Day4-3 เดินทางจากเกียวโตเข้าสู่โอซาก้า และนั่งเรือชมวิว「AQUA-LINER」เพื่อชมเมืองโอซาก้าในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day4-3 เดินทางจากเกียวโตเข้าสู่โอซาก้า และนั่งเรือชมวิว「AQUA-LINER」เพื่อชมเมืองโอซาก้าในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-KANAZAWA-KYOTO-OSAKA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวชม “ศาลเจ้าโนโนมิยะ” ท่ามกลางบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี ถ่ายรูปเดินเล่นภายในสวนป่าไผ่ที่สวยงาม จากนั้นก็ได้ชมความสวยงามของวิวแม่น้ำคาสึระและบริเวณโดยรอบจาก “สะพานโทเก็ตสึเคียว” ซึ่งได้เที่ยวภายใน “อาราชิยาม่า” ไปแบบเต็มที่มากๆ

Day4-2 ชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่นที่ “อาราชิยาม่า” กับ “สะพานโทเก็ตสึเคียว” “สวนป่าไผ่” และ “ศาลเจ้าโนโนมิยะ” ในเกียวโต

และแล้วตอนนี้ก็ใกล้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยกันแล้ว แต่ก่อนเดินทางไปสนามบิน เราจะขอไปชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีเป็นครั้งสุดท้ายของทริปจาก「AQUA-LINER」เรือชมวิวที่แล่นไปในแม่น้ำโอที่เชื่อมระหว่างตะวันออก และตะวันตกของโอซาก้า

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในตอนที่ 15 นี้ ICHIGO-CHAN เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจาก “อาราชิยามะ” ไปยัง “โอซาก้า” และนั่ง「AQUA-LINER」กันค่ะ

ซึ่งการเดินทางจาก “อาราชิยามะ” ไปยัง “โอซาก้า” นั้นเราจะเดินทางด้วยรถไฟ JR สายซากาโนะ มายัง “สถานีเกียวโต” ก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสายเกียวโต เพื่อเดินทางจากสถานีเกียวโต ไปยัง สถานีโอซาก้ากันค่ะ โดยรถไฟที่วิ่งจาก สถานีซากะ อาราชิยามะ ไป สถานีเกียวโต จะวิ่งชั่วโมงละ 4-6 เที่ยว หากเป็นรถไฟด่วน Rapid จะวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว ใช้เวลาในการเดินทาง 11-12 นาที ส่วนรถไฟแบบธรรมดาที่จอดทุกสถานีจะใช้เวลาในการเดินทาง 15-17 นาที ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไม่นานเลย

และรถไฟสายซากาโนะ ก็จะเข้ามาสู่สถานีเกียวโตที่ชานชาลาหมายเลข 32 ซึ่งจากสถานีเกียวโต ไปยัง สถานีโอซาก้านั้น เราจะขึ้นรถไฟสายเกียวโต จากชานชาลาหมายเลข 4・5 กันค่ะ เมื่อลงจากรถไฟสายซากาโนะแล้ว ก็เดินไปทางด้านหน้า เรื่อยๆ และขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ขวามือ เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้วก็เดินตรงไปทางขวามือ และลงบันไดเลื่อนที่ชานชาลาหมายเลข 4・5 เลย

ช่วงเส้นทางจาก “สถานีเกียวโต” ไปยัง “สถานีโอซาก้า” นั้นจะมีรถไฟวิ่งอยู่ชั่วโมงละ 4 เที่ยว ทั้งแบบ รถไฟด่วนใหม่(New Rapid) รถไฟด่วน(Rapid) และรถไฟแบบธรรมดา(Local)

