Day4-4 จบทริป! เที่ยว ชิม ช้อปย่าน “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” ในโอซาก้า ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day4-4 จบทริป! เที่ยว ชิม ช้อปย่าน “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” ในโอซาก้า ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-KANAZAWA-KYOTO-OSAKA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้นั่ง AQUA-LINER แล่นไปในแม่น้ำโอที่เชื่อมระหว่างตะวันตก และตะวันออกของโอซาก้า เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี ในเมืองโอซาก้า และชมปราสาทโอซาก้าแล้ว จากนั้นเราก็ได้นั่งรถไฟใต้ดินมายังย่าน “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ”

Day4-3 เดินทางจากเกียวโตเข้าสู่โอซาก้า และนั่งเรือชมวิว「AQUA-LINER」เพื่อชมเมืองโอซาก้าในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

“ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” ที่ไม่ว่าใครๆ ที่มาโอซาก้าก็จะต้องมาให้ได้ เป็นสถานที่ที่มีทั้ง “ป้ายกูลิโกะ” หรือ “ป้ายปูขนาดใหญ่” ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการมาเยือนโอซาก้า เท่านั้นไม่พอยังมีร้านค้าต่างๆ มากมายแบบครบครัน ทั้ง UNIQLO,  Onitsuka Tiger, BIC CAMERA หรือ Matsumotokiyoshi เป็นต้น ซึ่งนอกจากร้านค้าต่างๆ แล้ว อาหารที่ขายอยู่บริเวณนี้ก็มีมากมายทั้ง ทาโกยากิ โอโคโนมิยากิ หรือของทอดเสียบไม้ ฯลฯ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของโอซก้าให้ได้เลือกทานมากมาย

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในตอนที่ 16 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวสถานที่ไฮไลท์ของโอซาก้าที่ย่าน “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” และเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยกันค่ะ

ซึ่งภายในเมืองโอซาก้านั่น จะแบ่งออกเป็น 3 แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆ คือ “ย่านอุเมดะ” “ย่านนัมบะ(ครอบคลุมไปถึงชินไซบาชิ・โดทงโบริ)” และ “ย่านเท็นโนจิอาเบะโนะ” โดยย่านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดก็คือ “ย่านนัมบะ”「NAMBA AREA」เป็นย่านที่มี “ป้ายกูลิโกะ” เป็นศูนย์กลางที่สะพานเอบิสุบาชิ บริเวณตะวันออกไปจนถึงตะวันตก เรียงรายไปด้วยร้านอาหารหรือร้านจำหน่ายของฝากต่างๆ มากมาย และในส่วนทางใต้ไปถึงเหนือจะมีร้าน Drugstore, Onitsuka Tiger หรือ UNIQLO ฯลฯ ในเส้นทาง Shinsaibashi-Suji ที่เต็มไปด้วยร้านค้าที่น่าสนใจมากมาย และหากเดินไปอีกเล็กน้อย ก็สามารถเดินไปย่าน “Osaka Nippombashi Denden Town” หรือ “ตลาดคุโรมง” ได้อีกด้วย

เดินจากสะพานเอบิสุบาชิไปในเส้นทาง Shinsaibashi-Suji ประมาณ 10 นาที ก็จะเจอ「UNIQLO」สาขาชินไซบาชิ ที่ทั้งใหญ่และมีสินค้าให้เลือกมากมาย รวมไปถึงสินค้ายอดนิยมต่างๆ อีกด้วย ซึ่งที่ตึกนี้ในช่วงเวลากลางวันตึกจะเป็นสีขาว แต่เมื่อฟ้ามืด ก็จะเปลี่ยนเป็นไฟสีต่างๆ สดใสสวยงามมากๆ

