การปั่นจักรยานที่เริ่มใกล้ตัวมากขึ้นจนมีผู้เข้าร่วม「Bike for MOM」หรือ「Bike for DAD」เป็นจำนวนมากกว่าหลายแสนคน
เมื่อหลายปีที่แล้วเรายังไม่ค่อยเห็นคนปั่นจักรยานกันมากเท่าไหร่ แต่ช่วงนี้การปั่นจักรยานกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไป เราอาจปั่นจักรยานกันเพื่อสุขภาพหรือปั่นจักรยานยามว่าง แต่ที่ญี่ปุ่นจักรยานเป็นยานพาหนะหนึ่งที่สำคัญที่ใช้ในการเดินทางไปที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในเมืองอย่างโอซาก้าหรือเกียวโตส่วนใหญ่จะใช้จักรยานในการปั่นจากบ้านไปสถานีรถไฟ โรงเรียน หรือที่ทำงาน
และช่วงนี้ที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ญี่ปุ่นก็คือ「BIKE SHARING」 ก็คือบริการที่ให้เราสามารถเช่าจักรยานได้ง่ายๆ ผ่านเว็ปไซต์จากมือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้เลย และที่สำคัญคือชาวต่างชาติก็สามารถใช้บริการได้ด้วย เพียงแค่ลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์ ค่าใช้จ่ายต่างๆก็จะถูกหักผ่านบัตรเครดิต เพียงเท่านี้ก็สามารถยืมจักรยานไปปั่นระหว่างท่องเที่ยวได้เลย
สำหรับใครที่อยากไปในที่ที่รถไฟไม่สามารถไปได้ หรืออยากสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิด เราจึงอยากจะแนะนำ「BIKE SHARING」ในครั้งนี้
การบริการ「BIKE SHARING SERVICE」ที่เหมาะกับชาวต่างชาติที่จะมาแนะนำมีอยู่ 3 ทางเลือกดังนี้
- COGICOGI
มีศูนย์กลางการบริการอยู่ที่โตเกียว และที่ต่างๆ ในญี่ปุ่น
12 ชั่วโมง 2100 เยน・24 ชั่วโมง 2400 เยน・48 ชั่วโมง 3600 เยน
- DOCOMO Bike Share
ชื่อการบริการอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่แต่ระบบการทำงานต่างๆจะเหมือนกันทั้งหมด
30 นาทีแรก 150 เยน・30 นาทีต่อไปครึ่งชั่วโมงละ 100 เยน
- HUB Chari ศูนย์กลางบริการที่โอซาก้า
มีการลงทะเบียนแบบอะนาล็อกกับแบบสมาร์ทโฟน จะแตกต่างกันตรงที่การลงทะเบียนแบบอะนาล็อกจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลให้คำแนะนำการบริการประจำสเตชั่นจักรยานแต่ละที่
ลงทะเบียนแบบอะนาล็อก1 ชั่วโมง 200 เยน・12 ชั่วโมง 1000 เยน
ลงทะเบียนแบบสมาร์ทโฟน 1 ชั่วโมง 150 เยน・1 วัน 1389 เยน
ซึ่งในบริการนี้สเตชั่นที่ยืมกับสเตชั่นที่คืนจะอยู่คนละที่กันก็ได้ เช่น เราอาจจะยืมจักรยานที่อุเมดะและคืนที่ชินไซบาชิในโอซาก้าก็ได้
วันนี้เราจะมาแนะนำหนึ่งใน 3 บริการข้างต้น กับบริการ HUB Chari และจะมาลองใช้บริการรอบๆโอซาก้ากัน『HUB Chari Port Map』
ก่อนอื่นต้องค้นหาสเตชั่นก่อน จากลิ้งค์ด้านบน ที่แสดงเป็นสีแดงคือ สเตชั่นสำหรับการสมัครสมาชิกแบบลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน ที่จองและชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ส่วนที่แสดงเป็นสีฟ้าจะเป็นสเตชั่นที่พนักงานประจำการในแต่ละที่จะทำการจัดการบริการ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแบบอะนาล็อก และที่แสดงอยู่ทั้งสองฝั่งคือสเตชั่นที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ที่ลงทะเบียนแบบอะนาล็อกและสมาร์ทโฟนเลย เราสามารถไปที่สเตชั่นและใช้จักรยานคันที่ว่างได้เลยแบบไม่ต้องจอง