รถไฟด่วนใหม่(New Rapid):ประมาณ 30 นาที

รถไฟด่วน(Rapid):ประมาณ 40 นาที

รถไฟแบบธรรมดา(Local):ประมาณ 50-55 นาที

โดยรถไฟด่วนใหม่(New Rapid) ที่วิ่งช่วงนอกเหนือจากช่วงเวลาเร่งรีบ หรือช่วงเวลาเดินทางไปทำงานในตอนเช้า และเย็น จะถึงเร็วที่สุดและออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 5 ซึ่งจะวิ่งด้วยความเร็ว 130km และจอดเพียง 2 สถานีในระยะทางไปถึงสถานีโอซาก้า เป็นระยะทางเกือบ 50km ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นรถไฟที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย

โดยช่วงเส้นทางระหว่าง “เกียวโต” และ “โอซาก้า” สามารถใช้พาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ได้เพราะฉะนั้นหากอยู่ในช่วงระยะเวลาอายุของบัตรก็สามารถใช้นั่งรถไฟได้ไม่อั้นเลย

และในการเดินทางจากเกียวโต ไปโอซาก้า ถ้าเป็นไปได้ แนะนำว่าให้นั่งทางฝั่งขวามือ เพราะว่าเมื่อออกจากสถานีเกียวโตมาประมาณ 10 นาที ก็จะเห็นวิวโรงงานที่เขียนว่า「YAMAZAKI(山崎)」อยู่ขวามือ ซึ่งโรงงานนี้ก็คือโรงงานผลิต「YAMAZAKI WHISKY」นั่นเอง ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตเหล้านานาชนิด อีกทั้งยังสามารถเที่ยวชมโรงงาน และชิมสินค้าต่างๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อออกจากสถานีถัดจากสถานีเกียวโตที่ “ทะกะสึกิ” แล้วก็จะเห็นตึกช็อคโกแลตขนาดใหญ่อยู่ทางขวามือ ตึกนี้ก็คือโรงงานของยี่ห้อขนมเมจิ「MEIJI」นั่นเอง ระหว่างทางจะได้ชมวิวโรงงานชื่อดัง และตึกโรงงานที่น่าสนใจ 30 นาทีก็แปปเดียวเท่านั้น ตอนนี้ก็เดินทางมาถึงสถานีโอซาก้าเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งเรือชมวิว AQUA-LINER ที่แล่นไปตามแม่น้ำโอที่เชื่อมระหว่างทางทิศตะวันตก และตะวันตกของโอซาก้า เพื่อชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี และปราสาทโอซาก้า ที่เรากำลังไปนี้สามารถเดินจากสถานีโอซาก้าไปได้ โดยใช้เวลาเดินเท้า 15 นาที แต่ถ้าใช้รถไฟใต้ดินไปก็สามารถนั่งไปเพียง 1 นาที และใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 นาทีเท่านั้น เพื่อไปลงที่ “โยโดยาบาชิ”

ซึ่งเราจะเลือกเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน เพราะฉะนั้นจะต้องไปขึ้นรถไฟใต้ดินจาก “สถานีโอซาก้า”(สถานีอุเมะดะ)ไปกันเลย โดยเมื่อลงจากรถไฟ JR เกียวโต แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลาไป จากนั้นก็ผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ตรงหน้าเลย โดยตอนผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วจะต้องนำพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」พร้อมตั๋วรถไฟจาก “ซากะ อาราชิยามะ” ถึง “เกียวโต” ให้เจ้าหน้าที่ดูได้จากช่องตรวจตั๋วริมสุดที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ และยื่นแค่ตั๋วรถไฟ “ซากะ อาราชิยามะ” ถึง “เกียวโต” ให้เจ้าหน้าที่เก็บไปเพียงอันเดียวเท่านั้น และผ่านออกไปได้เลย เมื่อออกมาแล้วก็เดินไปทางขวามือ จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนเพื่อไปที่ชั้น 1F และเมื่อลงมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ

เมื่อลงบันไดเลื่อนและเดินไปทางซ้ายมือแล้ว ก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 นาที จะเจอทางเข้ารถไฟใต้ดินเลย ให้เดินไปตามทางเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเจอกับร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า「Yodobashi Camera」อยู่ทางซ้ายมือ และเจอจุดจำหน่ายตั๋วรถไฟ และช่องตรวจตั๋วของสถานีอุเมดะอยู่ทางขวามือ เพราะฉะนั้นก่อนจะขึ้นรถไฟเราจะต้องไปซื้อตั๋วกันก่อนเลย

โดยร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า Yodobashi Camera สาขาอุเมดะนี้เป็นสาขาใหญ่อันดับต้นๆ ในญี่ปุ่นที่มีสินค้ามากมาย แบบครบวงจร หากเพื่อนๆ มีเวลาก็สามารถไปเลือกเดินดูเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ฟิกเกอร์ หรือโมเดลพาสติก กันได้ อีกทั้งยังสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกอีกด้วย

วิธีซื้อตั๋วรถไฟก็ไม่ยาก ก่อนอื่นก็จะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋ว ซึ่งตั๋วรถไฟจากสถานีอุเมดะ ไปยังสถานีโยโดยาบาชิจะอยู่ที่ 180 เยน จะต้องใส่เงินเข้าไปก่อน จากนั้นก็ให้กดปุ่ม「Ticket」บนหน้าจอ และกดปุ่มตามจำนวนค่าโดยสารคือ 180 เท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อซื้อตั๋วรถไฟแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วมา และเดินเยื้องไปทางซ้ายมือ เพื่อไปยังชานชาลาที่มุ่งหน้าไปสู่「NAMBA(なんば)・TENNOJI(天王寺)・NAKAMOZU(なかもず)」กับรถไฟใต้ดินสายมิโดซึจิ MIDOSUJI LINE ที่เป็นเส้นทางรถไฟหลักขนาดใหญ่ของโอซาก้าที่เชื่อมระหว่างทางทิศใต้และเหนือ ซึ่งช่วงระหว่างนากาสึ กับ เท็นโนจินั้น รถไฟจะวิ่งทุกๆ 3 นาทีเพราะฉะนั้นไม่ต้องรอนานเลยค่ะ

ออกจากสถานีอุเมดะมา 1 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 2 นาทีตอนนี้เราก็มาถึงสถานีโยโดยาบาชิเป็นที่เรียบร้อย เมื่อลงจากรถไฟมาแล้วก็เดินไปทางด้านหลังเพื่อขึ้นบันไดไปและผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วเลย เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินไปทางขวามือ ก็จะเจอทางออก「14-A」อยู่ทางซ้ายมือ ให้ขึ้นบันไดนี้ไปเลย

เมื่อขึ้นมาแล้ว ก็จะออกมาสู่จุดขึ้นเรือชมวิว『AQUA-LINER』ที่แล่นไปตามแม่น้ำโอที่เชื่อมระหว่างทางทิศตะวันออก และตกของโอซาก้า เพื่อชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีและปราสาทโอซาก้า

โดยออกจาก “โยโดยาบาชิ” ไปทาง “เท็มมะ” ใกล้ “ย่านร้านค้าเท็นจินบาชิซุจิ” ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นด้วยระยะทาง 2.2km ต่อด้วย “สวนปราสาทโอซาก้า” ไปยัง “ฮาจิเค็นยาฮามะ(八軒屋浜)” ข้างๆ สถานีเท็มมะบาชิ เพื่อย้อนกลับมาสู่โยโดยาบาชิ เป็นเวลา 55 นาทีต่อรอบ ซึ่งเรือชมวิวนี้จะคล้ายๆ บัสที่สามารถลงระหว่างทางได้อีกด้วย

ราคาต่อรอบจะอยู่ที่ 1700 เยน(เฉพาะช่วงซากุระ 2000 เยน)ซึ่งราคาจะแตกต่างกันออกไปตามระยะทางที่นั่ง

