Day2-1 ทานอาหารเช้าสุดหรูที่โรงแรม「TAKAYAMA GREEN HOTEL」และเดินทางจาก “ทาคายามะ” ไปยัง “ชิราคาวาโกะ”

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day2-1 ทานอาหารเช้าสุดหรูที่โรงแรม「TAKAYAMA GREEN HOTEL」และเดินทางจาก “ทาคายามะ” ไปยัง “ชิราคาวาโกะ”

NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-TOYAMA-ALPINEROUTE-MATSUMOTO-NAGOYA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ทานดินเนอร์ในเมนู “เนื้อฮิดะ” เนื้อชั้นดีเทียบเคียง “เนื้อโกเบ” หรือ “เนื้อมัตสึซากะ” จากนั้นก็ได้เข้าพักที่โรงแรม「TAKAYAMA GREEN HOTEL」พร้อมช้อปปิ้งและแช่ออนเซ็นผ่อนคลายไปอย่างเต็มที่

Day1-4 เดินเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ในเมือง “ทาคายามะ” ทานดินเนอร์ “เนื้อฮิดะ” และเข้าพักที่โรงแรม 「TAKAYAMA GREEN HOTEL」

และแล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ 2 ของทริปกันแล้ว โดยในช่วงเช้าเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกที่ “ชิราคาวาโกะ” จากนั้นก็เดินทางไปยัง “โทยามะ” ที่สามารถท่องเที่ยวเส้นทางแอลป์ ซึ่งเราจะไปทานอาหารของโทยาม่ากันให้เต็มอิ่ม

ในการท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ในตอนที่ 5 นี้เราจะทานอาหารเช้ากันที่「TAKAYAMA GREEN HOTEL」ก่อนจากนั้นก็จะมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านโบราณมรดกโลกที่ “ชิราคาวาโกะ” กันค่ะ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้แช่ออนเซ็นผ่อนคลาย และนอนหลับสบายมากๆ ที่ โรงแรม TAKAYAMA GREEN HOTEL แล้วก็ตื่นมาแบบสดชื่นมากๆ เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะได้เห็นวิวทิวเขาต่างๆ ในฮิดะที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

และอาหารเช้าของที่นี่จะมีให้เลือกทั้งแบบสไตล์บฟฟเฟต์ หรือ “อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมของฮิดะ” ซึ่งในวันนี้เราได้เลือกทานอาหารเช้าแบบพรีเมี่ยมของฮิดะ เพราะฉะนั้นเราจะไปห้องอาหารเช้าที่ชั้น 1F ที่ชื่อว่าห้องอาหาร「RYOKUTEI(緑亭)」กันเลย

ซึ่งห้องอาหารเช้าแบบ “อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมของฮิดะ” จะอยู่ที่ชั้น 1F กันห้องอาหาร「RYOKUTEI(緑亭)」ที่เป็นห้องอาหารตกแต่งดูดีด้วยไม้ชั้นดีฮิโนคิตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดานอย่างสวยงาม จากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ก็สามารถชมสวนญี่ปุ่นที่สวยงามได้ระหว่างทานอาหารอีกด้วย

โดยภายในห้องอาหารจะมีที่นั่งแบบโต๊ะ 4 คนอยู่มากมาย รวมที่นั่งประมาณ 100 ที่นั่ง โดยห้องอาหารแห่งนี้เมื่อเทียบกับห้องอาหารแบบบุฟเฟต์แล้ว คนจะโล่งกว่ามาก เพราะฉะนั้นสามารถทานอาหารแบบพรีเมี่ยมได้ในบรรยากาศที่เงียบสงบไม่วุ่นวายเลยค่ะ

ซึ่ง “อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมของฮิดะ” จะมีพร้อมกับอาหารนานาชนิดทั้งข้าว ซุปมิโซะ ไข่เจียว ปลาย่าง มิโซะย่างบนใบโฮบะ และชาบูเนื้อฮิดะชั้นเลิศ เป็นอาหารเช้าที่อลังการมากๆ

โดยไฮไลท์ของ  “อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมของฮิดะ” ก็คงหนีไม่พ้น “ชาบูเนื้อฮิดะ” เพียงจุ่มชาบูเนื้อฮิดะพอให้สุก ไม่ต้องต้มจนนานเกินไป เหมือนเป็นการจุ่มผ่านน้ำพอให้สุกเพื่อคงความนุ่มไม่ให้เนื้อแข็ง แล้วจิ้มซอสทาน ก็จะได้สัมผัสรสชาติความอร่อยของเนื้อฮิดะที่หอมมันและนุ่มลิ้นมากๆ ซึ่งซอสที่ทางห้องอาหารเตรียมมาให้ก็เป็นซอสพนซึที่มีรสเปรี๊ยวเข้ากับเนื้อฮิดะเป็นอย่างมาก

