเวณตีนภูเขาฟูจิ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน และได้ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกในปีพ.ศ.2556 เป็นหมู่บ้านที่มีบ่อน้ำใสบริสุทธิ์ทั้งหมด 8 บ่อ ซึ่งเกิดจากหิมะบนภูเขาฟูจิที่ละลายไหลผ่านหินลาวายาวนานหลายสิบปี ซึ่งนอกจากบ่อน้ำที่บริสุทธิ์แล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ยังประกอบไปด้วยบ้านโบราณมุงด้วยหลังคาฟาง รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และที่สำคัญคือเป็นสถานที่ที่สามารถชมวิวภูเขาฟูจิได้แบบใกล้มากๆ และสามารถสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูได้ตลอดทั้งปี เท่านั้นไม่พอภายในบ่อน้ำใสบริสุทธิ์แห่งนี้ยังมีปลาคาร์ฟให้ได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย โดยภายในหมู่บ้านแห่งนี้ก็มีร้านจำหน่ายของฝาก หรือร้านอาหารประจำท้องถิ่นต่างๆ มากมาย บางร้านค้าอาจสามารถชมวิวหมู่บ้านและภูเขาไฟฟูจิไปได้พร้อมๆ กันเลยทีเดียว
ซึ่งสถานที่ต่อไปที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สถานที่ชมวิวภูเขาฟูจิที่หวาดเสียวที่สุดในญี่ปุ่น “สวนสนุก Fuji Q Highland” (富士急ハイランド)ในจังหวัดยามานาชิ โดยสถานที่แห่งนี้ได้ประกอบไปด้วย “ที่สุดในญี่ปุ่น” อยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
รถไฟเหาะที่สามารถเพิ่มความเร็วได้เร็วที่สุดในญี่ปุ่น (ในโลก) ! คือ “DODODONPA(ドドンパ)” โดยสามารถเพิ่มความเร็วให้อยู่ที่ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 1.56 นาทีเท่านั้น !
รถไฟเหาะที่มีรอบหมุนเยอะที่สุดในญี่ปุ่น (ในโลก) ! รถไฟเหาะ “Eejanaika(ええじゃないか)” ที่มีการหมุนตัวหลากหลายรูปแบบ ทั้งตีหลังกา หมุนข้าง หมุนเอียง รวมแล้ว 14 ครั้ง !
ชิงช้าหมุนตัวลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ! เครื่องเล่น “TTekkotsubanchou(鉄骨番長)” ที่มีความสูงกว่า 50 เมตร !
นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเล่นหวาดเสียวแบบนี้อีกมากมาย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทันชมวิวภูเขาฟูจิระหว่างอยู่บนเครื่องเล่นกันรึเปล่า !!
นอกจากการชมวิวภูเขาฟูจิแล้ว หากเพื่อนๆ ต้องการปีนขึ้นภูเขาฟูจิเพื่อพิชิตยอดเขาสูง 3,776 เมตร ก็สามารถปีนขึ้นภูเขาฟูจิได้เช่นกัน โดยจะเปิดเส้นทางปีนเขาสำหรับบุคคลทั่วไปเป็นเวลา เพียง 2 เดือนต่อปีเท่านั้น
โดยในปีพ.ศ.2562 (ปีค.ศ.2019) เปิดเส้นทางตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม ไปจนถึง วันที่ 10 เดือนกันยายน นั่นเอง
น่าเสียดายที่ปีนี้ (พ.ศ.2563) ถูกยกเลิกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ภูเขาฟูจิ” ได้ที่นี่คลิ๊กเลย !
รวมข้อมูลพิชิตภูเขาฟูจิ พร้อมวิธีการเตรียมตัวสำหรับนักปีนเขามือใหม่ที่ต้องรู้
และหากได้ปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิแล้ว ก็จะได้กราบไหว้สักการะ ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น “ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น โอคุมิยะ” (Fuji Sengen Okumiya Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนความสูง 3,776 เมตร ตามความสูงของภูเขาฟูจิ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นอยากมากราบไหว้ซักครั้งในชีวิตเลยทีเดียว
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการสัมผัสความเป็นที่สุดของภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น กับ “ฟูจิซัง” หรือ “ภูเขาฟูจิ” ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวชมวิวท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ หรือการผสมผสานกับสิ่งก่อสร้างแบบญี่ปุ่น ไปจนถึงการสัมผัสที่สุดประสบการณ์หวาดเสียวที่สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji Q Highland) หรือ การสัมผัสภูเขาฟูจิสุดเอ็กซ์ตรีมกับการพิชิตยอดภูเขาฟูจิ เพื่อกราบไหว้ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น กันไปแล้ว
พิชิตยอดภูเขาฟูจิ พร้อมทริปสั้นในโตเกียวย่านชินจูกุ และย่านอาซากุสะ
“ทริปพิชิตยอดภูเขาฟูจิ 5 วัน 3 คืน (Mt.Fuji/Kawaguchiko/Tokyo-Asakusa-Shinjuku)”
เพื่อนๆ ชอบแบบไหนก็ลองเลือกแพลนทริปภูเขาฟูจิสำหรับปีหน้ากันได้เลย