และเดินจาก UNIQLO กลับไปทางสะพานเอบิสุบาชิประมาณ 3 นาที ก็จะเจอ「Onitsuka Tiger」อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งเป็น Onitsuka Tiger สาขาใหญ่ที่สุดในโอซาก้าอีกด้วย และด้วยความที่ร้านนี้เป็นร้านที่มีขนาดใหญ่เพราะฉะนั้นจึงมีสินค้าเฉพาะของญี่ปุ่นอย่างรุ่น Nippon Made รุ่นท็อปให้เลือก พร้อมสินค้าที่มีอยู่มากมาย เท่านั้นไม่พอยังสามารถ TAX FREE ได้อีกด้วย และบริเวณใกล้ๆ Onitsuka Tiger ก็จะมีทั้ง “ดิสนีย์สโตร์”, “มัทสึโมโตะ คิโยชิ”, ร้าน Drugstore “ร้าน Daikoku”, ร้านรองเท้า “ABC Mart” หรือร้านนาฬิกา และร้านกระเป๋าแบรนด์เนม ที่ไม่ว่าจะมีเวลาเท่าไหร่ก็แทบจะเดินไม่หมดเลยค่ะ

สะพานเอบิสุบาชิ ที่อยู่ศูนย์กลางชินไซบาชิ・โดทงโบริ จะเป็นจุดที่มี “ป้ายกูลิโกะ” สัญลักษณ์ของโอซาก้าที่มีนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอยู่มากมาย ถึงแม้ว่าเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่าอากาศยานนานาชาติจะปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบจากพายุรุนแรง ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงไปมาก แต่ตอนนี้สถานการณ์ก็ได้กลับมาสู่ปกติ และบริเวณนี้ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว กลับมาคึกครื้นเหมือนเดิมเลยค่ะ บรรยากาศก็จะประมาณนี้เลยสนุกสนานกันมากๆ เลย

และเมื่อข้ามสะพานเอบิสุมาก็จะเข้าสู่โซนโดทงโบริ โดยมีป้ายปูยักษ์ขนาดใหญ่อยู่บริเวณข้างๆ สะพาน ซึ่งเป็นอีกป้ายที่โด่งดัง ของร้านปูชื่อดังในญี่ปุ่น ที่สามารถเพลิดเพลินกับปูยักษ์กล้ามโตได้ที่ร้าน “คานิ โดราคุ” ในราคามื้อละ 5000 ถึง 1 หมื่นเยน ได้แบบเต็มทีเลยทีเดียว

และบริเวณ “โดทงโบริ” นี้นอกจากร้านปูคานิ โดราคุแล้ว ก็ยังมีร้านที่มีป้ายเกี๊ยวซ่าขนาดยักษ์「OSAKA OHSHO(大阪王将)」หรือร้าน「ZUBORAYA(づぼらや)」ป้ายปลาปักเป้า เท่านั้นไม่พอยังมีร้าน「KUKURU(くくる)」ที่มีปลาหมึกตัวโตถือทาโกยากิบนป้ายร้านขนาดใหญ่ ที่ไม่ว่าร้านไหนๆ ก็แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้น่าสนใจมากๆ ยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นนี้ ไม่ว่าร้านไหนๆ ก็มีลูกค้าเต็มเกือบทุกร้านเลยค่ะ

ไม่ว่าร้านไหนๆ ก็ส่งกลิ่นหอมโชยมาแต่ไกลจน ICHIGO-CHAN รู้สึกหิวมากๆ เลย ถึงแม้ว่าตอนขากลับบนเครื่องบินจะมีอาหารเสริฟ์ แต่เราจะทานอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า “ทาโกยากิ” รองท้องกันซักหน่อย โดยเดินจากสะพานเอบิสุบาชิ ไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็จะเจอร้านทาโกยากิชื่อดัง『TAKOHACHI(たこ八)』อยู่มุมแรกซ้ายมือเลย

