Day3-3 ท่องเที่ยวสถานที่น่าสนใจรอบๆ “มูโระโด” ในเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-3 ท่องเที่ยวสถานที่น่าสนใจรอบๆ “มูโระโด” ในเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ

NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-TOYAMA-ALPINEROUTE-MATSUMOTO-NAGOYA

หลังจากที่เราได้นั่งเคเบิ้ลคาร์และรถบัสจากสถานีทาเตยามะมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาสู่ “มูโระโด” ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สูงที่สุด ประมาณ 2450m ของเส้นทางแอล์ปทาเตยามะคุโรเบะ「TATEYAMA KUROBE ALPINE ROUTE」ที่สามารถเพลิดเพลินกับกำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ”「YUKI NO OTANI」

Day3-2 เริ่มต้นท่องเที่ยว “เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ” ชมกำแพงหิมะ“ยูกิโนะโอทานิ” ที่ “มูโระโด”

เมื่อทำการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษที่จะเปิดให้บริการในช่วงวันที่ 15 เมษายนถึงวันที่ 22 เดือนมิถุนายน(ปีพ.ศ.2562) กับกิจกรรม「YUKINO OTAN WALKING」แล้ว จากนั้นเราก็ได้เดินทางอ้อมผ่าน「PANORAMA ROAD」ไปยังมูโระโดเทอร์มินอลจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังอีกหนึ่งสถานที่น่าเที่ยวในมูโระโดที่ “ที่ราบมูโระโด”「MURODO-DAIRA(室堂平)」

การท่องเที่ยวด้วยพาสสุดคุ้ม「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ในตอนที่ 11 นี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวบริเวณสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของ “เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ” ที่บริเวณรอบๆ “มุโระโด” จากนั้นก็จะเดินทางไปชมวิวที่สวยงามที่ “ไดกันโบ”「DAIKANBO(大観峰)」กันค่ะ

หลังจากที่เราได้ท่องเที่ยวสถานที่ที่เป็นไฮไลท์อย่างกำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ” ที่เป็นกำแพงหิมะสูงกว่า 15 เมตรแล้ว เราจะเดินทางกลับมาที่เทอร์มินอลมูโระโดกันค่ะ โดยเดินจากบริเวณที่เป็นจุดสูงสุดของกำแพงหิมะมาประมาณ 15-20 นาที เพราะฉะนั้นจะต้องจำระยะเวลาที่ต้องใช้เดินทางให้ดีๆ เพื่อคาดการณ์เวลาที่จะนั่งรถบัสกลับได้ทัน

ซึ่งเส้นทาง「PANORAMA ROAD」จะเป็นทางเดินระหว่างทางเดินกำแพงหิมะที่มีความสูงทั้งสองฝั่งซ้ายขวา สูงจนไม่สามารถมองวิวรอบๆ อื่นๆ ได้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นเราจึงมีเส้นทางที่อยากจะมาแนะนำนั่นก็คือขาไปให้เดินเส้นทาง “YUKI NO OTANI WALK” จากนั้นขากลับก็เดินเส้นทาง “PANORAMA ROAD” เพื่อเดินกลับมาที่ “มูโระโด” นั่นเอง

เส้นทาง “PANORAMA ROAD” (ทางอ้อมท่ามกลางหิมะ) เป็นทางเดินที่ถูกสร้างขึ้นทางฝั่งทิศตะวันตกของเส้นทางกำแพงหิมะ ซึ่งจะผ่านด้านรอบนอกของเส้นทางกำแพงหิมะ ผ่านทางเดินท่ามกลางหิมะ เพราะฉะนั้นหากเดินเส้นทางนี้จำเป็นจะต้องเดินพร้อม Trekking boots หรือ สโนว์บูท ซึ่งช่วงเวลาที่สามารถใช้เส้นทางนี้ได้ก็คือตั้งแต่กลางเดินเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

ทิวเขาทาเตยามะที่เป็นภูเขาที่มีความสูงมากกว่า 3000 เมตร อุณภูมิก็จะต่ำกว่าในพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนเมษายนอุณภูมิก็ยังอยู่ที่ 3 องศา ส่วนในช่วงต้นเดือนมิถุนายนจะอยู่ในช่วง 9 องศา เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมเครื่องกันหนาวไปให้พร้อม สัมภาะรต่างๆ ก็ไม่ควรนำไปเยอะและเทอะทะมากเกินไป แนะนำให้ใส่เป็นรองเท้าบูทเลยค่ะ ส่วนช่วงที่อากาศดีท้องฟ้าปลอดโปร่งแดดก็จะแรงเป็นพิเศษเพราะฉะนั้นอาจจะต้องเตรียมแว่นกันแดดไปด้วยค่ะ