นอกจากเมนูชาบูแล้ว ยังมีปลาแซลมอนย่าง โฮบะมิโซะ ไข่ลวก ไข่หวาน และของหวานตามฤดูกาลอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทานได้เรื่อยๆ เหมือนบุฟเฟต์ แต่เพื่อนๆ ก็สามารถเติมข้าวได้ฟรี ไปพร้อมกับ อาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ถูกคัดสรรค์มาเป็นพิเศษนั่นเอง

หลังจากทานอาหารเช้าจนอิ่มแล้ว ก็ได้เวลามุ่งหน้าไป หมู่บ้านมกดกโลก “ชิราคาวาโกะ”「SHIRAKAWAGO(白川郷)」กันเลย ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านโบราณมรดกโลกที่เป็นสถานที่ที่จะได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของธรรมชาติทั้ง 4 ฤดู ไปพร้อมๆ กับบ้านโบราณทรง“กัสโชซูคุริ” และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้นๆ ที่ไม่ควรพลาดในการมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

โดยการเดินทางจากทาคายาม่า ไปชิราคาวาโกเนั้น เดินทางด้วยรถบัสจากบัสเทอร์มินอล「TAKAYAMA NOHI BUS CENTER」ที่อยู่ข้างๆ สถานีทาคายาม่าไปจะสะดวกที่สุด

เมื่อเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราจะมุ่งหน้าไปที่เทอร์มิยอลบัส TAKAYAMA NOHI BUS CENTER กันเลย ออกจากบริเวณโรงแรมไปทางขวามือ ไปจนถึงสามแยกให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เดินไปอีกประมาณ 3 นาทีก็จะเจอกับสถานีทาคายามะ ระหว่างทางเดินตรงบริเวณเลยสามแยกมาเล็กน้อยจะมีออนเซ็นเท้า ให้บริการอยู่อีกด้วย

เดินเลยจากออนเซ็นเท้าไปประมาณ 3 นาทีก็จะเจอสถานีทาคายามะอยู่ทางซ้ายมือ และเลยสถานีไปก็คือเทอร์มินอลบัส『TAKAYAMA NOHI BUS CENTER』เลย

จากฮิดะทาคายาม่าไปชิราคาวาโกะนั้นเดินทางด้วยรสบัสจะสะดวกที่สุดค่ะ บัสจะวิ่งวันละ 16 เที่ยว โดยออกตัวจาก TAKAYAMA NOHI BUS CENTER เพื่อเดินทางไป SHIRAKAWAGO BUS TERMINAL ใช้เวลา 50 นาที

บัสเทอร์มินอลจะไม่ใหญ่มากเพราะฉะนั้นไม่หลงแน่นอนค่ะ ขึ้นบันไดไปเพื่อไปที่ชานชาลารถบัส ไปที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว เพื่อซื้อตั๋วรถบัสไปชิราคาวาโกะกันเลย วิธีซื้อก็ง่ายนิดเดียวค่ะ โดยกด「Shirakawago(OneWay)」บนหน้าจอ จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไป หากต้องการซื้อมากกว่าหนึ่งใบก็สามารถกดที่「1 ใบ・・・・5 ใบ」บนหน้าจอเลยค่ะ

ซึ่งเครื่องจำหน่ายตั๋วนี้จะสามารถชำระได้ด้วยเงินสดเท่านั้น และเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ถนัดเครื่องจำหน่ายตั๋วก็สามารถไปซื้อที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วได้เลยค่ะ

ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วจะสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต อย่างเช่น VISA, MASTER หรือ JCB ฯลฯ ยิ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่คนก็จะยิ่งเยอะ เฉพาะฉะนั้นรีบไปก่อนเวลาเผื่อเอาไว้จะดีที่สุดนะคะ

รถบัสที่มุ่งหน้าไปชิราคาวะโกะจะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 4 หากต้องการไปชิราคาวาโกะจะสามารถขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไป โทยามะ TOYAMA คานาซาว่า KANAZAWA ได้

ไม่ว่าจะเป็นบัสคันไหนก็เป็นที่นั่งแบบ Reclining Seat แบบ 4 แถว นั่งได้แบบสบายๆ เลยค่ะ

เมื่อออกตัวจากฮิดะทาคายาม่ามาซักพัก รถบัสก็จะวิ่งขึ้นสู่ทางด่วน ซึ่งวิวนอกหน้าต่างจะเป็นวิวภูเขา ถึงแม้ว่าเข้าเดือนพฤษภาคมแล้ว แต่หิมะก็ยังคงเหลืออยู่ นอกจากวิวภูเขาหิมะสวยๆ แล้วก็ยังสามารถชมวิวทุ่งหน้าได้อีกด้วย รถบัสจะใช้เวลาวิ่งไป 50 นาทีเพื่อพามาสู่ที่หมายที่บัสเทอร์มินอลเล็กๆ ของหมู่บ้านโบราณชินาคาวาโกะ