เราเข้าไปในร้านกันเลย

ภายในร้านจะเป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์สองแถว เมนูหลักๆ ภายในร้านก็จะมี “ทาโกยากิ” “โอโคโนมิยากิ” และ ยากิโซบะ+ท้อปปิ้งกุ้ง หมู หรือปลาหมึก นอกจากนี้ยังมีเมนูเซตที่เหมาะสำหรับลูกค้าเป็นกลุ่มกับเมนู「DOTONBORI Meal」ที่สามารถสั่งมาแบ่งกันทานได้อีกด้วย

และหากได้นั่งที่นั่งเคาน์เตอร์ทางฝั่งครัว ก็จะได้เห็นตอนทำทาโกยากิ หรือเมนูต่างๆ ไปได้ด้วยเลย ซึ่งพนักงานแค่คนเดียวจะย่างทาโกยากิพร้อมกันถึง 50 อันเลยทีเดียว(6 ชิ้น / 400 เยน)ทาโกยากิของที่นี่กรอบนอกและนุ่มใน หอมอร่อยมากๆ มาเสริฟ์แบบร้อนๆ เพราะฉะนั้นตอนทานก็ระวังกันด้วยนะคะ

หลังจากช้อปปิ้งที่ย่านชินไซบาชิ และทานอาหารโอซาก้าที่ย่านโดทงโบริไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกันแล้ว

โดยวิธีการเดินทางจากย่าน “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” ไป “ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ” มีดังนี้

1.นั่งรถไฟจาก “สถานีนันไค นัมบะ” ด้วยรถไฟ「Limited Express rapi:t」หรือ「Airport Express」ไปยังสนามบิน

2.นั่งรถไฟใต้ดินจาก นัมบะ ไปยัง เท็นโนจิ และนั่ง「KANSAI AIRPORT EXPRESS HARUKA」หรือ「Kansai Airport Rapid Service」จากเท็นโนจิ ไปยังสนามบิน

3.นั่งรถบัสจาก นัมบะ OCAT ไปยังสนามบิน

ซึ่งในครั้งนี้เราจะไปด้วยวิธีที่ 2 ที่สามารถใช้พาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในการนั่ง「KANSAI AIRPORT EXPRESS HARUKA」ได้ โดยรถไฟ KANSAI AIRPORT EXPRESS HARUKA จะออกตัวจาก “สถานีเท็นโนจิ” ที่สามารถนั่งรถไฟใต้ดินจากนัมบะไปเพียง 3 สถานี ดังนั้นเราจะนั่งรถไฟใต้ดินสายมิโดสึจิไปเท็นโนจิกันก่อนเลย โดยเดินจากศูนย์กลางที่สะพานเอบิสุบาชิ ไปทางฝั่งใต้(ทางโดทงโบริ)ตรงไปเรื่อยๆ เดินจาก Ebisu-Suji ที่ทอดยาวจากเส้นทาง Shinsaibashi-Suji ไปจนถึงถนนใหญ่(SENNICHIMAE)และเลี้ยวขวาที่ถนนใหญ่และลงบันไดไปสู่ชั้นใต้ดินที่มีย่าน Namba Walk จากนั้นก็เดินไปทางขวามือ ก็จะเจอสถานีรถไฟใต้ดินสถานีนัมบะเลย

เมื่อถึงสถานีรถไฟใต้ดินนัมบะแล้ว ก็ไปซื้อตั๋วกันเลย ก่อนอื่นจะต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟไป “เท็นโนจิ”「TENNOJI(天王寺)」จากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ค่าโดยสารไป “เท็นโนจิ” จะอยู่ที่ 230 เยน จากนั้นก็กด English บนหน้าจอ ตามด้วยปุ่ม Ticket และใส่เงินเข้าไปในเครื่อง หลังจากนั้นก็กดเลือกค่าโดยสาร เท่านี้ก็เรียบร้อย สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการซื้อตั๋วครั้งละหลายๆ ใบ ก็สามารถกดเลือกปุ่มรูปคนที่อยู่ด้านล่างหน้าจอได้ สามารถซื้อได้ครั้งละมากสุด ผู้ใหญ่ 2 คน・เด็ก 2 คน