หลังจากที่ได้เพลิดเพลินกับกำแพงหิมะไปเต็มที่แล้ว ต่อไปเราจะไปเดินเล่นที่ “ที่ราบมูโระโด” กันค่ะ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิบริเวณที่ราบมุโระโดจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวได้ แต่ก็มีพื้นที่ห้ามเข้าแบ่งเอาไว้อย่างชัดเจน และจะต้องยื่นคำขอในการเข้าไป สามารถเช็คข้อมูลพื้นที่ต่างๆ ให้ชัดเจนได้จากแผนที่ที่แจกอยู่ที่เทอร์มินอลมูโระโดได้เลย

เนื่องจากในบางวันทางเดินอาจถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จนไม่สามารถมองเห็นทางเดินได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สภาพอากาศในแต่ละวันบนภูเขาสูงก็มีความแปรปรวนเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นจะต้องดูทิศทางของเมฆประกอบกันเผื่อเวลาเอาไว้เยอะๆ ด้วยค่ะ

และหากมีเวลาเหลือเฟือก็สามารถไปแช่ออนเซ็นและทานอาหารได้แบบไปเช้าเย็นกลับท่ี “น้ำพุร้อนมิกุริกะ-อิเกะ”「MIKURIGA-IKE ONSEN(みくりが池温泉)」อีกด้วย ซึ่งที่นี่จะดึงน้ำออนเซ็นสีขุ่นขาวจาก “จิโกกุดานิ” ที่อยู่ข้างๆ ที่มาจากทางต้นน้ำเลยนั่นเอง ซึ่งเมนูอาหารต่างๆ ภายในร้านก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งวัตถุดิบจากทะเลในโทยามะ หรือวัตถุดิบจากป่าเขา และเนื่องจากว่าสถานที่แห่งนี้เป็นกระท่อมเล็กบนภูเขา เพราะฉะนั้นหากทำการจองที่พักล่วงหน้าก็สามารถเข้าพักได้เช่นกัน หากได้พักที่มูโระโดซัก 1 คืนก็จะได้เที่ยวในภูเขาทาเตยามะได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว

และตอนนี้เราก็มาถึง “บึงมิกุริกะ”「MIKURIGA-IKE(みくりが池)」 ที่สามารถเดินจาก “เทอร์มินอลมุโระโด” ที่ตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดในเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ มาได้โดยใช้เวลา 15 นาที เป็นทะเลสาบในภูเขาไฟที่มีความสูงกว่า 15 เมตร ที่ล้อมรอบไปด้วยวิวทิวเขาทาเตยามะที่สวยงาม ถึงแม้ว่าเมื่อวานที่เราไป ชิราคาวาโกะ หรือ โทยามะ จะมีอุณภูมิ 15 องศา ซึ่งถือว่าเป็นอุณภูมิที่เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มตัวแล้ว แต่บริเวณ “บึงมิกุริกะ” นี้จะมีอุณภูมิเพียงต่ำกว่า 10 องศาเท่านั้น ซึ่งเป็นบริเวณที่จะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติที่สวยงามรอบๆ แล้วยังสามารถสัมผัสบรรยากาศที่เย็นและเงียบสงบอีกด้วย

หลังจากที่ได้เดินเล่นบริเวณรอบๆ บึงมิกุริกะสัมผัสธรรมชาติ และอากาศที่หนาวเย็นแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มได้เวลากลับไปที่ “เทอร์มินอลมุโระโด” กันแล้ว การเดินทางไปยังเทอร์มินอลจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 10-15 นาที หากเดินมุ่งหน้าไปสูงตึกที่มีรูปร่างแบบในรูปนี้ได้ก็ไม่หลงแล้วค่ะ

เดินจากระเบียงดาดฟ้าเข้ามาในอาคาร ก็จะเจอบันไดอยู่ด้านซ้ายมือ เพื่อลงไปที่ชั้น 2F ก็จะเจอทางเข้าโรงแรมHotel Tateyama

เป็นโรงแรมชั้นดีที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะอยู่บนเขาสูง 2450m แน่นอนว่าที่นี่มีทั้งที่พัก และห้องอาหารที่สามารถทานอาหารกลางวัน หรือดื่มชาทานของหวานได้อีกด้วยกับ『Café RINDOU』