โดยเรือชมวิว AQUA-LINER จะออกตัวจาก “โยโดยาบาชิ” เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:20 ถึง 16:20 น. วิ่งชั่วโมงละเที่ยว ทั้งหมด 7 เที่ยวต่อวัน และอาจมีการเพิ่มรอบในช่วงการท่องเที่ยวอย่างช่วงซากุระ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือช่วงวันหยุดยาวเป็นต้น

ซึ่ง ICHIGO-CHAN จะขึ้นรอบ 15:20 น. แต่ว่าช่วงเดือนธันวาคมจะเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ตกเร็วช่วง 15:20 ก็ถือว่าเกือบเย็นมากแล้วค่ะ ที่นั่งจะเป็นแบบจองที่นั่งล่วงหน้าทั้งหมด ซึ่งหน้าต่างเรือจะเปิดยาวทั้งด้านข้าง และด้านบนส่วนหนึ่ง ทำให้สามารถชมวิวรอบๆ ได้แบบชัดมากๆ

เมื่ออกจาก “โยโดยาบาชิ” มาก็จะเป็นพื้นที่นากาโนะชิมะ อยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีทั้งที่ว่าการอำเภอโอซาก้า ธนาคารญี่ปุ่น ห้องสมุด ที่เป็นสถานที่ทางราชการ หรือตึกอาคารบริษัทใหญ่มากมาย ซึ่งพื้นที่ 1 ส่วน 4 ทางทิศตะวันออกของ “นากาโนะชิมะ” จะเป็นสวนสาธารณะ ที่มีผู้คนภายในเมืองเล่นอยู่เป็นจำนวนมาก และบริเวณโดยรอบนากาโนะชิมะ จะรายล้อมไปด้วยต้นซากุระ ที่เมื่อสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงนี้ก็จะได้ชมใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยงามเลยค่ะ

“แม่น้ำโอ” นี้จะมีสะพานพาดผ่านอยู่มากมาย เรือ AQUA-LINER ก็จะแล่นลอดผ่านสะพานไปแบบฉิวเฉียด และในช่วงน้ำเต็มตลิ่งก็จะเหลือพื้นที่ให้ลอดผ่านอยู่เพียงนิดเดียว เพราะฉะนั้นเรือนี้จึงถูกสร้างมาให้สามารถหดหลังคาลงมาให้ต่ำลงได้ขณะผ่านสะพานแบบในภาพล่างซ้ายขวาเลยค่ะ สุดยอดไปเลย

บริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำโอนี้ต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ มากมายถูกปลูกเอาไว้ ซึ่งต้นไม้เหล่านั้นกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง สวยงามมากๆ เมื่อออกจาก “โยโดยาบาชิ” มาประมาณ 20 นาที เราก็จะได้ชมวิวปราสาทโอซาก้าอยู่ทางด้านขวามือ จะได้ชมหอคอยจากบนเรือแบบชัดแจ๋วเลย

แม่น้ำโอ ที่ไหลผ่านในตัวเมืองโอซาก้าเชื่อมระหว่างทางทิศตะวันออกและตะวันตกนี้ จะสามารถเพลิดเพลินกับงานใหญ่ๆ ได้ถึง 4 ครั้งคือ

ช่วงซากุระ(ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน)・ช่วงทานาบาตะ(วันที่ 7 กรกฏาคม)・ ช่วงเทศกาลเท็นจิน(วันที่ 23・24 กรกฏาคม) และช่วงใบไม้เปลี่ยนสี(ปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึง ต้นเดือนธันวาคม)ที่มีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกพื้นที่เดินทางมายังที่แห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงงานเทศกาลเท็นจินในช่วงปลายเดือนกรกฏาคม สามารถอ่านรีวิวที่ผ่านมาได้