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไป และลงบันไดที่อยู่ด้านหน้าซ้ายมือไปที่ชานชาลาที่มุ่งหน้าไปสู่ “เท็นโนจิ・นาคาโมสุ” เลย

โดยนั่งรถไฟจาก “นัมบะ” ไป “เท็นโนจิ” 3 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 6 นาทีเท่านั้น

เมื่อถึงสถานีเท็นโนจิแล้ว ก็ไปขึ้นรถไฟ JR รถไฟด่วนพิเศษ “ฮารุกะ HARUKA” กันเลย โดยขึ้นบันไดที่อยู่ภายในชานชาลาไป จากนั้นก็ตรงไปตามทางเรื่อยๆ เมื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินไปทางขวามือ ซักพักก็จะเจอบันไดเลื่อนที่ขึ้นไปสู่ JR อยู่ทางซ้ายมือ ให้ขึ้นบันไดเลื่อนนี้ไปเลย

เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้ว ก็จะเจอช่องตรวจตั๋วอยู่ทางขวามือเลย ซึ่งเส้นทางระหว่าง “เท็นโนจิ” ไปยัง “ท่าอากาศยานานาชาติคันไซ” สามารถใช้พาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในการเดินทางได้ เพราะฉะนั้นสามารถผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วริมสุดที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ได้เลย โดยแสดงพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ให้เจ้าหน้าที่ดูเท่านั้น จากนั้นเมื่อผ่านเข้ามาแล้วก็เดินไปทางขวามือ และลงบันไดของชานชาลาหมายเลข 15 เลย รถไฟด่วนพิเศษฮารุกะ ที่มุ่งหน้าไปสู่สนามบินคันไซจะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 15 ค่ะ

ซึ่งรถไฟด่วนพิเศษฮารุกะ ที่ออกตัวจากเท็นโนจิ จะวิ่งตั้งแต่เช้า 6:38 ถึง ค่ำ 21:21 น. ชั่วโมงละ 2 เที่ยว โดยจะใช้เวลาในการเดินทางไปยังสนามบินคันไซ ประมาณ 33-37 นาที(ขึ้นอยู่กับรถไฟ)

โดยสำหรับผู้ที่ใช้พาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」จะเป็นที่นั่งแบบอิสระ ไม่สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาเร่งรีบอาจไม่มีที่นั่ง ถ้าถึงสถานีเท็นโนจิแล้วให้รีบไปรอต่อแถวขึ้นรถไฟเลยนะคะ

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในทริปนี้เราได้เริ่มจาก “นาโกย่า” ไปยัง “ฮิดะทาคายาม่า” “ชิราคาวาโกะ” จากนั้นก็เข้าสู่ “คานาซาว่า” เมืองหลวงเก่าติดทะเลญี่ปุ่น และเดินทางมายัง “เกียวโต” “โอซาก้า” ในช่วงท้าย ครั้งนี้เราได้ท่องเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 3 โซนใหญ่ๆ ได้สัมผัสธรรมชาติ ใส่ชุดญี่ปุ่น ประดิษฐ์ตุ๊กตาซารุโบโบะ และได้ทานอาหารของแต่ละพื้นที่ไปแบบเต็มอิ่ม

พาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」นี้นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เราได้ไปเที่ยวมาแล้ว ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายทั้ง “ฮิดะฟุรุคาวะ”「HIDA FURUKAWA(飛騨古川)」ที่เป็นเมืองต้นแบบของภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง “คิมะ โนะ นาวะ”「KIMI NO NAWA(君の名は)」, 「TOYAMA(富山)」เมืองที่มีทั้งธรรมชาติ และปลาที่แสนอร่อย หรือ “ฟูกุอิ”「FUKUI(福井)」ที่มีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ หรือ วัดเอเฮจิแห่งวิถีเซ็น ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย แล้วเราจะพาเพื่อนๆ ไปที่อื่นๆ อีกในโอกาสหน้านะคะ