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากทานอาหารกลางวันมื้อหรูหน่อยก็แนะนำที่นี่เลยค่ะ

ลงบันไดมาเรื่อยๆ มาสู่ชั้นขึ้นลงรถบัส เมื่อเจอ “ที่ทำการไปรษณีย์ยอดเขาทาเทยาม่า” (POST OFFICE) ที่ผ่านไปตอนขามา และที่ข้างๆ ก็จะเจอร้าน “ทาเตยามะ โซบะ”「TATEYAMA SOBA(立山そば)」อาหารขึ้นชื่อของทาเตยามะ อยู่ทางขวามือ เป็นร้านโซบะสไตล์ยืนทาน ไม่มีที่นั่ง แต่เป็นอาหารกลางวันบนเขาที่เหมาะมากๆ เราเข้าไปในร้านกันเลย

แต่ก่อนจะเข้าไปในร้าน เราจะต้องซื้อคูปองอาหารกันก่อน เมนูที่ร้านก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งเมนูที่ประกอบไปด้วยกุ้งฝอยใสขาวทอด(เท็มปุระ)ที่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของโทยาม่า กับเมนู “ชิโระเอบิ คาคิอาเกะ โซบะ”「SHIROEBI KAKIAGE SOBA(白海老かき揚げそば)」(950 เยน), “โซบะ เห็ดและผักภูเขา”「SANSAI KINOKO SOBA(山菜きのこそば)」(750 เยน), “คิซึเนะโซบะ”「KITSUNE SOBA(きつねそば)」(750 เยน)และนอกจากเมนูโซบะแล้วยังมีอาหารขึ้นชื่อของโทยาม่ากับ “มาสุโนะซุชิ” 「MASUNOSUSHI(ますのすし)」(1 ชิ้น 200 เยน)อีกด้วย ซึ่งแต่ละปุ่มจะมีรูปภาพประกอบให้เห็นชัดเจนเลือกสั่งได้ไม่ยากเลย เมื่อซื้อคูปองแล้วก็ยื่นคูปองให้พนักงานเพื่อสั่งอาหารได้เลย

ICHIGO-CHAN ได้เลือกสั่งเมนูที่ประกอบไปด้วยกุ้งฝอยใสขาวทอด(เท็มปุระ)ที่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของโทยาม่า กับเมนู “ชิโระเอบิ คาคิอาเกะ โซบะ”「SHIROEBI KAKIAGE SOBA(白海老かき揚げそば)」(950 เยน)คามาโบโกะที่ถูกประดับอยู่เขียนคำว่า “ทาเตยามะ” เอาไว้ด้วยน่ารักมากๆ ในเมนูจะประกอบไปด้วย กุ้งฝอยขาวทอด เนื่องจากทอดทั้งตัวเลยเพราะฉะนั้นให้รสสัมผัสที่กรอบอร่อยมากๆ นอกจากนี้น้ำซุปยังเข้มข้น ออกรสหวานๆ จากกุ้งเป็นเมนูที่ถูกปากมากๆ

พนักงานที่ร้านก็เป็นพนักงานที่อยู่มานาน ในช่วงเวลาเปิดบริการตั้งแต่ กลางเดือนเมษายน ไปจนถึงเดือนพฤษจิกายน จะต้องเดินทางจากในเมืองขึ้นมาทำงานที่นี่ทุกวันโดยใช้เวลาเดินทางมากกว่า 1 ชั่วโมงเลยทีเดียวค่ะ

และที่ชั้นเดียวกัน จะมีโซนจำหน่ายของฝาก ตั้งแต่สินค้าของ “เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ” หรือ “โทยาม่า” “นางาโนะ” อยู่อีกด้วย เดินดูของระหว่างรอรถบัสได้เพลินเลยค่ะ

ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายอยู่ก็จะมีให้เลือกมากมายหลายแบบ ทั้ง ขนมที่มีคอนเซ็ปต์เป็นยานพาหนะภายใน “เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ” กับคุ๊กกี้ที่มีชื่อว่า「立山黒部アルペンルートに行ってきました」แปลว่า “ฉันไปเส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะมาแล้ว” ด้วยค่ะ น่ารักดีนะคะ(ราคาขนาดเล็ก 540 เยน・ใหญ่ 864 เยน) นอกจากนี้ยังมีอัลมอนด์เคลือบ「HOSHI NO SHIZUKU(星の雫)」(1100 เยน)หรือ