ในกรณีของผู้ที่ต้องการใช้สเตชั่นแบบลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน
ก่อนอื่นก็ต้องเข้าไปที่ลิ้งค์นี้เพื่อลงทะเบียนก่อน สามารถเปลี่ยนภาษาเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วย ก่อนอื่นก็ต้องเข้าไปที่「REGISTER」อ่านข้อกำหนดแล้วก็กดไปที่「ACCEPT」
ตั้ง USER ID และ PASSWORD
ใส่ชื่อ อีเมล และเบอร์โทรศัทพ์
เมื่อกด「REGISTER」ก็จะเข้าไปที่หน้าตรวจสอบข้อมูล เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
จากนั้นก็กรอกข้อมูลบัตรเครดิต(VISA / MASTER / JCB)สำหรับหักค่าใช้จ่าย ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
แค่ 3 นาทีก็เสร็จแล้ว เท่านี้เราก็สามารถใช้สเตชั่นสำหรับสมาชิกแบบสมาร์ทโฟนได้แล้ว
เมื่อเป็นสมาชิกผ่านสมาร์ทโฟนแล้ว ต่อไปก็ต้องไว้ก่อน สามารถจองได้ก่อนใช้จริง 20 นาที ต้องล๊อคอินเข้าไปก่อน ก็เลือกสเตชั่นที่ต้องการไปยื ที่「Choose from port」
เลือกสเตชั่นที่สามารถใช้ได้ และเลือกตัวเลือกไหนก็ได้ใน Bikelist เมื่อทำการจองเรียบร้อยแล้ว Pass Code ก็จะถูกส่งมาทางเมล นำ Pass Code ที่ได้ไปใส่ที่สเตชั่นที่ต้องการไปยืม เท่านี้ก็สามารถยืมจักรยานมาปั่นได้เลย
ครั้งนี้เราเลือกใช้สถานี「大阪ガスステーション」「Osaka Gas Station」ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินโยโดยะบาชิ ที่โอซาก้า
สถานีนี้อยู่ห่างจากสถานีอุเมดะ UMEDA STATION เพียง 1 สถานีใช้เวลา 3 นาที ห่างจากนัมบะ NAMBA เพียง 3 นาทีใช้เวลา 6 นาที และใช้เวลาเดินจาก รถไฟใต้ดินสถานีโยโดยะบาชิ สายมิโดสึจิ Subway Midosuji Line Yodoyabashi Station เพียง 3 นาที สเตชั่นของ「HUB Chari」ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ สะดวกมากๆ ที่สถานีจะมีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ด้วย สามารถใช้บริการได้ทั้ง「สมาชิกแบบอะนาล็อก」และ「สมาชิกแบบสมาร์ทโฟน」เลย คันสีฟ้าคือจักรยานสำหรับสมาชิกแบบอะนาล็อก ต้องแจ้งทางผู้ดูแลก่อนและแสดงหนังสือเดินทางพร้อมกับจ่ายค่าประกันไว้ 1000 เยนก็สามารถยืมได้
และจะได้เงินค่าประกัน 1000 เยนและเงินยอดคงเหลือคืนตอนคืนรถจักรยาน
ส่วนผู้ที่สมัครสมาชิกจากสมาร์ทโฟนคือคันสีแดง แค่เพียงกด Pass Code ที่ถูกส่งมาทางอีเมลเท่านี้ก็ใช้ได้เลย รถจักรยานแบบสมาชิกจากสมาร์ทโฟนจะเป็นจักรยานแบบไฟฟ้า 「Motor – assisted Bicycle」ที่สามารถปั่นขึ้นเขาได้แบบสบายๆเลย เอาล่ะลองไปปั่นกันเลย
