ROUND THE C･H･I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day4-3 ช้อปปิ้งส่งท้ายทริปที่ “นาโกย่า” ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย
จากความเดิมตอนที่แล้ว ICHIGO-CHAN ได้ไปกราบไหว้หนึ่งใน 8 หมื่นศาลเจ้าของญี่ปุ่นที่มีความเป็นแบบแผนมากที่สุด กับ “ศาลเจ้าอิเสะ”「ISE JINGU」และได้เดินเที่ยวกินช้อปปิ้งถ่ายรูป “โอฮาราอิมาจิ”「OHARAIMACHI」และ “โอคาเกะ โยโกโจ”「OKAGE YOKOCHO」แล้ว
และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวรอบคาบสมุทรอิเสะแล้ว เราจะเดินทางไปสถานีอิเสะชิที่ใกล้ศาลเจ้าอิเสะด้วยรสบัส จากนั้นก็นั่งรถไฟด่วน JR「Rapid MIE」ไปทีเดียวเลย เราจะออกจากบริเวณคาบสมุทรอิเสะ เพื่อเดินทางไปยังสนามบินที่นาโกย่า แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเลยก็คือ “การช้อปปิ้ง” และ “ของกิน” ดังนั้นเราจะช้อปปิ้งให้หนำใจที่ “นาโกย่า” ที่เริ่มมีร้านค้า หรือ ห้างต่างๆ เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยม
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวบริเวณนาโกย่า และเดินทางจากสถานีนาโกย่า เพื่อไปยังสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu Centrair International Airport（Nagoya）และเดินทางกลับประเทศไทยกันค่ะ
ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ได้เดินทางมาที่ “สถานีอิเสะชิ” ใกล้ศาลเจ้าอิเสะ โดยเราจะนั่งรถไฟด่วน「Rapid MIE」จากสถานีอิเสะชิ เพื่อมุ่งตรงไปยังนาโกย่ากันเลย และก็ถึงเวลาที่เราจะต้องออกจากคาบสมุทรอิเสะแล้วค่ะ ที่นั่งเป็นแบบ CROSS SEAT รถไฟจากอิเสะชิ ไปนาโกย่าจะวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว และใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที
ออกจากสถานีอิเสะชิมาซักพัก รถไฟด่วน「Rapid MIE」จะวิ่งไปในวิวโดยรอบที่เป็นทุ่งนาเขียวชอุ่ม เป็นผืนใหญ่ และเมื่อออกจากสถานีอิเสะชิมาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะวิ่งผ่านสะพานบนแม่น้ำนาการะ NAGARA RIVER และ แม่น้ำ KISO RIVER เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วก็แสดงว่านาโกย่าอยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ วิ่งไปอีกแค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้นก็เดินทางมาถึงนาโกย่าเลย
ครั้งนี้เราได้ในช่วงเส้นทาง “รถไฟด่วนมิเอะ Rapid MIE” เป็นช่วงสุดท้ายในการใช้บัตร「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA TOURIST PASS」ใช้ไปคุ้มจริงๆ เลยค่ะ
ราคาตั๋วพาสนี้จะอยู่ที่ 11,000 เยน โดยเราลองคำนวนค่าใช้จ่ายทั้งหมดดูว่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เท่าไหร่ดังนี้
(รถไฟทามะ) รถไฟวาคายาม่าเด็นเท็ตสึ ไปกลับ วาคายาม่า ⇔ คิชิ ：800 เยน
รถไฟด่วนพิเศษ KUROSHIO สถานีวาคายาม่า ⇒ สถานีชิราฮามะ ：4060 เยน
รถไฟด่วนพิเศษ KUROSHIO สถานีชิราฮามะ ⇒ สถานีคิอิคาสึอุระ：3120 เยน
KUMANO KOTSU คุมาโนะบัส สถานีคิอิคาสึอุระ ⇒ ไดมนซากะ：420 เยน
KUMANO KOTSU คุมาโนะบัส ป้ายรถบัสหน้าน้ำตกนะชิ ⇒ สถานีคิอิคาสึอุระ：620 เยน
ISE LINE รถไฟสายอิเสะ สถานีคิอิคาสึอุระ ⇒ สถานีชินงุ：240 เยน
KUMANO KOTSU คุมาโนะบัส สถานีชินงุ ⇔ ป้ายบัส HONGU TAISHA MAE ไปกลับ：3080 เยน
รถไฟด่วนพิเศษ WIDE VIEW NANKI ＋รถไฟด่วนมิเอะ Rapid MIE สถานีชินงุ ⇒ สถานีโทบะ：5,570 เยน