คลิ๊กเลย!『งานเทศกาลเท็นจิน「Tenjin-Matsuri Festival」ในโอซาก้า』

และนอกจากนี้ที่ “นากาโนะชิมะ” ยังมีงานอีเว้นท์『HIKARI-RENAISSANCE(大阪光のルネサンス)』ที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมของทุกปี ที่สามารถชมได้จากเรือ AQUA-LINER เป็นงานประดับไฟยามค่ำคืน และการแสดงไฟที่ตึก「Osaka City Central Public Hall」ที่สวยงามตระการตา หากได้มาโอซาก้าในช่วงนี้ก็ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

โดยงานในปีนี้จะจัดขึ้นวันที่ 14-25 เดือนธันวาคม ปีพ.ศ.2561 และที่สำคัญคือสามารถเข้าชมได้ฟรี! ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ค่ะ

นั่งเรือชมใบไม้เปลี่ยนสี เมืองโอซาก้า และปราสาทโอซาก้าไปเพลินๆ 55 นาทีก็ผ่านไปไวมากๆ ตอนนี้เราก็ได้วนกลับมาที่ “โยโดยาบาชิ” กันแล้ว บอกลาสตาฟแล้วออกจาก AQUA-LINER เดินทางกันต่อเลย

และสถานที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือ แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนโอซาก้าที่ย่านร้านค้า “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” ที่เป็นศูนย์รวมร้านค้าต่างๆ มากมาย ทั้งร้านขายอาหาร ทาโกยากิ, โอโคโนมิยากิ, ราเม็ง, หรือ ของทอดเสียบไม้ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า เท่านั้นไม่พอยังมีแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ มากมายทั้ง BIC CAMERA, Onitsuka Tiger หรือ UNIQLO ฯลฯ อีกมากมาย เป็นต้น

ซึ่งการเดินทางไปยังย่าน  “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” นั้นสามารถเดินทางมายังสถานีชินไซบาชิ หรือ สถานีนัมบะ ด้วยรถไฟใต้ดินสายมิโดสึจิได้ โดยการเดินทางจาก AQUA-LINER นั้นจะต้องลงบันไดเหมือนตอนขามา ไปและเดินไปทางขวามือ ก็จะเจอสถานีรถไฟใต้ดินสายมิโดสึจิเลย และจะต้องทำการซื้อรถไฟเหมือนตอนขามาจากสถานีอุเมดะเลย เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ไปที่ชานชาลากันเลย ซึ่งค่าโดยสารจาก “โยโดยาบาชิ” ไป “สถานีชินไซบาชิ” หรือ “สถานีนัมบะ” จะราคาเท่ากันอยู่ที่ 180 เยน(※ซึ่งตรงหน้าบันไดจะเป็นเส้นทางรถไฟหนึ่งของรถไฟเคฮังที่เชื่อมระหว่าง เกียวโต และ โอซาก้า เพราะฉะนั้นตอนขึ้นต้องระวังด้วยนะคะ)เมื่อถึงชานชาลาแล้ว ก็ขึ้นรถไฟจากทางด้านซ้ายมือ ชานชาลาหมายเลข 2 กันรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ “เท็นโทจิ” “นาคาโมสุ” “อาบิโกะ” หรือ “ชินคานาโอกะ” ก็สามารถไปนัมบะได้ทั้งหมด

นั่งรถไฟจากสถานีโยโดยาบาชิ ไป 3 นาที ใช้เวลาเดินทาง 6 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีนัมบะ” เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหากพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในโอซาก้าก็ไม่ควรพลาด “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” ที่มีทั้งป้ายกูลิโกะ หรือป้ายปูยักษ์ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการมาเยือนประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่โอซาก้า ซึ่งเราจะต้องขึ้นเครื่องตอน 2 ทุ่ม เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็เหลือเวลาช้อปปิ้งประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง จะเที่ยว ชิม และช้อปส่งท้ายให้เต็มที่กันไปเลย

ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว ชิม ช้อปย่านชินไซบาชิ・โดทงโบริ ก่อนเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เพื่อบินกลับประเทศไทยกันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day4-3 AQUALINER(OSAKA)】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass”

Sponsored by JR TOKAI

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