ที่ญี่ปุ่นมีกฏว่าจักรยานจะต้องปั่นบนท้องถนนเส้นที่รถวิ่งเลย ฟังดูอาจจะอันตรายแต่ถ้าขับริมๆก็ไม่มีปัญหา เพราะคนที่นี่ชินกับจักรยานที่ขับบนถนนอยู่แล้วเพราะฉะนั้นปั่นได้อย่างสบายใจหายห่วงเลย
แต่ทว่าทางเท้าบางที่ก็มีเครื่องหมายตามภาพ ที่จักรยานสามารถวิ่งได้ทั้งทางเท้าและถนน แต่ยังไงก็ปั่นบนทางเท้าเพราะฉะนั้นต้องปั่นช้าๆ เพื่อระวังคนที่เดินอยู่ด้วย และห้ามเล่นมือถือโดยเด็ดขาด ขับขี่ปลอดภัยดีกว่านะ
ออกตัวจากสเตชั่นที่อยู่บริเวณเส้นมิโดสึจิ ผ่านสวนสาธารณะนาคาโนะชิมะ Nakanoshima Park เท็มมะบาชิ Temmabashi เพื่อไปที่ปราสาทโอซาก้าที่ซากุระกำลังบานอยู่ ย้อนกลับไปทางจากสเตชั่นไปสถานีเล็กน้อยก็จะเป็น เส้นทางสายหลักมิโดสึจิ MIDO SUJI ที่เชื่อมระหว่าง「キタ」「KITA」「คิตะ แปลว่า เหนือ」แถวๆ อุเมะดะของโอซาก้า และ「ミナミ」「MINAMI」「มินามิ แปลว่า ใต้」ที่มีชินไซบาชิหรือโดทงโบริ เข้าไว้ด้วยกัน
เป็นเส้นหลักที่เป็น One way มีเลนที่รถวิ่ง 6 เลนและเลนข้างทาง 2 เลน รวมแล้วเป็น 8 เลน ถึงแม้ว่าจะมีเลนถึง 8 เลน แต่บางทีรถก็ติดเหมือนกัน และทั้งสองฝั่งข้างทางจะเป็นบริษัทใหญ่สาขาหลักเรียงอยู่ทางสองข้างทางเลย หันหน้าออก ให้สเตชั่นอยู่ด้านหลัง และเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ
ข้ามแม่น้ำมาก็จะเจอกับบริเวณ「NAKANOSHIMA」 เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของโอซาก้า ที่มีทั้ง ที่ว่าการอำเภอ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ศูนย์ประชุมนาคาโนชิมะ ห้องสมุด และตึกทางประวัติศาสตร์มากมาย เป็นต้น เราเคยแนะนำสถานที่บริเวณนี้ใน Round the CHI ของ ICHIGO JAPAN ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลย
Day4-1 เดินเล่นเมืองหลวงแห่งน้ำ「NAKANOSHIMA / KITAHAMA」โอซาก้า
และนี่คือวิดีโอบรรยากาศโดยรวม
ท่องเที่ยวโอซาก้าในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่ นากาโนชิมะ เท็มมะบาชิ เส้นนานิมาจิสึจิ ไปจนถึงปราสาทโอซาก้า
ระหว่างทางก็ได้ชมวิวแม่น้ำโดจิมะ Doujimagawa บรรยากาศผู้คนที่เร่งรีบในเวลาทำงาน และสวนสาธารณะที่เงียบสงบ
ได้เดินทางไปในที่ที่แท็กซี่หรือรถไฟไม่สามารถไปได้ ตามที่ต่างๆ ใช้เวลาปั่นไปประมาณ 15 นาที
ยิ่งเป็นจักรยานแบบไฟฟ้าด้วยยิ่งช่วยได้เยอะเลย สบายมากๆ
ผ่านประตูใหญ่ของปราสาทโอซาก้าและเลี้ยวไปทางขวา ก็จะเจอกับชิดาเระซากุระตามภาพเลย สวยงามมากๆ
ในขณะที่ซากุระอื่นๆ ยังบานไม่เต็มที่ แต่ชิดาเระซากุระบานเต็มที่สวยงามมากๆ รอบๆ ก็มีคนมารุมถ่ายรูปกันเต็มเลย
และถ้าเข้าไปอีกนิดก็จะเจอปราสาทโอซาก้าอยู่ทางซ้ายมือ
ทั้งๆที่เป็นตอนเช้าวันธรรมดาแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มไปหมด คนไทยก็เยอะเหมือนกัน แต่ที่ปั่นจักรยานอยู่มีแค่เราเท่านั้น
ไปดูที่ตัวปราสาทกันเลย
เอาล่ะ เราขอสิ้นสุดทริปนี้ไว้เท่านี้
ในครั้งต่อไปวันที่ 3 เมษายน เราจะพาทัวร์ชมซากุระของปราสาทโอซาก้ากัน
รอชมได้เลยนะคะ ♪