CAN Bus สถานีโทบะ ⇒ ป้ายบัส NAIKU MAE：850 เยน
KUMANO KOTSU รถบัสมิเอะ ป้ายบัส NAIKU MAE ⇒ สถานีอิเสะชิ：430 เยน
รถไฟด่วนมิเอะ Rapid MIE สถานีอิเสะชิ ⇒ สถานีนาโกย่า：2000 เยน
Total：21,190 เยน
เมื่อคำนวนราคาแล้วก็พบว่าเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลงไปได้ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ คุ้มมากๆ
“รถไฟด่วนมิเอะ Rapid MIE” จะวิ่งเข้ามาที่สถานีนาโกย่า ที่ชานชาลา 12/13 เมื่อลงบันไดภายในชานชาลาแล้วก็เดินไปทางประตูทางออก「SAKURADORI-GUCHI（桜通口）」เลยค่ะ
เดินตรงไปตามทางเดินเรื่อยๆ ก็จะเจอประตู SAKURADORI-GUCHI ที่อยู่หน้าบันไดเลยค่ะ ซึ่งเราสามารถแสดงบัตร「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA TOURIST PASS」ได้ที่ช่องตรวจตั๋วริมสุดเพื่อแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลย เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้วก็จะเจอทางเข้า『JR NAGOYA TAKASHIMAYA』อยู่เยื้องไปทางซ้ายมือ
นอกจากเพื่อนๆ จะสามารถซื้อสินค้าไฮเอนต่างๆ อย่าง HERMES, CHANEL หรือ BVLGARI ได้ในราคา TAX FREE แล้ว เท่านั้นไม่พอยังมีแบรดน์เครื่องสำอาง SHISEDO หรือ L’OCCITANE ฯลฯ อีกด้วย
ออกจากช่องตรวจตั๋วไปทางขวามือเรื่อยๆ ก็จะเจอฮอลล์「金の時計นาฬิกาทอง」อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งนาฬิกาทองนี้คืออีกหนึ่งสัญลักษณ์ของนาโกย่า ที่เอาไว้นัดเจอเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ๆ หรือเป็นสัญลักษณ์เพื่อหาทางเดินไปห้างต่างๆ นั่นเอง
จากนาฬิกาทอง ออกจากประตู SAKURADORI-GUCHI ก็จะเจอ「JR GATE TOWER」อยู่ซ้ายมือเลย ซึ่งที่นี่จะมีห้างในเครือทาคาชิมายะกับ 『TAKASHIMAYA GATE TOWER MALL』
ภายในนี้จะมีร้านค้าต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งช้อปสตูดิโอจิบลิ 「DONGURI KYOWAKOKU」,「Rilakkuma store」หรือร้าน「Sports Lab by atomos」ที่มีทั้งรองเท้า Nike หรือ adidas ฯลฯ อีกมากมาย
สามารถอ่านรีวิวห้างนี้ได้ที่นี่ คลิ๊กเลย !Day3-3 แวะชมร้านค้ามากมายใน『TAKASHIMAYA GATETOWERMALL』
และที่ชั้น 9F・10F ของตึกเกททาวเวอร์ก็คือ 『BIC CAMERA』
ซึ่งเพื่อนๆ สามารถช้อปโน๊ตบุ๊คหรือมือถือสมาร์ทโฟนได้ในราคาสุดคุ้ม บางตัวถูกกว่าที่ไทย นอกจากนี้ยังมีบริการ TAXFREE อีกด้วย ซึ่งที่ชั้น 9F จะมีโซนของเล่นที่มีทั้ง กันพลา โมเดลกันดั้ม, โมเดลจำลองของทามิยะ หรือ ฟินเกอร์ต่างๆ เป็นต้น
เมื่อออกจากประตูทางออก「SAKURADORI-GUCHI（桜通口）」มาและข้ามทางม้าลายที่ถนนใหญ่ไป ก็จะเจอ『DAINAGOYA BUILDING』อยู่ด้านหน้าทางซ้ายมือเลยค่ะ
เป็นสถานที่ที่มีทั้งร้านค้าต่างๆ ให้ได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง และร้านอาหารน่าทานมากมาย ซึ่งหนึ่งร้านที่น่าทานมากมายนี้เราขอแนะนำคาเฟ่『HARBS』ที่อยู่ชั้น 2F
ซึ่งร้าน HARBS นี้จะมีร้านที่เป็นสาขาหลักอยู่ที่นาโกย่า มีเมนูขึ้นชื่อที่ชื่อว่า「MILE CREPE」（830 เยน）ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาเพื่อทานเมนูเครปนมนี้ ที่ประกอบไปด้วยผลไม้แบบจัดเต็มน่าทานมากๆ เลยค่ะ
นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว บริเวณนี้ยังมีห้างเมเท็ตสึ, MIDLAND SQUARE หรือ ห้างคินเท็ตสึ ที่เพื่อนๆ สามารถช้อปปิ้งได้อย่างเต็มที่เลย และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมี LINEAR MOTOR CAR ที่สามารถวิ่งมาจากสถานีชินางาวะที่โตเกียวได้เพียง 40 นาทีเท่านั้นอีกด้วย สุดยอดไปเลยค่ะ