ที่แห่งนี้เป็นเทอร์มินอลบัสที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2555 มีสำนักงานให้ข้อมูลการท่องเที่ยว พร้อมสตาฟที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ นอกจากนี้ยังมีแผนที่ภายในหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่เป็นภาษาต่างประเทศอยู่มากมายหลายภาษา และที่สำคัญคือ มีภาษาไทยด้วยค่ะ เท่านั้นไม่พอยังมีที่แลกเงินด้วย แน่นอนว่าสามารถแลกเงินไทยเป็นเงินเยนได้เช่นกันค่ะ

ถึงแม้ว่าที่ “Shirakawa-go Bus Terminal” นี้จะมีตู้ล๊อคเกอร์หยอดเหรียญฝากสัมภาระเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ตู้จะเต็มค่ะ เพราะว่านักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะมากๆ เพราะฉะนั้นเราจะไปฝากของที่จุดฝากของที่อยู่หลัง “Shirakawa-go Bus Terminal” กันค่ะ สามารถฝากกระเป๋าขนาดใหญ่ได้เช่นกัน ราคาจะอยู่ที่กระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ 500 เยน แต่ทว่าจุดฝากสัมภาระนี้จะเปิดปิดเป็นเวลาต่างจากล๊อคเกอร์คือจะปิดให้บริการเวลา 17:00 น. เพราะฉะนั้นจะต้องมารับสัมภาระคืนภายในเวลา 17:00 น. นะคะ

ซึ่งภายในแผนที่ภาษาไทย จะบอกสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไว้อย่างละเอียด ซึ่งจุดที่ ICHIGO-CHAN คิดว่าเพื่อนๆ ไม่ควรพลาดเลยก็คือจุดที่อยู่ในวงกลมสีส้ม ทั้ง 2 จุด หนึ่งจุดจะตั้งอยู่หลังเทอร์มินอลบัสที่อยู่ในวงกลมสีแดง ก็คือ “จุดชมวิว Tensyukaku View Point”(ในวงกลมสีส้มด้านซ้าย)ที่สามารถเดินขึ้นเขาไปดูได้ และอีกจุดหนึ่งก็คือ “คันมาจิ”「KANMACHI(かんまち)」ที่เพื่อนๆ จะได้ชมวิวบ้านหลังคาฟางที่เรียงกันอยู่สามหลังไฮท์ไลท์ของหมู่บ้านแห่งนี้(ในวงกลมสีส้มด้านขวา)

ซึ่งจุดต่างๆ มี่น่าสนใจในหมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะโดยส่วนใหญ่นั้น จะต้องเดินออกไปบ้สเทอร์มินอลไปทางซ้ายมือเพื่อเดินไปตามเส้นทางหลัก ซึ่งระหว่างเดินอยู่เราก็จะได้เห็นทิวเขาต่างๆ ที่ยังปกคุลมไปด้วยหิมะในช่วงที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ในช่วงกลางเดือนเมษายน ดังนั้นจะทำให้ได้ชมวิวดอกซากุระบนพื้นดิน ผสมผสานกับภูเขาที่ปกคุลมไปด้วยหิมะ พร้อมบ้านโบราณทรง“กัสโชซูคุริ”ในบรรยากาศที่สวยงามของฤดูใบไม้ผลิในหมู่บ้านโบราณแห่งนี้นั่นเอง

เมื่อเดินมาซักพักเราก็จะได้เห็นบ้านโบราณทรงสามเหลี่ยมหลังคาฟางที่เรียกว่า “กัสโชซูคุริ” เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้กับ『บ้านวาดะ』อยู่ทางซ้ายมือ

ซึ่ง “กัสโชซูคุริ” นี้จะเป็นภูมิปัญญาของคนในหมู่บ้านที่สร้างบ้านด้วยหลังคาฟางทรงสามเหลี่ยม โดย “กัสโช合掌” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ไหว้” มาจากหลังคาทรงสามเหลี่ยมที่เหมือนกับการไหว้นั่นเอง

ย้อนอดีตไปเมื่อ 150 กว่าปีก่อน “บ้านวาดะ” ถูกสร้างขึ้นในช่วงท้ายยุคเอโดะ ซึ่งเป็นบ้านที่ยังคงถูกใช้เป็นที่พักอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบัน คนทั่วไปสามารถเข้าชมภายในบ้านเพื่อสัมผัสถึงภูมิปัญญาและวิธีชีวิตของคนในหมู่บ้านนี้ได้

ในครั้งต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เที่ยวชม “บ้านวาดะ” และเที่ยวชมรอบหมู่บ้านโบราณ “ชิราคาวาโกะ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day2-1 TAKAYAMA GREEN HOTEL/SHIRAKAWAGO】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