ต่อไปเราจะมาย้อนดูค่าเดินทางต่างๆ ที่เราได้ใช้ในพาสสุดคุ้ม「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในการเดินทาง ซึ่งราคาพาสจะอยู่ที่ 14,000 เยน

เราไปดูกันเลยค่ะว่า เราสามารถใช้พาสไปได้คุ้มมากแค่ไหน ไปย้อนดูการเดินทางทั้งหมดกันเลย

NAGOYA-TAKAYAMA(WIDE VIEW HIDA):6,030 เยน

TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO(NOHI BUS):2,470 เยน

SHIRAKAWAGO-KANAZAWA(HOKU TETSU):1,850 เยน

KANAZAWA-KYOTO(THE LIMITED EXPRESS THUNDERBIRD):6,900 เยน

KYOTO-OSAKA(NEW RAPID):560 เยน

TENNOJI-KANSAI AIRPORT STATION(KANSAI AIRPORT EXPRESS HARUKA・Non Reserved Seat):1,660 เยน

รวมทั้งหมดเป็น 19,470 เยน ซึ่งนั่นหมายความว่าเราสามารถใช้พาสไปคุ้มกว่า 5,470 เยนเลยทีเดียว

และหากเพื่อนๆ ใช้「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」นี้ในการเดินทางอื่นๆ เพิ่มอย่างเช่น รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นระหว่าง โทยาม่า-คานาซาว่า หรือแวะไปยัง “ฟูกุอิ” “คากะออนเซ็น” เรียบทะเลญี่ปุ่น ก็สามารถใช้พาสได้คุ้มยิ่งขึ้นไปอีกเลย

เมื่อถึงสถานีรถไฟท่าอากาศยานนานาชาติคันไซแล้ว ก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลา ไปชั้นช่องตรวจตั๋วกันเลย เมื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ เพื่อไปที่เทอร์มินอล 1 ของสนามบินกันเลย ซึ่งเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน AirAsia X ที่เดินทางไปสู่กรุงเทพมหานครจะอยู่ที่ตึกเทอร์มินอล 1 ชั้น 4 โซน E ค่ะ(ข้อมูลปัจุบัน เดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.2561)เคานเตอร์เช็คอินจะเริ่มเปิดก่อนออกเดินทาง 3 ชั่วโมงค่ะ

เมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ไปตรวจเช็คกระเป๋า และผ่านเข้าตม. กันเลย ด้วยความที่เที่ยวบินต่างๆ ได้เพิ่มรอบบินมากขึ้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรอบบินในช่วงกลางคืน ดังนั้นร้านค้าต่างๆ อย่างเช่นร้านค้าปลอดภาษี หรือ คาเฟ่ ยังคงเปิดให้บริการจนถึงดึก ให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้งส่งท้ายกันจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว

ช่วงเวลา 4 วันที่อยู่ที่ญี่ปุ่นได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีไปแบบเต็มที่มากๆ เช่นกัน น่าเสียดายที่หากเพื่อนๆ ได้อ่านทริปของเรานี้ก็คงเป็นช่วงท้ายของใบไม้เปลี่ยนสีพอดี แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะว่าที่ญี่ปุ่นกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว ในฤดูหนาวก็เป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวที่จะให้บรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากฤดูใบไม้ร่วงโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ก็ลองท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ไปกับ  ICHIGO-CHAN ได้เลย ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามเราจนจบทริปนะคะ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าค่ะ♪

【ตารางการเดินทาง Day4-4 SHINSAIBASHI&DOTONBORI/KANSAI AIRPORT】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass”takayama_thai.pdf 

Sponsored by JR TOKAI

        Go to the top Page        

  ◀ BACK