หลังจากที่ได้ช้อปปิ้งในนาโกย่าอย่างหนำใจแล้ว เราจะไปทานดินเนอร์สุดท้ายของทริปกัน โดยเดินเข้ามาจากประตู SAKURADORI-GUCHI และเลี้ยวซ้ายที่แยกนาฬิกาทองก็จะเป็นทาง『NAGOYA UMAIMON DORI HIROKOJI GUCHI』ที่เป็นย่านร้านอาหาร
มีร้านอาหารที่น่าทานต่างๆ มากมาย ทั้งร้านปิ้งย่าง「SUMIBI YAKINIKU SUGIMOTO」หรือ ร้านอุดงมิโซะ อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า「YAMAMOTO HONTEN」เป็นต้น
ซึ่งร้านที่ ICHIGO-CHAN เลือกในมื้อนี้ก็คือร้านกุ้งทอดที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่ากับร้าน『MARUHA SHOKUDO』
เป็นร้านที่มีที่นั่งมากถึง 64 ที่นั่ง แบ่งออกเป็นส่วนที่นั่งแบบโต๊ะที่สามารถนั่งได้ 4 คนหรือโต๊ะใหญ่ นอกจากนี้ยังมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์อีกด้วย ภายในร้านดูดัและเต็มไปด้วยแขกที่มาใช้บริการมากมาย
ที่ร้านจะมีเมนูภาษาอังกฤษ นอกจากนี้พนักงานที่ร้านยังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อีกด้วย สั่งได้สบายใจหายห่วงเลยค่ะ
ซึ่งจุดขายของ「MARUHA SHOKODO」ก็คือ กุ้งทอดขนาดใหญ่ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า ที่ร้านก็จะมีเมนูให้เลือกมากมายทั้ง กุ้งทอดตัวโตพร้อมหัว「Deep fried Whole Prawn Set meal」（2980 เยน）หรือ กุ้งทอดตัวโตสองตัว「Deep fried Prawn Set meal」（1560 เยน） นอกจากนี้ยังมีเมนูออริจินัล ที่มีกุ้งทอดสองตัว พร้อมปลาดิบ กับ「JR NAGOYA STATION SET」（1460 เยน）เป็นต้น
ส่วน ICHIGO-CHAN ได้สั่ง「JR NAGOYA STATION SET」ไป ได้ทานทั้งปลาดิบ และกุ้งที่ตัวใหญ่มากๆ พอๆ กับหัว ICHIGO-CHAN เลย ปลาดิบของที่นี่สดมากๆ เพราะว่าเป็นปลาที่ตกได้จากคาบสมุทรจิตะ ที่ตั้งของสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ ใกล้นาโกย่านั่นเอง ซอสที่เอาไว้ทานกับกุ้งทอดก็เป็นซอสสูตรเฉพาะของร้าน ส่วนซุปมิโซะของที่นี่ก็เป็นซุปสไตล์โทไก แบบเข้มข้น เป็นอีกมื้อหนึ่งที่อิ่มอร่อยมากๆ เลยค่ะ
ได้ทานกุ้งตัวใหญ่มากๆ แถมในชุดยังมีซุปมิโซะและข้าวอีกด้วย ราคารวมภาษีแล้วเป็น 1460 เยน ถือว่าไม่แพงเลยนะคะเมื่อเทียบกับอาหารที่ได้ ประทับใจมากๆ ก่อนกลับเลยขอถ่ายรูปกับหุ่นคุณยายของร้านซักหน่อย
เมื่อออกมาจากร้าน ตรงหน้าร้านก็คือ「HIROKOJI GUCHI」ของสถานี JR นาโกย่า เดินออกจากประตูนี้ไปเลย เมื่อข้ามทางม้าลายมาแล้วก็จะเจอบันไดที่เป็นทางเข้า「MEITETSU NAGOYA STATION」อยู่ทางซ้ายมือ
เมื่อลงบันไดมาแล้ว จุดขายตั๋วรถไฟจะอยู่ซ้ายมือทันที
ก่อนอื่นจะต้องทำการเช็คราคาค่าเดินทางจากบอร์ดแผนผังรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วกันก่อนค่ะ โดยค่าเดินทางไปสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu Centrair International Airport（Nagoya）จะอยู่ที่ 870 เยน เมื่อเช็คราคาเรียบร้อยแล้ว ก็ใส่เงินเข้าไปในช่องใส่เงินเลยค่ะ จากนั้นก็กดปุ่มราคาบนหน้าจอคือ 870 เท่านี้ก็เรียบร้อย
ซึ่งหากเพื่อนๆ คนไหนต้องการเช็คราคาตั๋วล่วงหน้าก็สามารถค้นหาได้ทางเว็บไซต์เพียงแค่กรอก สถานีต้นทาง และสถานีปลายทางเท่านั้น อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ คลิ๊กเลย !
การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว
นอกจากนี้หากไปกันเป็นกลุ่มใหญ่เกิน 10 คนก็สามารถซื้อตั๋วแบบคูปองในราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อยได้อีกด้วย นั่นก็คือ ตั๋วคูปองที่เรียกว่า “ไคซูเค็น KAISUUKEN (回数券)” สามารถอ่านรายละเอียดวิธีการซื้อได้ที่นี่ คลิ๊กเลย !
ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ มันคืออะไรไปดูกันเลย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปเลย จากนั้นขึ้นบันไดเล็กๆ ที่อยู่ซ้ายมือเพื่อไปที่ชานชาลา รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu Centrair International Airport（Nagoya）จะออกจากชานชาลาหมายเลข 4 ซึ่งที่ชานชาลาหมสายเลข 4 จะมีรถไฟอื่นๆ ออกตัวจากชานชาลานี้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาขึ้นรถไฟต้องสังเกตุให้ดูก่อนขึ้นนะคะ ถ้าพลาดอาจทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทันเลย
รถไฟที่มุ่งหน้าไปสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu Centrair International Airport（Nagoya）จะมีอยู่หลากหลายแบบทั้ง Rapid Limited Express μ- SKY, Limited Express, Express และ Semi-Express ซึ่งทุกคันจะเป็นแบบ Reserved Seat โดยครั้งนี้เราจะใช้เป็น รถไฟด่วนพิเศษค่ะ ภายในรถไฟด่วนพิเศษจะเป็นที่นั่งแบบ CROSS SEAT ที่หันหน้าเข้าหากัน รวมเข้ากับที่นั่งแบบแถวยาว ถือว่าเป็นแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันนบ่อยๆ ถ้ามากันเป็นกลุ่มก็แนะนำว่าให้รีบนั่งแบบ CROSS SEAT ไว้เลยนะคะจะได้หันหน้าคุยกัน
รถไฟด่วนพิเศษจะใช้เวลาเดินทางมาที่สนามบิชูบุเซ็นแทรร์เป็นระยะเวลา 33 นาที เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินขึ้นทางสโลปไปเพื่อไปคาน์เตอร์เช็คอินที่อยู่ซ้ายมือเลย
ครั้งนี้เราจะเดินทางกลับประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เมื่อเข้ามาภายในเทอร์มินอลของสนามบินไปทางซ้ายมือ ถัดไป 2 เคาน์เตอร์ที่เคาน์เตอร์ F สามารถเช็คอินได้ที่เคาน์เตอร์ที่มีพนักงานประจำการอยู่เลยค่ะ ซึ่งที่นี่จะต่างจากสนามบินคันไซ หรือสนามบินฮาเนะดะ ที่เมื่อถึงเวลารอบดึกก็จะมีหลายเที่ยวบินบินในช่วงเวลานี้ แต่ที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์จะมีเพียงสายการบินไทยเท่านั้นที่บินเวลานี้ สามารถผ่านจุดเช็คสัมภาระและจุดตรวจคนเข้าเมื่อได้อย่างราบรื่น
ทริปท่องเที่ยวรอบคาบสมุทรคิอิของเราในครั้งนี้เริ่มจาก “วาคายาม่า” นั่งรถไฟที่ได้รับความนิยมกับรถไฟทามะ Tama Train เดินทางไปยัง “น้ำตกนะชิ” “คุมาโนะโคะโด” และ “อิเสะ” ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ ก็เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์มากๆ ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็สร้างความประทับใจจนอยากไปเที่ยวซ้ำเลยค่ะ ซึ่งนอกจากสถานที่หลักๆ อย่าง โตเกียว ฟูจิ โอซาก้า หรือเกียวโตที่ทุกคนรู้จักกันแล้ว ที่ประเทศญี่ปุ่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย การจะท่องเที่ยวให้ครบเราคงต้องเที่ยวญี่ปุ่นซ้ำไปเรื่อยๆ มากี่ครั้งๆ ก็ไม่มีเบื่อเลยจริงๆ ค่ะ
เราจะใช้เวลานั่งเครื่องไปลงที่กรุงเทพประมาณ 6 ชั่วโมง ระหว่างทางกลับ ICHIGO-CHAN ก็จะเริ่มเขียนแพลนการท่องเที่ยวในครั้งต่อไปเลยดีกว่า ทริปต่อไปจะเป็นยังไง ฝากติดตามด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในทริปต่อไปค่ะ♪
【ตารางการเดินทาง Day4-3 NAGOYA STATION AREA/Chubu Centrair International Airport（Nagoya）】
Sponsored by Central Japan Railway Company