เบียร์คาฟต์ที่หมักแบบธรรมชาติ「HOSHI NO SORA(星の空)」(400 เยน)อยู่อีกด้วย มีแต่สินค้าที่หาซื้อได้เฉพาะที่นี่ทั้งนั้นเลยค่ะ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆ ใน “มูโรโด” กับ วิวที่สวยงามรอบๆ “ทะเลสาบมิคุริงะ” โซบะแสนอร่อย และ ช้อปของฝากจากทาเตยามะไปจนเต็มที่แล้ว

ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปยัง “ไดกันโบ”「DAIKANBO(大観峰)」ที่มี จุดชมเชิงเขาทาเตยามะ หรือ “เขื่อนคุโรเบะ Kurobe Dam” โดยเราจะมุ่งหน้าไป “ไดกันโบ” ด้วย「รถไฟฟ้าลอดอุโมงค์ ทาเตยามะ Tateyama Tunnel Trolley Bus」ซึ่งจุดขึ้นรถจะอยู่ที่ชั้นเดียวกับ “ทาเตยามะโซบะ” ร้านจำหน่ายของฝาก และจุดขึ้นลงรถบัสเลยค่ะ เมื่อถึงเวลาก็สามารถยืนต่อแถวรอได้เลย โดยจะต้องยื่น “ตั๋วขึ้นรถ” ให้พนักงานก่อนขึ้นรถ “ตั๋วขึ้นรถ” คือตั๋วที่ได้จากสถานี Chitetsu โทยาม่า(จากการแสดงพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」)

ใช้เวลาเดินทางไป “สถานีไดกันโบ” เพียง 10 นาทีเท่านั้น

เมื่อถึง “สถานีไดกันโบ” แล้วก็เดินไปทางฝั่งด้านหน้า และขึ้นบันไดไประเบียงชมวิว ซึ่งจากระเบียงชมวิวนี้เหมือนในภาพด้านขวาล่าง(วงกลมสีแดงในภาพล่างซ้าย) ที่สามารถชมวิวทะเลสาบคุโรเบะที่อยู่ต่ำลงไปเป็นความสูง 500m ไม่ว่าช่วงไหนๆ ก็สามารถชมวิวที่สวยงามได้

หลังจากที่ได้ชมวิวที่สวยงามใน “ไดกันโบ” แล้วก็นั่ง กระเช้าไฟฟ้าทาเตยามะ เพื่อไป “ที่ราบคุโรเบะไดระ” กันเลย โดยเดินออกจากระเบียงชมวิวไปด้านฝั่งตรงข้ามและเข้าไปในตึกกันเลย จากนั้นก็จะเจอร้านจำหน่ายของฝากอยู่บันไดขวามือ สามารถช้อปปิ้งระหว่างรอได้เลยค่ะ

เมื่อเลยร้านจำหน่ายของฝากไปก็จะเจอช่องตรวจตั๋วกระเช้าลอยฟ้าทันที ซึ่งวิธีขึ้น กระเช้าไฟฟ้าทาเตยามะ ก็จะเหมือนกับ รถไฟฟ้าลอดอุโมงค์ ทาเตยามะ คือ เมื่อถึงเวลาก็สามารถยืนต่อแถวรอได้เลย โดยจะต้องยื่น “ตั๋วขึ้นรถ 整理票” ให้พนักงานก่อนขึ้นรถ “ตั๋วขึ้นรถ” คือตั๋วที่ได้จากสถานี Chitetsu โทยาม่า(จากการแสดงพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」)

ถึงแม้ว่ากระเช้าลอยฟ้าโดยทั่วไปจะมีเสาค้ำอยู่หว่างทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสิ้นสุด แต่ “กระเช้าไฟฟ้าทาเตยามะ” นี้จะเป็นกระเช้ายาวตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงสิ้นสุดเลยค่ะ ก็จะหวาดเสียวเล็กน้อย แต่ใช้เวลาเดินทางเพียง 7 นาที อีกทั้งยังสามารถชมวิวธรรมาติที่แผ่กว้างออกไปอย่างสวยงามได้อีกด้วย

เมื่อลงจากกระเช้ามาแล้ว จุดนี้จะอยู่บนความสูง 1828m ที่ “ที่ราบคุโรเบะไดระ” เป็นจุดที่สามารถเที่ยวชม “เขื่อนคุโรเบะ” และชมวิวภูเขาทาเตยามะได้จากเชิงเขา

ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจาก “ที่ราบคุโรเบะไดระ” ไปยัง “เขื่อนคุโรเบะ” จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังที่พักที่เมือง “มัตสึโมโตะ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪

【ตารางการเดินทาง Day3-3 MURODO】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